หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
เมืองนาริตะเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานแห่งชาติของญี่ปุ่น ซึ่งแต่ก่อนนาริตะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเขตอินบะเท่านั้น แต่เมื่อปี พ.ศ. 2432 ได้มีการรวมชุมชนต่างๆ ในบริเวณเดียวกันเพื่อก่อตั้งเป็นเมืองแห่งนี้ขึ้นจนกระทั่งนาริตะถูกขึ้นทะเบียนเป็นเมืองในปี พ.ศ. 2497 จากนั้นเมื่อมีการสร้างสนามบินแห่งชาติขึ้นในเมืองนี้ การพัฒนาในด้านต่างๆ ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันนาริตะได้ผนวดเอาเมืองไทเอย์และเมืองชิโมฟุสะจากเขตคาโตริเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองด้วย
โตเกียวสกายทรี เป็นหอกระจายคลื่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมควบตำแหน่งหอคอยที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากบูร์จคาลิฟา เมืองดูไบ สาเหตุที่ญี่ปุ่นสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้นมา เป็นอันเนื่องมาจากหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ที่มีอยู่เดิมนั้น มีความสูงไม่เพียงพอที่จะส่งสัญญาณคลื่นวิทยุในรูปแบบดิจิตอล จึงต้องมีการสร้างหอคอยแห่งใหม่ขึ้นมาทดแทน ทั้งนี้โตเกียวสกายทรีได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ TOKYO SKYTREE TEMPO DECK และ TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA
วัดอาซากุสะ (Asakusa) หรือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ภายในวัดมีเทวรูปคันนงประดิษฐานอยู่ รวมทั้งยังมีเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครมาขอพรสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ นอกจากนี้ยังมีโคมแดงยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ที่ใครมาถึงต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
นากามิเสะ เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ เป็นอีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย มีระยะทาง 250 เมตร รวมทั้งซอยแยกย่อยที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้าอีกหลายซอย สำหรับสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นของฝาก หรือของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นขนมพื้นเมืองที่ทำขายกันสดๆ หรือสำเร็จรูปในกล่องสวยงาม พวงกุญแจ ตุ๊กตา พัด โคมไฟ เข็มกลัด ยูกาตะ เป็นต้น จึงทำให้แต่ละวันจะมีผู้คนแวะมาเยี่ยนเยียนถนนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe Town) เมืองคาวาโกเอะตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของจังหวัดไซตามะ ซึ่งมีจุดเด่นคือ การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบเก่าในสมัยเอโดะเอาไว้จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาคารโกดังเก่าที่มีอายุมากกว่าร้อยปี รวมทั้งบ้านเรือน หรือร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งยังให้บรรยากาศและกลิ่นอาย คล้ายย้อนกลับไปในสมัยอดีตของญี่ปุ่น จนทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับสมญาว่าเป็นลิตเติ้ลเอโดะ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท รวมทั้งภาคการเกษตรที่มีพืชเศรษฐกิจที่ขึ้นชื่ออย่างมันหวานด้วย
หอนาฬิกาโทคิโนะคาเนะ (Toki no Kane Bell Tower) เป็นสัญลักษณ์ของเมืองคาวาโกเอะ ซึ่งเป็นหอนาฬิกาทำด้วยไม้สูง 3 ชั้น มีความสูงประมาณ 16 เมตร สร้างมาประมาณ 400 ปี แต่ถูกไฟไหม้หลายครั้ง หอนาฬิกาในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1893 ซึ่งเป็นรุ่นที่ 4 และหอนาฬิกาแห่งนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน 100 เสียงระฆังที่ไพเราะสวยงามในญี่ปุ่น
คาชิยะโยโกโช คือ ถนนสายแหล่งช้อปปิ้งขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยร้านขายขนมหวานซึ่งตั้งเรียงรายตลอด 2 ข้างทาง ที่ถนนสายนี้มีขนมหวานให้ท่านได้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็น ขนมจากมันหวาน เช่น พายมันหวาน มันหวาดทอดเคลือบน้ำตาล ไอศกรีมมันหวาน ซึ่งถือเป็นของดีของเมืองคาวาโกเอะ นอกจากนี้ก็ยังมี เค้ก แครกเกอร์ ลูกกวาดหลากรส และขนมหวานอื่นๆอีกมากมาย
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ภูเขาฟูจิหรือฟุจิซัง คือภูเขาที่สูงที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิสึโอกะและจังหวัดยามานาชิ ในอดีตฟูจิเคยเป็นฐานทัพของเหล่าซามูไรมาก่อน ในปัจจุบันฟูจิถูกรับรองให้เป็นอีกหนึ่งมรดกโลก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติญี่ เนื่องจากมีทั้งทะเลสาบล้อมรอบและมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม ประกอบกับเสน่ห์ของฟูจิเองที่มีผลให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกใฝ่ฝันอยากไปสัมผัสสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นแห่งนี้ด้วยตัวเองสักครั้ง
พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหว โกเบ (Kobe Earthquake Memorial Museum) ตั้งอยู่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงและไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจำนวน 6,434 คน จากโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงของญี่ปุ่น อาคารสิ่งปลูกสร้างที่ไม่สามารถทนต่อแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในเวลานั้นได้ถูกทำลายลง ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง หลังจากเกิดแผ่นดินไหว เมืองโกเบถูกสร้างขึ้นใหม่ ปัจจุบันเปลี่ยนโฉมใหม่กลายเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งพร้อมทิวทัศน์ของเมืองที่สวยงามใน "พิพิธภัณฑ์แผ่นดินไหวโกเบ"
บ่อน้ำโอชิโนะฮัคไค ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเดียวกับบ่อน้ำ คือ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูชิโก ะและทะเลสาบยามานะกาโกะ บ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดของภูเขาไฟฟูจิ และค่อย ๆ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุนลงมา อีกทั้งชาวญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่า นี่คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพรแตกต่างกันไปในแต่ละบ่อ อย่างเช่น สุขภาพ ความรัก เป็นต้น และหากวันไหนที่อากาศดี ๆ ก็จะสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของฟูจิจากบ่อน้ำที่นี่ได้ด้วย
ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu | Meiji) ตั้งอยู่ในเขตชิบุยะ มหานครโตเกียว เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1920 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ และสมเด็จพระจักรพรรดินีโชเก็ง ตามความเชื่อของศาสนาชินโต แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ศาลเจ้าแห่งนี้ได้ถูกทำลายไปหมดสิ้น จนกระทั่งสงครามจบลงจึงได้มีการบูรณะขึ้นใหม่จนแล้วเสร็จในปี 1958 สำหรับบรรยากาศภายในศาลเจ้านั้นแม้จะอยู่ในแหล่งพลุกพล่าน แต่ก็ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ จนเหมือนกับคนละโลกกับภายนอกศาลเจ้า
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งรวมตัวของวัยทีนในกรุงโตเกียว ย่านนี้นอกจากมีร้านค้าแบรนด์ดัง แหล่งช็อปปิ้ง ร้านเครปญี่ปุ่นขึ้นชื่อ และคาเฟ่เก๋ๆ มากมายแล้ว ไฮไลท์ที่หลายคนอยากมาสัมผัสซักครั้งก็คือการแต่งตัวรวมทั้งประชันแฟชั่นกันอย่างสนุกสนานของบรรดาวัยรุ่น หากมาในย่านนี้ต้องไม่พลาดแวะขอพรที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ต่อด้วยการช้อปปิ้งที่ถนน Takeshita Dori ส่วนในฝั่งของถนน Ometesando นั้นเรียกได้ว่าเป็นถนนแห่งร้านแบรนด์เนมซึ่งเป็นย่านสำหรับวัยผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย
ชิบุย่า แหล่งท่องเที่ยวและย่านที่ฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของมหานครโตเกียว ที่นี่เป็นศูนย์กลางในการรวมตัวยอดนิยมของวัยรุ่นและวัยทำงาน เพราะเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า และแฟชั่นต่างๆ มากมาย โดยย่านชิบุย่านั้นมีศูนย์กลางอยู่ตรงสถานีรถไฟชิบุย่า หนึ่งในสถานีใหญ่ของโตเกียวที่มีความซับซ้อน เพราะมีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินหลายสาย จึงทำให้สถานีชิบุยะมีผู้คนผ่านไปมาถึงวันละประมาณ 2 ล้านต้นๆ ที่สำคัญชิบุย่ามีจุดนัดพบที่มีชื่อเสียงนั่นก็คือบริเวณอนุสรณ์รูปปั้นของสุนัขชื่อฮาจิโกะนั่นเอง
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา มีพื้นที่ทั้งหมด 465,000 ตร.กม. ตั้งอยู่ภายในเมืองอุระยะซุ จังหวัดจิบะ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1992 ซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทโอเรียนทัลแลนด์คอมปานี ภายในสวนสนุกได้แบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน ซึ่งนั่นก็คือ เวิลด์บาซาร์ แอดเวนเจอร์แลนด์ เวสเทิร์นแลนด์ แฟนตาซีแลนด์ และทูมอโรว์แลนด์ และยังมีอีก 2 โซนย่อย ๆ ที่เปิดในปี 2009 ได้แก่ คริกเตอร์คันทรี และมิกกี้ตูนทาวน์
วัดนาริตะซัน ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคคันโต โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี ผู้คนจะแห่แหนมาขอพรที่วัดแห่งนี้อย่างล้นหลาม ภายในวัดมีเจดีย์ 5 ชั้นอยู่ 1 คู่ มีส่วนหย่อมและสระน้ำขนาดใหญ่ ส่วนอาคารหลักของวัดนั้นมีสถาปัตยกรรมแบบอินเดีย แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสำนักงานใหญ่ของโรงเรียนสอนศาสนาลัทธิชินกอน และถือเป็น 1 ใน 3 วัดหลักของลัทธิคันโตที่ได้สร้างขึ้นอุทิศแด่ เทพเจ้าฟูดูเมียวโอะซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งไฟ
ตลาดปลาซึกิจิ (Tsukiji Market) เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว เราจะได้สัมผัสบรรยากาศการประมูลอาหารสด ๆ และ ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ มากมาย เพราะมีข้อได้เปรียบตรงที่อยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบนี่เอง แนะนำเลยนะว่าควรจะแวะชิมด้วย เพราะของที่นี่สดมาก ราคาก็อาจจะสูงบ้าง แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้มาล่ะก็คุ้มสุด ๆ ไปเลยล่ะ
เมืองโอไดบะเป็นเมืองที่เกิดจากการนำขยะมาถมทะเลจนกลายเป็นเกาะขนาดใหญ่บริเวณอ่าวโตเกียวเพื่อประโยชน์ในการป้องกันประเทศ แต่ปัจจุบันโอไดบะได้กลายมาเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งของประเทศ เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน โซนอาหาร ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายด้วยฝีมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสะพานสายรุ้ง เป็นต้น ส่วนการเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกสบาย จึงไม่แปลกหากที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
อิออนมอลล์ เป็นศูนย์ค้าปลีกและมีสินค้าหลากหลายชนิดจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยภายในห้างอิออนนั้นประกอบไปด้วยส่วนของดีพาร์ทเมนท์สโตร์ซึ่งก็คือห้างจัสโก้ และส่วนที่เป็นพลาซ่าหรือร้านค้าย่อย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดที่สะดวกและราคาไม่แพงมากนัก
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก