ทัวร์ลาว เวียงจันทน์ วังเวียง น้ำตกตาดกวางสี หลวงพระบาง 3 วัน 2 คืน บิน Bangkok Airways

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

วัดพระธาตุหลวง เป็นพระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของลาว มีขนาดสูงและใหญ่ที่สุดในลาว พระธาตุหลวงแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว และยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติแทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาวอีกด้วย ทุกๆ ปีจะมีงานบุญใหญ่บูชาพระธาตุในวันเดือนเพ็ญสิบสอง ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะหลั่งไหลมาทำบุญตักบาตรเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุและถวายพานพุ่มดอกไม้ และปราสาทผึ้ง

วัดสีสะเกด หรือ วัดสตสหัสสาราม (Wat Si Saket | Si Saket Temple) หรือที่คนท้องถิ่นรู้จักกันในนามว่า “วัดแสน” โดยชื่อวัดแสนนั้นมีที่มาจากในอดีตนั้นที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปโบราณอยู่มากถึง 100,000 องค์ โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ และสวยงามของประเทศลาวเพราะมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอย่างพระในกำแพง หอไตร หอธรรม เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ของเวียงจันทน์ที่เป็นจุดท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว

วังเวียง หรือ “กุ้ยหลินเมืองลาว” เป็นเมืองที่แวดล้อมด้ธรรมชาติสวยสดงดงาม อากาศเย็นสบาย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเมืองตากอากาศที่ขึ้นชื่อในแขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว อยู่ห่างจากเมืองเวียงจันทน์ประมาณ160กม สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่างภูเขาหินปูน ป่าไม้สมบูรณ์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำซองล้อมรอบด้วยเทือกเขาสูงที่มีรูปร่างแปลกตา สลับซับซ้อน เต็มไปด้วยป่านานาพันธุ์ที่ขึ้นตามธรรมชาติ ป่าไม้ ลำธารที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มองเห็นสายน้ำกว้างส ลับกับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลังสวยงามมาก

เยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาววังเวียง เต็มไปด้้วยธรรมชาติ ทิวเขา สายน้ำซอง ไร่นาแบบขั้นบันได และหมู่บ้านชนพื้นเมืองเผ่าต่างๆ มีทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของทิวเขา ไร่นาแบบขั้นบันได ผ่านหมู่บ้านชนพื้นเมืองเผ่าต่างๆ ของลาว พร้อมชมความยิ่งใหญ่ของขุนเขาที่เต็มไปด้วยป่านานาพันธุ์ที่ขึ้นตามธรรมชาติ มองเห็นสายน้ำกว้างสลับเนินทราย โดยมีเทือกเขาหินปูนเป็นฉากหลัง และได้ฉายาว่า 'กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว' เป็นแหล่งท่องเที่ยงของประเทศลาว เพลิดเพลินกับธรรมชาติระหว่างทางสวยงามมาก

หลวงพระบาง เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมอันสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกในปี พ.ศ. 2538 ให้เป็นเมืองมรดกโลก หลวงพระบางภูมิประเทศที่สวยงาม โอมล้อมด้วยแม่น้ำ 2 สายสำคัญคือแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน อีกทั้งยังมีขนบธรรมเนียมประเพณีอันทรงคุณค่าและงดงาม บรรยากาศบ้านเมืองดูอบอุ่น ผู้คนน่ารักยิ้มแย้มแจ่มใส และมีมิตรไมตรีที่ดี จึงเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้มาเยือน

น้ำตกกวางสีเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงพระบาง ลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนสูงกว่า 70 เมตร น้ำใสและสะอาด อยู่ท่ามกลางป่าเขาที่เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังสามารถลงเล่นน้ำหรือใช้เป็นสถานที่ถ่ายรูป พักผ่อน ชมวิว สูดอากาศที่มีแต่ความสดชื่นและบริสุทธิ์ได้ตลอดทั้งวัน

พระธาตุจอมพูสีตั้งอยู่บนยอดเขาใจกลางเมืองหลวงพระบางที่มีความสูงถึง 150 เมตร ลักษณะตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมประดับยอดด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร ซึ่งช่วงเวลาที่พระธาตุสวยงามที่สุดคือช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เนื่องจากแสงแดดที่ตกกระทบยังพระธาตุนั้นจะส่องสว่างเป็นสีทองอร่ามตานอกจากนั้นในบริเวณยอดเขาก็ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงพระบาง

ตลาดมืดหลวงพระบาง (Luang Prabang Night Market) หรือถนนคนเดินไนท์มาร์เกต เป็นแหล่งช้อปปิ้งยามค่ำคืนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของหลวงพระบาง โดยสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทงานศิลปหัตถกรรม ซึ่งถือเป็นของฝากและของที่ระลึกอันมีราคาย่อมเยา นอกจากนั้นยังมีอาหารและขนมพื้นเมืองแปลกตาให้ได้เลือกชิมในระหว่างเดินช้อปอีกด้วย

การทำบุญใส่บาตรข้าวเหนียวถือเป็นประเพณีวัฒนธรรมสืบทอดต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัย มีการทำบุญใส่บาตรบาตรข้าวเหนียวทุกๆเช้า ซึ่งเป็นเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ของชาวลาว เพราะจะใส่บาตรเฉพาะข้าวเหนียวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีกับข้าว พระสงฆ์และสามเณรจากวัดต่างๆ จะออกบิณฑบาต เป็นแถวนับร้อยรูป ซึ่งเป็นภาพอันน่าประทับใจ และสื่อถึงวัฒนธรรม ประเพณี ความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวเมืองหลวงพระบาง

ตลาดเช้าเวียงจันทน์เป็นแหล่งช้อปปิ้งติดแอร์แห่งแรกของลาว หรือจะเรียกว่าเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของลาวก็ว่าได้ สินค้าส่วนใหญ่ที่จำหน่ายที่นี่เป็นสินค้าที่นำเข้าจากไทย จีน และเวียดนาม ภายในจะแบ่งออกเป็นสองโซน โดยโซนแรกจะเป็นร้านค้าที่ขายสินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องดนตรี เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น และอีกโซนจะเป็นพื้นที่ของร้านจำหน่ายของเก่า ของที่ระลึก เป็นต้น ซึ่งในภายหลังยังมีการต่อเติมอาคารหลังใหม่ในบริเวณติดๆ กันเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น

หรือ วัดใหม่สุวันพูมา อยู่ถนนศรีสว่างวงศ์ติดกับพระราชวังหลวง สร้างในสมัยพระเจ้าอนุรุท ในปี พ.ศ.2337 หรือชื่อสั้นๆว่า 'วัดใหม่' เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสัฆราชบุญทัน นับเป็นสังฆราชองค์สุดท้ายของลาว และเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่เมืองหลวงพระบางในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตสักรินฤทธิ์ จนกระทั่งถึงปีพ.ศ.2437 จึงได้อัญเชิญพระบางไปประดิษฐานในหอพระบาง ภายในพระราชวังจวบจนกระทั่งปัจจุบัน วัดนี้มีอุโบสถสวยงาม ด้วยศิลปะแบบ อูบมุง และปัจจุบันใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม

พระราชวังหลวงพระบางเป็นพระราชวังที่มีการออกแบบเป็นอาคารชั้นเดียวยกพื้นสูง โดยการออกแบบที่เป็นการผสมผสานผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสและสถาปัตยกรรมลาวสไตล์ล้านช้างเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง หันหน้าเข้าสู่พระธาตุพูสี ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามของสถาปัตยกรรม งานศิลปะ และหัตถกรรมในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น ผ้าไหมปักลาย งาช้างแกะสลัก เครื่องราชกกุธภัณฑ์ งานภาพวาดบุคคลสำคัญต่างๆ เป็นต้น

วัดเชียงทอง (Xieng Thong Temple) เป็นวัดที่มีความสำคัญและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงาม ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของศิลปะและวัฒนธรรมของชาวหลวงพระบางได้เป็นอย่างดี ภายในวัดมีพระอุโบสถที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของศิลปะสไตล์หลวงพระบาง ประตูและหน้าต่างของพระอุโบสถมีการแกะสลักด้วยลวดลายสวยงาม ผนังมีการปิดทองฉลุลายพื้นสีดำ บอกเล่าเรื่องราวของทธประวัติ ซึ่งถือเป็นผลงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะอันงดงามตระการตาเป็นอย่างมาก

วัดวิชุนราช ตั้งอยู่ในเมืองหลวงพระบาง วัดนี้มีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่รูปทรงคล้ายแตงโมผ่าครึ่ง ทำให้ชาวลาวเรียกกันว่า พระธาตุหมากโม เป็นทรงโอคว่ำ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิชุนราช ในปี พ.ศ. 2046 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบาง ซึ่งอาราธนามาจากเมืองเวียงคำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา 2 ครั้งแล้วในปี พ.ศ.2402 ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์(คำสุก) ซึ่งเป็นพระราชบิดาของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์

เป็นพระธาตุที่โดดเด่นทางสถาปัตยกรรม แปลก มีทรงโอคว่ำ ยอดพระธาตุลักษณะคล้ายรัศมีแบบเปลวไฟของพระพุทธรูปแบบลังกาหรือสุโขทัย เจดีย์นี้อาจดูทรุดโทรมมากแม้จะมีการปฏิสังขรณ์มา2ครั้งแล้วในปีพศ.2402ในสมัยพระเจ้าสักกรินทร์ ได้โปรดให้มีการบูรณะใหม่และได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปีพศ.2457ในรัชสมัยของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ได้มีการขุดค้นพบ สิ่งของล้ำค่ามากมาย เช่นแก้วแหวนเงินทอง พระพุทธรูปสำริด และที่แกะสลักจากแก้ว ทองคำ มากมายใต้ฐานพระธาตุหมากโม ปัจจุบันนี้ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังเจ้ามหาชีวิต