หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
เมืองอาซาฮิกาว่า (Asahikawa City) เป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด รองจากเมืองซัปโปโร รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม และมากด้วยศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งอดีต โดยเฉพาะศิลปะในการปั้นแขนงต่างๆ เป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งของภูมิภาคโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง บ่อน้ำแร่โซอุนเคียว สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ และทุ่งดอกไม้อีกมากมายให้เราได้เพลิดเพลินในฤดูต่างๆ ตลอดทั้งปี
สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) หรือ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ตั้งอยู่นเมืองอาซาฮากาวะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของเมือง ซึ่งสวนสัตว์ที่นี่ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะสัตว์ต่างๆ ของที่นี่ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรง แต่มีการสร้างสถานที่เลียนแบบธรรมชาติของที่อยู่อาศัยของสัตว์นั้นๆ รวมทั้งยังมีการสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดบรรดาสัตว์มากขึ้น อย่างการสร้างแทงค์น้ำรูปกระบอกยื่นเข้าไปในบ่อของแมวน้ำ เป็นต้น ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
เทศกาลน้ำแข็งโซอุนเคียว หรือโซอุนเคียวเฮียวยุบากุมัตสึริ คืองานเทศกาลน้ำแข็งประจำปีของเมืองคามิกาว่า โดยจัดขึ้นในช่วงประมาณปลายเดือนมกราคม-ปลายเดือนมีนาคมของทุกปี ณ บริเวณแม่น้ำอิชิคาริ ซึ่งเมื่อฤดูหนาวย่างกรายมาถึง แม่น้ำแห่งนี้จะกลายเป็นน้ำแข็งกลางหุบเขาโซอุนเคียว ภายในงานมีผลงานแกะสลักน้ำแข็งประดับไฟหลากสีสวยงาม ยิ่งยกระดับให้เทศกาลนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติให้มาเยี่ยมเยือนไม่สร่างซา
โซอุนเคียว เป็นหมู่บ้านน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติไทเซ็ทสึซัง ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาคุโรดาเคะ ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด หมู่บ้านน้ำพุร้อนแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงกลางของช่องเขาขนาดมหึมาที่มีความยาวกว่า 24 กิโลเมตร โดยมีแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติผุดขึ้นมากว่า 20 แห่ง ขณะที่น้ำพุร้อนที่ร้อนที่สุดมีอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศา ประโยชน์ของการแช่ออนเซนนั้นมีมากมายอย่างเช่น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ระบบการหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น การบรรเทาอาการปวดเมื่อยต่างๆ
ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (Aurora Ice Breaker) การนั่งเรือตัดน้ำแข็งหรือเรือออโรร่า เป็นกิจกรรมที่มีเฉพาะในช่วงหน้าหนาวกลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนเมษายนเท่านั้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนฮอกไกโดไม่น้อย โดยทุกวันจะมีเรือออกจากท่าเรืออบาชิริ และพาผู้โดยสารล่องเรือกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พิพิธภัณฑ์โอคอทสก์ริวเฮียว (Okhotsk Ryuhyo Museum) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฮอกไกโด ที่เน้นธารน้ำแข็งและสัตว์ทะเลของทะเลโอคอทสก์ พิพิธภัณฑ์จะจัดแสดงธารน้ำแข็งจําลองภายในห้องที่มีอุณหภูมิ -15 องศาเซลเซียส ในส่วนของตัวอาคารจะมีทั้งหมด 2 ชั้น ชั้นแรกจะเน้นไปที่นิทรรศการเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ใต้น้ำแข็ง ในส่วนของชั้น 2 จะฉายวีดีโอเกี่ยวกับเรือตัดน้ำแข็ง ไฮไลต์ของที่นี่ ก็คงจะเป็นการจําลองการลอยมาของน้ำแข็ง Ryuhyo
เมืองอาซาฮิกาว่า (Asahikawa City) เป็นเมืองที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาะฮอกไกโด รองจากเมืองซัปโปโร รายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม และมากด้วยศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งอดีต โดยเฉพาะศิลปะในการปั้นแขนงต่างๆ เป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งของภูมิภาคโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง บ่อน้ำแร่โซอุนเคียว สวนสัตว์อาซาฮิคาวะ และทุ่งดอกไม้อีกมากมายให้เราได้เพลิดเพลินในฤดูต่างๆ ตลอดทั้งปี
เมืองโอตารุตั้งอยู่ในเกาะฮอกไกโดและอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ทั้งยังเป็นเมืองท่าหลักของอ่าวอิชิคะริ เนื่องจากเมืองแห่งนี้จะหันหน้าออกสู่อ่าวอิชิคะริ ส่วนด้านหลังของเมืองนั้นถูกโอบล้อมด้วยภูเขาถึง 3 ด้านด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นทางลาดเอียงลงสู่ทะเล จึงทำให้บ้านเรือนที่นี่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามไหล่เขา และทำให้ที่นี่กลายแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์อันงดงาม ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ มีพื้นที่สำหรับเล่นสกีอันมีชื่อเสียง และยังมีน้ำพุร้อนให้แช่อีกหลายแห่งด้วย
คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ (Hello Kitty Cafe) คาเฟ่ชื่อดังในเมืองโอตารุ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารัก ๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง Hello Kitty นอกจากนั้นยังมีสินค้าเกี่ยวกับคิตตี้และผองเพื่อนให้เราได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
คิโรโระ สกีรีสอร์ท (Kiroro Ski Resort) เป็นรีสอร์ทที่ขึ้นชื่อเรื่องของความสวยงามของภูมิทัศน์ ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ มีลานสกีเป็นจุดขายหลักที่สำคัญ รีสอร์ทแห่งนียังบริหารโดยคนไทยอีกด้วย ลานสกีของคิโรโระรีสอร์ทค่อนข้างมีชื่อเสียง เนื่องมาจากหิมะสีขาวนุ่มที่เรียกว่าพาวเดอร์สโนว์ เป็นหิมะที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพมากที่สุดในโลก รวมทั้งที่ตั้งของลานสกีแห่งนี้คือหมู่บ้านอะไกกาวา ยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับการจัดอันดับว่า เป็นหมู่บ้านที่สวยงามเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นอีกด้วย
ออนเซ็น Shimonoseki ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง มีทำเลอันเยี่ยมยอดซึ่งผู้ใช้บริการออนเซ็นจะได้เพลิดเพลินไปกับวิวของท้องทะเลอันสวยงามของช่องแคบ Kanmon ในขณะที่แช่น้ำร้อนอย่างผ่อนคลาย ออนเซ็น Simonoseki นี้ประกอบไปด้วยโรงแรมและออนเซ็นที่ทันสมัยซึ่งรวมถึงบ่อน้ำร้อนแบบจากุชชี่เพื่อการพักผ่อนที่สบายยิ่งขึ้น
โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ หรือ อุทยานหรรษาชิโรอิ โคอิบิโตะ เป็นสวนสนุกช็อกโกแลต มีศูนย์ข้อมูลประวัติของช็อกโกแลต ร้านกาแฟที่มีขนมของ ISHIYA ฯลฯ และสามารถเข้าชมการผลิตช็อกโกแลตเช่น "ชิโรอิ โคอิบิโตะ"และทดลองทำขนม"ชิโรอิ โคอิบิโตะ"ด้วยตัวเอง เปิดประสบการณ์แหล่งเรียนรู้ และลิ้มลองช็อกโกแลต และมีสวนสไตล์อังกฤษ ที่มีดอกกุหลาบในฤดูร้อน และตกแต่งด้วยแสงไฟในฤดูหนาว เหมาะสำหรับเป็นที่ถ่ายภาพ และยังมีโซนสำหรับเลือกซื้อช็อกโกแลตมากมายเพื่อเป็นของฝากอีกด้วย
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido-jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี ซึ่งแต่เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าซัปโปโร และชาวฮอกไกโดต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์เกาะฮอกไกโดและคอยปกปักษ์รักษาชาวเมืองบนเกาะมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นคนท้องถิ่นจึงนิยมไปสักการะไม่ขาดสาย เพื่อเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อกอันเลียนแบบมาจากศาลาว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ของอเมริกา โดยใช้อิฐแดงในการก่อสร้างมากกว่า 2.5 ล้านก้อน โดยตึกนี้ถูกใช้งานมาเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี ตั้งแต่สมัยผู้ว่าการคนแรกของฮอกไกโด ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารที่มีการบูรณะใหม่หลังจากที่ถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2454 ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน และนิทรรศการภาพถ่ายและเรื่องราวของเกาะฮอกไกโด
หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower) เป็นหอนาฬิกาที่เก่าแก่ ตั้งอยู่ถัดจากอาคารว่าการเก่าเมืองฮอกไกโด เป็นอีกหนี่งสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมือง ซึ่งในอดีตเป็นโรงฝึกงานของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดมาก่อน และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ตัวอาคารสร้างด้วยไม้ทาสีขาว ภายในจัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของหอนาฬิกา รวมถึงเรื่องราวของนาฬิการุ่นเดียวกับนาฬิกาที่อยู่บนหอคอย ซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวมักแวะมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
Sapporo TV Tower หรืออ่านว่า ซัปโปโรเทเรบิโต ( Sapporo Terebi-tō) เป็นหอคอยสูง 147.2 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1956 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร หอคอยตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของ สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ในเมืองซัปโปโร, ประเทศญี่ปุ่น หอคอยมีชั้นสังเกตการณ์ อยู่ที่ระดับความสูง 90 เมตร เป็นจุดชมวิวที่ทำให้คุณสามารถ ชมทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรแบบ 360 องศา และความสวยงามของสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ที่ดูสวยงามแปลกตาไปตามฤดูกาล และไปตามกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในสวนสาธารณะ
สวนสาธารณะโอโดริ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร ถือเป็นหัวใจหลักของเมือง ด้วยเป็นสวนที่แบ่งเมืองออกเป็นเขตเหนือและใต้ และมีถนนสายหลักตัดผ่านโดยรอบสำหรับเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมือง โดยมีหอโทรทัศน์ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของสวน เป็นจุดสังเกต ภายในมีสวนดอกไม้หลากหลายพันธุ์ น้ำพุ และงานประติมากรรมกลางแจ้งต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ ของเมือง อย่างเช่นเทศกาลดอกไม้นานาชาติในช่วงฤดูร้อน และเทศกาลหิมะซัปโปโรในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น
ย่านซูซูกิโนะ ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินซูซูกิโนะ เมืองซัปโปโร ถือเป็นย่านที่คึกคัก มีชีวิตชีวา และเปฺ็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดที่สุดของซัปโปโร โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟตามป้ายไฟโฆษณาสีสันต่างๆ บนตึกที่ตั้งอยู่ในย่านแห่งนี้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรีต่างๆ ทั้งไนท์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด มากกว่า 4,000 ร้าน ตามตรอกซอกซอย จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาเดินชิลและดื่มด่ำบรรยากาศเมืองยามค่ำคืน
ย่านทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) แหล่งช้อปปิ้งในร่มชื่อดังของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ตลอดเส้นทางการเดินช็อปจะมีหลังคาคลุมยาวตามแนวถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนสุดถึงแม่น้ำ Sosei ย่านนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม อาการขึ้นชื่อ ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารให้เลือกมากมาย
มิตซุย เอ้าท์เลท พาร์ค คิซะระซุ คือแหล่งรวมร้านค้าที่มีชื่อเสียงรวมทั้งสินค้าแบรนด์ดังทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 171 ร้านค้า ซึ่งร้านค้าทั้งหมดนี้รวมกันอยู่ภายใต้อาคารหนึ่งหลังคา นอกจากนั้นยังมีสินค้าประเภทกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่มีส่วนลดมากมายถึง 30-50% ท่ามกลางพื้นที่ที่มองเห็นทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบไม้อันเขียวชอุ่ม จึงทำให้เหล่านักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามและประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก