หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองคาซาบลังกา (Casablanca) เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ แต่เดิมเป็นแค่เมืองท่าเล็กๆ แต่มาโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วโลก เมื่อภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย ฮัมฟรีย์ โบการ์ด และอินกริด เบิร์กแมน ออกฉายในปี ค.ศ. 1942 จนทุกวันนี้คาซาบลังกาก็กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ
เมืองเชฟชาอูน (CHEFCHAOUEN) หรือ เรียกกันอีกชื่อว่า เมืองสีฟ้า เนื่องจากอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้จะถูกทาด้วยสีฟ้าและสีขาว โดยตัวบ้านและทางเดินส่วนใหญ่นั้นด้านบนจะเป็นสีฟ้าและด้านล่าง เปรียบเสมือนท้องฟ้าและก้อนเมฆที่งดงาม เชฟชาอูนเป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างทั่วถึง นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงความสงบ เรียบร้อย ความสบายตาสบายใจ กับเมืองเล็กๆอันน่าประทับใจแห่งนี้
เมืองเชฟชาอูน (CHEFCHAOUEN) หรือ เรียกกันอีกชื่อว่า เมืองสีฟ้า เนื่องจากอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้จะถูกทาด้วยสีฟ้าและสีขาว โดยตัวบ้านและทางเดินส่วนใหญ่นั้นด้านบนจะเป็นสีฟ้าและด้านล่าง เปรียบเสมือนท้องฟ้าและก้อนเมฆที่งดงาม เชฟชาอูนเป็นเมืองเล็กๆ ที่สามารถเดินเที่ยวชมได้อย่างทั่วถึง นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงความสงบ เรียบร้อย ความสบายตาสบายใจ กับเมืองเล็กๆอันน่าประทับใจแห่งนี้
เมืองโรมันโบราณโวลูบิลิส (Roman City of Volubilis) อดีตเมืองโบราณแห่งจักรวรรดิโรมันที่มีความสำคัญยิ่งในยุคศตวรรษที่ 3 และล่มสลายถูกปล่อยเป็นเมืองร้างในศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ. 1755 แต่ยังคงเห็นได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีต เมืองโรมันโบราณแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997
เมืองเมคเนส (Meknes)หนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1996 อดีตเมืองหลวงโบราณในสมัยสุลต่าน มูเล อิสมาอิล แห่งราชวงศ์อะลาวิท อดีตกษัตริย์จอมโหดผู้ชื่นชอบการทำสงครามในช่วงศตวรรษที่ 17 ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เมกเนสจึงเป็นเมืองศูนย์กลางการผลิตมะกอก ไวน์ และพืชพรรณต่างๆ
ประตูบับมันซู (Bab Mansour Monumental Gate) เป็นประตูเมืองที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโมรอคโค เป็น 1 ใน 7 ประตูที่มีความงดงามวิจิตรการตา ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสด เน้นใช้สีเขียวและสีส้มตัดกันอย่างสวยงามลงตัว ซึ่งประตูแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กำแพงเมืองเมคเนส
เมืองหลวงเก่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงศตวรรษที่ 8 และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมรอคโค
เมืองอิเฟรน (Ifrane) เปรียบเสมือนเมืองตากอากาศ ที่แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ต้นไม้อันเขียวขจี ทะเลสาบอันสวยงาม อากาศสบายๆ เหมาะแก่พักผ่อน และในฤดูหนาวที่เมืองนี้จะมีหิมะปกคลุม ซึ่งเมืองอิเฟรนนี้ได้ถูกเรียกได้ว่า เป็นสวิตเซอร์แลนด์บนแดนโมรอคโคกันเลยทีเดียว
เมืองวอซาเซต (Ouarzazate) เป็นเมืองที่รัฐบาลโมรอคโคสนับสนุนให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งของประเทศ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นทะเลทราย จึงมีการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวส่งเสริม เช่น กิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทราย การขี่มอเตอร์ไซด์ การขี่อูฐ เป็นต้น และเมืองวาซาเซต ยังเป็นเมืองที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังมากมาย เช่น Lawrence of Arabia, Alexander, Kingdom of Heaven, Gladiator เป็นต้น
ป้อมไอท์เบนฮาดดู (Kasbash of Ait Ben Hadou) เป็นป้อมที่สร้างขึ้นจากหินทราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ไอท์ เบนฮาดดู ซึ่งป้อมแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนโดยองค์กรยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังเป็นจุดที่ใช้ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังมากมาย เช่น Lawrance of Arabia , Jesus of Nazareth และ Gladiator เป็นต้น
เมืองมาราเกช (Marakesh) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วง ศ.ต.ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุด สภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือ สองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้ แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า Pink City หรือ เมืองสีชมพู
มัสยิดคูตูเบีย (Mosque la Koutoubia) เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมาราเกซ โดดเด่นด้วยความสูงที่มีความสูงถึง 70 เมตร สูงเด่นเป็นสง่าแก่เมือง นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นมัสยิดแห่งนี้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในมุมในของเมืองก็ตาม
เขตเมืองเก่า (Medina of Marrakesh) ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ ประกอบด้วยสถานที่สำคัญมากมาย รวมทั้งตลาด ย่านการค้า ป้อมปราการ โรงเรียนสอนศาสนา และชุมชนชาวยิว ซึ่งมีจตุรัสเจมา เอล์ฟนา (Djemaa Fnaa Square) จตุรัสกลางเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงที่สุด และในปีค.ศ. 1985 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เขตเมืองเก่าของมาราเกชเป็นมรดกโลกทางด้านประวัติศาสตร์
สวนจาร์ดีน มาจอแรล Jardin Majorelle หรือ สวนยิปแซงลอเร้นซ์ Yves Saint Laurent Gardens ชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยของสาว ๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นสุดหรูของ Yves St. Laurent นักออกแบบแฟชั่นดีไซน์แห่งปารีสประเทศฝรั่งเศส
สวนเมนารา (Menara Gardens) เป็นสวนที่ทัศนียภาพที่งดงามเป็นอย่างมาก โดดเด่นด้วยตัวอาคาร ด้านหน้ามีสระน้ำขนาดกว้าง รายล้อมด้วยต้นสนและต้นมะกอกและด้านหลังยังสามารถมองเห็นเทือกเขาแอตลาส ซึ่งยามอาทิตย์อังสดง แสงแดดกระทบผืนน้ำสาดส่องแสงประกายสวยงาม ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ที่รายล้อมและทิวเขาทอดตัวยาว ถือเป็นสวนที่มีวิวสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโมรอคโค
พระราชวังบาเฮีย (Bahia) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยสถาปนิก Si Moussa ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมรอคผสมผสานกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ตกแต่งแกะสลักด้วยปูน (stucco) ประดับด้วยโมเสกและงานศิลปะวาดลวดลายบนบนไม้ บริเวณโดยรอบของวังจะรายล้อมไปด้วยสวน และน้ำพุ ให้ความร่มรื่น และสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
เมืองคาซาบลังกา (Casablanca) เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของราชอาณาจักรโมร็อกโก (Kingdom of Morocco) ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ แต่เดิมเป็นแค่เมืองท่าเล็กๆ แต่มาโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วโลก เมื่อภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย ฮัมฟรีย์ โบการ์ด และอินกริด เบิร์กแมน ออกฉายในปี ค.ศ. 1942 จนทุกวันนี้คาซาบลังกาก็กลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ
สุเหร่ากษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (Mosque Hassan II) เป็นสุเหร่าที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองคาซาบลังกา และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1988 และเสร็จสมูรณ์ในปี ค.ศ. 1993 สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระชนม์ครบ 60 พรรษาของกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 แห่งโมร็อกโก ซึ่งถือเป็นสุเหร่าที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก สามารถจุคนได้ราว 25,000 คน การตกแต่งภายในสุเหร่านั้น มีความสวยงาม โดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะสไตล์โมรอคเข้ากันกับศิลปะสไตล์มุสลิม หลังคาโดมแกะสลักเป็นลวดลายที่ละเอียดอ่อนสวยงาม ด้านในจะเป็นโซนต่างๆ มีห้องโถงขนาดใหญ่กว้างขวาง มีห้องสำหรับทำพิธีละหมาด ซึ่งสุเหร่าแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมภายในได้ แต่สำหรับผู้หญิงจะต้องมีผ้าคลุมผมและควรแต่งกายเรียบร้อยในการเข้าชม
เมืองราบัต (Rabat) เมืองยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยว และเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวในแถบทะเลแอตแลนติก ที่เป็นเมืองหลวงของประเทศโมร็อคโค และเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากสภาพบ้านเมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษอันเกิดจากการผสมผสานระหว่างชุมชนมุสลิมดั้งเดิม นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปสัมผัสแล้ว ประเทศโมร็อกโกยังมีรอยยิ้มที่เป็นมิตร ชอบช่วยเหลือ ชอบพบปะกับเหล่านักศึกษาจากทั่วโลกที่เข้ามาโมร็อกโก โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรม และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันอยู่เสมอ
สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 (Mohammed V Mausoleum) พระอัยกาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีทหารยามยืนเฝ้าสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือสุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แต่ไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น ในบริเวณกว้าง 183x139 เมตร
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553