หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) หรือ Dataran Merdeka หนึ่งในแลนด์มาร์กของกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ระลึกถึงการประกาศอิสรภาพของมาเลเซีย ธงของสหราชอาณาจักรได้เปลี่ยนเป็นธงชาติมาเลเซียขึ้นสู่ยอดเสาที่ จตุรัสเมอร์เดก้า เวลาเที่ยงคืน วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.1957 นับแต่นั้นเป็นต้นมา สถานที่แห่งนี้ได้เป็นสถานที่สำหรับจัดพิธีสวนสนามและเฉลิมฉลองวันครบรอบการประกาศอิสรภาพของประเทศมาเลเซีย จุดเด่นของจัตุรัสนี้ คือ เสาธงชาติมาเลเซียที่สูงถึง 95 เมตร
ตึกแฝดปิโตรนัส (Petronas Twin Tower) ตั้งอยู่เมืองกัวลาลัมเปอร์ เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาเลเซีย สร้างขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิตของสถาปัตยกรรมอิสลาม มีสะพานเชื่อมลอยฟ้าในบริเวณชั้นที่ 41 และ 42 ภายในตึกสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและวิธีการก่อสร้างผลงานชิ้นเอกอันน่าทึ่งนี้ และยังสามารถเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกภายในตึกนี้ได้อีกด้วย
เมืองตากอากาศและสถานคาสิโนระดับชาติบนยอดเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 6,000 ฟิต ให้ได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นมากมายทั้งบริเวณสวนสนุกในร่มและกลางแจ้ง หรือช้อปปิ้งในเฟิร์สท์เวิลด์พลาซ่า ซึ่งมีร้านค้าสินค้านานาชนิด รวมถึงรองเท้ายี่ห้อดัง หรือเสี่ยงโชคในคาสิโนระดับชาติ (สำหรับผู้ที่อายุเกิน 21 ปีเท่านั้น โดยต้องแสดงหนังสือเดินทาง และแต่งกายสุภาพ สุภาพบุรุษต้องสวมเสื้อคอปก รองเท้าหุ้มส้น และกางเกงขายาว)
วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) เป็นวัดและศาลเจ้าในถ้ำที่ประดิษฐานรูปปั้นเทพเจ้าตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โดดเด่นด้วยรูปปั้นขันธกุมารที่สูงที่สุดในโลก (World's Tallest Murugan statue) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดูอย่างเทศกาลไทปูซัม (Thaipusam) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าแห่งความดี ความเยาว์วัย พลังอำนาจและขจัดความชั่วร้าย
พระราชวังแห่งชาติและเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีหรือยังดีเปอร์ตวนอากง เป็นสถานท่องเที่ยวยอดฮิต เป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยวไม่น้อย ต่างถ่ายภาพคู่กับทหารรักษาพระองค์โดยใส่ชุดประจำชาติ วิวรอบๆ โดยบริเวณรอบๆ นี้ ยังคงความเป็นสถาปัตยกรรมอังกฤษอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นตึก อาคาร หรือ หอนาฬิกา และเสาธงที่สูงถึง 100 เมตร เป็นที่ที่ชาวมาเลเซียภูมิใจมากคือ เป็นสถานที่ที่ธง Union Jack ของอังกฤษถูกลดลงจากเสาและได้นำธงชาติมาเลเซียเชิญขึ้นเสาเป็นครั้งแรก
ปุตราจายา..นครแห่งอนาคต อันเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการ รวมถึงทำเนียบนายกรัฐมนตรี ชมความงดงามราวภาพฝันในนิยายอาหรับราตรีของสถาปัตยกรรมต่างๆ ในนครหลวงแห่งใหม่ของประเทศมาเลเซีย บันทึกภาพความทรงจำที่จัตุรัสปุตรา โดยมีฉากหลังเป็นมัสยิดปุตรา มัสยิดแห่งเมืองซึ่งสร้างจากหินอ่อนสีกุหลาบ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบปุตรา และชมความงามของสะพานวาวาซัน สะพานสวยที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรูปร่างประหนึ่งลูกศร พุ่งออกไปจากอาคารกระทรวงการคลัง
เมืองหลวงเก่าแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซีย ที่ยังคงเก็บและรักษาความดั้งเดิมของเมืองไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์อาคารที่เก่าแก่ใน ย่าน Dutch Square หรือ อาณาจักรสีแดง และยังมีรถสามล้อลาก ที่ตกแต่งคล้ายกับขบวนรถบุปผาชาติที่สวยงามที่วิ่งกันขวักไขว่สวยงาม,ย่านดัทซ์แสควร์, โบสถ์เซ็นต์ปอล ป้ อมปื นเอฟาโมซ่าเรือรบโบราณ,ถ่ายรูปกบัสามล้อเมืองมะละกา,สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีส และชมวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย วัด CHENG HOON TENG, มัสยิด AL-AZIM MOSQUE
มัสยิดเซลัท (Malaka Straits Mosque) เป็นมัสยิดลอยน้ำที่ทำจากทองคำสีทอง เมืองมะละกา ประเทศมาเลเซีย ถูกสร้างบนเกาะ Pulay ผู้ที่ไม่เป็นมุสลิมต้องแต่งตัวให้เหมาะสม ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชายจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าผู้หญิงต้องมีการคลุมผมด้วยผ้าฮิญาบด้วย ซึ่งทางมัสยิดก็มีชุดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เปลี่ยน ไฮไลต์ของการไปเที่ยวมัสยิดเซลัทคือ การรอชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่สวยงาม
จัตุรัสดัตช์สแควร์ (Dutch Square) ตั้งอยู่บนถนนลักษมานา บริเวณใจกลางเมืองมะละกา จัดว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งที่สำคัญแห่งหนึ่ง ด้วยความสวยงามของอาคารบ้านเรือนสีแดงอิฐ กับสถาปัตยกรรมแบบชาวดัตช์ที่เคยเข้ามาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ ทำให้จัตุรัสใจกลางเมืองแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองมะละกาที่ควรค่าแก่การแวะมาเที่ยวที่สุดในประเทศมาเลเซีย
ป้อมเอฟาโมซาตราเครื่องหมายของมะละกา และอาจกล่าวได้ว่า ได้ถูกถ่ายรูปมากที่สุดจากตึกแสตดฮุย สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการโดยชาวโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1511 สามารถต้านทานความเสียหายจากการบุกรุกของชาวดัทช์ ซึ่งตั้งใจจะทำลายไปแต่ถูกขัดขวางโดยเซอร์สแตมฟอร์ดแร็ฟเพิลส์ในปีค.ศ.1808จึงสามารถรักษาป้อมในสภาพที่เห็นในเวลานี้ไว้ได้
ถนนคนเดินยองเกอร์ (jonker street) คือสวรรค์สำหรับนักสะสมของเก่าและผู้เชี่ยวชาญการต่อรองราคา ที่ถนนแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้องานศิลปะโบราณ หรือของเก่าที่มีอายุกว่า 300 ปี รวมถึงสินค้าน่าสะสมมากมายที่มีประวัติและความเป็นมาที่แตกต่างกัน ปัจจุบัน บนถนนเส้นนี้มีร้านขายเครื่องดื่มกาแฟและร้านงานฝีมือมากมาย สร้างบรรยากาศที่ผสมผสานกลิ่นอายของอดีตและยุคสมัยใหม่เข้าด้วยกัน
เมืองท่าที่มีภูมิประเทศสวยงามตามหลักเคหะศาสตร์ มีเบื้องหลังเป็นภูเขาและเบื้องหน้าเป็นทะเล คือ ช่องแคบมะละกา ผู้คนที่นี่มี3เชื้อสายใหญ่ๆ อยู่ร่วมกันคือ เชื้อสายมาเลเซีย,อินเดีย และจีน เป็นผลให้ศิลปวัฒนธรรมของที่นี่ สภาพภูมิประเทศ เป็นเมืองในสวน เนื่องจากอาคารบ้านเรือนของที่นี่ได้แทรกอยู่กับธรรมชาติอย่างผสมกลมกลืน อาคารต่างๆ มีพรรณไม้ต่างๆ นำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบของอาคาร และมีการใชระบบการระบายน้ำแบบท่อน้ำเปิดที่ดี เชิญเที่ยวชมเมืองที่มีความเป็นระเบียบ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสดชื่น สวยงาม
นครเล็กๆ ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร และเป็นศูนย์กลางการคมนาคม1ใน5ของเอเชีย เชิญชมความงาม ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง ล้อมรอบด้วยทำเนียบรัฐบาล ศาลฎีกาและศาลาว่าการเมือง ถนนอลิซาเบธวอล์ค ซึ่งเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำสิงคโปร์ ถ่ายรูปคู่กับ เมอร์ไลอ้อน สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ และ Old Parliament House ในอดีตเป็นที่ตั้งของรัฐสภาของสิงคโปร์ ปัจจุบันเป็นจุดรวมของศิลปะ ดนตรี การเต้นรำ การแสดงตลก และบันทึกภาพความประทับใจกับ Elephant Statue รูปปั้นช้างสำริด
ถนนอลิซาเบธวอล์ค ซึ่งเป็นจุดชมวิวริมแม่น้ำสิงคโปร์
เมอร์ไลออน เป็นรูปปั้นครึ่งสิงโตครึ่งปลาที่ตั้งเด่นเป็นสง่า และพ่นน้ำออกจากปากอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสร้างและออกแบบขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยว ต่อมาได้กลายเป็นเครื่องหมายของเมืองสิงคโปร์ไปโดยปริยาย รูปปั้นรูปสิงโตนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1972 ในสมัยที่นายลีกวนยูเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งสิงคโปร์นั้นแต่เดิมมีชื่อว่า "สิงกะปุระ" มีความหมายว่า "เมืองสิงโต" หรือ "เกาะสิงโต" ดังนั้นหากมาเยือนเมืองสิงคโปร์แล้วไม่ได้มาถ่ายรูปกับเมอร์ไลออน ก็เท่ากับว่ายังมาไม่ถึงสิงคโปร์
โรงละครเอสพลานาด (Esplanade Theatres on the Bay) เป็นโรงละครที่สร้างขึ้นอยู่ภายในอาคารรูปทรงแปลก โดดเด่นและสวยงามอาคารหนึ่งของย่านริมอ่าวมาริน่า (Marina Bay) คนไทยหลายคนเรียกกันว่า อาคารหนามทุเรียน ที่ใครๆ มาก็ต้องหยุดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก อยู่ติดกับสะพานจูบิลลี (Jubilee Bridge) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1998 เพื่อเป็นศูนย์กลางของการแสดงของประเทศสิงคโปร์ ภายในแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนของโรงละคร (Theatre) ส่วนของคอนเสิร์ต (Concert Hall) และส่วนย่อยอื่นๆ ที่มีทั้งห้าง, ห้องสมุด, คาเฟ่ และร้านค้า
ไชน่าทาวน์ สิงคโปร์ (Chinatown Singapore) ศูนย์รวมทางวัฒนธรรมของผู้อพยพชาวจีนในสิงคโปร์ สิงคโปร์มีประชากรที่เป็นคนจีนอยู่อาศัยกว่า 70% ของประชากรทังหมด อาจเรียกว่าเป็นประเทศของคนจีน ที่ไชน่าทาวน์นี้คุณจะได้เห็นความงามของอาคารบ้านเรือนของชาวจีนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชนชาวจีนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีร้านค้า ร้านอาหารรสเลิศมากมายให้เลือกซื้อ รวมไปถึงสินค้าราคาถูก ของฝากสไตล์จีน สมุนไพรและรังนกในร้านยาจีน
วัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดพุทธนิกายมหายานในไชน่าทาวน์ สร้างด้วยสถาปัตยกรรมในแบบยุคราชวงศ์ถัง ด้วยเงิน 62 ล้านเหรียญดอลลาร์สิงคโปร์ ใช้เวลาก่อสร้างจนเสร็จประมาณ 2 ปี ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระทนต์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งถูกพบในปี 1980 หลังการถล่มของสถูปแห่งหนึ่งในประเทศพม่า ในวัดยังมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนานิกายมหายาน วัดแห่งนี้ได้รับความเคารพจากชาวพุทธในสิงคโปร์มาก มีผู้มาปฏิบัติธรรมกันมากมาย
ย่านคลาร์กคีย์ (Clarke Quay) เป็นท่าเทียบเรือเก่าแก่ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ โดยมีประวัติยาวนานร่วม 150 ปี คลาร์กคีย์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งยามกลางวันและกลางคืน มีโกดังสินค้าที่ปรับเป็นร้านอาหารหรูหรา ผับ บาร์ และแหล่งบันเทิงที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน
Marina Bay Sands Singapore เป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่อ่าวมารีนา ประเทศสิงคโปร์ มีขนาดพื้นที่ 581,000 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย โรงแรมชั้นนำระดับโลกสุดหรู ศูนย์การค้า และความบันเทิงชั้นนำมากมาย เช่น คาสิโนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แหล่งช้อปปิ้งอย่างThe Shoppes และอีกมากมาย ความยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Moshe Saf รีสอร์ทนี้ประกอบด้วยห้องพักกว่า 2,561 ห้อง มีไฮไลท์คือ The Sands Sky Park สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ชั้นที่57
Wonder Full Light Show ชมการแสดงโชว์แสง สี เสียงและน้ำที่ใหญ่ที่สุดใน South East Asia กับการแสดงที่มีชื่อว่า Wonder Full Light การแสดงนี้จัดขึ้นที่ลาน Promenade หน้า Marina Bay Sands เป็นลานที่นั่งหันหน้าออกทางอ่าว Marina
ถนนออร์ชาร์ด แหล่งช็อปปิ้งมีชื่อเสียงของชาวสิงคโปร์และเป็นถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน สวรรค์ของนักช้อปปิ้งทั่วโลก เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า และโรงแรมชั้นดีตั้งอยู่เรียงรายสองฝั่งถนน รวมทั้งร้านค้ามากมาย ตั้งแต่ต้นสายจรดปลายถนน และมีต้นไม้ขนาดใหญ่ปลูกอยู่ตลอดเส้นทางของถนน โดยชาวสิงคโปร์ถือว่าย่านนี้ คือย่าน City Center ของประเทศ เชิญช้อปปิ้งอิสระตามบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำ พบกับสินค้าหลากหลายแบรนด์เนมชื่อดัง รุ่นใหม่ล่าสุดจะถูกนำมาวางขายตามห้างสรรพสินค้าเหล่านี้
ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี (Singapore Changi Airport) หรือ สนามบินชางงี เป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางด้านการคมนาคมทางอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนามบินแห่งนี้ได้รับรางวัลสนามบินยอดเยี่ยมของโลกจาก Skytrax และรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 500 รางวัลเรื่อยมาตั้งแต่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2524 และมีการขยับขยายสนามบินมาโดยตลอดจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินที่ทันสมัยและมีผู้ใช้บริการคับคั่งที่สุดในโลก
เดอะ จูเอิล ชางงี (The Jewel Changi) ตั้งอยู่ใจกลางท่าอากาศยานชางงี เกิดจากความร่วมมือของ Changi Airport Group และ Capital Land Mall Asia โดยวางคอนเซ็ปต์ให้ที่นี่เป็นทั้งศูนย์กลางแห่งการบิน การช้อปปิ้ง และการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งโดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมล้ำสมัยในแบบสถาปัตยกรรมสัญลักษณ์ (Architecturally Iconic) โดยได้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบชื่อดัง จุดกึ่งกลางสุดของอาคารจะอลังการด้วยน้ำตกยักษ์ (Rain Vortex) สูงราว ๆ 40 เมตร จะมีน้ำไหลพรั่งพรูลงมาจากเพดาน สู่แอ่งน้ำวนขนาดใหญ่ด้านล่าง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553