หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง
เมืองยามานาชิ (Yamanashi) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ล้อมรอบด้วยภูเขา ทางตอนบนจะติดกับภูเขาไฟฟูจิ มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อมด้วยขุนเขาสวยงาม มีเมืองหลวงชื่อโคฟุ เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรม อัญมณี ไวน์ ทิวทัศน์ธรรมชาติ และบ่อน้ำพุร้อน และยังเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น เช่น องุ่น ลูกท้อ นอกจากนี้ น้ำแร่ที่เมืองนี้ยังนำมาทำเหล้าสาเกญี่ปุ่นรสชาติดีได้ด้วย สินค้าพื้นเมืองของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งมีสินค้าที่สำคัญได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น
เมืองฮาโกเน่ (Hakone) เมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ที่ยังมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และขึ้นชื่อในเรื่องออนเซ็น ฮาโกเน่เป็นเมืองที่ยังมีภูเขาไฟที่ยังไม่ปะทุหลงเหลืออยู่ และที่สําคัญ คือ สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากแหล่งท่องเที่ยวได้หลายแห่งนั่นเอง
ล่องเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) เป็นการนำเรือที่ออกแบบในสไตล์เรือโจรสลัด มาล่องเพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และชมความงามของทะเลสาบสองข้างทาง เรือที่นำมาใช้ในการชมวิวนี้ ได้แก่ เรือโรไวยัลที่ 2 (Royal II) ที่สร้างขึ้นในสไตล์ฝรั่งเศสในสมัยศตวรรษที่ 18 เรือวิคโตรี (Victory) ที่สร้างขึ้นในสไตล์อังกฤษในสมัยศตวรรษที่ 18 และเรือควีนอะชิโนะโขะ (Queen Ashinoko) ที่สร้างขึ้นในสไตล์รีสอร์ตอันหรูหรา
บ่อน้ำโอชิโนะฮัคไค ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเดียวกับบ่อน้ำ คือ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูชิโก ะและทะเลสาบยามานะกาโกะ บ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดของภูเขาไฟฟูจิ และค่อย ๆ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุนลงมา อีกทั้งชาวญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่า นี่คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพรแตกต่างกันไปในแต่ละบ่อ อย่างเช่น สุขภาพ ความรัก เป็นต้น และหากวันไหนที่อากาศดี ๆ ก็จะสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของฟูจิจากบ่อน้ำที่นี่ได้ด้วย
การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีสวนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองเก่าเล็กยุคเอโดะ ที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ได้ดี จนมีการโปรโมทการท่องเที่ยวว่า Nikko is Japan ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทะจิงิ ประเทศญี่ปุ่น อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองหน้าด่านของโตเกียว รุ่งเรืองในสมัยโชกุนโตกุกาว่า เพราะนิกโก้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของญี่ปุ่น มีธรรมชาติสวยงามและมีโบราณสถานที่อยู่ใน UNESCO World Heritage List
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) คือสะพานศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหมือนกับประตูที่จะพาเข้าสู่ศาลเจ้าต่างๆในนิกโก้ สะพานชินเคียวนั้นสร้างในปี 1636 และเป็นหนึ่งใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ความสวยงามของสะพานชินเคียวนั้นจะสวยที่สุดในยามใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคมต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อใบไม้ต่างๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ส้ม สีเหลือง สลับกันไปแต่งแต้มให้สะพานแห่งนี้งดงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้สะพานชินเคียวยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine) เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรำลึกถึงโชกุนลำดับที่ 1 ของรัฐบาลทหารในยุคเอโดะ ตั้งอยู่ในเมืองนิกโกทางตอนเหนือของภูมิภาคคันโตบนเกาะฮอนชู ซึ่งภายในประกอบด้วยอาคารทั้งหมด 42 หลัง นอกจากนั้นทางด้านซ้ายของทางเข้าศาลเจ้ายังมีเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1650 โดยชั้นแรกมีลวดลายภาพแกะสลัก 12 จักรราศีตามความเชื่อของจีนโบราณ และถัดจากนั้นคือศาลาไม้เก่าอันมีรูปสลักที่มีชื่อเสียงอย่างมาก อันเป็นผลงานของฮิดาริ จินโกโร่
เมืองไอสุ (Aizu) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมซามูไร ไม่ว่าจะเป็นปราสาทหรือตัวเมืองที่ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยุคสมัยโบราณ นอกจากนี้ไอสุยังมีมนต์เสน่ห์เรื่องของออนเซ็น และท่านยังจะได้เพลิดเพลินไปกับการกินลมชมวิวบนรถไฟสายพิเศษตู้รถไฟสไตล์โบราณ และตู้รถไฟชมวิวที่มีการติดตั้งกระจกไว้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน ตั้งอยู่เมืองไอสุ-วาคามัทสุ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 โดย Ashina Naomori เพื่อเป็นกองบัญชาการทางทหารในสมัยไอซึ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1868 เกิดสงครามโบชินและถูกเผาในสงครามกลางเมือง ปราสาทนี้ได้ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่าง ๆ
ทะเลสาบอินะวะชิโระ (Inawashiro Lake) เป็นทะเลสาบใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ มีแร่ธาตุกรดเจือปนอยู่ จึงไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ สามารถอาศัยอยู่ใต้น้ำได้ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้จึงมีความใสจนได้รับฉายาว่า ทะเลสาบแห่งกระจกสวรรค์ หรือเทนเคียวโค (Tenkyoko) เราจะได้ชมบรรดาฝูงหงส์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เพราะในช่วงนั้นจะมีบรรดาฝูงหงส์อพยพมาอาศัยกันอยู่มากมาย
เมืองฟุคุชิมะ (Fukushima) ภูมิภาคโทโฮกุ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น โด่งดังเรื่องอุตสาหกรรมประมงขนาดใหญ่จึงมีอาหารทะเลสดๆ จำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีผลไม้ที่ขึ้นชื่อคือ พีช (Momo) เชอร์รี่ (Sakuranbo) องุ่น ฯลฯ และยังเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ สามารถเดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟชินคันเซ็นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองนี้แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามมากมายไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ สถานที่ชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสี
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิ ในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว และสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง เราสามารถเข้าถึงตัวสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด และสามารถป้อนอาหารและอุ้มสุนัขจิ้งจอกได้
นั่งกระเช้าไฟฟ้าเทือกเขาซาโอะ (Zao Mountain Ropeway) มาชื่นชมความมหัศจรรย์ของสายลมจากไซบีเรีย ที่พัดพาหิมะมาปกคลุมต้นสนจำนวนมาก ที่เกาะเป็นผลึกน้ำแข็งจนก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนปีศาจในชุดขาว ทั้งนี้ก็สามารถเลือกสนุกกับกิจกรรมบนเทือกเขานี้ได้ อาทิเช่น การเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล ทั้งนี้ 'เทือกเขาซาโอ้' ถือเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่มีชื่อเสียง ในหมู่นักเล่นสกีที่นิยมความท้าทาย มีพื้นที่เล่นสกีกว้างใหญ่ขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลจำนวน 400 กว่าสนาม เต็มไปด้วยเนินที่สูงชันที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ
ปีศาจหิมะ (Ice Monster) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า จูเฮียว (Juhyo) ซึ่งเป็นน้ำแข็งที่เกิดจากจะสะสมของหิมะ ที่ตกลงมาจนก่อตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ พอหิมะตกมาอยู่รวม ๆ กัน ก็ทำให้ดูราวคล้ายกับปีศาจ และในเวลากลางคืนยังมีการเปิดไฟไลท์อัพเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
ซาโอะ ออนเซน สกีรีสอร์ท (Zao Onsen Ski Resort) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีลานสกีขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมให้เล่นหลากหลาย เหมาะทั้งกับผู้ที่มีทักษะหรือผู้ที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อน ที่นี่โด่งดัเป็นที่รู้จักเพราะคุณภาพของหิมะที่ละเอียดเบาราวผงแป้ง หรือที่เรียกว่า พาวเดอร์สโนว์ (Powder snow)
เมืองเซนได ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งต้นไม้" เนื่องจากเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี ท่านสามารถสัมผัสได้ถึงการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญไม่ต่างจากกรุงโตเกียว แต่มีขนาดพื้นที่กว้างกว่า ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เชิญเที่ยวชมถนนโจเซนจิ-โดริย่านเมืองเก่า เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งจุใจที่อิจิบังโจ ย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง นมัสการกราบไหว้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวองค์สูง รวมทั้งเทพเจ้าอื่นๆ และชมวิวทิวทัศน์สวยงามของเมืองเซนได
