หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองหงสาวดี (Hansawadee City) หรือปัจจุบันในชื่อ พะโค (Bago) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศพม่า ซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของชาวมอญมาก่อน คนไทยเราส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับชื่อ เมืองหงสาวดี ที่อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ และศิลปะวัฒนธรรมกลับกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสายบุญ
พระราชวังบุเรงนอง เคยเป็นพระราชวังของพระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธาหรือผู้ชนะสิบทิศ เพิ่งเริ่มขุดค้นและบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ จากซากปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่ซึ่งยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็มองเห็นได้ถึงความกว้างขวางใหญ่โตของพระราชวังแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นตำหนักที่บรรทม ท้องพระโรงที่ออกว่าราชการ ว่าเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งถูกจับมาเป็นตัวประกันเมื่อยังทรงพระเยาว์ ปัจจุบันรัฐบาลพม่าเพิ่งขุดค้นพบซากของพระราชวังแห่งนี้ และจะเปิดให้ชมเฉพาะคณะของบุคคลสำคัญเท่านั้น
เมืองไจ้ก์ทิโย หรือ เมืองไจ้โท (Kyaikto) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า ไจ้โทเป็นภาษามอญ มีความหมายว่า "หินรูปหัวฤาษี" ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์พระธาตุอินแขวนที่โด่งดัง และเป็นที่เคารพสักการะของชาวพม่า รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างชาวไทยด้วยเช่นกัน
เจดีย์ไจ้ทีโย หรือ พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ก้อนหินทอง (Kyaiktiyo Pagoda) ซึ่งถือเป็นหนึ่งสิ่งสักการะสูงสุดของชาวพม่า เป็นเจดีย์ขนาดเล็กสูง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนก้อนศิลาใหญ่ปิดทองที่วางหมิ่นเหม่อยู่บนหน้าผา แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไป ตามคติการบูชาพระธาตุประจำปีเกิดของชาวล้านนา พระธาตุอินทร์แขวนนี้ให้ถือเป็นพระธาตุปีเกิด ของปีจอแทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์
พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว หรือ พระนอนชเวตาลยอง สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ กษัตริย์มอญ เมื่อ พ.ศ.1537 หรือในสมัยอาณาจักรสุธรรมวดี ปัจจุบันพระนอนองค์นี้มีอายุ 1,018 ปี ยาว 55 เมตร ซึ่งเป็นพระนอนไสยาสน์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากพระนอนในเมืองย่างกุ้งที่มีชื่อว่าพระนอนตาหวาน ที่มีความยาว 70 เมตร เดิมพระนอนชเวตาเลียวถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน และได้มีการค้นพบเมื่อครั้งที่อังกฤษเดินทางมาสำรวจเส้นทางรถไฟในพม่าเมื่อราว 100 ปีก่อน จากนั้นจึงได้บูรณะจนใหญ่โตสวยงาม
พระเจดีย์ที่มีพระ4ทิศ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่4องค์ อายุกว่า500ปี สร้างขึ้นโดยพระราชธิดากษัตริย์มอญ4องค์ อุทิศตนแด่พุทธศาสนา สาบานตนจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศและสร้างพระไว้4ทิศ หากใครข้องแวะกับบุรุษเพศ ขอให้พระที่ตนสร้างพังลงมา มีตำนานเล่าขานกันว่าพระธิดาองค์สุดท้องกลับได้พบรักกับชายหนุ่ม จึงเกิดอาเพศฟ้าผ่าพระพุทธรูปที่แทนตัวของพระนาง จนต้องมีการสร้างขึ้นมาใหม่ โดยพระพุทธรูปองค์นี้จะมีพระพักตร์จะเศร้ากว่าองค์อื่นๆ หากใครมาที่นี่ให้ตั้งจิตอธิฐานเรื่องการงาน ก็จะได้ผลสำเร็จดั่งคำอธิฐาน
เมืองย่างกุ้ง (Yangon) เป็นอดีตเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของพม่า ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศ โดยย่างกุ้งเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รองลงมาได้แก่ศาสนาอิสลาม และศาสนาคริสต์ตามลำดับ ถึงแม้ในปัจจุบันย่างกุ้งจะไม่ได้เป็นเมืองหลวงของประเทศ แต่ก็ยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนา และการเจริญเติบโตของประเทศโดยรวม โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของประเทศในหลายๆ ด้าน
พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือ พระนอนตาหวาน ตั้งอยู่ภายในวัดเจาทัตยี ใกล้กับพระเจดีย์ชเวดากอง เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศพม่า ตัวองค์พระมีความยาวถึง 65 เมตร สูง 16 เมตร เป็นพระนอนที่มีชื่อเสียงมาก และเป็นหนึ่งในพระนอนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่า โดยดวงตาที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเรียกว่าพระตาหวานนั้นผลิตจากแก้วที่สั่งทำพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้ดวงตามีลักษณะเหมือนกับดวงตามนุษย์จริงๆ นั่นเอง
เจดีย์โบตาทาวน์ (Botahtaung Pagoda) แห่งเมืองย่างกุ้ง สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุ ที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี พ.ศ. 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์ จึงพบโกศทองคำบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ และยังพบพระพุทธรูปทอง เงิน สำริด 700 องค์ จารึกดินเผาภาษาบาลีและตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสำหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์
เทพกระซิบ (Mya Nan Nwe) หรือ อะมาดอว์เมียะ ตามตำนานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีลไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็น "นัต" ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว การบูชานั้นจะต้องกระซิบขอพรที่ข้างหูเบาๆ และบูชาด้วยมะพร้าว กล้วยนาก นอกจากนี้ยังนิยมบูชาด้วยน้ำนมและข้าวตอก รวมทั้งดอกไม้ซึ่งมักจะเป็นดอกมหาหงส์ ที่คนพม่านิยมใช้บูชาพระกันทั่วไป
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง คือ 1 ใน 5 มหาบูชาสถานที่พุทธศาสนิกชนในพม่าให้ความนับถือ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเชียงกุตระทางทิศเหนือของย่างกุ้ง เป็นเจดีย์เก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 6-10 นอกจากนี้ชาวพม่ายังมีความเชื่อว่าภายในเจดีย์แห่งนี้เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้ารวม 8 เส้นด้วยกัน ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา เจดีย์ชเวดากองได้ถูกทำให้เสียหายด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งจากสงคราม และภัยธรรมชาติ เป็นต้น แต่ทว่าตัวเจดีย์ก็ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์อยู่เรื่อยมา
พุกาม (Bagan) เมืองโบราณเก่าแก่ ติดอันดับเมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สวยงามและมีเสน่ห์ที่สุดของประเทศพม่า ซึ่งพุกามเคยเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์ด้านศิลปวิทยาการและพระพุทธศาสนา มีเจดีย์มากถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ เมืองนี้เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยี่ยมชมโดยเฉพาะชาวเอเชีย เพราะเมืองนี้ยังคงกลิ่นอายความเงียบสงบและมีมนต์ขลัง ท่ามกลางซากปรักหักพักที่บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต
พระเจดีย์ชเวซิกอง (Shwezigon Pagoda) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ในดินแดนแห่งทะเลเจดีย์ในเมืองพุกามแห่งนี้ เจดีย์สีทองรูประฆังคว่ำที่ชาวพม่าเคารพและนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์แห่งนี้เป็นอย่างมาก เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุสำคัญทั้งหมด 3 ส่วน คือ พระทันตธาตุหรือพระเขี้ยวแก้ว ที่กษัตริย์แห่งศรีลังกานำมาถวาย พระธาตุกระดูกไหล่ และพระธาตุพระนลาฏ
วัดสีขาวเก่าแก่ของพุกาม เจดีย์และมีลวดลายปูนปั้นงามที่สุด ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกำแพงเมืองพุกาม สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนภูเขานันทมูล บนเทือกเขาหิมาลัย อันเนื่องมาจากการจาริกแสวงบุญมายังดินแดนพุกามของพระอรหันต์ 8 รูป ภายในวัด มีวิหารขนาดใหญ่สี่เหลี่ยมจัตุรัส
วัดมนูฮา หรือ วัดมนูหะ (Manuha Temple) เป็นวัดที่พระเจ้ามนูหะ กษัตริย์มอญที่พ่ายแพ้แก่พระเจ้าอโนรธา สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1059 เพื่อหวังพ้นวัฎฎะสงสาร จะได้ไม่ต้องพ่ายแพ้แก่ผู้ใดอีก และสั่งสมบุญไว้สำหรับชาติหน้า โครงสร้างวิหารค่อนข้างแคบ มีพระนอนหนึ่งองค์กับพระพุทธรูปอีก 3 องค์ สร้างใหญ่เต็มพื้นที่ นั่งเบียดเสียดอยู่ภายในศาลาสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก สะท้อนให้เห็นถึงความอึดอัดที่มาอยู่ในมือพม่า และความคับแค้นพระทัยของกษัตริย์เชลยพระองค์นี้เป็นอย่างดี
เครื่องเขินพุกาม (Myanmar Lacquerware) เป็นสินค้ามีชื่อเสียงที่สุดในพม่า เช่น ถ้วยน้ำ จานรอง โถใส่ของตั้งแต่ขนาดเล็กถึงใหญ่ หีบใส่ของต่าง ๆ พม่าเป็นกลุ่มชนที่ผลิตและพัฒนาเครื่องเขินในมณฑลล้านนา ต่อเนื่องยาวนานมากกว่าประเทศเอเชียอาคเนย์อื่น รูปแบบลวดลายมีเอกลักษณ์ ปัจจุบันยังคงผลิตเครื่องเขินตามรูปแบบและวิธีการอย่างโบราณ เชิญชมงานฝีมือเครื่องเขินพุกาม ขูดลายสวย เคลือบด้วยรัก หาง แท้ น่าสะสมหรือใช้งานจริง
วัดติโลมินโล หรือ วิหารติโลมินโล (Htilominlo Temple) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพุกาม ห่างออกจากตัวเมืองพุกาม 1.5 กม เป็นวัดสูงถึง 46 ม. ฐานยาวเท่ากันทั้ง 4 ทิศ ขนาด 46 ม. ทั้ง 4 ด้านมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชั้นแรกและชั้นสองมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ทั้ง 4 ทิศ สามารถเดินถ่ายรูปและชมความงามรอบ ๆ องค์ได้ ทั้งสองชั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่กับลวดลายปูนปั้นประณีตสวยงาม สร้างโดยพระเจ้าติโลมิโล เมื่อปี พ.ศ. 1761 ได้รับการยกย่องว่ามีความสวยงามมากทั้งภายในและภายนอก
เจดีย์สัพพัญญู หรือ วัดถัดบินยู (Thatbyinnyu Pagoda) เจดีย์ที่มีความสูงที่สุดในทะเลเจดีย์พุกาม ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถัดจากวัดอนันดา และถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คท่องเที่ยวสำคัญที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเมืองพุกาม ตัวองค์เจดีย์มีความสูงอยู่ประมาณ 61 เมตร มีศิลปะแบบปาละของอินเดีย ถือเป็นแม่แบบของสถาปัตยกรรมพม่า
วิหารธรรมยังยี หรือ วัดธัมมะยังจียังจี หรือ ธรรมเจดีย์ (Dhammayangyi Temple) ซึ่งแปลว่า “แสงสว่างแห่งธรรม” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้กลางทุ่งเจดีย์เมืองโบราณพุกาม ถือว่าเป็นวัดที่มีทัศนียภาพสง่างาม ชาวพุกามถือว่าเป็นวิหารที่สง่างามและใหญ่ที่สุดของเมือง วิหารหรือเจดีย์นี้สร้างโดยพระเจ้านราธู โอรสของพระเจ้าอลองสิธู เจดีย์นี้สร้างไม่เสร็จและไม่มียอด มีการก่ออิฐปิดกั้นแกนภายในไว้ วิหารธรรมยังจี มีลักษณะผังวิหารคล้ายกับอานันทวิหาร มีทางเดิน 2 ชั้นล้อมรอบ
จุดชมวิวทะเลเจดีย์ที่สวยงาม และหมู่บ้านเก่าแก่ของเมืองพุกาม ให้เราได้เก็บภาพความประทับใจ พร้อมชมพระอาทิตย์ลอยลับขอบฟ้า
สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ (Mandalay International Airport) ตัวย่อสนามบิน: MDL อยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ ไปทางตอนใต้ 35 กิโลเมตร เป็น 1 ใน 3 ท่าอากาศยานนานาชาติของ ประเทศพม่า สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2542 เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศ
พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) เป็นพระราชวังสุดท้ายแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพม่า ก่อนถูกทำลายโดยทหารอังกฤษในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง จนปัจจุบันได้รับการบูรณะโดยรัฐบาลพม่าและลอกแบบโครงสร้างเดิม ภายในพระราชวัง มีตำหนักน้อยใหญ่ที่เป็นที่ประทับของมเหสี ราชเทวี ราชชายา ราชธิดา และหมู่มวลสนมมากมาย มีท้องพระโรง แท่นประทับพักผ่อน และหอคอย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์
วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda) ตั้งอยู่เมืองมัณฑะเลย์ เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 ซึ่งถือเป็นการสังคายนาครั้งแรกในรอบ 2,000 ปี โดยได้จารึกเป็นอักษรพม่า ที่ถอดความมาจากภาษาบาลีไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ทั้งหมด 729 แผ่น แต่ละแผ่นจะอยู่ในครอบมณฑป ซึ่งตั้งอยู่โดยรอบวัดแห่งนี้
เมืองมิงกุน โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่มิงกุน จากท่าเรือใกล้เจดีย์ชเวไจยัต เขตเมืองอมรปุระ ทวนน้ำไปหมู่บ้านมิงกุน ซึ้งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิรวดีและไปได้ด้วยเส้นทางเรือเท่านั้นทว่ามีอนุสรณ์สถานที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าปดุง ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิรวดีที่มีลักษณะเป็น “กึ่งบ้านกึ่งแพ”
เจดีย์มิงกุน ซากเจดีย์ขนาดใหญ่ ร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ของพระเจ้าปดุง ที่ใช้แรงงานทาสและนักโทษจำนวนนับพันคนในการสร้าง โดยตั้งพระทัยว่าจะสร้างให้สูงใหญ่กว่าพระปฐมเจดีย์แห่งสยาม และให้พระองค์สามารถทอดพระเนตรได้จากเมืองอังวะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำอิรวดี แต่ด้วยงบประมาณที่บานปลาย ประกอบกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงทำให้การก่อสร้างล่าช้า ในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ในปี พ.ศ.2362 หลังพ่ายแพ้ไทยในสงคราม 9 ทัพ เจดีย์องค์นี้ จึงสร้างได้แค่ฐาน หลังจากนั้นองค์เจดีย์จึงถูกทิ้งร้าง
ระฆังมิงกุน (Mingun Bell) ตั้งอยู่ภายในเมืองมิงกุน ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำอิระวดีไปทางทิศเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร ระฆังใบนี้เป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร และมีน้ำหนักถึง 90,718 กิโลกรัม ว่ากันว่ามันเป็นระฆังยักษ์ที่ทำงานหนักที่สุดในโลก เพราะมันยังคงทำงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าระฆังแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกที่ใหญ่กว่าระฆังมิงกุน จะแตกร้าวจนใช้งานไม่ได้แล้วก็ตาม
เจดีย์ชินพิวเม (Hsinbyume Pagoda) หรือ เจดีย์เมียะเต็งดาน (Mya Thein Tan Pagoda) เป็นเจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำอิระวดี เมืองมิงกุน เขตสะกาย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ประมาณ 10 กิโลเมตร เจดีย์แห่งนี้ได้รับการขนานนามเปรียบว่าเป็น "ทัชมาฮาลพม่า" โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน สำหรับการเดินทางมาที่นี่สามารถมาได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือล่องตามแม่น้ำอิระวดี ที่สำคัญคือเข้าชมฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
อมรปุระ อดีตเมืองหลวงของประเทศพม่า ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ออกไป 12 กิโลเมตร สร้างโดยพระเจ้าโบ่ต่อในปี 1782 และถือว่าเป็นราชธานีที่มีอายุน้อยที่สุดเพียง 76 ปี ปัจจุบันอมรปุระเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการทอผ้าไหมแบบดั้งเดิม และการทอผ้าฝ้ายและทองสัมฤทธิ์หล่อ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่เดินทางไปยังมัณฑะเลย์ด้วย
วัดมหากันดายงค์ (Mahagandhayon Monastery) อีกหนึ่งวัดคู่บ้านคู่เมืองและเป็นวิทยาลัยสงฆ์ใหญ่ที่สุดของพม่า ตั้งอยู่เมืองอมรปุระ ริมทะเลสาบตองตามัน ใกล้สะพานอูเบ็ง เป็นวัดที่สำคัญรองจากพระธาตุเชเวดากองในกรุงย่างกุ้ง ด้วยวัตรปฎิบัติอันงดงามของภิกษุสงฆ์ในวัดมหากันดายง ทำให้มีชาวพม่าจำนวนมากส่งบุตรหลานมาศึกษาพุทธศาสนากันที่นี่ วัดนี้มีภิกษุและสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนทางธรรมกว่า 1,200 รูป และมีพระภิกษุจาก ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น ฯลฯ มาบวชเรียนที่กันอีกด้วย
สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติมัณฑะเลย์ (Mandalay International Airport) ตัวย่อสนามบิน: MDL อยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ ไปทางตอนใต้ 35 กิโลเมตร เป็น 1 ใน 3 ท่าอากาศยานนานาชาติของ ประเทศพม่า สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2542 เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศ
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553