หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
เมืองโนโบริเบตสึ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานตากอากาศที่มีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะฮอกไกโด ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืนในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ที่นี่ยังถือเป็นเมืองแห่งยักษ์ เนื่องจากว่าภูเขาไฟในเมืองนี้ยังคงคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา จึงมีความเชื่อว่ายักษ์เหล่านี้จะคอยคุ้มครองชาวเมือง ดังนั้นจึงมีรูปปั้นยักษ์ต่างๆ ทั่วเมือง รวมทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีก โดยเฉพาะหุบเขาจิโกกุดานิหรือหุบเขานรก
หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) เป็นหุบเขาซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงลิงหิมะหรือลิงภูเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกกว่า 200 ตัว ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขาแห่งแม่น้ำโยโคยุ อันเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากที่ราบสูงชิงะโดยมีต้นน้ำจากน้ำพุร้อนชิบุ-ยุดานากะ ซึ่งเหตุที่หุบเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าหุบเขานรกก็เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างโหดร้าย คือมีหิมะปกคลุมยาวนานถึง 1 ใน 3 ของปี อีกทั้งสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระและมีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากพื้นดินอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
กระเช้าอุสุซัง (Usuzan Ropeway) เป็นกระเช้าที่ทั้งอำนวยความสะดวกการเดินทางและสามารถเห็นวิวทิวทัศน์งามๆได้พร้อมๆกันโดยจะเป็นทางเชื่อมต่อไปยังบริเวณที่ใกล้กับยอดภูเขาไฟอุสุจากจุดนั้นสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบโทยะและภูเขาโชวะชินซัน รวมไปถึงจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งก็จะเห็นวิวของมหาสมุทรและหลุมขนาดใหญ่ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟอุสุในปี ค.ศ.1977
ภูเขาโชวะ ชินซาน เป็นภูเขาใหม่ที่มีการก่อตัวตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี พ.ศ.2486 ถึงเดือนกันยายน ปี พ.ศ.2488 ภูเขานี้อยู่บนฝั่งของแม่น้ำโซเบ็ตสุตามชายเขาฝั่งตะวันออกของภูเขาอุสุ แต่เดิม บริเวณนี้มีทุ่งกว้างและป่าแต่ทั้งหมดถูกกลืนหายไปเพราะกระบวนการก่อร่างภูเขา ถนนและรางรถไฟก็ถูกเปลี่ยนเส้นทางหลายครั้งในช่วงที่เกิดกระบวนการก่อร่างภูเขาและมีการจัดแสดงนิทัศการณ์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นเอกสารและบันทึกที่เขียนโดยคนที่เห็นการก่อตัวของภูเขา
สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสุ (Usuzan Ropeway) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส ไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่นี่คือ น้องหมีจะมาโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ
บุฟเฟ่ต์เมนูขาปูยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยปูฮอกไกโดทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ ปูทาราบะ ปูสึไว และปูขน ปูทะเลอันโด่งดังของเกาะฮอกไกโด ขึ้นชื่อในเรื่องของความอร่อย มีเนื้อแน่น รสชาติหวานฉ่ำ สามารถทานได้อย่างไม่อั้น มาพร้อมน้ำจิ้มสไตส์ญี่ปุ่นแสนอร่อย รวมทั้งยังมีอาหารอื่นๆ อีกหลากหลายชนิดให้ได้เลือกทานกันอย่างจุใจ
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
Rusutsu Resort รีสอร์ท ถือเป็นสกีรีสอร์ทหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในฮอกไกโด . มันมีพื้นที่เล่นสกีขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมสามภูเขาแต่ละคนมีความหลากหลายของการวิ่งยาวมันตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบ Toya (Toyako) นอกจากนี้การเล่นสกี Rusutsu รีสอร์ทมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมายรวมทั้งร้านอาหารและร้านค้าสิ่งอำนวยความสะดวกสระว่ายน้ำและน้ำพุร้อนอาบน้ำเช่นเดียวกับสถานที่ที่จัดไว้ให้ชาวต่างชาติเช่นคริกเก็ตผับบาร์กีฬา กิจกรรมฤดูร้อนรวมถึงสนามกอล์ฟและสวนสนุกที่มีกว่า 60 สถานที่ท่องเที่ยวและ 8 รถไฟเหาะ
คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก
ถนนซาไกมาจิเป็นถนนเก่าแก่ที่มีอายุกว่าสองร้อยปี โดยปัจจุบันสองข้างทางของถนนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกในตึกแถวโบราณ รวมถึงร้านขายเครื่องแก้ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วในแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งแก้วน้ำ แจกัน ถ้วยชาม พวงกุญแจ ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนั้นถนนซาไกมาจิยังเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ถูกปรุงรสได้อย่างถึงเครื่อง และนั่นก็ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองวาตารุที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างที่สุด
พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว (Otaru Canalside Glass Factory) ตัวโรงงานจะมีความโดดเด่นมากๆ แบบสามารถมองเห็นได้แต่ไกล เพราะด้านบนเป็นหอคอยคู่หลังคาเป็นโดม ภายในโรงงานสามารถชมสาธิตวิธีการทำเครื่องแก้ว อีกทั้งยังมีเครื่องแก้วรูปแบบต่างๆแบบน่ารักๆไว้ให้เลือกช็อปเป็นของที่ระลึกอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Steam Clock) สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนาดา แถมที่นี่ก็ยังเคยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ในภาพยนต์เรื่อง ‘แฟนเดย์’ อีกด้วย
เมืองซัปโปโร เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางความเจริญของเกาะฮอกไกโด ในอดีตช่วงยุคเมจิ ขณะที่เริ่มมีก่อตั้งเกาะฮอกไกโดให้เป็นเขตการปกครองนั้น เมืองซัปโปโรถูกเลือกให้เป็นศูนย์กลางการจัดการและการพัฒนาตามคำแนะนำของสหรัฐอเมริกา จึงทำให้ถนนหนทางของเมืองนี้คล้ายคลึงกับอเมริกา อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังถูกเคยเลือกให้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิคฤดูหนาวในปี 1972 ด้วย และในปัจจุบันซัปโปโรก็ได้กลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะ เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงาม
ย่านทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) แหล่งช้อปปิ้งในร่มชื่อดังของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ตลอดเส้นทางการเดินช็อปจะมีหลังคาคลุมยาวตามแนวถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนสุดถึงแม่น้ำ Sosei ย่านนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม อาการขึ้นชื่อ ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารให้เลือกมากมาย
เทศกาลงานประดับไฟฤดูหนาว ซัปโปโร (Sapporo White Illumination) คือเทศกาลประดับไฟย่านใจกลางเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เป็นงานเทศกาลประจำฤดูหนาวของเมือง ลักษณะการจัดงานจะมีการแบ่งพื้นที่ในแต่ละส่วน ของย่านใจกลางเมืองและตามถนนเส้นการค้าหลัก และทุกๆปีจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน – กลางเดือนมีนาคม มีการประดับไฟ LED กว่า 520,000 ดวงมาไว้ในงาน ทั้งยังเพิ่มความยิ่งใหญ่ของกิจกรรมและการแสดงต่าง ๆ อีกมากมาย จนเป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย
เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha) ตั้งอยู่ทางเหนือของซัปโปโร เป็นผลงานชนเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซเกอร์ โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป มีความสูงมากถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1,500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อย ๆ ลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม สามารถชมในวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในทุก ๆ ฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว ซึ่งให้เราเชยชมความงามของสถานที่แห่งนี้ และสัมผัสพุทธศาสนาในมุมมองที่ต่างจากเดิม
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido-jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี ซึ่งแต่เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าซัปโปโร และชาวฮอกไกโดต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์เกาะฮอกไกโดและคอยปกปักษ์รักษาชาวเมืองบนเกาะมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นคนท้องถิ่นจึงนิยมไปสักการะไม่ขาดสาย เพื่อเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ตลาดปลาซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market) ตลาดนี้ได้มีร้านค้าและร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไป และเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่าง ๆ จำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ รวมถึงผลผลิตอื่น ๆ ในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล อาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ อาหารทะเลสด ๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวที่เรียกว่า "ดงบุริ"
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อกอันเลียนแบบมาจากศาลาว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ของอเมริกา โดยใช้อิฐแดงในการก่อสร้างมากกว่า 2.5 ล้านก้อน โดยตึกนี้ถูกใช้งานมาเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี ตั้งแต่สมัยผู้ว่าการคนแรกของฮอกไกโด ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารที่มีการบูรณะใหม่หลังจากที่ถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2454 ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน และนิทรรศการภาพถ่ายและเรื่องราวของเกาะฮอกไกโด
ซัปโปโรเจอาร์ทาวเวอร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร โดยตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ เจอาร์ซัปโปโร มีความสูงถึง 173 เมตร ภายในนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าแล้ว ยังแบ่งเป็นส่วนของอาคารสำนักงานด้วย ที่นี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของเมือง เพราะนอกจากจะอยู่บนทำเลที่สะดวกแล้ว ชั้นบนสุดยังเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม เพราะสามารถดูวิวทิวทัศน์ของเมืองได้แบบ 360 องศา ซึ่งหากวันไหนอากาศดีๆ ก็จะมองเห็นได้ไกลถึงท่าเรือเมืองโอตารุ ภูเขามารุยามะ ภูเขาซันกากุ รวมทั้งสถานที่เล่นสกีอันเลื่องชื่อของเมืองนิเซโกะ เป็นต้น
จิโตเสะ เอ้าท์เลท มอลล์ เรร่าตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินนิวจิโตเสะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น โดยภายในแบ่งออกเป็นร้านค้าต่างๆ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา ฯลฯ ซึ่งเปิดบริการมานานกว่า 5 ปี ดังนั้นจึงมีการเปิดโซนใหม่ซึ่งเป็นโซนจำหน่ายสินค้าจากฮอกไกโดทั้งสิ้น ไมว่าจะเป็นอาหาร งานหัตถกรรม เครื่องดื่ม รวมทั้งสินค้าที่ระลึก นอกจากนี้เอ้าท์เลทแห่งนี้ยังเป็นช้อปปิ้งมอลล์แห่งแรกของญี่ปุ่นที่มีสถานที่ในการประกอบศาสนาสำหรับชาวมุสลิมอีกด้วย
สนามบินชิโตเซ่ (Chitose Airport) เป็นท่าอากาศยานนานาชาติของฮกไกโด เปิดบริการเมื่อปี ค.ศ. 1991 ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองชิโตเซะและโทะมะโกะไม ให้บริการด้านการคมนาคมทางอากาศสำหรับนครซัปโปโระ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก