หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง
เมืองยามานาชิ (Yamanashi) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ล้อมรอบด้วยภูเขา ทางตอนบนจะติดกับภูเขาไฟฟูจิ มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อมด้วยขุนเขาสวยงาม มีเมืองหลวงชื่อโคฟุ เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านอุตสาหกรรม อัญมณี ไวน์ ทิวทัศน์ธรรมชาติ และบ่อน้ำพุร้อน และยังเป็นแหล่งผลิตผลไม้ที่ใหญ่สุดของญี่ปุ่น เช่น องุ่น ลูกท้อ นอกจากนี้ น้ำแร่ที่เมืองนี้ยังนำมาทำเหล้าสาเกญี่ปุ่นรสชาติดีได้ด้วย สินค้าพื้นเมืองของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งมีสินค้าที่สำคัญได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น
เมืองฮาโกเน่ (Hakone) เมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ที่ยังมีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และขึ้นชื่อในเรื่องออนเซ็น ฮาโกเน่เป็นเมืองที่ยังมีภูเขาไฟที่ยังไม่ปะทุหลงเหลืออยู่ และที่สําคัญ คือ สามารถชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากแหล่งท่องเที่ยวได้หลายแห่งนั่นเอง
ล่องเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) เป็นการนำเรือที่ออกแบบในสไตล์เรือโจรสลัด มาล่องเพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และชมความงามของทะเลสาบสองข้างทาง เรือที่นำมาใช้ในการชมวิวนี้ ได้แก่ เรือโรไวยัลที่ 2 (Royal II) ที่สร้างขึ้นในสไตล์ฝรั่งเศสในสมัยศตวรรษที่ 18 เรือวิคโตรี (Victory) ที่สร้างขึ้นในสไตล์อังกฤษในสมัยศตวรรษที่ 18 และเรือควีนอะชิโนะโขะ (Queen Ashinoko) ที่สร้างขึ้นในสไตล์รีสอร์ตอันหรูหรา
บ่อน้ำโอชิโนะฮัคไค ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อเดียวกับบ่อน้ำ คือ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai) ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากูชิโก ะและทะเลสาบยามานะกาโกะ บ่อน้ำแห่งนี้เป็นบ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดของภูเขาไฟฟูจิ และค่อย ๆ ซึมผ่านชั้นของลาวาที่เป็นรูพรุนลงมา อีกทั้งชาวญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่า นี่คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ประทานพรแตกต่างกันไปในแต่ละบ่อ อย่างเช่น สุขภาพ ความรัก เป็นต้น และหากวันไหนที่อากาศดี ๆ ก็จะสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของฟูจิจากบ่อน้ำที่นี่ได้ด้วย
การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้นมีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีสวนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
เมืองยูโนะคามิ ออนเซน (Yunokami Onsen) เป็นเมืองตากอากาศออนเซนเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฟูกุชิมะ ที่เดินทางได้ค่อนข้างสะดวก เพราะอยู่ติดกับสถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) ที่เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวของญี่ปุ่น ที่มีหลังคาเป็นแบบญีปุ่นโบราณ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองนี้
สถานีรถไฟยูโนคามิ ออนเซ็น (Yunokami Onsen Station) ตั้งอยู่ที่ ฟุกุชิมะ เป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่น ที่มีอาคารสถานีที่ทําจากหลังคาแบบญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งในบริเวณติดกันยังมีจุดออนเซนเท้าให้ใช้บริการได้ฟรีระหว่างที่รอรถไฟ มาเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นเท้าเพื่อผ่อนคล้ายพร้อมกับชมธรรมชาติไปด้วยก่อนที่รถไฟจะมา
หมู่บ้านโออุจิ จูกุ (Ouchi Juku) หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะ ที่สร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนา เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร มีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโอะอุชิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้
หน้าผาโทโนะเฮทสึริ (To no Hetsuri) หรือ หน้าผาล้านปี ตั้งอยู่ในฟุกุชิมะ เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างขึ้น โดยหน้าผาริมแม่น้ำโอคาวะนี้ ถูกกัดเซาะโดยน้ำที่ไหลผ่าน กว่าจะสึกกร่อนเป็นเวลานานเป็นล้านปี จนกลายมาเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
ทะเลสาบหงส์ (Inawashiro Lake) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า "เท็นเคียวโกะ" ที่แปลว่า "กระจกแห่งสรวงสวรรค์" อันเนื่องมาจากความใสสะอาดของน้ำ ที่สะท้อนเงาของภูเขาบันไดได้อย่างชัดเจนราวกับกระจกใส ช่วงฤดูที่เหมาะสมในการเที่ยวชมทะเลสาบแห่งนี้คือ ระหว่างเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม ส่วนในช่วงฤดูหนาวราวต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ฝูงหงส์จํานวนหลายพันตัวจะอพยพหนีหนาวมาจากไซบีเรีย เข้ามาอาศัยอยู่เต็มชายหาดของทะเลสาบแห่งนี้
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะ (Zao Fox Village) ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองชิโรอิชิ ในภูเขาของจังหวัดมิยากิ เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 ภายในหมู่บ้านมีสัตว์นานาชนิดกว่า 100 ตัว และสุนัขจิ้งจอก 6 สายพันธุ์ที่วิ่งไปมาได้อย่างอิสระในพื้นที่กว้าง เราสามารถเข้าถึงตัวสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด และสามารถป้อนอาหารและอุ้มสุนัขจิ้งจอกได้
นั่งกระเช้าไฟฟ้าเทือกเขาซาโอะ (Zao Mountain Ropeway) มาชื่นชมความมหัศจรรย์ของสายลมจากไซบีเรีย ที่พัดพาหิมะมาปกคลุมต้นสนจำนวนมาก ที่เกาะเป็นผลึกน้ำแข็งจนก่อตัวเป็นรูปร่างเหมือนปีศาจในชุดขาว ทั้งนี้ก็สามารถเลือกสนุกกับกิจกรรมบนเทือกเขานี้ได้ อาทิเช่น การเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล ทั้งนี้ 'เทือกเขาซาโอ้' ถือเป็นหนึ่งในเทือกเขาที่มีชื่อเสียง ในหมู่นักเล่นสกีที่นิยมความท้าทาย มีพื้นที่เล่นสกีกว้างใหญ่ขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลจำนวน 400 กว่าสนาม เต็มไปด้วยเนินที่สูงชันที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ
ปีศาจหิมะ (Ice Monster) หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า จูเฮียว (Juhyo) ซึ่งเป็นน้ำแข็งที่เกิดจากจะสะสมของหิมะ ที่ตกลงมาจนก่อตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ พอหิมะตกมาอยู่รวม ๆ กัน ก็ทำให้ดูราวคล้ายกับปีศาจ และในเวลากลางคืนยังมีการเปิดไฟไลท์อัพเพิ่มความสวยงามอีกด้วย
ซาโอะ ออนเซน สกีรีสอร์ท (Zao Onsen Ski Resort) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีลานสกีขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมให้เล่นหลากหลาย เหมาะทั้งกับผู้ที่มีทักษะหรือผู้ที่ไม่เคยเล่นสกีมาก่อน ที่นี่โด่งดัเป็นที่รู้จักเพราะคุณภาพของหิมะที่ละเอียดเบาราวผงแป้ง หรือที่เรียกว่า พาวเดอร์สโนว์ (Powder snow)
เมืองเซนได ได้รับการขนานนามว่า "เมืองแห่งต้นไม้" เนื่องจากเต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวขจี ท่านสามารถสัมผัสได้ถึงการผสมผสานระหว่างธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญไม่ต่างจากกรุงโตเกียว แต่มีขนาดพื้นที่กว้างกว่า ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าต่างๆ เชิญเที่ยวชมถนนโจเซนจิ-โดริย่านเมืองเก่า เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งจุใจที่อิจิบังโจ ย่านช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง นมัสการกราบไหว้รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสีขาวองค์สูง รวมทั้งเทพเจ้าอื่นๆ และชมวิวทิวทัศน์สวยงามของเมืองเซนได
ล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิม่า (Matsushima Bay Boat) ซึ่งเป็นอ่าวที่ได้รับการยกย่องว่ามีทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น มาล่องเรือเพื่อชมความงดงามของหมู่เกาะกว่า 260 เกาะ ที่มีรูปร่างแตกต่างกัน อันเกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอย่างน่าอัศจรรย์ มาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเลี้ยงหอยนางรมคุณภาพ รวมทั้งได้สนุกสนานไปกับการให้อาหารนกนางนวล ที่คอยบินโฉบมากินอาหารจากมือ
วัดโกไดโดะ (Godaido) เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายตั้งอยู่ในเมืองมัตสึชิมะ จังหวัดมิยากิ มีภูมิทัศน์ที่สวยงามได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสามของสถานที่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มีอาคารที่เก่าแก่ที่สุดเขตพื้นที่โตโฮกุที่มีสถาปัตยกรรมแบบโมโมยามะและได้รับการจดทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒรธรรมที่สำคัญ
วัดซูอิกันจิ (Zuiganji Temple) เป็นวัดเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ ภายในอาคารมีการลงรักปิดทองและเพ้นท์สีประตูบานเลื่อนไว้อย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่สวยงามและมีชื่อเสียงของญี่ปุ่นของเมืองมัตซูชิม่า มีอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติซึ่งขึ้นทะเบียนโดยจังหวัดคือ ต้นพลัม Garyubai ที่ปลูกโดยผู้บัญชาการทหารที่มีชื่อเสียงของดาเตะ มะซามูเนะ
วัดเอนสึอิน (Entsuin Temple) สร้างขึ้นเพื่อไว้ทุกข์และบูชาเทพมิทสึมุเนะ เทพแห่งความเมตตาที่เสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 19 ปี ทางเข้าวัดมีสวนมอสและหินตั้งอยู่และด้านหลังวัดเป็นป่าไม้สนซีดาร์สำหรับนั่งทำสมาธิ บริเวณพื้นที่วัดเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพภายในหลุมฝังศพตกแต่งด้วยทองคำ และภาพวาดหรูหรา รวมถึงสัญลักษณ์แบบตะวันตกเป็นรูปดอกจิก หัวใจ ข้าวหลามตัด โพธิ์ดำ ไม้กางเขน และรูปดอกกุหลาบที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
ถนนคลิสโรด (Clis Road) ตั้งอยู่ใจเมืองเซ็นไดใกล้กับสถานีรถไฟเซ็นไดและสถานีรถไฟใต้ดินโอบะ โดริ ไอชิบันโช ถือเป็นถนนสายช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของเมือง มีพื้นที่กว้างขวางยาวไปหลายช่วงตึก โดยสินค้ามีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่อาหารท้องถิ่นหรือฟาสต์ฟู้ด ร้านคาเฟ่เก๋ๆ ศูนย์เกมส์ ไปจนถึงแบรนด์เนมระดับไฮเอน
นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองเก่าเล็กยุคเอโดะ ที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ได้ดี จนมีการโปรโมทการท่องเที่ยวว่า Nikko is Japan ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทะจิงิ ประเทศญี่ปุ่น อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองหน้าด่านของโตเกียว รุ่งเรืองในสมัยโชกุนโตกุกาว่า เพราะนิกโก้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของญี่ปุ่น มีธรรมชาติสวยงามและมีโบราณสถานที่อยู่ใน UNESCO World Heritage List
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) คือสะพานศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหมือนกับประตูที่จะพาเข้าสู่ศาลเจ้าต่างๆในนิกโก้ สะพานชินเคียวนั้นสร้างในปี 1636 และเป็นหนึ่งใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ความสวยงามของสะพานชินเคียวนั้นจะสวยที่สุดในยามใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคมต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อใบไม้ต่างๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ส้ม สีเหลือง สลับกันไปแต่งแต้มให้สะพานแห่งนี้งดงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้สะพานชินเคียวยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine) เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตที่สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรำลึกถึงโชกุนลำดับที่ 1 ของรัฐบาลทหารในยุคเอโดะ ตั้งอยู่ในเมืองนิกโกทางตอนเหนือของภูมิภาคคันโตบนเกาะฮอนชู ซึ่งภายในประกอบด้วยอาคารทั้งหมด 42 หลัง นอกจากนั้นทางด้านซ้ายของทางเข้าศาลเจ้ายังมีเจดีย์ 5 ชั้น ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1650 โดยชั้นแรกมีลวดลายภาพแกะสลัก 12 จักรราศีตามความเชื่อของจีนโบราณ และถัดจากนั้นคือศาลาไม้เก่าอันมีรูปสลักที่มีชื่อเสียงอย่างมาก อันเป็นผลงานของฮิดาริ จินโกโร่
สวนดอกไม้ที่อะชิคะงะ หรือ อาชิคางะ อยู่ที่จังหวัดโทจิหงิ (Tochigi) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมความงดงามของดอกฟูจิ (fuji flowers) หรือ ดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ที่มีอายุนานถึง 145ปีและยังมีดอกไม้นานาสายพันธุ์ให้ได้เดินชมกันในสวนที่มีความกว้างเกือบ 2,000 ตารางเมตร ซึ่งจะบานในช่วงระหว่างเดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคมของทุกๆปี นอกจากนี้ภายในยังมีร้านค้าเล็กๆ ขายอาหาร ขายของกินเล่นและขนม อยู่กันได้จนถึงสวนปิดเลย
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก