หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
เมืองโนโบริเบตสึ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานตากอากาศที่มีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ที่นี่ยังถือเป็นเมืองแห่งยักษ์ เนื่องจากว่าภูเขาไฟในเมืองนี้ยังคงคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา จึงมีความเชื่อว่ายักษ์เหล่านี้จะคอยคุ้มครองชาวเมือง ดังนั้นจึงมีรูปปั้นยักษ์ต่างๆ ทั่วเมือง รวมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีก โดยเฉพาะหุบเขาจิโกกุดานิหรือหุบเขานรก
หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) เป็นหุบเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงหิมะหรือลิงภูเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกกว่า 200 ตัว ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขาแห่งแม่น้ำโยโคยุ อันเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากที่ราบสูงชิงะโดยมีต้นน้ำจากน้ำพุร้อนชิบุ-ยุดานากะ ซึ่งเหตุที่หุบเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าหุบเขานรกก็เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างโหดร้าย คือมีหิมะปกคลุมยาวนานถึง 1 ใน 3 ของปี อีกทั้งสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระและมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากพื้นดินอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสุ (Usuzan Ropeway) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส ไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่นี่คือ น้องหมีจะมาโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ
เมืองฮาโกดาเตะ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโอชิมา เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 บนเกาะฮอกไกโด และเมืองท่าสำคัญแห่งแรกของญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อครั้งญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศสมัยปฎิรูปเมจิ ซึ่งได้ติดต่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างชาติหลากหลาย ที่ยังคงหลงเหลืออิทธิพลอยู่
ศาลาประชาคมเมืองฮาโกดาเตะ สร้างด้วยไม้ตามสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล และอังกฤษคลาสสิค ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ บนเชิงเขาภายในบริเวณสวนโมโตมาชิ ออกแบบการก่อสร้างโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2453 เพื่อใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ภายในประดับประดาได้อย่างวิจิตร สวยงามพื้นที่ชั้นล่างปู ด้วยหินอ่อน ภายในบริเวณมีสวน ซึ่งมีทั้งแปลงดอกไม้ อนุเสาวรีย์ น้ำพุ ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น เมื่อหันมองลงมาสู่เบื้องล่างจะเห็นวิวเมืองฮาโกดาเตะและเวิ้งอ่าวที่กว้างไกลสุดสายตาสวยงามน่าหลงไหล
โบสถ์ แทรพพิซไทน์ คือโบสถ์แม่ชีแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น ก่อสร้างในปี 1898 เพื่อเป็นที่พำนักของแม่ชี 8 รูปที่เดินทางมาจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อเผยแพร่คริสต์ศาสนา ตัวโบสถ์ตั้งโดดเด่นด้วยอิฐสีแดงสดใส ท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น และบรรยากาศที่เงียบสงบ ท่านจะได้ชม รูปปั้นของนักบุญโจนส์ อ๊อฟ อาร์ค และ รูปปั้นพระแม่มารีที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า นอกจากนี้ที่โบสถ์แห่งนี้ยังเป็นที่มาของของฝากชื่อดังของเมืองฮะโกะดาเตะ อย่าง Trappist Butter Cookie ด้วย
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
หอคอยโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Tower) เป็นจุดชมวิวป้อมดาวห้าแฉก ตั้งอยู่เมืองฮาโกะดาเตะ ฮอกไกโด ลักษณะเป็นหอคอยรูปทรงห้าเหลี่ยม สูงตระหง่านอยู่ทางด้านทิศใต้ มีจุดเด่นที่รูปร่างเหมือนดวงดาว ไม่เพียงแค่หอสังเกตการณ์ที่มีลักษณะเป็นดวงดาวแต่ส่วนของหอคอยยังมีรูปร่างเป็นดวงดาวเช่นกัน ภายในหอสังเกตการณ์มีพื้นที่จัดแสดงการเรียนรู้เกี่ยวกับโกะเรียวคะคุ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึกไว้ให้เลือกพักผ่อนกันอีกด้วย
อาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง ซึ่งตั้งโดดเด่น เรียงรายริมอ่าวจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้ ก่อตั้งโดย นายวาตานาเบะ คูมะชิโร่ เพื่อใช้เป็นคลังสินค้า ในการทำการค้ากับต่างชาติ แต่ในปัจจุบันได้เปิดเป็นสถานที่พักผ่อน ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆมากมายที่พร้อมจะมอบให้กับผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งในบรรยากาศย้อนยุค การรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย หรือจะเลือกนั่งจิบชากาแฟ รวมทั้งมีการแสดงที่สร้างความบันเทิงอีกมากมาย อาทิเช่น การแสดงดนตรีสด การแสดงในโอกาสพิเศษต่างๆ
ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่รูปวงกลม มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบชิโกสึ (Lake Shikotsu) ทะเลสาบแห่งนี้มีความพิเศษตรงที่น้ำจะไม่แข็งตัวในช่วงฤดูหนาว ในหน้าร้อน อากาศก็เย็นสบาย เหมาะสำหรับเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือล่องเรือชมทิวทัศน์ (Boat Cruise on Lake Toya) อันงดงาม กลางทะเลสาบมีเกาะเล็กๆอยู่ตรงกลาง คือ เกาะนากาจิมะ (Nakajima Island) สามารถลงไปเดินเล่นได้ (ยกเว้นฤดูหนาว) และในช่วงไฮท์ซีซั่น ประมาณเดือนเมษายน-ปลายเดือนตุลาคม
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
เมืองโอตารุตั้งอยู่ในเกาะฮอกไกโดและอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ทั้งยังเป็นเมืองท่าหลักของอ่าวอิชิคะริ เนื่องจากเมืองแห่งนี้จะหันหน้าออกสู่อ่าวอิชิคะริ ส่วนด้านหลังของเมืองนั้นถูกโอบล้อมด้วยภูเขาถึง 3 ด้านด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นทางลาดเอียงลงสู่ทะเล จึงทำให้บ้านเรือนที่นี่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามไหล่เขา และทำให้ที่นี่กลายแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์อันงดงาม ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ มีพื้นที่สำหรับเล่นสกีอันมีชื่อเสียง และยังมีน้ำพุร้อนให้แช่อีกหลายแห่งด้วย
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
ถนนซาไกมาจิเป็นถนนเก่าแก่ที่มีอายุกว่าสองร้อยปี โดยปัจจุบันสองข้างทางของถนนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกในตึกแถวโบราณ รวมถึงร้านขายเครื่องแก้ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วในแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งแก้วน้ำ แจกัน ถ้วยชาม พวงกุญแจ ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนั้นถนนซาไกมาจิยังเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ถูกปรุงรสได้อย่างถึงเครื่อง และนั่นก็ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองวาตารุที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างที่สุด
เลอ ตาโอะ (LeTAO) เป็นร้านขนมชื่อดังของเมืองโอตารุ (Otaru) ประเทศญี่ปุ่น เป็นร้านขายขนมสไตล์ญี่ปุ่นที่มีขนมให้เลือกทานมากมาย โดยขนมที่ขึ้นชื่อและเป็นเมนูแนะนำก็มักจะเป็นเมนูเค้ก แพนเค้ก แยมโรล ขนมที่ดังที่สุดของที่นี่คือ Double Fromage เป็นชีสเค้กแบบพิเศษ ใช้ชีสเค้กแบบสด ถือเป็นร้านที่มีชื่อเสียงจากคุณภาพอย่างแท้จริง
คาเฟ่สนูปปี้ (Snoopy Cafe) ตั้งอยู่ในเขตชิบูย่า เมืองโตเกียว อยู่ใกล้สถานี Naka-Meguro เดินจากสถานีไปยังร้านประมาณเกือบ 10 นาที คาเฟ่จะมี 2 ชั้น ซึ่งชั้น 1 ถูกตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ ไม่อึดอัด ประดับด้วยไฟนีออน อีกมุมหนึ่งจะเป็นภาพวาดในหนังสือการ์ตูนหลากหลายฉาก และชั้น 2 ก็ตกแต่งมุมของร้านด้วยของเล่นต่างๆ ของสะสมที่หายาก หนังสือ ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกการ์ตูน
ย่านทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) แหล่งช้อปปิ้งในร่มชื่อดังของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ตลอดเส้นทางการเดินช็อปจะมีหลังคาคลุมยาวตามแนวถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนสุดถึงแม่น้ำ Sosei ย่านนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม อาการขึ้นชื่อ ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารให้เลือกมากมาย
เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha) ตั้งอยู่ทางเหนือของซัปโปโร เป็นผลงานชนเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซเกอร์ โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป มีความสูงมากถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1,500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อย ๆ ลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม สามารถชมในวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในทุก ๆ ฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว ซึ่งให้เราเชยชมความงามของสถานที่แห่งนี้ และสัมผัสพุทธศาสนาในมุมมองที่ต่างจากเดิม
อุทยานโมอาย (Makomanai Takino Cemetery) เป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ที่ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา อุทยานโมอายมีพื้นที่ประมาณ 540,000 ตารางเมตร มี 40,000 กลุ่มของที่บรรจุอัฐิและรองรับได้ 70,000 กลุ่ม
ตลาดปลาซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market) ตลาดนี้ได้มีร้านค้าและร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไป และเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่าง ๆ จำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ รวมถึงผลผลิตอื่น ๆ ในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล อาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ อาหารทะเลสด ๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวที่เรียกว่า "ดงบุริ"
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อกอันเลียนแบบมาจากศาลาว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ของอเมริกา โดยใช้อิฐแดงในการก่อสร้างมากกว่า 2.5 ล้านก้อน โดยตึกนี้ถูกใช้งานมาเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี ตั้งแต่สมัยผู้ว่าการคนแรกของฮอกไกโด ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารที่มีการบูรณะใหม่หลังจากที่ถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2454 ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน และนิทรรศการภาพถ่ายและเรื่องราวของเกาะฮอกไกโด
มิตซุย เอ้าท์เลท พาร์ค คิซะระซุ คือแหล่งรวมร้านค้าที่มีชื่อเสียงรวมทั้งสินค้าแบรนด์ดังทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 171 ร้านค้า ซึ่งร้านค้าทั้งหมดนี้รวมกันอยู่ภายใต้อาคารหนึ่งหลังคา นอกจากนั้นยังมีสินค้าประเภทกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่มีส่วนลดมากมายถึง 30-50% ท่ามกลางพื้นที่ที่มองเห็นทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบไม้อันเขียวชอุ่ม จึงทำให้เหล่านักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามและประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง
สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553