หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ท่าอากาศยานนานาชาติที่ตั้งอยู่ในอ่าวโอซากา นอกชายฝั่งเมืองเซ็นนังและเมืองอิซุมิซะโนะ จังหวัดโอซะกะ ญี่ปุ่น มักถูกเรียกในภาษาอังกฤษว่า Osaka Airport หรือท่าอากาศยานโอซากา ออกแบบโดยสถาปนิก Renzo Piano เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2537
เมืองเกียวโต เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,200 ปีก่อน และยังเป็นศูนย์กลางของเกาะฮอนชู นอกจากนี้ยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น วัดคิงกะกุที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1940 อีกทั้งยังเป็นเมืองที่สามารถสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมที่งดงามของญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอาราชิยาม่าที่สะท้อนให้เห็นถึงแม่แบบของทิวทัศน์ญี่ปุ่น เป็นต้น
เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกียวโต ซึ่งในอดีตที่นี่ไม่ใช่วัด แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของไซออนจิ คิซึเนะ ต่อมาในปี 1397 จึงได้ขายบ้านหลังนี้ให้กับโชกุนอาชิคางะ ซึ่งเป็นโชกุนคนเดียวกับในการ์ตูนเรื่องอิคคิวซัง เพื่อใช้เป็นที่พำนัก จนกระทั่งท่านโชกุนเสียชีวิตจึงได้เปลี่ยนเป็นวัดเซนโดยผู้เป็นลูกชาย แต่วัดที่เห็นในปัจจุบันนี้เป็นแค่แบบจำลองจากของเก่าที่ถูกไฟไหม้เสียหาย โดยตัวอาคารมี 3 ชั้น ตัวเรือนเป็นสีทองจากทองคำเปลว มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์บนยอด และมีลำธารโดยรอบตัวอาคาร
วัดคิโยมิซึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera Temple) ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงายามาทางตะวันออกของเมืองเกียวโต ชื่อวัดตั้งตามชื่อของน้ำตกที่อยู่ในบริเวณวัดที่เชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์จากเทือกเขา เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 1,500 ปี มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดในภูมิภาคนี้ ในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งหนึ่งของโลก และได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
โอซาก้า เป็นเมืองที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในเกาะฮอนชู มีชาวต่างชาติที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยวอาศัยอยู่มากที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้โอซาก้ายังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเล และยังมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน จึงทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาทั้งจากในและนอกประเทศมากมาย จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นประตูเข้าออกสู่โลกภายนอกแห่งแรกของญี่ปุ่น
ชินไซบาชิ หรือ Shinsaibashi-Suji ถนนสายช็อปปิ้งเส้นยาวอีกหนึ่งย่านการค้าชื่อดังของเมืองโอซาก้า ที่เต็มไปด้วยร้านรวงทั้งเก่าแก่และร้านแบรนด์เนมสมัยใหม่ ที่นี่เป็นแลนด์มาร์คแนะนำอีกแห่งสำหรับสายช็อป ชิม ชิล มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องสำอาง อาหารทะเลขึ้นชื่อ ส่วนตรงใจกลางของถนนจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นั่นก็เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสัญลักษณ์คนวิ่งชูมือ อันเป็นเครื่องหมายการค้าของกูลิโกะนั่นเอง
หนึ่งในสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่โด่งดังมากที่สุดของโอซาก้า ถ้าใครอยากจะมาหาของกินเด็ดๆ ต้องมาแถวนี้ให้ได้ เพราะส่วนนี้นับว่าเป็นแหล่งรวมร้านอาหารมากมายที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง โดยตัวถนนแห่งนี้จะเลียบริมคลองโดทงโบริและยังมีทั้งร้านค้า แหล่งบันเทิงอีกมากมาย ในช่วงกลางคืนก็จะเปิดไฟประดับประดาสวยงามป้ายร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงป้ายนักวิ่งกูลิโกะ (Glico Running Man sign) และปูคานิโดราคุ (Kani Doraku crab sign) ที่เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า
ปราสาทโอซาก้า หรือ โอซาก้าโจ (Osaka Castle) คือสถานที่สำคัญและยังเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองโอซาก้าที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม สร้างขึ้นครั้งแรกในบริเวณที่เคยเป็นวัดอิชิยามะฮนกังจิ เมื่อปีค.ศ.1583 ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีความสูง 55 เมตร มี 5 ส่วน 8 ชั้น โดยบนหอคอยชั้น 8 สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือประตูขนาดใหญ่และป้อมปราการที่ทำมาจากก้อนหินใหญ่อันสูงชันเกือบ 30 เมตรนั่นเอง
เมืองโอตารุตั้งอยู่ในเกาะฮอกไกโดและอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองซัปโปโร ทั้งยังเป็นเมืองท่าหลักของอ่าวอิชิคะริ เนื่องจากเมืองแห่งนี้จะหันหน้าออกสู่อ่าวอิชิคะริ ส่วนด้านหลังของเมืองนั้นถูกโอบล้อมด้วยภูเขาถึง 3 ด้านด้วยกัน จากนั้นจึงเป็นทางลาดเอียงลงสู่ทะเล จึงทำให้บ้านเรือนที่นี่ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามไหล่เขา และทำให้ที่นี่กลายแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์อันงดงาม ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่ มีพื้นที่สำหรับเล่นสกีอันมีชื่อเสียง และยังมีน้ำพุร้อนให้แช่อีกหลายแห่งด้วย
คลองโอตารุ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึก ซึ่งในอดีตเป็นคลองที่เกิดจากการถมทะเลเพื่อใช้เป็นเส้นทางขนถ่ายสินค้าจากเรือใหญ่ลงสู่เรือขนถ่ายแล้วนำสินค้ามาเก็บไว้ภายในโกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และถมคลองครึ่งหนึ่งทำเป็นถนนหลวง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งได้บูรณะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนั้นริมสองฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารตั้งเรียงรายอยู่มากมาย รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคลองมากนัก
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร ที่ภายในเต็มไปด้วยรูปแบบ ขนาด และประเภทต่างๆ ของกล่องดนตรี โดยตัวอาคารหลังนี้ก่อสร้างด้วยกำแพงอิฐสีแดงและมีหน้าต่างโค้งซึ่งเป็นไสตล์เรเนซองส์ ส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์มีนาฬิกาไอน้ำที่ผลิตโดยผู้ผลิตนาฬิกาแคนาดาที่จะส่งเสียงเตือนทุกๆ 15 นาที และทุกชั่วโมงจะดังเป็นพิเศษ
ถนนซาไกมาจิเป็นถนนเก่าแก่ที่มีอายุกว่าสองร้อยปี โดยปัจจุบันสองข้างทางของถนนแห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึกในตึกแถวโบราณ รวมถึงร้านขายเครื่องแก้ว และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแก้วในแบบต่างๆ ที่น่าสนใจ ทั้งแก้วน้ำ แจกัน ถ้วยชาม พวงกุญแจ ตะเกียง เป็นต้น นอกจากนั้นถนนซาไกมาจิยังเต็มไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดๆ ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ถูกปรุงรสได้อย่างถึงเครื่อง และนั่นก็ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของเมืองวาตารุที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นอย่างที่สุด
โรงงานช็อกโกแลตอิชิยะตั้งอยู่ที่เมืองซัปโปโรในสวนชิโรอิโคอิบิโตะ ซึ่งภายในระกอบไปด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และโรงงานช็อกโกแลตอันมีชื่อเสียง โดยอาคารซึ่งเป็นร้านขายของนั้นถูกตกแต่งให้เหมือนกับโลกแห่งเทพนิยายคลาสสิก ส่วนภายในโรงงานมีการจัดแสดงอุปกรณ์การผลิตตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม โดยจำลองโรงงานและขั้นตอนการผลิตมาไว้ที่นี่ นอกจากนั้นยังสามารถชิมและเลือกซื้อช็อกโกแลตหรือไอศกรีมแบบต่างๆ ที่ผลิตจากนมสดของเกาะฮอกไกโดได้ที่นี่ แถมยังทดลองทำคุกกี้ได้เองด้วย
ย่านซูซูกิโนะ ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดินซูซูกิโนะ เมืองซัปโปโร ถือเป็นย่านที่คึกคัก มีชีวิตชีวา และเปฺ็นย่านบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดที่สุดของซัปโปโร โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟตามป้ายไฟโฆษณาสีสันต่างๆ บนตึกที่ตั้งอยู่ในย่านแห่งนี้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ภัตตาคาร สถานบันเทิงเริงรมย์ยามราตรีต่างๆ ทั้งไนท์คลับ บาร์ คาราโอเกะ สถานอาบอบนวด มากกว่า 4,000 ร้าน ตามตรอกซอกซอย จึงไม่แปลกที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาเดินชิลและดื่มด่ำบรรยากาศเมืองยามค่ำคืน
ฟูราโนะ เป็นเมืองกิ่งจังหวัดคามิกาวะ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในการชมทุ่งลาเวนเดอร์ จุดชมดอกลาเวนเดอร์ ที่นิยมปลูกในภูมิภาคฮอกไกโด อยู่ในเมืองฟูราโน่ (Furano) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาชมความงดงามของทุ่งดอกไม้แห่งนี้
ฟาร์มโทมิตะ (Tomita Farm) สถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงของเมืองฟุราโนะ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ฟาร์มแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า เป็นจุดชมดอกลาเวนเดอร์ที่ดีที่สุดของเมือง เนื่องจากมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากฉากหลังเป็นภูเขาโทกะชิ (Tokachi mountain) ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฟาร์มโทมิตะเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสายทุกปี เพราะภาพความงามของทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงของฟาร์มนี้ ได้ปรากฏอยู่บนปฏิทินของบริษัทรถไฟด่วน (JR) นั่นเอง
สวนชิกิไซโนะโอกะ (Shikisai No Oka) ตั้งอยู่ในเมืองคามิกาวะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ถูกยกให้เป็นสรวงสวรรค์ของคนรักดอกไม้นานาสายพันธุ์บนพื้นที่หลายเฮกตาร์ เรียกได้ว่ามีความงดงามให้ได้ชมกัน ยังมีเนินเขาที่คุณสามารถเห็นสนามขนาดใหญ่ในทุกๆฤดู คุณสามารถพบดอกไม้ในแต่ละฤดู เช่น เดือนพฤษภาคมดอกทิวลิป เป็นต้น โดยจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์หมุนเวียนพากันมาอวดโฉมกว่า 30 ชนิด ทั้งดอกทิวลิป ลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน และอีกเพียบ ภายในสวนยังมีรถบริการพาชมทัศนียภาพโดยรอบให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมกันเพลินๆ
พิพิธภัณฑ์น้ำแข็ง (Ice Pavillion) เป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะจากหิมะ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคฮอกไกโด ที่แห่งนี้ให้เราได้ชื่นชมกับผลงานการปั้นตุ๊กตาหิมะ และการแกะสลักหิมะ ซึ่งผลงานเหล่านี้ เป็นผลงานของเหล่าบรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียง ภายในถ้ำยังมีความสวยงามของหิมะ ที่เหมือนกับอยู่ในถ้าหินงอกหินย้อย และให้เราได้สัมผัสความหนาวเย็นกับอุณหภูมิ -41 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ เราจะได้พบกับความน่ารัก ของนางฟ้าทะเลคลีโอเน่หรือ Sea Angle อีกด้วย
สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) หรือ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ตั้งอยู่นเมืองอาซาฮากาวะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของเมือง ซึ่งสวนสัตว์ที่นี่ถือว่าไม่ธรรมดาเพราะสัตว์ต่างๆ ของที่นี่ไม่ได้ถูกกักขังอยู่ในกรง แต่มีการสร้างสถานที่เลียนแบบธรรมชาติของที่อยู่อาศัยของสัตว์นั้นๆ รวมทั้งยังมีการสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ใกล้ชิดบรรดาสัตว์มากขึ้น อย่างการสร้างแทงค์น้ำรูปกระบอกยื่นเข้าไปในบ่อของแมวน้ำ เป็นต้น ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
สระอาโออิ อิเคะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ่อน้ำสีฟ้า เมืองบิเอะ ที่นี่เป็นสระน้ำซึ่งน้ำในบ่อมีลักษณะเป็นสีฟ้าใสทั่วทั้งบ่อ เกิดจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกันไม่ให้โคลนจากภูเขาไฟโทคาชิ (Tokachi) แล้วไหลเข้ามาสู่เมือง เนื่องจากมีสารอลูมิเนียมไฮดรอกไซต์ที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟเจือปนอยู่ จึงทำให้น้ำสะท้อนกับแสงแดดมองเห็นเป็นสีฟ้านั่นเอง มีต้นสนคารามัตสึที่ยืนต้นตายอยู่กลางน้ำ ให้บรรยากาศที่ดูราวกับอยู่ในโลกจินตนาการ
