หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
โดทง พลาซ่า (Doton Plaza) ตั้งอยู่ในย่านชินไซบาชิ ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโอซาก้า ด้วยรูปแบบอาคารที่ทันสมัยและตั้งซึ่งอยู่ติดกับถนนใหญ่ ทำให้ห้างนี้มีความโดดเด่นสะดุดตา จนกลายเป็นหนึ่งในจุดนัดพบแห่งใหม่ของย่านนี้ และเป็นแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ที่เน้นร้านค้าปลอดภาษี ส่วนที่บริเวณชั้น 2 ของห้าง Doton Plaza นี้ยังจัดเป็นโซนพิเศษไว้ ที่นอกจากจะมีบริการให้เช่าชุดกิโมโนใส่เดินเล่นแล้ว เราก็ยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านพิธีการชงชาได้อีกด้วย
ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) หนึ่งในศาลเจ้าที่แปลกตาด้วยการออกแบบเป็นหัวสิงโตขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า สูง 17 เมตร คนญี่ปุ่นนั้นมีความเชื่อกันว่าปากของสิงโตนั้นจะช่วยกลืนกินสิ่งไม่ดี ช่วยปัดเป่าความชั่วร้ายและนำพามาโชคลาภเข้ามา ที่นี่นอกจากคนญี่ปุ่นจะมาขอพรเรื่องการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จอีกด้วย
ย่านมินามิ นัมบะ (Minami Namba) ทั้งสองย่านนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองโอซาก้า เรียกได้ว่าเป็นย่านสุดฮอตของเหล่านักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ นอกจากย่านชินไซบาชิแล้ว ถ้ามาโอซาก้าแล้วไม่มาเที่ยวสองย่านนี้จะถือว่ามาไม่ถึง เนื่องจากเป็นย่านศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุด ของเมืองโอซาก้าและภูมิภาคคันไซไม่แพ้ย่านชินไซบาชิ ซึ่งจะมีหลายช้อปปิ้งสตรีทรวมตัวกันอยู่ระหว่างสถานีรถไฟนัมบะ และสถานีรถไฟชินไซบาชิ ซึ่งเป็นศูนย์รวมแหล่งบันเทิงต่าง ๆ ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้ามากมายที่ให้เราได้เลือกช้อปกันอย่างจุใ0
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง
เมืองเกียวโต เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,200 ปีก่อน และยังเป็นศูนย์กลางของเกาะฮอนชู นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น วัดคิงกะกุที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สามารถสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาราชิยาม่าที่สะท้อนให้เห็นถึงแม่แบบของทิวทัศน์ญี่ปุ่น เป็นต้น
ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ไทฉะ หรือ ศาลเจ้าพ่อจิ้งจอกขาว เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อถวายให้แก่เทพเจ้าแห่งการเกษตร ภายในบริเวณศาลเจ้านั้นเต็มไปด้วยรูปปั้นสุนัขจิ้งจอก เนื่องจากชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกนั้นเป็นสัตว์นำสาส์นของเทพเจ้าอินาริ ทั้งยังมีอำนาจพิเศษในการแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ นอกจากนี้ทางด้านหน้าศาลเจ้ายังมีเสาโทริอิสีแดงส้มเรียงเป็นแถวเป็นแนวยาวถึง 4 กิโลเมตร ซึ่งเสานี้คือสัญลักษณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาชินโตนั่นเอง
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งในอดีตที่นี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของไซออนจิ คิซึเนะ ต่อมาในปี 1397 จึงได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับโชกุนอาชิคางะ ซึ่งเป็นโชกุนคนเดียวกับในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง เพื่อใช้เป็นที่พำนัก จนกระทั่งท่านโชกุนเสียชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นวัดเซนโดยผู้เป็นลูกชาย แต่วัดที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นแค่แบบจำลองจากของเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยตัวอาคารมี 3 ชั้น ตัวเรือนเป็นสีทองจากทองคำเปลว มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์บนยอด และมีลำธารโดยรอบตัวอาคาร
วัดคิโยมิซึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple) ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงายามาทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ชื่อวัดตั้งตามชื่อของน้ำตกที่อยู่ในบริเวณวัดที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเทือกเขา เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1,500 ปี มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดในภูมิภาคนี้ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ย่านฮิกาชิยาม่า (Higashiyama) ถือได้ว่าเป็นย่านการค้าที่ฮอตฮิตมากแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต โดยย่านนี้จะตั้งอยู่บริเวณที่เป็นเนินเขาทางตะวันออกของเกียวโต ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย สิ่งที่ทำให้ย่านนี้มีเสน่ห์มากที่สุด ก็น่าจะเป็นรูปแบบอาคารบ้านเรือนร้านค้าต่าง ๆ ที่ยังคงความเก่าแก่สไตล์โบราณ ที่ทำให้แลดูมีมนตร์ขลังดึงดูดใจจนทำให้กลายเป็นย่าน ที่สมกับเป็นส่วนหนึ่งของเมืองมรดกโลกอย่างเกียวโตจริง ๆ
กระเช้าไฟฟ้าชินโฮตากะโรปเวย์ (Shinhotaka Ropeway) สถานีชินโฮตากะออนเซ็นที่ความสูง 1,117 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สู่ความสูงกว่า 2,156 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้วยกระจกบานใหญ่ของกระเช้า 2 ชั้นรายแรกในญี่ปุ่นให้ท่านได้ใกล้ชิดกับทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาแจแปนแอลป์ยิ่งขึ้น
ซันมาชิซูจิ หรือ “ลิตเติ้ลเกียวโต” เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่ยังคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นย่านเมืองเก่าสมัยเอโดะ ที่มีอายุกว่า 300 ปี แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ ทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้า บ้านแบบดั้งเดิมของชาวนาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ให้ได้เลือกซื้อของที่ระลึกพื้นเมืองมากมาย ณ บริเวณนี้
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ตั้งอยู่บนภูเขาในเขตจังหวัดกิฟุและโทยามา ทางตอนกลางของเกาะฮอนชู เป็นหมู่บ้านรูปร่างแปลกตาที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ.2538 ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม บ้านเรือนต่าง ๆ แปรสภาพกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ บ้านพักค้างคืน กลายเป็นกระแสในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นอย่างรวดเร็ว
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ฟูจิเท็น สกีรีสอร์ท (Fujiten Snow Resort) เป็นสกีรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเมืองยามานาชิ บนเนินเขาทางตอนเหนือของภูเขาไฟฟูจิ โดยที่นี่ถือเป็นสกีรีสอร์ทบนภูเขาไฟฟูจิที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่ดีหากต้องการที่จะมองวิวของภูเขาลูกอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกล นอกจากนี้ยังถือเป็นลานสกีที่สามารถตอบสนองความต้องการ และความสามารถของผู้เล่นได้ทุกระดับ ตั้งแต่มือสมัครเล่นจนถึงมืออาชีพ รวมทั้งยังมีจุดที่สงวนไว้สำหรับครอบครัวอีกด้วย จึงทำให้ที่นี่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ปีละหลายล้านคน
ล่องเรือโจรสลัด (Hakone Sightseeing Cruise) เป็นการนำเรือที่ออกแบบในสไตล์เรือโจรสลัด มาล่องเพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และชมความงามของทะเลสาบสองข้างทาง เรือที่นำมาใช้ในการชมวิวนี้ ได้แก่ เรือโรไวยัลที่ 2 (Royal II) ที่สร้างขึ้นในสไตล์ฝรั่งเศสในสมัยศตวรรษที่ 18 เรือวิคโตรี (Victory) ที่สร้างขึ้นในสไตล์อังกฤษในสมัยศตวรรษที่ 18 และเรือควีนอะชิโนะโขะ (Queen Ashinoko) ที่สร้างขึ้นในสไตล์รีสอร์ตอันหรูหรา
ศูนย์จำลองแผ่นดินไหว (Fujinoeki or Earthquake Simulation Center) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับเขตภูเขาไฟฟูจิ ภายในมีห้องจัดแสดงข้อมูลการประทุของภูเขาไฟจากทั่วทุกมุมโลก ห้องแสดงภาพแผ่นดินไหว ห้องแสดงเหตุการหลังแผ่นดินไหว ห้องจำลองแผ่นดินไหว ห้องอุทกภัย ห้องเขาวงกตกระจก นอกจากนี้ยังมีโซนถ่ายภาพกับภูเขาไฟฟูจิ โซนความรู้ต่าง ๆ และโซนช้อปปิ้งสินค้างานฝีมือญี่ปุ่นต่าง ๆ เช่น มีดแบบดั้งเดิม ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เครื่องสำอาง และของฝากอีกมากมาย
เมืองโอไดบะ เป็นเมืองที่เกิดจากการนำขยะมาถมทะเลจนกลายเป็นเกาะขนาดใหญ่บริเวณอ่าวโตเกียวเพื่อประโยชน์ในการป้องกันประเทศ แต่ปัจจุบันโอไดบะได้กลายมาเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งของประเทศ เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 150 ร้าน โซนอาหาร ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายด้วยฝีมือของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสะพานสายรุ้ง เป็นต้น ส่วนการเดินทางมาที่นี่ก็สะดวกสบาย จึงไม่แปลกหากที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
