หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
อาโอโมริ(Aomori) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของจังหวัดโทโฮคุ บนเกาะฮอนชู สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ ปราสาทอันงดงามที่เป็นจุดชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง ตัวเมืองหลักจะอยู่บริเวณอ่าวและท่าเรือ โดยสถานีรถไฟ Aomori จะอยู่ติดทะเล
พิพิธภัณฑ์เนบูตะ nebuta museum เปิดเมื่อเดือนมกราคม 2011 ที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นการจัดแสดงงานของเทศกาลเนบูตะแนวใหม่เป็นการจัดแสดงนิทรรศการที่สามารถตอบโต้กับผู้เข้าชมได้ อีกทั้งผู้เข้าชมยังได้ศึกษาประวัติความเป็นมาและสัมผัสบรรยากาศเสมือนอยู่ในเทศกาลนี้ด้วย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเลือก 5 รางวัลที่ชนะในแต่ละปีมาจัดแสดงเพื่อให้ท่านได้มีโอกาสชมผลงานอย่างใกล้ชิดเลยที่เดียว
ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะฮิโรซากิ เมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) สร้างโดยตระกูลซูการุ ในปี 1611 โครงสร้างปราสาทเดิมที่มีทั้งหมด 5 ชั้น ถูกไฟไหม้จากเหตุการณ์ฟ้าผ่าในปี 1627 และได้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1810 ให้กลายเป็นแบบ 3 ชั้นในปัจจุบัน
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
สวนคิตะคามิ (Kitakami) หรือเรียกว่า คิตะคามิเทนโชจิ (Kitakami Tenshochi) สวนที่ติดอันดับ 1ใน3 สถานที่ชมดอกซากุระที่มีชื่อเสียงในภูมิภาคโทโฮคุ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นักท่องเที่ยวจะเห็นต้นซากุระที่เรียงรายริมฝั่งแม่น้ำคิตะคามิ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ในงานเทศกาลดอกซากุระยังมีการจัดซุ้มจำหน่ายอาหาร และกิจกรรมให้ชาวบ้านได้สนุกสนานร่วมกัน หรืออาจจะเพลิดเพลินกับการชมซากุระโดยนั่งเรือล่องไปตามแม่น้ำคิตาคามิ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบเลยทีเดียว
1 ใน 10 สถานที่ชมวิวธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ท่านจะได้นั่งเรือล่องไปตามลำน้ำเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงาม ตลอดสองข้างทาง ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับผาหินที่มีลักษณะคล้ายจมูกของสิงโต อันเป็นที่มาของชื่อ เกบิ ซึ่งหมายถึงจมูกสิงโตนั่นเอง อีกทั้งท่านยังจะได้ลองเสี่ยงทายด้วยก้อนหินแห่งความโชคดี โดยการโยนไปยังช่องของหน้าผา หากท่านสามารถทำได้ก็หมายความว่าท่านจะโชคดี นอกจากนี้ขณะล่องเรือท่านก็จะได้ฟังเพลงพื้นบ้านของญี่ปุ่นอันไพเราะที่ขับร้องโดยนายท้ายเรืออีกด้วย
วัดชูซอนจิ (Chuson-ji Temple) ตั้งอยู่ในจังหวัดอิวาเตะ ในหอกลางวัดมีพลับพลาทองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก วัดชูซอนจิเป็นหนึ่งในวัดที่มีเรื่องราววัฒนธรรมเกี่ยวกับโอชูวฟูจิวาระหนึ่งบุคคลสำคัญของตระกูลฟูจิวาระ และยังมี “เมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฮิราอิซูมิ” อีกหนึ่งสถานที่ในมรดกโลก พลับพลาทองของวัดชูซอนจิสร้างโดยคำสั่งของโอชูวฟูจิวาระในปี 1124 เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมาชมหากได้มาเยือนเมืองฮิราอิซูมิ พลับพลาทองนี้ยังเป็นที่เก็บกระเถ้ากระดูกตระกูลฟูจิวาระถึงสามรุ่นด้วยกัน
เมืองซาโอะเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ในจังหวัดมิยางิ เมืองซาโอะเริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น จากหมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก แต่ซาโอะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ครอบคลุมได้ทุกเพศทุกวัย และมีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตคือ Snow Monster โดยเป็นต้นไม้ที่ถูกหิมะพัดเกาะจนเป็นรูปร่างขนาดใหญ่คล้ายตุ๊กตาหิมะ คล้ายกับการกลายร่างเป็นปีศาจร้ายและเกิดเป็นกำแพงหิมะที่ถนน ZaoEcoline ที่มีความสูงถึง10เมตรเป็นระยะทางยาวกว่า 26 กิโลเมตร
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ปราสาทสึรุกะ (Tsuruga Castle) หรือ ปราสาทนกกระเรียน ตั้งอยู่เมืองไอสุ-วาคามัทสุ สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1384 โดย Ashina Naomori เพื่อเป็นกองบัญชาการทางทหารในสมัยไอซึ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1868 เกิดสงครามโบชินและถูกเผาในสงครามกลางเมือง ปราสาทนี้ได้ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ทำให้โดนทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 1964 ปัจจุบัน เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติศาสตร์ของเมืองไอสุ-วาคามัทสุ รวมทั้งเครื่องเขินและดาบโบราณต่าง ๆ
หมู่บ้านโออุจิ จูกุ (Ouchi Juku) หมู่บ้านโบราณที่อดีตเคยเป็นเมืองสำคัญในยุคเอโดะ ที่สร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อน เป็นบ้านชาวนาญี่ปุ่นโบราณที่มุงหลังคาทรงหญ้าคาหนา เรียงรายกันสองฝั่งกินระยะทางประมาณ 500 เมตร มีบ้านโบราณประมาณ 40-50 หลัง เมื่อปี พ.ศ. 2524 หมู่บ้านโออุจิจูคุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างอันทรงคุณค่าของชาติ ซึ่งในปัจจุบันหมู่บ้านโบราณหลายหลังในโอะอุชิ จูคุได้รับการบูรณะใหม่ จนกลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารและที่พักมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้
คินุกาว่าออนเซ็น (Kinugawa Onsen) ตั้งอยู่ในเมืองโทชิกิ ไม่ไกลจากเมืองนิกโก (Nikko) ที่นี่ถือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของเรียวกัง เพราะเป็นแหล่งที่มีน้ำพุร้อนแร่ธรรมชาติคุณภาพสูง จึงทำให้ที่นี่รายล้อมด้วยออนเซ็นและเรียวกังมากมายที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ โดยคินุกาว่าถือเป็นเมืองที่ได้รับการพัฒนาอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอย่างสม่ำเสมอและมากมายทุกปี ซึ่งนอกจากเรียวกังขนาดใหญ่อันทันสมัยแล้ว ที่นี่ยังมีสวนสนุกและโรงอาบน้ำให้บริการด้วย
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
นิกโก้ (Nikko) เป็นเมืองเก่าเล็กยุคเอโดะ ที่ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไว้ได้ดี จนมีการโปรโมทการท่องเที่ยวว่า Nikko is Japan ตั้งอยู่ในทิวเขาในจังหวัดโทะจิงิ ประเทศญี่ปุ่น อยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางทิศเหนือประมาณ 140 กิโลเมตร เป็นเมืองหน้าด่านของโตเกียว รุ่งเรืองในสมัยโชกุนโตกุกาว่า เพราะนิกโก้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับของญี่ปุ่น มีธรรมชาติสวยงามและมีโบราณสถานที่อยู่ใน UNESCO World Heritage List
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) คือสะพานศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหมือนกับประตูที่จะพาเข้าสู่ศาลเจ้าต่างๆในนิกโก้ สะพานชินเคียวนั้นสร้างในปี 1636 และเป็นหนึ่งใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ความสวยงามของสะพานชินเคียวนั้นจะสวยที่สุดในยามใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคมต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อใบไม้ต่างๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ส้ม สีเหลือง สลับกันไปแต่งแต้มให้สะพานแห่งนี้งดงามราวกับภาพวาด นอกจากนี้สะพานชินเคียวยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ (Nikko Tosho-gu Shrine) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่โชกุนโทกูงาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกของตระกูลโทกูงาวะ เริ่มสร้างในปี พ.ศ.2160 อีกทั้งยังเป็นที่พำนักอาศัยที่สุดท้ายของ โชกุน Tokugawa Ieyasu ทำให้กลายเป็นวัดเก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนิโก้อันมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นมากที่สุดแห่งหนึ่ง สัญลักษณ์ที่สำคัญของศาลเจ้าคือประตูโยเมม่อน ที่มีรูปแกะสลักวิจิตระการตากว่า 500 รูป มีอายุได้ 400 ปี เพื่อบูชา โชกุนโทคุงะวะ อิเอะยะสุ
มหานครโตเกียว หรือ "โตเกียว" เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณภูมิภาคคันโต มีระบบการปกครองพิเศษที่รวมการปกครองแบบจังหวัดและเมืองไว้ด้วยกัน โตเกียวได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และที่นี่ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงแลนด์มาร์คสำคัญๆ ที่ได้รับการโหวตให้ติดอันดับโลกในด้านการท่องเที่ยวอยู่เนืองๆ หากใครคิดจะมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่น แต่ไม่ได้มาเยือนโตเกียวซักครั้งแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกค้างคาใจ เหมือนมาไม่ถึงประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ชินจูกุ หรือ ย่านชินจูกุ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น หลายคนอาจไม่เชื่อว่าในอดีตย่านนี้เป็นเพียงที่ "ทิ้งขยะของเมือง" แต่ปัจจุบันชินจูกุได้แปรสภาพกลายเป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญ เป็นศูนย์รวมห้างสรรพสินค้าชื่อดัง อาทิ อิเซตัน (Isetan) ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ดองกี้ (Don Quijote) โอดะคิว (Odakyu) รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญอีกหลายแห่งที่รอให้นักท่องเที่ยวไปทำความรู้จัก
วัดอาซากุสะ (Asakusa) หรือ วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ภายในวัดมีเทวรูปคันนงประดิษฐานอยู่ รวมทั้งยังมีเจ้าแม่กวนอิมอันศักดิ์สิทธิ์ที่ใครมาขอพรสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการ นอกจากนี้ยังมีโคมแดงยักษ์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด ที่ใครมาถึงต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
โตเกียวสกายทรี เป็นหอกระจายคลื่นซึ่งตั้งอยู่ในเขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมควบตำแหน่งหอคอยที่สูงเป็นอันดับสองของโลกรองจากบูร์จคาลิฟา เมืองดูไบ สาเหตุที่ญี่ปุ่นสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้นมา เป็นอันเนื่องมาจากหอคอยโตเกียวทาวเวอร์ที่มีอยู่เดิมนั้น มีความสูงไม่เพียงพอที่จะส่งสัญญาณคลื่นวิทยุในรูปแบบดิจิตอล จึงต้องมีการสร้างหอคอยแห่งใหม่ขึ้นมาทดแทน ทั้งนี้โตเกียวสกายทรีได้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ TOKYO SKYTREE TEMPO DECK และ TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA
ชาบู ชาบู (Shabu Shabu) เชิญลิ้มลองรสชาติอาหารขึ้นชื่อแห่งเมืองเกียวโต เป็นอาหารเซ็ทชาบูชาบู ซึ่งมีเนื้อหมูบดทรงเครื่อง เนื้อปลา เนื้อหมูสไลด์ ลูกชิ้นต่าง ๆ พร้อมผักสดนานาชนิด เช่น เห็ด ผักกาด เส้นอุด้ง เต้าหู้ ที่ต้มในน้ำซุปต้นตำหรับเกียวโต และเสิร์ฟพร้อมไอศครีมชาเขียวสูตรเฉพาะ
ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการผู้โดยสารระหว่างประเทศของประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกา ตั้งอยู่ที่เมืองนาริตะ จังหวัดจิบะ ในอดีตสนามบินแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า New Tokyo International Airport จนกระทั่งปี 2004 จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะถึงแม้ว่าสนามบินแห่งนี้จะให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางเข้าออกโตเกียวเป็นหลัก แต่ตัวสนามบินกลับไม่ได้ตั้งอยู่ในโตเกียว ดังนั้นจึงได้เปลี่ยนชื่อตามแหล่งที่ตั้งนั่นเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553