หมู่บ้านราเมงอาซาฮิคาว่า (Asahikawa Ramen Village) ตั้งอยู่ในเมืองอะซะฮิคะวะ เป็นหมู่บ้านที่รวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองจำนวน 8 ร้านไว้ภายในหมู่บ้านแห่งนี้ นอกจากนั้นภายในบริเวณหมู่บ้านยังมีศูนย์การค้า และศาลเจ้าเพื่อให้คู่รักมาขอพรเพื่อให้ชีวิตคู่ร้อนแรงเหมือนน้ำซุปและยืนยาวเหมือนเส้นบะหมี่จากเทพเจ้า 2 องค์
ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร็อกอันเลียนแบบมาจากศาลาว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ของอเมริกา โดยใช้อิฐแดงในการก่อสร้างมากกว่า 2.5 ล้านก้อน โดยตึกนี้ถูกใช้งานมาเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี ตั้งแต่สมัยผู้ว่าการคนแรกของฮอกไกโด ซึ่งปัจจุบันเป็นอาคารที่มีการบูรณะใหม่หลังจากที่ถูกไฟไหม้ในปี พ.ศ. 2454 ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งภายในมีการจัดแสดงห้องทำงาน และนิทรรศการภาพถ่ายและเรื่องราวของเกาะฮอกไกโด
ฮอกไกโด นั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองและตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น สภาพอากาศและภูมิประเทศที่นี่จะแตกต่างจากส่วนอื่นของญี่ปุ่นค่อนข้างมาก ในฤดูหนาว อุณหภูมิก็จะติดลบ เมืองทั้งเมืองปกคลุมด้วยหิมะละเอียด ฮอกไกโดเป็นสถานที่สำหรับเล่นสกีติดอันดับโลก ส่วนในฤดูร้อนที่ฮอกไกโดก็จะปกคลุมด้วยดอกไม้หลากสีสัน ต้นไม้เขียวขจีแตกต่างจากฤดูหนาวอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมกิจกรรท ชมดอกไม้ ปีนเขา และขี่จักรยาน
ย่านทะนุกิโคจิ (Tanuki Koji) แหล่งช้อปปิ้งในร่มชื่อดังของเมืองซัปโปโร (Sapporo) ตลอดเส้นทางการเดินช็อปจะมีหลังคาคลุมยาวตามแนวถนนยาวกว่า 1 กิโลเมตร จนสุดถึงแม่น้ำ Sosei ย่านนี้มีอายุยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว เป็นตลาดเก่าแก่ที่เปิดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1873 โดยสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 200 ร้าน ขายของที่ระลึก ขนม อาการขึ้นชื่อ ของเล่น เครื่องสำอาง ช็อคโกแลต เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงร้านอาหารให้เลือกมากมาย
ตลาดปลานิโจ (Nijo Fish Market) ตั้งอยู่กลางเมืองซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น โดยมีหลังคาจั่วสีฟ้าเขียวเป็นเอกลักษณ์ เป็นตลาดทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุประมาณ 100 ปีย้อนหลังสร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1903 และตลาดแห่งนี้รู้จักกันในนาม “ครัวทะเลของชาวเมืองซัปโปโร” ตลาดแห่งนี้คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการหาซื้อของฝาก เช่น ปูและหอยเชลล์ เป็นต้น และในตลาดปลายังมีอาคารที่รวบรวมร้านอาหารที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไว้มากมาย
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido-jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าในลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี ซึ่งแต่เดิมศาลเจ้านี้มีชื่อว่าศาลเจ้าซัปโปโร และชาวฮอกไกโดต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก เพราะเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์เกาะฮอกไกโดและคอยปกปักษ์รักษาชาวเมืองบนเกาะมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนแห่งนี้ ดังนั้นคนท้องถิ่นจึงนิยมไปสักการะไม่ขาดสาย เพื่อเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
มิตซุย เอ้าท์เลท พาร์ค คิซะระซุ คือแหล่งรวมร้านค้าที่มีชื่อเสียงรวมทั้งสินค้าแบรนด์ดังทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 171 ร้านค้า ซึ่งร้านค้าทั้งหมดนี้รวมกันอยู่ภายใต้อาคารหนึ่งหลังคา นอกจากนั้นยังมีสินค้าประเภทกีฬากลางแจ้ง รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ที่มีส่วนลดมากมายถึง 30-50% ท่ามกลางพื้นที่ที่มองเห็นทะเลได้อย่างชัดเจน ทั้งยังปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใบไม้อันเขียวชอุ่ม จึงทำให้เหล่านักช้อปได้เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่งดงามและประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553