หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานฮิโรชิมะ (Hiroshima Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองมิฮาระ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโงกุ จัดอยู่ในท่าอากาศยานระดับสองในญี่ปุ่น สนามบินนี้เปิดให้บริการสำหรับสาธารณะในปี ค.ศ. 1993 แทนที่สนามบินเก่า สนามบินนี้มีอาคารผู้โดยสารเพียงแห่งเดียว โดยที่เปิดให้บริการทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่ง Gate A-D เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ และ Gate E-G เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
เมืองฮิโรชิม่าเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฮิโรชิม่าและมีการปกครองในรูปแบบพิเศษ ในอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการทหารของญี่ปุ่น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่อเมริกาเลือกฮิโรชิม่าเป็นเป้าหมายโจมตีด้วยระเบิดปรมาณู แต่ปัจจุบันเมืองฮิโรชิมากลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกที่มีชื่อเสียงในระดับโลก นั่นก็คือ อนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิม่า อันเป็นที่ตั้งของฮิโรชิมาโดม อาคารแห่งเดียวที่เหลือรอดจากระเบิดปรมาณูเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ปี 1945
เกาะมิยาจิม่าหรือเกาะแห่งศาลเจ้า เป็นเกาะที่ได้รับการขนานนามว่า เป็น 1 ใน 3 สถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเขตเมืองฮิตสึไกจิ ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามฟากไปยังเกาะ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีศาลเจ้าเก่าแก่คือศาลเจ้าอิทสึคุชิม่าที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ซึ่งเป็นศาลเจ้าอันมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยศาลเจ้าหลักและศาลเจ้ารองนั้นมียกพื้นเชื่อมยาวไปจนถึงทะเล ดังนั้นเมื่อเวลาที่น้ำขึ้นก็จะเหมือนกับศาลเจ้านั้นกำลังลอยอยู่กลางทะเล อีกทั้งที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (Itsukushima Shrine) ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) นับเป็นศาลเจ้าชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของฮิโรชิม่า ซึ่งความโด่งดังมาจากประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนดูเหมือนลอยอยู่ในน้ำในช่วงที่น้ำขึ้น เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่บนน้ำ เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมลงตัวของทั้งวัฒนธรรมกับธรรมชาติ ตัวชื่อเกาะมิยาจิม่าที่แปลว่าเกาะแห่งศาลเจ้า เพราะมีศาลเจ้าอิสึกุชิมะตั้งอยู่ มียอดเขาสูงที่ชื่อภูเขาไมเซน (Misen) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนท้องถิ่น
อะตอมมิคบอมบ์โดม (Atomic Bomb Dome) เดิมทีอาคารหลังนี้เป็นหอส่งเสริมอุตสาหกรรมฮิโรชิม่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างด้วยความแข็งแรงและทันสมัยที่สุดในขณะนั้น ระเบิดปรมาณูที่ทิ้งลงมานั้นมีระยะห่างจากอาคารหลังนี้เพียง 160 เมตร ทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนั้นพังราบเป็นหน้ากอง ยกเว้นอาคารหลังนี้ที่ยังคงเหลือร่องรอยแห่งความเสียหายให้คนรุ่นหลัง ได้รับรู้ถึงอนุภาพการทำลายล้างของระเบิดปรมาณู จึงทำให้อาคารหลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความน่ากลัวของระเบิดปรมาณู
เมืองยามากุชิ (Yamaguchi) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของเกาะฮอนชู โอบล้อมด้วยทะเลญี่ปุ่นและทะเลในเซโตะ จากทางทิศเหนือลงสู่ทิศตะวันตก ทิศใต้จรดทิศตะวันออก จึงมีภูมิอากาศที่อบอุ่น ทิวทัศน์ธรรมชาติงดงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเลและผลผลิตทางการเกษตรมากมาย นอกจากนี้ยังมีแหล่งบ่อน้ำแร่ทางธรรมชาติ และป่าเขาที่สวยงามด้วย
สะพานคินไตเคียว (Kintai Bridge) หรือสะพาน 5 โค้ง เป็นสะพานไม้ที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปู ซึ่งจะใช้สลักไม้แทนมีหมุดเหล็กเหมือนตะปู สะพานนี้มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป และได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 สะพานที่มีชื่อเสียงสุดในญี่ปุ่น ในสมัยโบราณเป็นเส้นทางข้ามแม่น้ำของเหล่านินจา จากมุมของตัวสะพาน เราสามารถมองเห็นปราสาทอิวาคุนิตั้งอยู่บนยอดเขา กิจกรรมที่พลาดไม่ได้ก็คือ การล่องเรือชมสะพานคินไตเคียว เมื่อย่างเข้าเดือนเมษายน บริเวณรอบ ๆ สะพานจะเต็มไปด้วยความงดงามสีชมพูของดอกซากุระ
วัดรูริโคจิ (Rurikoji Temple) ถือเป็นวัดของศาสนาพุทธดังประจำเมืองยามากูจิ ซึ่งที่วัดนี้มีสมบัติของชาติอย่าง “เจดีย์ห้าชั้น” ตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งเจดีย์แห่งนี้ติดอันดับ 1 ใน 3 เจดีย์ที่ยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในญี่ปุ่น และที่สำคัญคือเจดีย์นี้ ถือเป็นสถาบันการศึกษาแห่งเดียวที่ก่อตั้งในสมัยปลายปี ค.ศ. 1400 อีกด้วย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคเคียวคัง (Kaikyokan Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่แสดงสัตว์น้ำมากกว่า 20,000 ชนิด 500 สายพันธุ์ เราสามารถเข้าไปสัมผัสบรรยากาศของอุโมงค์ใต้ท้องทะเลได้ที่แท้งค์เซโตะไนไค ที่จำลองช่องแคบคันมอนมาไว้ และจุดเด่นของที่นี่ คือ มีตัวอย่างสมบูรณ์ของโครงกระดูกเต็มตัวของวาฬสีน้ำเงิน ที่มีเพียงตัวเดียวในญี่ปุ่น และมีปลาปักเป้ากว่า 100 ชนิดจัดแสดงอยู่
ช่องแคบคันมอน (Kanmon Strait) เป็นช่องแคบที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองชิโมโนเซกิ กับ เมืองคิตะคิวชู โดยจัดว่าเป็นช่องแคบที่แคบที่สุดด้วยความกว้างประมาณ 650 เมตร อัตราการไหลของกระแสน้ำมากกว่า 10 น็อต ทิศทางของกระแสน้ำจะไหลจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก และทิศตะวันตกสู่ทิศตะวันออก โดยภายใน 1 วันนั้นจะมีการเปลี่ยนทิศถึง 4 ครั้ง ด้วยกัน จึงทำให้เกิดความยากลำบากในการโดยสารทางน้ำบริเวณนี้ แต่ถึงอย่างนั้น ช่องแคบนี้ถือเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทะเลญี่ปุ่น และพื้นที่ฝั่งทะเลเซโตะ
เมืองคิตะคิวชู (Kitakyushu) เป็นเมืองที่อยู่ทางเหนือสุดของเกาะคิวชู เป็นจุดเชื่อมต่อทั้งทางบกและทางน้ำ ระหว่างเกาะคิวชูและเกาะฮอนชู หรือเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้คิตะคิวชูได้พัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหรกรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นด้วย โดยสามารถชมตึกและอาคารเก่า ที่รักษาเอาไว้ได้แถวท่าเรือโมจิ ที่เป็นย่านเดินเล่น กินลม ชมวิวสบาย ๆ ได้สักครึ่งวัน นอกจากนี้ก็ยังมีปราสาทโคคุระให้เราได้ไปเที่ยวชมกัน
ท่าเรือโมจิโกะ (Mojiko Port) เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเกาะคิวชูกับเกาะใหญ่ฮอนชู ในอดีตเคยเป็นท่าเรือสำคัญ ที่ใช้ในการติดต่อค้าขายกับนานาชาติระหว่างช่วง ค.ศ.1900 ซึ่งปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ท่าเรืออื่นแล้ว ท่าเรือนี้จึงเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะมีการอนุรักษ์ตึกเก่าสไตล์ยุโรปเอาไว้ มีห้องสมุดที่สร้างขึ้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีน และด้านหลังห้องสมุด จะมีตึกสูงเป็นกระจกรอบด้านที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้ และยังมีห้างไคเคียวพลาซ่า ที่มีร้านขายของท้องถิ่นมากมาย รวมทั้งร้านอาหาร
สวนเทนจิน เซ็นทรัล พาร์ก (Tenjin Central Park) สวนสาธารณะกลางเมืองฟุกุโอกะ สถานที่พักผ่อนอยู่ติดกับย่านช้อปปิ้งเท็นจิน สวนนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการชมซากุระตลอดทางเดินเลียบคลอง เหมาะที่จะมาเดินพักผ่อนชิลๆ และมีกิจกรรมให้ชมมากมายตลอดทั้งปี เดือนไฮไลท์ที่ต้องมาเลยก็คือเดือนมีนาคน-เมษายน ซึ่งเป็นฤดูชมดอกซากุระบานสะพรั่ง
ศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังกู (Dazaifu Tenman-gu) สัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1448 ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่ให้พรในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่านสึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ผู้เป็นนักปราชญ์ประจำราชสำนักในสมัยเฮอัน แต่ถูกใส่ร้ายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งและเนรเทศให้มารับราชการอยู่ที่ดาไซฟุ
ย่านเท็นจิน ถือเป็นถนนสายหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เป็นที่ตั้งของสถานีรถบัส สถานีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน รวมทั้งมีถนนที่เชื่อมทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินทั้งสองสายของเมือง จึงทำให้ย่านเท็นจินเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองฟุกุโอกะ ที่มีทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านรวงมากมาย รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของธนาคารพาณิชย์ที่สำคัญๆ และออฟฟิศสำนักงานอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ และร้านอาหารหลากหลายสไตล์ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว
ท่าอากาศยานฟุกุโอะกะ (Fukuoka Airport) ตั้งอยู่ภายในเขตฮะกะตะ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ ซึ่งแต่เดิมมีชื่อว่าฐานทัพอากาศอิตะซุเกะ เพราะเคยถูกใช้เป็นที่ตั้งของฐานทัพของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกามาก่อน โดยท่าอากาศยานแห่งนี้ถือเป็นท่าอากาศยานอันดับสองในญี่ปุ่น ที่รองรับเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ นอกจากนั้นยังสะดวกสบายในการเดินทางไปไหนมาไหนเพราะเชื่อมต่อกับส่วนอื่นๆ ของเมืองด้วยรถไฟใต้ดินและถนนหนทางที่สะดวกต่อกาสัญจรไปในย่านต่างๆ
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553