วัดอาซากุสะ (Asakusa) หรือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ภายในวัดมีเทวรูปคันนงประดิษฐานอยู่ รวมทั้งยังมีเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครมาขอพรสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ นอกจากนี้ยังมีโคมแดงยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ที่ใครมาถึงต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
นากามิเสะ เป็นถนนคนเดินที่อยู่ติดกับวัดอาซากุสะ เป็นอีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย มีระยะทาง 250 เมตร รวมทั้งซอยแยกย่อยที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้าอีกหลายซอย สำหรับสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่เป็นของฝาก หรือของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นขนมพื้นเมืองที่ทำขายกันสดๆ หรือสำเร็จรูปในกล่องสวยงาม พวงกุญแจ ตุ๊กตา พัด โคมไฟ เข็มกลัด ยูกาตะ เป็นต้น จึงทำให้แต่ละวันจะมีผู้คนแวะมาเยี่ยนเยียนถนนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก
โตเกียวสกายทรี เป็นหอกระจายคลื่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมควบตำแหน่งหอคอยที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากบูร์จคาลิฟา เมืองดูไบ สาเหตุที่ญี่ปุ่นสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้นมา เป็นอันเนื่องมาจากหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ที่มีอยู่เดิมนั้น มีความสูงไม่เพียงพอที่จะส่งสัญญาณคลื่นวิทยุในรูปแบบดิจิตอล จึงต้องมีการสร้างหอคอยแห่งใหม่ขึ้นมาทดแทน ทั้งนี้โตเกียวสกายทรีได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ TOKYO SKYTREE TEMPO DECK และ TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA
ร้าน LAOX เป็นร้านขายสินค้าปลอดภาษี (Duty-Free Shop) ขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 32 สาขาทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในร้านมีจำหน่ายสินค้าทุกชนิด ตั้งแต่ของฝาก ของที่ระลึก เครื่องใช้ภายในบ้าน เกมส์ อุปกรณ์อิเล็คทรินิกส์ เครื่องสำอาง ฯลฯ
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
ย่านฮาราจูกุ (Harajuku) แหล่งรวมตัวของวัยทีนในกรุงโตเกียว ย่านนี้นอกจากมีร้านค้าแบรนด์ดัง แหล่งช็อปปิ้ง ร้านเครปญี่ปุ่นขึ้นชื่อ และคาเฟ่เก๋ๆ มากมายแล้ว ไฮไลท์ที่หลายคนอยากมาสัมผัสซักครั้งก็คือการแต่งตัวรวมทั้งประชันแฟชั่นกันอย่างสนุกสนานของบรรดาวัยรุ่น หากมาในย่านนี้ต้องไม่พลาดแวะขอพรที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) ต่อด้วยการช้อปปิ้งที่ถนน Takeshita Dori ส่วนในฝั่งของถนน Ometesando นั้นเรียกได้ว่าเป็นถนนแห่งร้านแบรนด์เนมซึ่งเป็นย่านสำหรับวัยผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย
1 ใน 23 เขตการปกครองพิเศษทางทิศตะวันตกของมหานครโตเกียว สิ่งที่โดดเด่นจนใครต่อใครต่างก็ต้องมาเปิดประสบการณ์พิเศษนั่นก็คือ ห้าแยกชิบูย่า จุดรวมแยกขนาดใหญ่ที่เป็นการตัดกันของถนนถึง 5 สาย เมื่อสัญญาณไฟจราจรให้สัญญาณสีเขียว เราก็จะเห็นภาพฝูงชนจำนวนมากเดินข้ามถนนพร้อมๆกัน เป็นประสบการณ์ที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจและนิยมมาเก็บภาพ_x000D__x000D_ชิบูย่าเป็นย่านช้อปปิ้งและแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ใจกลางโตเกียวที่เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา และยังถูกขนานนามว่าเป็นอาณาจักรของบรรดาดีไซเนอร์ทั้งแบรนด์ดังและแบรนด์ท้องถิ่น เป็นสวรรค์บนดินที่ให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าได้เสพย์งานศิลป์ได้อย่างเต็มที่ ไฮไลท์อีกอย่างที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่นี่ก็คือ การมาเซย์ไฮ เซลฟี่กับอนุสาวรีย์ฮาจิโกะ สุนัขยอดกตัญญูสายพันธุ์อะกิตะที่แสนน่ารักนั่นเอง
ท่าอากาศยานฮาเนดะ หรือจริงๆ ก็คือ ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (Haneda Airport | Tokyo International Airport) ตั้งอยู่ที่แขวงโอตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโตเกียวไปทางทิศใต้เพียงประมาณ 15 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553