หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองตากอากาศและสถานคาสิโนระดับชาติบนยอดเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 6,000 ฟิต ให้ได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นมากมายทั้งบริเวณสวนสนุกในร่มและกลางแจ้ง หรือช้อปปิ้งในเฟิร์สท์เวิลด์พลาซ่า ซึ่งมีร้านค้าสินค้านานาชนิด รวมถึงรองเท้ายี่ห้อดัง หรือเสี่ยงโชคในคาสิโนระดับชาติ (สำหรับผู้ที่อายุเกิน 21 ปีเท่านั้น โดยต้องแสดงหนังสือเดินทาง และแต่งกายสุภาพ สุภาพบุรุษต้องสวมเสื้อคอปก รองเท้าหุ้มส้น และกางเกงขายาว)
วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) เป็นวัดและศาลเจ้าในถ้ำที่ประดิษฐานรูปปั้นเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โดดเด่นด้วยรูปปั้นขันธกุมารที่สูงที่สุดในโลก (World's Tallest Murugan statue) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดูอย่างเทศกาลไทปูซัม (Thaipusam) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งความดี ความเยาว์วัย พลังอำนาจและขจัดความชั่วร้าย
กัวลาลัมเปอร์...เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย หรือ รู้จักในนามของ KL เป็นศูนย์กลางทุกสิ่งอันสำหรับมาเลเซีย ทั้งหน่วยงานราชการ ธุรกิจ คมนาคม แฟชั่น วัฒนธรรม ศิลปะ และประวัติศาสตร์ มีประชากร 2 ล้านคนเศษ มีหลากหลายเชื้อชาติ เช่น มาเลย์ จีน ยุโรป อินเดีย ทำให้มาเลเซียมีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว อันถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
จาลันอาลอร์ (Jalan Alor) ถนนคนเดินที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย ส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่เวลาเย็นไปจนกระทั่งดึกหรือเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยสีสันของแสงไฟตามบ้านเรือน กลิ่นและรสที่หลากหลายของอาหารพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ รวมทั้งเสียงของผู้คนที่คึกคักจอแจ ทำให้ยาลันอาลอร์เป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบอาหารข้างถนน
พระราชวังแห่งชาติและเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีหรือยังดีเปอร์ตวนอากง เป็นสถานท่องเที่ยวยอดฮิต เป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวไม่น้อย ต่างถ่ายภาพคู่กับทหารรักษาพระองค์โดยใส่ชุดประจำชาติ วิวรอบๆ โดยบริเวณรอบๆ นี้ ยังคงความเป็นสถาปัตยกรรมอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นตึก อาคาร หรือ หอนาฬิกา และเสาธงที่สูงถึง 100 เมตร เป็นที่ที่ชาวมาเลเซียภูมิใจมากคือ เป็นสถานที่ที่ธง Union Jack ของอังกฤษถูกลดลงจากเสาและได้นำธงชาติมาเลเซียเชิญขึ้นเสาเป็นครั้งแรก
จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) หรือ Dataran Merdeka หนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ระลึกถึงการประกาศอิสรภาพของมาเลเซีย ธงของสหราชอาณาจักรได้เปลี่ยนเป็นธงชาติมาเลเซียขึ้นสู่ยอดเสาที่ จตุรัสเมอร์เดก้า เวลาเที่ยงคืน วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1957 นับแต่นั้นเป็นต้นมา สถานที่แห่งนี้ได้เป็นสถานที่สำหรับจัดพิธีสวนสนามและเฉลิมฉลองวันครบรอบการประกาศอิสรภาพของประเทศมาเลเซีย จุดเด่นของจัตุรัสนี้ คือ เสาธงชาติมาเลเซียที่สูงถึง 95 เมตร
ตึกแฝดปิโตรนัส (Petronas Twin Tower) ตั้งอยู่เมืองกัวลาลัมเปอร์ เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของสถาปัตยกรรมอิสลาม มีสะพานเชื่อมลอยฟ้าในบริเวณชั้นที่ 41 และ 42 ภายในตึกสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและวิธีการก่อสร้างผลงานชิ้นเอกอันน่าทึ่งนี้ และยังสามารถเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกภายในตึกนี้ได้อีกด้วย
ปุตราจายา..นครแห่งอนาคต อันเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ รวมถึงทำเนียบนายกรัฐมนตรี ชมความงดงามราวภาพฝันในนิยายอาหรับราตรีของสถาปัตยกรรมต่างๆ ในนครหลวงแห่งใหม่ของประเทศมาเลเซีย บันทึกภาพความทรงจำที่จัตุรัสปุตรา โดยมีฉากหลังเป็นมัสยิดปุตรา มัสยิดแห่งเมืองซึ่งสร้างจากหินอ่อนสีกุหลาบ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบปุตรา และชมความงามของสะพานวาวาซัน สะพานสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรูปร่างประหนึ่งลูกศร พุ่งออกไปจากอาคารกระทรวงการคลัง
มัสยิดเซลัท (Malaka Straits Mosque) เป็นมัสยิดลอยน้ำที่ทำจากทองคำสีทอง เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ถูกสร้างบนเกาะ Pulay ผู้ที่ไม่เป็นมุสลิมต้องแต่งตัวให้เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าผู้หญิงต้องมีการคลุมผมด้วยผ้าฮิญาบด้วย ซึ่งทางมัสยิดก็มีชุดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เปลี่ยน ไฮไลต์ของการไปเที่ยวมัสยิดเซลัทคือ การรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงาม
ถนนคนเดินยองเกอร์ (jonker street) คือสวรรค์สำหรับนักสะสมของเก่าและผู้เชี่ยวชาญการต่อรองราคา ที่ถนนแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้องานศิลปะโบราณ หรือของเก่าที่มีอายุกว่า 300 ปี รวมถึงสินค้าน่าสะสมมากมายที่มีประวัติและความเป็นมาที่แตกต่างกัน ปัจจุบัน บนถนนเส้นนี้มีร้านขายเครื่องดื่มกาแฟและร้านงานฝีมือมากมาย สร้างบรรยากาศที่ผสมผสานกลิ่นอายของอดีตและยุคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน
ย่านบ้านเก่าแก่สมัย บาบ๋า ย่าหยา (BABA NYONYA) หรือเปอรานากัน เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งย่านนี้เป็นบ้านเก่าแก่สมัย บาบ๋า ย่าหยา มีการผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตก การตกแต่งภายในเป็นสไตล์ยุโรป มีโคมไฟระย้ายุควิคตอเรียน ภายในบ้านประกอบไปด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณล้ำค่าจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์
จัตุรัสดัตช์สแควร์ (Dutch Square) ตั้งอยู่บนถนนลักษมานา บริเวณใจกลางเมืองมะละกา จัดว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งที่สำคัญแห่งหนึ่ง ด้วยความสวยงามของอาคารบ้านเรือนสีแดงอิฐ กับสถาปัตยกรรมแบบชาวดัตช์ที่เคยเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ ทำให้จัตุรัสใจกลางเมืองแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองมะละกาที่ควรค่าแก่การแวะมาเที่ยวที่สุดในประเทศมาเลเซีย
ป้อมเอฟาโมซาตราเครื่องหมายของมะละกา และอาจกล่าวได้ว่า ได้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดจากตึกแสตดฮุย สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการโดยชาวโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1511 สามารถต้านทานความเสียหายจากการบุกรุกของชาวดัทช์ ซึ่งตั้งใจจะทำลายไปแต่ถูกขัดขวางโดยเซอร์สแตมฟอร์ดแร็ฟเพิลส์ในปีค.ศ.1808จึงสามารถรักษาป้อมในสภาพที่เห็นในเวลานี้ไว้ได้
เมืองท่าที่มีภูมิประเทศสวยงามตามหลักเคหะศาสตร์ มีเบื้องหลังเป็นภูเขาและเบื้องหน้าเป็นทะเล คือ ช่องแคบมะละกา ผู้คนที่นี่มี3เชื้อสายใหญ่ๆ อยู่ร่วมกันคือ เชื้อสายมาเลเซีย,อินเดีย และจีน เป็นผลให้ศิลปวัฒนธรรมของที่นี่ สภาพภูมิประเทศ เป็นเมืองในสวน เนื่องจากอาคารบ้านเรือนของที่นี่ได้แทรกอยู่กับธรรมชาติอย่างผสมกลมกลืน อาคารต่างๆ มีพรรณไม้ต่างๆ นำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบของอาคาร และมีการใชระบบการระบายน้ำแบบท่อน้ำเปิดที่ดี เชิญเที่ยวชมเมืองที่มีความเป็นระเบียบ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสดชื่น สวยงาม
ถนนอลิซาเบธวอล์ค ซึ่งเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำสิงคโปร์
เมอร์ไลออน เป็นรูปปั้นครึ่งสิงโตครึ่งปลาที่ตั้งเด่นเป็นสง่า และพ่นน้ำออกจากปากอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสร้างและออกแบบขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยว ต่อมาได้กลายเป็นเครื่องหมายของเมืองสิงคโปร์ไปโดยปริยาย รูปปั้นรูปสิงโตนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1972 ในสมัยที่นายลีกวนยูเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสิงคโปร์นั้นแต่เดิมมีชื่อว่า "สิงกะปุระ" มีความหมายว่า "เมืองสิงโต" หรือ "เกาะสิงโต" ดังนั้นหากมาเยือนเมืองสิงคโปร์แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปกับเมอร์ไลออน ก็เท่ากับว่ายังมาไม่ถึงสิงคโปร์
โรงละครเอสพลานาด (Esplanade Theatres on the Bay) เป็นโรงละครที่สร้างขึ้นอยู่ภายในอาคารรูปทรงแปลก โดดเด่นและสวยงามอาคารหนึ่งของย่านริมอ่าวมาริน่า (Marina Bay) คนไทยหลายคนเรียกกันว่า อาคารหนามทุเรียน ที่ใครๆ มาก็ต้องหยุดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก อยู่ติดกับสะพานจูบิลลี (Jubilee Bridge) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1998 เพื่อเป็นศูนย์กลางของการแสดงของประเทศสิงคโปร์ ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนของโรงละคร (Theatre) ส่วนของคอนเสิร์ต (Concert Hall) และส่วนย่อยอื่นๆ ที่มีทั้งห้าง, ห้องสมุด, คาเฟ่ และร้านค้า
ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown Singapore) ศูนย์รวมทางวัฒนธรรมของผู้อพยพชาวจีนในสิงคโปร์ สิงคโปร์มีประชากรที่เป็นคนจีนอยู่อาศัยกว่า 70% ของประชากรทังหมด อาจเรียกว่าเป็นประเทศของคนจีน ที่ไชน่าทาวน์นี้คุณจะได้เห็นความงามของอาคารบ้านเรือนของชาวจีนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชนชาวจีนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีร้านค้า ร้านอาหารรสเลิศมากมายให้เลือกซื้อ รวมไปถึงสินค้าราคาถูก ของฝากสไตล์จีน สมุนไพรและรังนกในร้านยาจีน
วัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดพุทธนิกายมหายานในไชน่าทาวน์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมในแบบยุคราชวงศ์ถัง ด้วยเงิน 62 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ ใช้เวลาก่อสร้างจนเสร็จประมาณ 2 ปี ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระทนต์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถูกพบในปี 1980 หลังการถล่มของสถูปแห่งหนึ่งในประเทศพม่า ในวัดยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนานิกายมหายาน วัดแห่งนี้ได้รับความเคารพจากชาวพุทธในสิงคโปร์มาก มีผู้มาปฏิบัติธรรมกันมากมาย
ถนนออร์ชาร์ด แหล่งช็อปปิ้งมีชื่อเสียงของชาวสิงคโปร์และเป็นถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน สวรรค์ของนักช้อปปิ้งทั่วโลก เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า และโรงแรมชั้นดีตั้งอยู่เรียงรายสองฝั่งถนน รวมทั้งร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ต้นสายจรดปลายถนน และมีต้นไม้ขนาดใหญ่ปลูกอยู่ตลอดเส้นทางของถนน โดยชาวสิงคโปร์ถือว่าย่านนี้ คือย่าน City Center ของประเทศ เชิญช้อปปิ้งอิสระตามบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พบกับสินค้าหลากหลายแบรนด์เนมชื่อดัง รุ่นใหม่ล่าสุดจะถูกนำมาวางขายตามห้างสรรพสินค้าเหล่านี้
ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Singapore Changi Airport) หรือ สนามบินชางงี เป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมทางอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนามบินแห่งนี้ได้รับรางวัลสนามบินยอดเยี่ยมของโลกจาก Skytrax และรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 500 รางวัลเรื่อยมาตั้งแต่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2524 และมีการขยับขยายสนามบินมาโดยตลอดจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินที่ทันสมัยและมีผู้ใช้บริการคับคั่งที่สุดในโลก
เดอะ จูเอิล ชางงี (The Jewel Changi) ตั้งอยู่ใจกลางท่าอากาศยานชางงี เกิดจากความร่วมมือของ Changi Airport Group และ Capital Land Mall Asia โดยวางคอนเซ็ปต์ให้ที่นี่เป็นทั้งศูนย์กลางแห่งการบิน การช้อปปิ้ง และการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งโดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมล้ำสมัยในแบบสถาปัตยกรรมสัญลักษณ์ (Architecturally Iconic) โดยได้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบชื่อดัง จุดกึ่งกลางสุดของอาคารจะอลังการด้วยน้ำตกยักษ์ (Rain Vortex) สูงราว ๆ 40 เมตร จะมีน้ำไหลพรั่งพรูลงมาจากเพดาน สู่แอ่งน้ำวนขนาดใหญ่ด้านล่าง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553