หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
ศาลเจ้าอิเสะ-จิงงู (Ise Jingu Shrines) ศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อนคริสตกาลหรือตรงกับ พ.ศ.539 เพื่อถวายความศรัทธาแด่เทพีอามาเตราซุหรือเทพีแห่งพระอาทิตย์ โดยตั้งแต่ยุคอาซูกะทางราชสำนักจะส่งเจ้าหญิงหรือเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงที่ยังไม่ผ่านการเสกสมรสมาเป็นหัวหน้านักบวชหญิงหรือไซโอประจำศาลเจ้าอิเซะ กระทั่งถึงยุคราชสำนักเหนือ-ใต้ระบบไซโอจึงสิ้นสุดลง
ถนนโอคาเงะโยโกะโจ (Okage Yokocho Street) เป็นถนนโบราณตั้งอยู่ภายในเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น บรรยากาศของถนนทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์ยุคเอโดะไปจนถึงยุคเมจิ ภายในถนนสายนี้มีร้านค้ามากมาย มีตั้งแต่ของเล่นแบบย้อนยุคของญี่ปุ่น ไปจนถึงของฝากท้องถิ่นและงานฝีมือต่างๆ และร้านอาหารแบบท้องถิ่นไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชิมอีกด้วย
เมืองนาโกย่า ถือเป็นเมืองเอกของจังหวัดโอจิ ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ ไม่ไกลจากเมืองโอซาก้าและเกียวโตมากนัก มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ แต่กลับมีบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยนาโงย่าเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผา รวมทั้งงานศิลปหัตถกรรมต่างๆ ทั้งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกหลายแห่ง อย่างเช่น ปราสาทนาโงยะ ศาลเจ้าอัตสึตะ อุทยานแห่งชาติอิเซะชิม่า อันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าใหญ่แห่งอิเซะที่ผู้ที่นับถือลัทธิชินโตให้ความศรัทธาและเคารพมากที่สุด
สวนนะบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) เป็นสถานที่จัดแสดงไฟในฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงติดอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่เมืองคุวะนะ จังหวัดมิเอะ สวนนะบะนะ โนะ ซาโตะ มีการจัดแสดงไฟที่สวยงามอลังการและมีเอกลักษณ์ จุดเด่นของที่นี่คือการนำแสงไฟมาจัดแสดงเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงไฟ 4 ฤดูของประเทศญี่ปุ่น เช่น แสงไฟสีขาวโพลนของหิมะในฤดูหนาว แสงไฟสีชมพูอบอุ่นของต้นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ แสงไฟสีเขียวขจีของทุ่งหญ้าในฤดูร้อน ปิดท้ายด้วยแสงไฟสีแดงสดของต้นเมเปิ้ลในฤดูใบไม้ร่วง เป็นต้น
มิตซุย เอ้าท์เลท พาร์ค คิซะระซุ คือแหล่งรวมร้านค้าที่มีชื่อเสียงรวมทั้งสินค้าแบรนด์ดังทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 171 ร้านค้า ซึ่งร้านค้าทั้งหมดนี้รวมกันอยู่ภายใต้อาคารหนึ่งหลังคา นอกจากนั้นยังมีสินค้าประเภทกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่มีส่วนลดมากมายถึง 30-50% ท่ามกลางพื้นที่ที่มองเห็นทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบไม้อันเขียวชอุ่ม จึงทำให้เหล่านักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามและประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง
เมืองทาคายามะ หรือ เมืองฮิดะทาคายะมะ เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเจแปนแอลป์ในเขตจังหวัดกิฟุ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแบบโบราณ ด้วยสิ่งก่อสร้างที่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะแบบดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ เพราะในอดีตเมืองแห่งนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรป่าไม้ อีกทั้งยังมีการวางผังเมืองให้คล้ายคลึงกับเกียวโต จนถูกเรียกว่าเป็นลิตเติ้ลเกียวโต
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ตั้งอยู่บนภูเขาในเขตจังหวัดกิฟุและโทยามา ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู เป็นหมู่บ้านรูปร่างแปลกตาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2538 ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม บ้านเรือนต่าง ๆ แปรสภาพกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ บ้านพักค้างคืน กลายเป็นกระแสในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว
สะพานนาคะบาชิ (Nakabashi Bridge) ตั้งอยู่ที่เมืองทาคายาม่าในเขตฮิดะของจังหวัดกิฟุ ซึ่งเมืองเก่าแห่งนี้ยังคงรักษาบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม จนเป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับเหล่านักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ แบบญี่ปุ่นท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม สะพานสามารถเห็นได้อย่างโดดเด่นจากสีแดงเข้ม อีกทั้งสะพานแห่งนี้ยังถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญจุดหนึ่งของเมือง โดยเฉพาะช่วงกลางถึงปลายเดือนเมษายน ที่จะมีซากุระบานสะพรั่งอยู่รายล้อมตัวสะพาน จนกลายเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองทาคายาม่าเลยทีเดียว
อาคารทาคายาม่าจินยะ (Takayama Jinya) เป็นศาลาว่าการเมืองสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ที่เมืองทาคายาม่า (Takayama) จังหวัดกิฟุ (Gifu) เมื่อก่อนนั้นที่นี่ถือว่าเป็นอาคารสำคัญมากของเมือง เป็นศาลาว่าการเมืองฮิดะ ราวปี พ.ศ. 2235 ใช้เป็นศูนย์การปกครองเมือง ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่นสำนักงาน ห้องที่ใช้ในการพิจารณาคดี ที่คุมขังนักโทษ ที่พักของผูปกครองเมือ งซึ่งได้รับการแต่งตั้งมาจากโชกุนในเมืองโตเกียว ที่แห่งนี้ใช้ว่าราชการอยู่ราว 176 ปี แล้วเข้าสู่ยุคการปฏิรูปสมัยเมจิ
เขตเมืองเก่าซันมาชิซูจิ หรือ Little Kyoto ลิตเติ้ลเกียวโต เป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนสมัยเอโดะกว่า 300 ปี เอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีคูน้ำล้อมรอบและมีถนน 3 สายเล็กๆ ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันผู้คนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ต่างดัดแปลงบ้านเรือนของตนให้กลายเป็นย่านช้อปปิ้งที่สำคัญของเมือง ซึ่งมีร้านขายของที่ระลึกพื้นเมืองมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถ้วยชาม เหล้าสาเก เกี๊ยะ กระดาษญี่ปุ่น หรือตุ๊กตาซารุโบะโบะ เป็นต้น แต่หากเป็นในช่วงหน้าหนาวร้านค้าเหล่านี้จะปิดร้านไวกว่าปกติ
เมืองเกียวโต เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,200 ปีก่อน และยังเป็นศูนย์กลางของเกาะฮอนชู นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น วัดคิงกะกุที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สามารถสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาราชิยาม่าที่สะท้อนให้เห็นถึงแม่แบบของทิวทัศน์ญี่ปุ่น เป็นต้น
วัดไดโกจิ (Daigoji Temple) วัดไดโกจิสร้างขึ้นครั้งแรกในยุคเฮอัน มีอายุกว่า 1,200 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ และเป็นวัดมรดกโลกที่เป็นหนึ่งในวัดสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางนั่งยากูชิ และมีเจดีย์ 5 ชั้นที่สูงถึง 38 เมตร ที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต วัดไดโกจิเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่โตซ่อนอยู่ในพื้นที่ เต็มไปด้วยภูเขาทางด้านใต้ของเกียวโต ส่วนของอาคารหลักอยู่บริเวณด้านล่างเชิงเขาและติดกับเส้นทางเดินป่า ซึ่งเส้นทางนี้สามารถเดินไปยังวัดอื่น ๆ ได้
ศาลเจ้าเฮย์อัน (Heian Shrine) หรือเฮย์อันจินกุ ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต โดยศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1895 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 1,100 ปี ของการก่อตั้งเมืองเกียวโต รวมทั้งเพื่อเป็นการระลึกถึงจักรพรรดิกัมมู ผู้ก่อตั้งเมืองเกียวโตเป็นเมืองหลวงในอดีตด้วย ซึ่งอาคารต่าง ๆ ภายในศาลเจ้านั้นออกแบบ และก่อสร้างโดยเลียนแบบพระราชวังโตเกียว ทั้งยังเต็มไปด้วยต้นซากุระ ที่จะพร้อมใจกันผลิดอกบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ และมีสวนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสวนที่จัดในสไตล์ของญี่ปุ่นแบบโบราณ
การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีสวนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งในอดีตที่นี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของไซออนจิ คิซึเนะ ต่อมาในปี 1397 จึงได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับโชกุนอาชิคางะ ซึ่งเป็นโชกุนคนเดียวกับในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง เพื่อใช้เป็นที่พำนัก จนกระทั่งท่านโชกุนเสียชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นวัดเซนโดยผู้เป็นลูกชาย แต่วัดที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นแค่แบบจำลองจากของเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยตัวอาคารมี 3 ชั้น ตัวเรือนเป็นสีทองจากทองคำเปลว มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์บนยอด และมีลำธารโดยรอบตัวอาคาร
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 มีสถาปัตยกรรมเฉพาะตัว เรียกว่า สุมิโยชิ-ซึคุริ (Sumiyoshi-Zukuri) ซึ่งไม่เหมือนกันรูปแบบศาลเจ้าของที่อื่น ๆ ในเอเชีย ศาลเจ้าสุมิโยชินี้เป็นศาลเจ้าหลัก และมีชื่อเสียงมากกว่าศาลเจ้าอื่น ๆ ในญี่ปุ่น ภายในนั้นจะเป็นที่ตั้งของเทพคามิ (เทพเจ้าชินโต) ซึ่งคอยให้ความคุ้มครองแก่นักเดินทาง ชาวประมงและชาวเรือ ดังนั้น เราจึงสามารถที่จะพบศาลเจ้ารูปแบบนี้ได้โดยมากที่บริเวณใกล้ท่าเรือ
ตลาดคุโรมง (Kuromon Ichiba Market) เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า จนได้รับสมญานามว่าเป็น "ครัวของโอซาก้า (Osaka’s Kitchen)" กันเลยทีเดียว มีบรรยากาศภายในเป็นทางเดิน Arcade เล็ก ๆ ทอดยาวประมาณ 600 เมตร 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ กว่า 160 ร้านค้า ซึ่งขายทั้งของสดและแบบพร้อมทาน มีของกินเล่นและอาหารพื้นเมืองมากมายหลายชนิดให้ได้ชิม นอกจากของสดแล้ว ในตลาดก็จะมีพวกร้านขายของกุบกิบแทรกตัวอยู่บ้าง เช่น อุปกรณ์ทําครัว เสื้อผ้ากระเป๋าต่าง ๆ
ร้าน LAOX เป็นร้านขายสินค้าปลอดภาษี (Duty-Free Shop) ขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 32 สาขาทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในร้านมีจำหน่ายสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่ของฝาก ของที่ระลึก เครื่องใช้ภายในบ้าน เกมส์ อุปกรณ์อิเล็คทรินิกส์ เครื่องสำอาง ฯลฯ
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก