ทัวร์ภูทับเบิก-เชียงคาน-ภูเรือ-ภูหลวง 4 วัน โดยรถตู้

ภูทับเบิก...ยอดเขาสูงสุดของ จ.เพชรบูรณ์ มีความสูงถึง 1,678 เมตร ชมทัศนียภาพงดงาม ยามแสงอาทิตย์ สีทองทาบทาลงบนแปลงกะหล่ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ สวยงามยิ่ง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ไปเยือนได้เป็นอย่างมาก จนกลาย 1 ใน UNSEEN THAILAND ด้วยภูทับเบิก มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา ป่าไม้ สายหมอก ไอหนาวและอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลและทะเลหมอกที่มีให้ดูตลอดปีภูทับเบิก

ไร่ทีเอสเอ อยู่ที่บ้านกกโพธิ์ ผลิตไม้ดอกไม้ประดับพืชผักต่างๆเพื่อเพาะเมล็ดสำหรับจำหน่าย ภายในบริเวณสามารถเที่ยวชมแปลงไม้ดอกเมืองหนาวนานาพันธุ์ที่สวยงามได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม เชิญเที่ยวชมแปลกปลูกไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวนานาชนิด ซึ่งมีการจัดสวนที่สวยงาม ตื่นตาตื่นใจกับฟักทองยักษ์หนักกว่า 10 กิโลกรัม

เมืองเชียงคาน เป็นอำเภอเล็กๆ ในจ.เลย อยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงสงบเงียบ มีที่พัก ร้านอาหาร และบริการล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ในสายตาของนักท่องเที่ยว ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาได้ยาวนานกว่า 100 ปี ที่นี่..มีบรรยากาศคล้ายๆ ปายในอดีต เหมาะแก่การไปพักผ่อนเพื่อหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง และยังมีของที่ระลึกที่ขึ้นชื่อของอำเภอคือผ้านวม มะพร้าวแก้ว ให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝากและได้สัมผัสเมืองโบราณเก่าแก่แห่งนี้

เดินเล่น "ถนนคนเดินเชียงคานยาม" เชิญเลือกรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัยกับอาหารหลากหลาย ให้ได้เพลิดเพลินกับการเขียนโปสการ์ด และเลือกซื้อของที่ระลึกมากมาย กับ ร้านค้าสุด Hip เช่น ร้านสะบายดีเชียงคาน ไอเดียดีดี สองผัวเมีย ภูฝ้าย เพลินเพลิน กาแฟเจริญ ร้านกระป๋อง Under+Over รักเลย ลมรำเพย คิดถึง ณ เชียงคาน

ตักบาตรข้าวเหนียว ซึ่งเป็นประเพณีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา สำหรับการตักบาตรข้าวเหนียวที่เชียงคานจะตักบาตรเฉพาะข้าวเหนียวเพียง อย่างเดียว ซึ่งสืบทอดกันมาราว 400 ปี โดยจะมีพระจากวัดต่างๆ เช่น วัดท่าคก วัดศรีคุณเมือง วัดมหาธาตุ จะเดินบิณฑบาต ตามถนนสายต่างๆ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือถนนชายโขง ซึ่งเป็นบ้านเก่าแก่ ราว 100-150 ปี เป็นสถานที่ ที่นักท่องเที่ยว นิยมกันมาเที่ยวมากในขณะนี้ และได้รับความนิยม อันดับ ต้นๆของประเทศไทย

จุดชมวิวภูทอก จ.เลย ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงคาน เป็นเพียงภูเขาลูกเล็กๆ แต่ภูทอกแห่งนี้ก็มีเสน่ห์ที่เป็นจุดชมวิว ชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน และเสน่ห์ยิ่งกว่านั้นของภูทอก ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยผ้าห่มหมอก หากได้มองจากยอดภูทอกจะเห็นเป็นทะเลหมอกได้แบบรอบทิศเลยทีเดียว

วัดศรีคุณเมือง วัดนี้เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้าง ศิลปวัตุที่สำคัญมีหลายชิ้น เช่นพระพุทธรูปไม้จำหลัก ลงรักปิดทองปางประทานอภัยแบบล้านช้าง พระพุทธรูปดังกล่าวมีพระเกศาเป็นปุ่มแหลมเล็ก พระกรรณค่อนข้างแหลมและยาว สันนิษฐานว่ามีอายุในราวพุทธศตวรรษที่ 24-25 นอกจากนี้ในวัดยังมีธรรมาสน์ไม้แกะสลักลงรักปิดทองทุกด้านที่พนักหลังมียอดคล้ายปราสาท ด้านหน้าโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่เต็มหน้าบัน ภาพทั้งหมดเป็นภาพนทานชาดกชุดพระเจ้าสิบชาติซึ่งวาดขึ้นใหม่แทนของเดิม

อุทยานแห่งชาติภูเรือ รูปพรรณสันฐานของภูเรือมีรูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่บนยอดดอยสูงเป็นภูผา สีสันสะดุดตาหินบางก้อนมีลักษณะเหมือนถูกปั้นแต่งไว้ ชาวบ้านเรียกว่า “กว้านสมอ” โดยรอบๆ จะเห็นยอดดอยเป็นขุนเขาน้อยใหญ่ใกล้เคียงเป็นฝ้าขาวด้วยละอองน้ำ หมอก ปกคลุมไว้ท่ามกลางป่าอันอุดมสมบูรณ์ ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2522 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ

เขตรักษาพันธุ์วัตว์ป่าภูหลวง ภูหลวง หมายถึงเขาที่สูงใหญ่ หรือภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลกและดินส่วนที่อ่อนพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ อุณหภูมิของอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นแหล่งที่มีพืชพรรณไม้ในที่สูงที่อุดมสมบูรณ์มาก มีกล้วยไม้ป่ามากกว่า 160 ชนิด มีพืชพรรณไม้ที่หายากหรือมีที่ ภูหลวง เพียงแห่งเดียวหรือพืชพรรณไม้ที่ไม่ค่อยจะพบเห็น สวนหินธรรมชาติที่ประกอบด้วยพืชพรรณไม้ดอกกล้วยไม้และพืชชั้นต่ำ หน้าผาที่สูงชันและทิวทัศน์ที่สวยงาม ทุ่งดอกไม้ป่าที่สมบูรณ์และสวยงาม

วัดพระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นเพื่อ เป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีสัตนาคนหุต ตรงกับสมัยที่พม่าเรืองอำนาจและมีการรุกรานดินแดนต่างๆ เพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลัง เพื่อต่อสู้กับพม่าจึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่า จะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกันและเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักเพื่อเป็นสักขีพยาน ณ กึ่งกลางระหว่างแม่น้ำน่านและแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองราชอาณาจักร

วัดเนรมิตวิปัสสนา อยู่ห่างอำเภอด่านซ้าย ๑ กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระอุโบสถทำจากศิลาแลงที่สวยงาม ที่สุดภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธราชชินราชจำลอง และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเขียน ชาวด่านซ้าย วัดนี้สร้างด้วยทุนทรัพย์มหาศาล ซึ่งก่อสร้างได้เพราะบุญบารมีของ พระครูภาวนาวิสุทธิญาน (หลวงพ่อมหาพัน) ที่มรณภาพไปแล้ว เป็นสถานที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้าย ไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม