หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินเซนได (Sendai Airport) เป็นสนามบินนานาชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองนาโตริ จังหวัดมิยางิ สร้างขึ้นในช่วงสมัยสงครามสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งใช้เป็นโรงเรียนทหารอากาศ ต่อมาสหรัฐอเมริกาก็ได้ยึดไป ก่อนที่จะคืนให้ประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1956 สนามบินนี้เริ่มให้บริการแก่ผู้คนทั่วไปในปี ค.ศ. 1970 อาคารผู้โดยสารจะรวมกันทั้งจากเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ
จังหวัดอิวาเตะ (Iwate) ตั้งอยู่ภูมิภาคโทโฮกุ ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่นรองจากฮอกไกโด ที่มีจุดเด่นคือ ภูเขาอิวาเตะซึ่งได้รับฉายาว่าเป็นภูเขาไฟฟูจิแห่งภาคใต้ หรืออิวาเตะ-ฟูจิ ด้วยรูปร่างและลักษณะที่คล้ายคลึงกับภูเขาฟูจิอย่างกับแกะ นอกจากนั้นอิวาเตะยังได้ชื่อว่า เป็นเมืองแห่งการเกษตรที่มีพืชพรรณผลไม้อุดมสมบูรณ์ ดังนั้นสินค้าและของฝากขึ้นชื่อของที่นี่ ส่วนใหญ่จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเกษตรแทบทั้งสิ้น
วัดชูซอนจิ (Chuson-ji Temple) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิวาเตะ ในหอกลางวัดมีพลับพลาทองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก วัดชูซอนจิเป็นหนึ่งในวัดที่มีเรื่องราววัฒนธรรมเกี่ยวกับโอชูวฟูจิวาระหนึ่งบุคคลสำคัญของตระกูลฟูจิวาระ และยังมี “เมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฮิราอิซูมิ” อีกหนึ่งสถานที่ในมรดกโลก พลับพลาทองของวัดชูซอนจิสร้างโดยคำสั่งของโอชูวฟูจิวาระในปี 1124 เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมาชมหากได้มาเยือนเมืองฮิราอิซูมิ พลับพลาทองนี้ยังเป็นที่เก็บกระเถ้ากระดูกตระกูลฟูจิวาระถึงสามรุ่นด้วยกัน
หมู่บ้านเอะสะชิ ฟูจิวาระ (Esashi Fujiwara Heritage Park) ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านโบราณในบรรยากาศประวัติศาสตร์สมัยเฮอัน เป็นสถานที่สําหรับถ่ายภาพยนตร์ ละครทีวี มากกว่า 200 เรื่องด้วยกัน นอกจากเราจะได้เดินชมบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคแล้วนั้น ภายในยังมีกิจกรรมสนุก ๆ อีกมากมาย เช่น การแต่งกายเป็นขุนนางสมัยเฮอัน (มีแบบฟรีและเสียเงินเพิ่มเติม) การแต่งกายแบบซามูไร โดยทดลองสวมเกราะแบบซามูไร การลองฝึกยิงธนู นอกจากนี้ยังมีโซนถ่ายภาพแบบ ART 3 มิติ อีกด้วย
ท่าเรือชิโกม่า (Shiogama Port) หรือ ท่าเรือชิโอะงะมะ ตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าเรือสมัยใหม่ของภูมิภาคโทโฮกุ และได้มีการพัฒนาจนอยู่ในระดับชั้นนำของญี่ปุ่น อีกทั้งยังสามารถล่องเรือชมรอบอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ท่าเรือยังมีการจัดพื้นที่เพิ่มความสะดวกสบายใหม่ โดยการใช้ริมน้ำเป็นฐานวัฒนธรรมทางทะเล,ฐานการท่องเที่ยว,ฐานชุมชนเมือง มีของฝาก,อาหารทางทะเล และร้านซูชิให้เลือกซื้อมากมาย
ล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิม่า (Matsushima Bay Boat) ซึ่งเป็นอ่าวที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น มาล่องเรือเพื่อชมความงดงามของหมู่เกาะกว่า 260 เกาะ ที่มีรูปร่างแตกต่างกัน อันเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอย่างน่าอัศจรรย์ มาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเลี้ยงหอยนางรมคุณภาพ รวมทั้งได้สนุกสนานไปกับการให้อาหารนกนางนวล ที่คอยบินโฉบมากินอาหารจากมือ
วัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) เป็นวัดเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ภายในอาคารมีการลงรักปิดทองและเพ้นท์สีประตูบานเลื่อนไว้อย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่สวยงามและมีชื่อเสียงของญี่ปุ่นของเมืองมัตซูชิม่า มีอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติซึ่งขึ้นทะเบียนโดยจังหวัดคือ ต้นพลัม Garyubai ที่ปลูกโดยผู้บัญชาการทหารที่มีชื่อเสียงของดาเตะ มะซามูเนะ
ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) ตั้งอยู่ที่เมืองเซ็นได ประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นสำหรับป้องกันเมือง ต่อมาเกิดไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1882 จึงทำให้ปัจจุบันเหลือเพียงเศษซากกำแพงหินด้านนอกและหอรักษาความปลอดภัย จากทำเลที่ตั้งของปราสาทเดิม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองด้านล่างที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ประวัติศาสตร์ของปราสาทอาโอบะซึ่งอาคารมีรูปแบบเหมือนปราสาทที่เคยมีอยู่ในสมัยเอโดะ ภายในจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ และโรงละครแสดงภาพยนตร์สั้นๆเกี่ยวกับปราสาทให้ชมอีกด้วย
ถนนคลิสโรด (Clis Road) ตั้งอยู่ใจเมืองเซ็นไดใกล้กับสถานีรถไฟเซ็นไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ ไอชิบันโช ถือเป็นถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก โดยสินค้ามีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารท้องถิ่นหรือฟาสต์ฟู้ด ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ศูนย์เกมส์ ไปจนถึงแบรนด์เนมระดับไฮเอน
นั่งกระเช้าไฟฟ้าเทือกเขาซาโอะ (Zao Mountain Ropeway) มาชื่นชมความมหัศจรรย์ของสายลมจากไซบีเรีย ที่พัดพาหิมะมาปกคลุมต้นสนจำนวนมาก ที่เกาะเป็นผลึกน้ำแข็งจนก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนปีศาจในชุดขาว ทั้งนี้ก็สามารถเลือกสนุกกับกิจกรรมบนเทือกเขานี้ได้ อาทิเช่น การเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล ทั้งนี้ 'เทือกเขาซาโอ้' ถือเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่มีชื่อเสียง ในหมู่นักเล่นสกีที่นิยมความท้าทาย มีพื้นที่เล่นสกีกว้างใหญ่ขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลจำนวน 400 กว่าสนาม เต็มไปด้วยเนินที่สูงชันที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ
ปีศาจหิมะ (Ice Monster) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า จูเฮียว (Juhyo) ซึ่งเป็นน้ำแข็งที่เกิดจากจะสะสมของหิมะ ที่ตกลงมาจนก่อตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ พอหิมะตกมาอยู่รวม ๆ กัน ก็ทำให้ดูราวคล้ายกับปีศาจ และในเวลากลางคืนยังมีการเปิดไฟไลท์อัพเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
ซาโอะ ออนเซน สกีรีสอร์ท (Zao Onsen Ski Resort) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีลานสกีขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมให้เล่นหลากหลาย เหมาะทั้งกับผู้ที่มีทักษะหรือผู้ที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อน ที่นี่โด่งดัเป็นที่รู้จักเพราะคุณภาพของหิมะที่ละเอียดเบาราวผงแป้ง หรือที่เรียกว่า พาวเดอร์สโนว์ (Powder snow)
ทะเลสาบหงส์ (Inawashiro Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า "เท็นเคียวโกะ" ที่แปลว่า "กระจกแห่งสรวงสวรรค์" อันเนื่องมาจากความใสสะอาดของน้ำ ที่สะท้อนเงาของภูเขาบันไดได้อย่างชัดเจนราวกับกระจกใส ช่วงฤดูที่เหมาะสมในการเที่ยวชมทะเลสาบแห่งนี้คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม ส่วนในช่วงฤดูหนาวราวต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ฝูงหงส์จํานวนหลายพันตัวจะอพยพหนีหนาวมาจากไซบีเรีย เข้ามาอาศัยอยู่เต็มชายหาดของทะเลสาบแห่งนี้
เมืองไอสุ (Aizu) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมซามูไร ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือตัวเมืองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ นอกจากนี้ไอสุยังมีมนต์เสน่ห์เรื่องของออนเซ็น และท่านยังจะได้เพลิดเพลินไปกับการกินลมชมวิวบนรถไฟสายพิเศษตู้รถไฟสไตล์โบราณ และตู้รถไฟชมวิวที่มีการติดตั้งกระจกไว้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน ตั้งอยู่เมืองไอสุ-วาคามัทสุ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 โดย Ashina Naomori เพื่อเป็นกองบัญชาการทางทหารในสมัยไอซึ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1868 เกิดสงครามโบชินและถูกเผาในสงครามกลางเมือง ปราสาทนี้ได้ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่าง ๆ
หมู่บ้านโออุจิ จูกุ (Ouchi Juku) หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะ ที่สร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนา เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร มีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโอะอุชิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้
สถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) ตั้งอยู่ที่ ฟุกุชิมะ เป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น ที่มีอาคารสถานีที่ทําจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งในบริเวณติดกันยังมีจุดออนเซนเท้าให้ใช้บริการได้ฟรีระหว่างที่รอรถไฟ มาเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นเท้าเพื่อผ่อนคล้ายพร้อมกับชมธรรมชาติไปด้วยก่อนที่รถไฟจะมา
หน้าผาโทโนะเฮทสึริ (To no Hetsuri) หรือ หน้าผาล้านปี ตั้งอยู่ในฟุกุชิมะ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่าน กว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองเก่าเล็กยุคเอโดะ ที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ได้ดี จนมีการโปรโมทการท่องเที่ยวว่า Nikko is Japan ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทะจิงิ ประเทศญี่ปุ่น อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองหน้าด่านของโตเกียว รุ่งเรืองในสมัยโชกุนโตกุกาว่า เพราะนิกโก้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของญี่ปุ่น มีธรรมชาติสวยงามและมีโบราณสถานที่อยู่ใน UNESCO World Heritage List
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine) เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรำลึกถึงโชกุนลำดับที่ 1 ของรัฐบาลทหารในยุคเอโดะ ตั้งอยู่ในเมืองนิกโกทางตอนเหนือของภูมิภาคคันโตบนเกาะฮอนชู ซึ่งภายในประกอบด้วยอาคารทั้งหมด 42 หลัง นอกจากนั้นทางด้านซ้ายของทางเข้าศาลเจ้ายังมีเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1650 โดยชั้นแรกมีลวดลายภาพแกะสลัก 12 จักรราศีตามความเชื่อของจีนโบราณ และถัดจากนั้นคือศาลาไม้เก่าอันมีรูปสลักที่มีชื่อเสียงอย่างมาก อันเป็นผลงานของฮิดาริ จินโกโร่
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) คือสะพานศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหมือนกับประตูที่จะพาเข้าสู่ศาลเจ้าต่างๆในนิกโก้ สะพานชินเคียวนั้นสร้างในปี 1636 และเป็นหนึ่งใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ความสวยงามของสะพานชินเคียวนั้นจะสวยที่สุดในยามใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคมต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อใบไม้ต่างๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ส้ม สีเหลือง สลับกันไปแต่งแต้มให้สะพานแห่งนี้งดงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้สะพานชินเคียวยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
น้ำตกเคกอน (Kegon Waterfall) เป็นหนึ่งในสามน้ำตกมีชื่อของญี่ปุ่น ที่ไหลมาจากน้ำในทะเลสาบชูเซนจิ และแม่น้ำ Daiya River เข้าไว้ด้วยกัน จุดชมวิวที่ทางอุทยานได้สร้างขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถซึมซับภาพกระแสน้ำขนาดมหึมา ที่ตกลงมาตรงหน้าและละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว ถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น เราสามารถชมความงามในระยะใกล้ โดยใช้ลิฟท์ลงสู่หุบเขาเบื้องล่างสู่ “ทะเลสาบชูเซนจิ” ซึ่งเป็นการก่อตัวจากหินละลาย ที่ระเบิดมาจากภูเขาไฟนันไต ปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของสถานที่พักตากอากาศมากมาย
เมืองคาวาโกเอะ (Kawagoe Town) เมืองคาวาโกเอะตั้งอยู่บริเวณทางใต้ของจังหวัดไซตามะ ซึ่งมีจุดเด่นคือ การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบเก่าในสมัยเอโดะเอาไว้จนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาคารโกดังเก่าที่มีอายุมากกว่าร้อยปี รวมทั้งบ้านเรือน หรือร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งยังให้บรรยากาศและกลิ่นอาย คล้ายย้อนกลับไปในสมัยอดีตของญี่ปุ่น จนทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับสมญาว่าเป็นลิตเติ้ลเอโดะ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท รวมทั้งภาคการเกษตรที่มีพืชเศรษฐกิจที่ขึ้นชื่ออย่างมันหวานด้วย
อิออนมอลล์ เป็นศูนย์ค้าปลีกและมีสินค้าหลากหลายชนิดจำหน่ายในราคาที่ไม่แพง ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยภายในห้างอิออนนั้นประกอบไปด้วยส่วนของดีพาร์ทเมนท์สโตร์ซึ่งก็คือห้างจัสโก้ และส่วนที่เป็นพลาซ่าหรือร้านค้าย่อย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานมากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็น ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดที่สะดวกและราคาไม่แพงมากนัก
เมืองประวัติศาสตร์ซาวาระ (Sawara Old Town) ถนนสายเมืองประวัติศาสตร์ซาวาระนี้มีแม่น้ำไหลผ่านอย่างสงบร่มรี่น ได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลให้เป็นอาคาร บ้านเรือน ร้านค้าและสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำเนินชีวิต ในสมัยเอะโดะได้เป็นอย่างดี เมืองซาวาระเป็นเมืองเล็ก ๆ ของนาริตะ ซึ่งมีความเจริญอย่างยิ่งในสมัยเอะโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1867) เป็นศูนย์กลางการขนส่งสำหรับการจัดส่งข้าว เป็นทุน ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของซาวาระ และเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น "ลิตเติ้ลเอะโดะ"
ศาลเจ้าคาโทริ (Katori Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าของศาสนาชินโต และเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าคาโทริกว่า 100 แห่งทั่วทั้งญี่ปุ่นก็ว่าได้ ภายในศาลเจ้าประดับประดาด้วยโคมไฟหินอย่างงดงาม ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีสิ่งที่ผู้คนเคารพศรัทธาอย่างรูปปั้น Futsunushi no Mikoto ผู้ซึ่งเป็นทหารผู้พิทักษ์ที่สําคัญในสมัยซามูไร จุดที่ถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ของที่นี่นั่นก็คือ อาคารสีดําและประตูสีแดงเข้ม อันเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดของศาลเจ้าคาโทริ สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1700 รวม ๆ แล้วหลายร้อยปี
ชิซุย พรีเมียม เอาท์เลท (Shisui Premium Outlets) แหล่งช้อปปิ้งตั้งอยู่ใจกลางจังหวัดชิบะ ใกล้กับสนามบินนาริตะเพียง 10 นาที และสะดวกสบายต่อการเดินทางสู่เมืองโตเกียว เป็นแหล่งที่รวบรวมแบรนด์ชื่อดังของญี่ปุ่น และระดับโลกมาไว้ด้วยกัน ที่ให้เราได้อิสระกับการเลือกซื้อเลือกชมสินค้าที่ได้รวบรวมกว่า 120 แบรนด์ดัง นอกจากนี้ยังมีหมวดสินค้าอื่น ๆ อย่างรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้าเด็ก ซึ่งของทุกชิ้นเป็นของแท้ และราคาถูกกว่าในห้างสรรพสินค้า พร้อมทั้งมีบริการร้านอาหารสุดหรู หรือคอฟฟี่ช้อปชื่อดังอย่าง Starbucks
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553