ท่าเรือชิโกม่า (Shiogama Port) หรือ ท่าเรือชิโอะงะมะ ตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าเรือสมัยใหม่ของภูมิภาคโทโฮกุ และได้มีการพัฒนาจนอยู่ในระดับชั้นนำของญี่ปุ่น อีกทั้งยังสามารถล่องเรือชมรอบอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ท่าเรือยังมีการจัดพื้นที่เพิ่มความสะดวกสบายใหม่ โดยการใช้ริมน้ำเป็นฐานวัฒนธรรมทางทะเล,ฐานการท่องเที่ยว,ฐานชุมชนเมือง มีของฝาก,อาหารทางทะเล และร้านซูชิให้เลือกซื้อมากมาย
ล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิม่า (Matsushima Bay Boat) ซึ่งเป็นอ่าวที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น มาล่องเรือเพื่อชมความงดงามของหมู่เกาะกว่า 260 เกาะ ที่มีรูปร่างแตกต่างกัน อันเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอย่างน่าอัศจรรย์ มาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเลี้ยงหอยนางรมคุณภาพ รวมทั้งได้สนุกสนานไปกับการให้อาหารนกนางนวล ที่คอยบินโฉบมากินอาหารจากมือ
วัดโกไดโดะ (Godaido) เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายตั้งอยู่ในเมืองมัตสึชิมะ จังหวัดมิยากิ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสามของสถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีอาคารที่เก่าแก่ที่สุดเขตพื้นที่โตโฮกุที่มีสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะและได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒรธรรมที่สำคัญ
วัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) เป็นวัดเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ภายในอาคารมีการลงรักปิดทองและเพ้นท์สีประตูบานเลื่อนไว้อย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่สวยงามและมีชื่อเสียงของญี่ปุ่นของเมืองมัตซูชิม่า มีอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติซึ่งขึ้นทะเบียนโดยจังหวัดคือ ต้นพลัม Garyubai ที่ปลูกโดยผู้บัญชาการทหารที่มีชื่อเสียงของดาเตะ มะซามูเนะ
วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple) สร้างขึ้นเพื่อไว้ทุกข์และบูชาเทพมิทสึมุเนะ เทพแห่งความเมตตาที่เสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 19 ปี ทางเข้าวัดมีสวนมอสและหินตั้งอยู่และด้านหลังวัดเป็นป่าไม้สนซีดาร์สำหรับนั่งทำสมาธิ บริเวณพื้นที่วัดเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพภายในหลุมฝังศพตกแต่งด้วยทองคำ และภาพวาดหรูหรา รวมถึงสัญลักษณ์แบบตะวันตกเป็นรูปดอกจิก หัวใจ ข้าวหลามตัด โพธิ์ดำ ไม้กางเขน และรูปดอกกุหลาบที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
ถนนคลิสโรด (Clis Road) ตั้งอยู่ใจเมืองเซ็นไดใกล้กับสถานีรถไฟเซ็นไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ ไอชิบันโช ถือเป็นถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก โดยสินค้ามีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารท้องถิ่นหรือฟาสต์ฟู้ด ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ศูนย์เกมส์ ไปจนถึงแบรนด์เนมระดับไฮเอน
สถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) ตั้งอยู่ที่ ฟุกุชิมะ เป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น ที่มีอาคารสถานีที่ทําจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งในบริเวณติดกันยังมีจุดออนเซนเท้าให้ใช้บริการได้ฟรีระหว่างที่รอรถไฟ มาเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นเท้าเพื่อผ่อนคล้ายพร้อมกับชมธรรมชาติไปด้วยก่อนที่รถไฟจะมา
หมู่บ้านโออุจิ จูกุ (Ouchi Juku) หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะ ที่สร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนา เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร มีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโอะอุชิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้
หน้าผาโทโนะเฮทสึริ (To no Hetsuri) หรือ หน้าผาล้านปี ตั้งอยู่ในฟุกุชิมะ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่าน กว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก