หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองบิเอะ (Biei City) ตั้งอยู่ในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น อุตสาหกรรมหลักของเมืองคือเกษตรกรรม ทำให้ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยไร่สวนมากมาย เช่น ไร่ข้าวสาลีและมันฝรั่ง เป็นเมืองที่โอบล้อมไปด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติ ทุ่งกว้าง และเนินเขา ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังเป็นฉากหลังของโฆษณาทางทีวีอยู่บ่อยครั้ง
สระอาโออิ อิเคะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ่อน้ำสีฟ้า เมืองบิเอะ ที่นี่เป็นสระน้ำซึ่งน้ำในบ่อมีลักษณะเป็นสีฟ้าใสทั่วทั้งบ่อ เกิดจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนจากภูเขาไฟโทคาชิ (Tokachi) แล้วไหลเข้ามาสู่เมือง เนื่องจากมีสารอลูมิเนียมไฮดรอกไซต์ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเจือปนอยู่ จึงทำให้น้ำสะท้อนกับแสงแดดมองเห็นเป็นสีฟ้านั่นเอง มีต้นสนคารามัตสึที่ยืนต้นตายอยู่กลางน้ำ ให้บรรยากาศที่ดูราวกับอยู่ในโลกจินตนาการ
สวนชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai No Oka) ตั้งอยู่ในเมืองคามิกาวะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ถูกยกให้เป็นสรวงสวรรค์ของคนรักดอกไม้นานาสายพันธุ์บนพื้นที่หลายเฮกตาร์ เรียกได้ว่ามีความงดงามให้ได้ชมกัน ยังมีเนินเขาที่คุณสามารถเห็นสนามขนาดใหญ่ในทุกๆฤดู คุณสามารถพบดอกไม้ในแต่ละฤดู เช่น เดือนพฤษภาคมดอกทิวลิป เป็นต้น โดยจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์หมุนเวียนพากันมาอวดโฉมกว่า 30 ชนิด ทั้งดอกทิวลิป ลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน และอีกเพียบ ภายในสวนยังมีรถบริการพาชมทัศนียภาพโดยรอบให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมกันเพลินๆ
ถนนช้อปปิ้งอาซาฮิคาวะ เฮวะโดริ (Asahikawa Heiwa-dori Shopping Street) เป็นถนนสำหรับคนเดินโดยเฉพาะแห่งแรกในญี่ปุ่น มีร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านกินดื่ม ไปจนถึงร้านขายข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นย่านการค้าสำคัญของคนในท้องที่มาตั้งแต่สมัยก่อน ถ้าจะหาซื้อของฝากล่ะก็ต้องห้ามพลาดร้าน Machinaka Kouryukan Shop ที่นี่มีสินค้าลายตัวมาสคอตของเมือง สินค้าแปรรูป สินค้าหัตถกรรมงานฝีมือต่างๆ แค่มาเดินดูเฉยๆ ก็ตื่นตาตื่นใจไปกับสินค้าหลากหลายแล้ว
พิพิธภัณฑ์หิมะและน้ำแข็งคามิคาวะ (Kamikawa Ice Pavilion) ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park) ของฮอกไกโด(Hokkaido) ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีแกลลอรี่ใต้ดินที่รวบรวมชิ้นงานที่ทำมาจากน้ำแข็ง ทางเดินอุโมงค์น้ำแข็งที่ประดับประดาด้วยไฟสวยงาม บาร์น้ำแข็ง และถ้ำจำลองหินงอกหินย้อย นอกจากนั้นยังมีสัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ใต้น้ำแข็ง เช่น คลิโอเนะ(Clione) หรือที่รู้จักกันในชื่อผีเสื้อทะเลให้ชมกันอีกด้วย
หมู่บ้านราเมงอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ตั้งอยู่ในเมืองอะซะฮิคะวะ เป็นหมู่บ้านที่รวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองจำนวน 8 ร้านไว้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ นอกจากนั้นภายในบริเวณหมู่บ้านยังมีศูนย์การค้า และศาลเจ้าเพื่อให้คู่รักมาขอพรเพื่อให้ชีวิตคู่ร้อนแรงเหมือนน้ำซุปและยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่จากเทพเจ้า 2 องค์
คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก
โรงเป่าแก้วคิตาอิชิตั้งอยู่ในเมืองโอตารุ เมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านการเป่าแก้วมายาวนาน โดยในอดีตนั้นจุดประสงค์ของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นทุ่นให้เรือ แต่ปัจจุบันนี้เป้าหมายของการเป่าแก้วเพื่อใช้เป็นของใช้หรือของที่ระลึกแทน ซึ่งโรงเป่าแก้วคิตาอิชิเป็นโรงงานที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1901 ท่ามกลางโรงเป่าแก้วที่มีอยู่มากมาย และผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโรงงานแห่งนี้ก็คือโคมไฟแก้วและลูกบอลแก้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสอนวิธีการเป่าแก้วให้กับนักท่องเที่ยวด้วย
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Steam Clock) สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของที่ระลึกที่เมือง Vancouver มอบให้แก่เมือง Otaru นาฬิกานี้จะพ่นไอน้ำประกอบกับมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุกๆ 15 นาที เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนหนึ่งที่ประเทศแคนาดา แถมที่นี่ก็ยังเคยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ในภาพยนต์เรื่อง ‘แฟนเดย์’ อีกด้วย
ร้านกาแฟ ฮัลโหล คิตตี้ (Hello Kitty Cafe) คาเฟ่ชื่อดังในเมืองโอตารุ เพลิดเพลินกับบรรยากาศน่ารัก ๆ ของตัวการ์ตูนแมวชื่อดัง Hello Kitty นอกจากนั้นยังมีสินค้าเกี่ยวกับคิตตี้และผองเพื่อนให้เราได้เลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
ถนนซาไกมาจิเป็นถนนเก่าแก่ที่มีอายุกว่าสองร้อยปี โดยปัจจุบันสองข้างทางของถนนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกในตึกแถวโบราณ รวมถึงร้านขายเครื่องแก้ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วในแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งแก้วน้ำ แจกัน ถ้วยชาม พวงกุญแจ ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนั้นถนนซาไกมาจิยังเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ถูกปรุงรสได้อย่างถึงเครื่อง และนั่นก็ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองวาตารุที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างที่สุด
การแช่น้ำแร่ร้อนธรรมชาติของญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่าการแช่ออนเซ็นนั้น ถือเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นที่นิยมกันมากว่า 1,000 ปี ซึ่งปัจจุบันเรียวกังหลาย ๆ แห่งในญี่ปุ่นได้ใช้วิธีนี้ในการเรียกลูกค้า ด้วยการจำลองรูปแบบของบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายแบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวประทับใจ ทั้งแบบใกล้ชิดธรรมชาติเพื่อให้ผู้แช่ได้ดื่มด่ำกับป่าเขา น้ำตก รวมทั้งแบบโบราณ โดยจำลองสถาปัตยกรรมเก่า ๆ สไตล์ญี่ปุ่นก็มี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการแช่น้ำร้อนนั้น นอกจากจะทำให้เลือดลมหมุนเวียนดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณผุดผ่องอีกด้วย
ฮอกไกโด นั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองและตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น สภาพอากาศและภูมิประเทศที่นี่จะแตกต่างจากส่วนอื่นของญี่ปุ่นค่อนข้างมาก ในฤดูหนาว อุณหภูมิก็จะติดลบ เมืองทั้งเมืองปกคลุมด้วยหิมะละเอียด ฮอกไกโดเป็นสถานที่สำหรับเล่นสกีติดอันดับโลก ส่วนในฤดูร้อนที่ฮอกไกโดก็จะปกคลุมด้วยดอกไม้หลากสีสัน ต้นไม้เขียวขจีแตกต่างจากฤดูหนาวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมกิจกรรท ชมดอกไม้ ปีนเขา และขี่จักรยาน
โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ หรือ อุทยานหรรษาชิโรอิ โคอิบิโตะ เป็นสวนสนุกช็อกโกแลต มีศูนย์ข้อมูลประวัติของช็อกโกแลต ร้านกาแฟที่มีขนมของ ISHIYA ฯลฯ และสามารถเข้าชมการผลิตช็อกโกแลตเช่น "ชิโรอิ โคอิบิโตะ"และทดลองทำขนม"ชิโรอิ โคอิบิโตะ"ด้วยตัวเอง เปิดประสบการณ์แหล่งเรียนรู้ และลิ้มลองช็อกโกแลต และมีสวนสไตล์อังกฤษ ที่มีดอกกุหลาบในฤดูร้อน และตกแต่งด้วยแสงไฟในฤดูหนาว เหมาะสำหรับเป็นที่ถ่ายภาพ และยังมีโซนสำหรับเลือกซื้อช็อกโกแลตมากมายเพื่อเป็นของฝากอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร ตั้งอยู่ทางตะวันออกของสถานีซัปโปโรประมาณ 1.7 กิโลเมตร ซึ่งที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งแรกและแห่งเดียวในญี่ปุ่น ที่นำเสนอเรื่องราวและประวัติความเป็นมา รวมทั้งขั้นตอนของการผลิตเบียร์ซัปโปโร เบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นอีกด้วย โดยตัวของอาคารพิพิธภัณฑ์นั้นเคยเป็นโรงงานผลิตเบียร์ในอดีต เป็นอาคารที่สร้างด้วยอิฐแดง ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2419 ในสมัยเมจิ ทั้งยังเป็นโรงงานผลิตเบียร์แห่งแรกของญี่ปุ่นอีกด้วย
ย่านซูซูกิโนะ ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินซูซูกิโนะ เมืองซัปโปโร ถือเป็นย่านที่คึกคัก มีชีวิตชีวา และเปฺ็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดที่สุดของซัปโปโร โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟตามป้ายไฟโฆษณาสีสันต่างๆ บนตึกที่ตั้งอยู่ในย่านแห่งนี้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรีต่างๆ ทั้งไนท์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด มากกว่า 4,000 ร้าน ตามตรอกซอกซอย จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาเดินชิลและดื่มด่ำบรรยากาศเมืองยามค่ำคืน
ตลาดปลาซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market) ตลาดนี้ได้มีร้านค้าและร้านอาหารกว่า 80 ร้าน เรียงรายตลอดบล็อกขึ้นไป และเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเมือง ร้านค้าต่าง ๆ จำหน่ายอาหารทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปู หอยเม่นทะเล ไข่ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยเชลล์ รวมถึงผลผลิตอื่น ๆ ในท้องถิ่น เช่น ข้าวโพด แตงโม และมันฝรั่งตามฤดูกาล อาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อคือ อาหารทะเลสด ๆ เสิร์ฟพร้อมข้าวที่เรียกว่า "ดงบุริ"
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido-jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี ซึ่งแต่เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าซัปโปโร และชาวฮอกไกโดต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์เกาะฮอกไกโดและคอยปกปักษ์รักษาชาวเมืองบนเกาะมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นคนท้องถิ่นจึงนิยมไปสักการะไม่ขาดสาย เพื่อเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อกอันเลียนแบบมาจากศาลาว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ของอเมริกา โดยใช้อิฐแดงในการก่อสร้างมากกว่า 2.5 ล้านก้อน โดยตึกนี้ถูกใช้งานมาเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี ตั้งแต่สมัยผู้ว่าการคนแรกของฮอกไกโด ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารที่มีการบูรณะใหม่หลังจากที่ถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2454 ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน และนิทรรศการภาพถ่ายและเรื่องราวของเกาะฮอกไกโด
มิตซุย เอาท์เลตพาร์ค (Mitsui Outlet Park) เป็นศูนย์รวมแฟชั่นทันสมัย แหล่งรวมพลของสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลก ประกอบด้วยแบรนด์ดังถึง 128 แบรนด์ อาทิ Coach Armani, Ralph Lauren, Seigo เพียบพร้อมด้วยสินค้าสำหรับทุกคน ตั้งแต่สินค้าแฟชั่นหญิงชายและเด็ก รวมไปถึงอุปกรณ์กีฬาและสินค้าทั่วไป นอกจากนี้ ภายในห้างยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ที่จุได้ถึง 650 ที่นั่ง เลยทีเดียว
อุทยานโมอาย (Makomanai Takino Cemetery) เป็นหนึ่งในสุสานที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ที่ออกแบบโดย Tadao anda สถาปนิกชื่อดังของโลก ก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1982 ไอเดียคล้ายวัฒนธรรมจากโมอายและอียิปต์ ออกแบบรูปร่างตั้งให้อยู่ในภูเขาของดอกลาเวนเดอร์ เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมา อุทยานโมอายมีพื้นที่ประมาณ 540,000 ตารางเมตร มี 40,000 กลุ่มของที่บรรจุอัฐิและรองรับได้ 70,000 กลุ่ม
เนินพระพุทธเจ้า (Hill of The Buddha) ตั้งอยู่ทางเหนือของซัปโปโร เป็นผลงานชนเอกอีกชิ้นหนึ่งของทาดาโอะ อันโดะ (Tadao Ando) สถาปนิกชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัลพริตซเกอร์ โดยมีลักษณะเป็นเนินเขาล้อมรอบรูปปั้นพระพุทธรูป มีความสูงมากถึง 13.5 เมตร และมีน้ำหนัก 1,500 ตัน พื้นที่ที่ล้อมรอบจะค่อย ๆ ลาดลง อีกทั้งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันงดงาม สามารถชมในวิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในทุก ๆ ฤดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาว ซึ่งให้เราเชยชมความงามของสถานที่แห่งนี้ และสัมผัสพุทธศาสนาในมุมมองที่ต่างจากเดิม
Sapporo TV Tower หรืออ่านว่า ซัปโปโรเทเรบิโต ( Sapporo Terebi-tō) เป็นหอคอยสูง 147.2 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1956 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร หอคอยตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของ สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ในเมืองซัปโปโร, ประเทศญี่ปุ่น หอคอยมีชั้นสังเกตการณ์ อยู่ที่ระดับความสูง 90 เมตร เป็นจุดชมวิวที่ทำให้คุณสามารถ ชมทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรแบบ 360 องศา และความสวยงามของสวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ที่ดูสวยงามแปลกตาไปตามฤดูกาล และไปตามกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในสวนสาธารณะ
ย่านทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) แหล่งช้อปปิ้งในร่มชื่อดังของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ตลอดเส้นทางการเดินช็อปจะมีหลังคาคลุมยาวตามแนวถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนสุดถึงแม่น้ำ Sosei ย่านนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม อาการขึ้นชื่อ ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารให้เลือกมากมาย
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553