หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
ท่าอากาศยานฮิโรชิมะ (Hiroshima Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองมิฮาระ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโงกุ จัดอยู่ในท่าอากาศยานระดับสองในญี่ปุ่น สนามบินนี้เปิดให้บริการสำหรับสาธารณะในปี ค.ศ. 1993 แทนที่สนามบินเก่า สนามบินนี้มีอาคารผู้โดยสารเพียงแห่งเดียว โดยที่เปิดให้บริการทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่ง Gate A-D เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ และ Gate E-G เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ อินาริ (Motonosumi Inari Shrine) ตั้งอยู่ในเมืองนากาโตะ จังหวัดยามากุจิ ตัวศาลเจ้าได้ตั้งหันหน้าเข้าหาทะเล ศาลเจ้าแห่งนี้มีวิวอันสวยงาม เป็นที่ประทับของดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่แยกออกจากศาลเจ้าไทโกดานิ อินาริในจังหวัดชิมาเนะ เมื่อประมาณ 60 ปีก่อนได้เล่ากันว่า มีเทพเจ้าองค์หนึ่งแปลงกายเป็นสุนัขจิ้งจอกสีขาว ไปปรากฏกายในฝันของชาวประมงคนหนึ่ง เพื่อบอกให้ตั้งศาลเจ้าในพื้นที่แห่งนี้ จุดที่โดดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ ก็คือเสาโทริอิ 123 ต้น ที่ตั้งเรียงรายเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร
จังหวัดฟุกุโอกะตั้งอยู่บนเกาะคิวชู โดยมีฐานะเป็นเมืองท่าสำคัญในภูมิภาคนี้ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ทำให้ฟุกุโอกะได้ชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และแฟชั่น รวมถึงยังถูกเรียกว่าเป็นประตูสู่เอเชียอันเนื่องมาจากมีชายฝั่งทะเลตั้งอยู่ทางภูมิภาคเอเชีย และมีสนามบินนานาชาติที่มีเที่ยวบินจากชาติในเอเชียบินขึ้นลงอยู่วันละหลายเที่ยวบินนั่นเอง
ฟุคุโอกะ ทาวเวอร์ (Fukuoka Tower) เป็นหอคอแลนด์มาร์คแห่งเมืองฟุกุโอกะ ตั้งอยู่ริมทะเลในย่านโมะโมะจิฮะมะ มีความสูง 234 เมตร เป็นหอคอยเรือนกระจกเพียงแห่งเดียวของประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นบนแผ่นดินที่เกิดจากการถมทะเล นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองฟุกุโอกะ และวิวทะเลญี่ปุ่นด้านทิศเหนือได้ทั่ว 360 องศา
ย่านเท็นจิน ถือเป็นถนนสายหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เป็นที่ตั้งของสถานีรถบัส สถานีรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน รวมทั้งมีถนนที่เชื่อมทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินทั้งสองสายของเมือง จึงทำให้ย่านเท็นจินเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองฟุกุโอกะ ที่มีทั้งศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านรวงมากมาย รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของธนาคารพาณิชย์ที่สำคัญๆ และออฟฟิศสำนักงานอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ และร้านอาหารหลากหลายสไตล์ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว
วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple) อยู่ในเมืองซาซะกูริ (Sasaguri) สามารถนั่งรถไฟจากฟุกุโอกะ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น วัดนี้เป็นวัดที่ค่อนข้างโด่งดังในเกาะคิวชู แต่กลับไม่ค่อนเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยว ว่ากันว่าวัดนี้คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางแสวงบุญซาซะกูริ ที่มีทางเดินต่อไปอีก 88 วัด และเส้นทางซาซะกูรินี้คือ 1 ใน 3 เส้นทางแสวงบุญ
ศาลเจ้าดาไซฟุเทมมังกู (Dazaifu Tenman-gu) สัญลักษณ์ของเมืองฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโต สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1448 ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นศาลเจ้าที่ให้พรในเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากศาลเจ้านี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับท่านสึกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ผู้เป็นนักปราชญ์ประจำราชสำนักในสมัยเฮอัน แต่ถูกใส่ร้ายจนถูกปลดออกจากตำแหน่งและเนรเทศให้มารับราชการอยู่ที่ดาไซฟุ
โทสุเอ้าท์เลท เอ้าท์เลทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเขตคิวชู ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายชนิด จากทั่วโลก เช่น COACH, PRADA, ARMANI, DUNHILL, LEGO, GAP, NIKE, ADIDAS, PUMA, LEVI’S และร้านค้าแฟชั่นนำอีกมากมายของคนทุกวัย
ทะเลสาบคินริน (Kinrin Lake) เป็นทะเลสาบเล็กๆในเมืองยูฟุอิน ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 25 นาที น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไหลมาจากน้ำพุร้อน ทำให้น้ำในสระอุ่นอยู่ตลอดเวลา และในตอนเช้าบริเวณผิวน้ำจะมีไอน้ำลอยขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว
เมืองเบปปุเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดโออิตะ ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ และเป็นเมืองที่มีบ่อน้ำร้อนออนเซ็นธรรมชาติมากที่สุดในญี่ปุ่น จนทำให้ได้รับฉายาว่าเป็นเมืองหลวงของออนเซ็น เนื่องจากตัวเมืองนั้นอยู่ติดกับภูเขาไฟอะโสะ จึงทำให้มีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติกระจายอยู่ทั่วเมือง จนทำให้หากใครขับรถผ่านเมืองแห่งนี้ หรือหากมองมาจากมุมสูงก็จะเห็นหมอกควันพวยพุ่งอยู่เหนือเมือง ดังนั้นกิจกรรมหลักของเมืองแห่งนี้ที่ใครๆ หากมาแล้วต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการแช่ออนเซ็นนั่นเอง
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
เกาะมิยาจิม่า (Miyajima Island) เป็นชื่อที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกัน ชื่อทางการของที่นี่คือ เกาะอิทสึคุชิมะ (Itsukushima) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ที่เมืองฮะสึไกชิ จังหวัดฮิโรชิมะ เดินทางไปจากตัวเมืองฮิโรชิมะไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ที่นี่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เกาะแห่งเทพเจ้า” ได้รับการจดทะเบียนให้เป็มรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก มิชลีนไกด์ยังให้คะแนนแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ถึงสามดาว และยังเป็นหนึ่งในสามวิวที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ (Itsukushima Shrine) ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) นับเป็นศาลเจ้าชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของฮิโรชิม่า ซึ่งความโด่งดังมาจากประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล จนดูเหมือนลอยอยู่ในน้ำในช่วงที่น้ำขึ้น เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่บนน้ำ เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมลงตัวของทั้งวัฒนธรรมกับธรรมชาติ ตัวชื่อเกาะมิยาจิม่าที่แปลว่าเกาะแห่งศาลเจ้า เพราะมีศาลเจ้าอิสึกุชิมะตั้งอยู่ มียอดเขาสูงที่ชื่อภูเขาไมเซน (Misen) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนท้องถิ่น
ถนนโอโมเตะซันโด ตั้งอยู่ในย่านที่เรียกว่า “อาโอยามะ” ติดฮาราจูกุ ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฌ็องเซลิเซ่แห่งกรุงโตเกียว” ขึ้นชื่อมากในกรุงโตเกียว เหล่าแฟชั่นนิสต้าไม่ควรพลาด โดยเฉพาะใครที่รักในความทันสมัยและแบรนด์เนมต่างๆ พลาดไม่ได้ ที่นี่มีการโฆษณาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา การโฆษณาบนถนน หรือแม้แต่อีเวนท์ที่เดินแห่ขบวนเรียกความสนใจตามท้องถนน บรรยากาศคล้ายยุโรปกับตึกร้านค้าที่ออกแบบและตกแต่งสไตล์ยุโรป สองข้างทางปลูกต้นเซลโกเวียเป็นทิวแถว เหมือนเป็นอุโมงค์ธรรมชาติสวยงามอยู่ใจกลางเมือง
อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Park) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โดมปรมาณู ตั้งอยู่ในนครฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ในอาณาเขตของสวนสันติภาพฮิโรชิมะได้รับการก่อตั้งเป็นอนุสรณ์ในปี พ.ศ.2539 และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปีเดียวกัน อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิดมากที่สุดในบรรดาอาคารที่ยังตั้งทนต่อแรงระเบิด ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพหลังจากถูกระเบิด ปัจจุบันได้กลายเป็นอนุสรณ์เตือนให้ระลึกถึงพลังทำลายล้างของระเบิดปรมาณู
ปราสาทฮิโรชิมา (Hiroshima Castle) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ประจำเมือง ถูกก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1590 แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1945 ถูกทำลายโดยระเบิดปรมาณู ในช่วงสงคราม ปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1958 โดยตัวปราสาทสร้างจากไม้ มีทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำ ภายในปราสาทจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมาของเมืองฮิโรชิมา ส่วนชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวที่ท่านจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมืองฮิโรชิมาได้อย่างชัดเจน
ท่าอากาศยานฮิโรชิมะ (Hiroshima Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองมิฮาระ จังหวัดฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชูโงกุ จัดอยู่ในท่าอากาศยานระดับสองในญี่ปุ่น สนามบินนี้เปิดให้บริการสำหรับสาธารณะในปี ค.ศ. 1993 แทนที่สนามบินเก่า สนามบินนี้มีอาคารผู้โดยสารเพียงแห่งเดียว โดยที่เปิดให้บริการทั้งเที่ยวบินในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่ง Gate A-D เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ และ Gate E-G เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก