หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต หรือ ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Airport) หรือชื่อเต็มคือ ท่าอากาศยานฟรังค์ฟวร์ทอัมไมน์ ตัวย่อสนามบิน: FRA เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของนครแฟรงก์เฟิร์ต เมืองศูนย์กลางทางการเงินของยุโรป
กรุงลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงของโปรตุเกส ตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นเมืองหลวงอันเก่าแก่มีประวัติยาวนานกว่า 800 ปี เมืองได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ลิสบอนมีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและน่าค้นหา เชิญชมอดีตพระราชวังหลวงที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิคและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี
อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ หรือ อนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ สร้างขึ้นในปีคศ.1960 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการที่โปรตุเกสเป็นประเทศนักสำรวจทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ในอดีต และเฉลิมพระชนมายุครบ 500ปี ของเจ้าชายเฮนรี่เดอะเนวิเกเตอร์ ลูกชายคนเล็กของกษัตรย์โปรตุเกส John I of Portugal ซึ่งมีบทบาทให้การสนับสนุนการเดินเรือสำรวจ ส่วนรูปปั้นคนอื่นๆที่อยู่ด้านหลังเจ้าชาย คือ คนดังนักคณิตศาสตร์ นักเขียน นักเสำรวจเดินเรือที่มีชื่อเสียงของโปรเตุเกสในสมัยนั้น อนุสาวรีย์นี้ถือเป็นสถาปัตยกรรมแบบ ชิโน-โปรตุกิสที่มีชื่อเสียงของโปรเตุเกส
หอคอยเบเล็ม สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1515 เดิมสร้างไว้กลางน้ำ เพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจ และค้นพบโลกของวาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงาม
วิหารเจอโรนิโม สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็นมรดกโลก ภายในประกอบไปด้วยอาคารสำคัญต่างๆ
แหลมโรก้า ตั้งอยู่ปลายสุดทางทิศตะวันตกในประเทศโปรตุเกส ห่างจากเมืองซินตราประมาณ 18กม และทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลิสบอนประมาณ 42กม โดยมีหน้าผายื่นออกมาจากมหาสมุทรแอตแลนติกไปประมาณ 140มเหนือระดับน้ำทะเล ในศตวรรษที่16 กวีของโปตุเกสท่านหนึ่งกล่าวว่า เป็นแผ่นดินสวยงามที่อยู่ปลายสุดลงของทวีปยุโรป เลยถัดไปเป็นมหาสมุทรแอตแลนติค ที่นี่..มีประภาคาร,อนุสาวรีย์ไม้กางเขนจารึกเป็นภาษาโปรตุเกส และร้านค้าขายระลึกด้วย
เมืองซินทรา (Sintra) เมืองตากอากาศหนึ่งยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในโปรตุเกส เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโรแมนติก ค่อนข้างมีความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบัว วัฒนธรรมอันเก่าแก่ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาอันงดงาม ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรม เชิญสำรวจเที่ยวชมเมืองสวยงามโรแมนติคหลากหลายสถานที่ท่องเที่ยว เช่น พระราชวังพีน่า พาเลซ,มอนเซอร์ราเต้ พาเลซ,ซินตร้า เนชั่นแนล พาเลซ,พระราชวัง Quinta de Regaleira พร้อมชมโบสถ์ Regaleira และบ่อน้ำพุอิบิส,ปราสาทมัวร์ เป็นต้น
เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญของคริสต์ศาสนิกชน
เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก ก่อสร้างในปี 1928 – 1953 ชมรูปปั้นพระแม่มารี ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นหนึ่งในหลายเส้นทางของคริสต์ศาสนิกชนในการแสวงบุญ ที่มีความเชื่อว่าพระแม่มารีได้เคยปรากฏตัวให้เด็กน้อย 3 คนได้เห็นเป็นครั้งแรกที่แอบหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้บอกกับเด็กทั้งสามคนถึงเหตุผลที่พระองค์ลงมาจากสวรรค์ เพื่อให้ลูเซีย ได้บันทึกไว้ถึงคำทำนายและคำสอนของพระแม่มารี ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆที่ลูเซียได้บันทึกไว้ก็ล้วนเป็นความจริงที่ปรากฏขึ้นมาภายหลัง
โกอิมบรา( Coimbra )เมืองมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของโปรตุเกส ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ำMondegoเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่างชาวคริสต์ทางเหนือกับชาวมุสลิมทางใต้ เป็นที่ตั้งของCoimbra University มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งก่อตั้งเมื่อ ค ศ.1290 ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง Coimbra Royal Palace ของกษัตริย์คิงส์จอห์นที่ 3ในปีค.ศ. 1537 และต่อมาได้เปลี่ยนกลับมาเป็นมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบัน อาคารต่างๆสร้างด้วยศิลปะสไตล์บาร็อคที่สวยงาม
มหาวิทยาลัยโกอิมบรา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก่อตั้งในปี ค.ศ. 1290 โดยกษัตริย์ Kind Dinis I และในปี 1338 กษัตริย์ Afonso IV ได้ทำการย้ายมหาวิทยาลัยและสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ที่กรุงลิสบอน และในปี 1537 กษัตริย์ King John ที่ 3 ได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง (Coimbra Royal Palace)
ปอร์โต (Porto) หรือ โอพอร์โต (Oporto) เมืองที่น่าเที่ยวในโปรตุเกสไม่แพ้ที่อื่นๆ เลย ปอร์โตยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศโปรตุเกสอีกด้วย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดรู (Douro River) และที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกกับองค์การยูเนสโกอีกด้วย เลยทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเที่ยวยุโรปที่สำคัญสำหรับสายอาร์ทที่อยากชมสถาปัตยกรรมยุโรปยุคกลาง นับได้ว่าที่นี่น่ามาเที่ยวชมมากๆ เมื่อเพื่อนๆ ได้มีโอกาสมาเที่ยวโปรตุเกสแล้วต้องไม่พลาดมาเที่ยวที่นี่ซักครั้งนะ
หรือย่านอะเลียโด จตุรัสใจกลางเมืองปอร์โต้ สร้างในช่วงต้นปีคต18 อันเป็นโครงการขยายเมืองให้เจริญเติบโต มีการสร้างถนนให้กว้างขวาง เป็นที่รู้จักในนามของ Praca Nova หรือ จัตุรัสใหม่ ในปี1866มีการสร้างอนุสาวรีย์รูปปั้นของพระมหากษัตริย์ปีเตอร์ที่4 ขี่ม้าและถือรัฐธรรมนูญที่ต่อสู้เพื่อปกป้องในระหว่างสงครามเสรีนิยม โดย Calmels Anatole ประติมากรชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีการทำพิธีเปิดในกลางของจตุรัสด้วย รอบๆ จตุรัส เรียงรายไปด้วยอาคารสวยงามต่างๆ ที่ทำการของธนาคาร,โรงแรม,ซิตี้ฮอลล์ และร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
ภายในมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องเขียนสีที่มีลวดลายสีน้ำเงิน ที่เล่าเรื่องราวของชาวโปรตุเกส
เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง อายุกว่าพันปี โบสถ์แห่งนี้เป็นที่จัดงานอภิเษกสมรสของกษัตริย์ Jo?o ที่ 1 บิดาของเจ้าชายเฮนรี่ ผู้บุกเบิกการเดินเรืออันยิ่งใหญ่ของโปรตุเกส สร้างอยู่บนเนินที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมือง
เมืองซาลามังกา (Salamanca)เมืองนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส ในอดีตเมืองซาลามังกาเป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้าขายเมื่อครั้งสมัยโรมันยังเรืองอำนาจอยู่ เป็นหนึ่งในเมืองของเขตแคว้นคาสทิล แอนด์ ลิออง (Castile and Lyon) ซึ่งเป็นเขตปกครองอิสระที่ใหญ่ที่สุดในสเปน และด้วยความที่สามารถรักษาความเก่าแก่แห่งสถาปัตยกรรมในอดีตไว้ได้อย่างดี เมืองนี้จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1988
เมืองซาลามังกา (Salamanca)เมืองนี้ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส ในอดีตเมืองซาลามังกาเป็นเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการค้าขายเมื่อครั้งสมัยโรมันยังเรืองอำนาจอยู่ เป็นหนึ่งในเมืองของเขตแคว้นคาสทิล แอนด์ ลิออง (Castile and Lyon) ซึ่งเป็นเขตปกครองอิสระที่ใหญ่ที่สุดในสเปน และด้วยความที่สามารถรักษาความเก่าแก่แห่งสถาปัตยกรรมในอดีตไว้ได้อย่างดี เมืองนี้จึงได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1988
จตุรัสหลวงศูนย์กลางเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 โดยกษัตริย์ฟิลลิปที่ 3 ด้วยศิลปะผสม ออสเตรีย-สเปน
เมืองเซโกเบีย หรือ เซอโกเบีย เมืองมรดกโลกแห่ง แคว้นคาสตีล และเลออน ของประเทศสเปน ตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมากับแม่น้ำกลาโมเรส ห่างจากกรุงมาดริดไปทางทิศเหนือ เมืองเซโกเบีย นั้นถือเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมายโดยเฉพาะงานสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความวิจิตรงดงามของสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น เช่น มหาวิหาร โบสถ์ ปราสาท และอีกสิ่งก่อสร้างที่ถือเป็นไฮไลท์ประจำเมือง คือ สะพานส่งน้ำโบราณ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองด้วย
รางส่งน้ำโรมัน (Aqueduct de Segovia) ตั้งอยู่ที่เมืองเซอโกเบีย ประเทศสเปน ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซอโกเบีย และเป็นไฮไลต์หลักของเมือง รางส่งน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยไม่มีการใช้วัสดุเชื่อมหินแต่ละก้อนแต่อย่างใด จึงได้รับการยกย่องว่า เป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่สำคัญที่สุด และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดของประเทศสเปน
Las Rozas Village Outlet แห่งนี้มีสินค้ามากมาย และร้านค้ากว่าร้อยร้านให้เราได้เลือกซื้อ อาทิ Amani, Barbour, Coach, Diesel, Furla, Onisuka Tiger,Polo Ralph lauren, Hugo Boss, Samsonite, Camper, Burbury, Superdry, Tag Heuer, Bvlgari, Calvin Klein และอื่น ๆ
Las Rozas Village Outlet แห่งนี้มีสินค้ามากมาย และร้านค้ากว่าร้อยร้านให้เราได้เลือกซื้อ อาทิ Amani, Barbour, Coach, Diesel, Furla, Onisuka Tiger,Polo Ralph lauren, Hugo Boss, Samsonite, Camper, Burbury, Superdry, Tag Heuer, Bvlgari, Calvin Klein และอื่น ๆ
เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลาม และฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆ เหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ที่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพือปกป้องเมือง
มหาวิหารโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบกอธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน
จตุรัสหลวงศูนย์กลางเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 โดยกษัตริย์ฟิลลิปที่ 3 ด้วยศิลปะผสม ออสเตรีย-สเปน
อีกสถานที่หนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปกัน ก่อนเดินช้อปปิ้งต่อตามห้างสรรพสินค้า นั่นคือ "รูปปั้นหมีเกาะต้นเชอรี่" เป็นรูปปั้นอนุสาวรีย์สีดำหมีกับต้นมาโดรนาที่ดูเหมือนกำลังจูบหรือปีนต้นเชอรี่ อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกแห่งของกรุงแมดริด ที่นี่ สร้างขึ้นที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า บนเดินเท้า นอกจากนี้ ยังเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวด้วย บริเวณใกล้ๆกัน เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง คือ ปัวร์ต้า เดล โซล
พระราชวังหลวงเเห่งกรุงมาดริด (Royal Palace of Madrid) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรป จากแนวความคิดที่อยากเทียบความใหญ่โตของพระราชวแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1738 พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้าง ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและ อิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญ ที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น
พระราชวังหลวง The Royal Palace (The Palacio Nacional da Vila) อดีตพระราชวังหลวง ที่ประทับแห่งราชวงศ์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16
อนุสาวรีย์น้ำพุไซเบเลส ตั้งอยู่ที่จัตุรัสรัสซิเบเลส ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญ จุดสวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด มีอนุสาวรีย์น้ำพุไซเบเลส อยู่ตรงกลางจตุรัสซิเบเลส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ที่คอยปกป้องมวลมนุษย์ นกและสัตว์ต่างๆ ในทะเลไซบีเรีย อันมีประวัติยาวนาน ที่นี่ ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง และรอบๆ บริเวณนี้ มีอาคารสวยงามสำคัญๆ ประจำอยู่ทั้ง4มุมได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน,กองบัญชาการทหารบก,ที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ ประตูชัยอาคาล่า และศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกา
ประตูชัยอาคาล่า เป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญ ประตูชัยของกรุงมาดริด ประเทศสเปน สร้างขึ้นในปี 1599 ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตั้งตระหง่านทางตะวันออกของใจกลางเมือง ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญสวนสาธารณะและถนนสายสำคัญเช่น Paseo de la Castellana และ Gran Via ประตูชัยนี้มีขนาดใหญ่กลางโค้งเป็นรูปครึ่งวงกลม ล้อมรอบด้วย 2 ส่วนโค้งที่คล้ายกัน มี 6 รูปปั้นประดับที่ประดับด้านบนของประตู เหล่านี้เป็นผลงานของศิลปินประติมากรรม Francisco Gutierrez และโรมิเชล มีสวนหย่อมประดับสวยงาม
ปลาซา เดอ เอส ปันญา ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอลหรือประตูพระอาทิตย์ เป็นจตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว(กิโลเมตรที่ศูนย์)ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วย เชิญเที่ยวชมสิ่งก่อสร้างที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบของ'ปลาซาเดเอสปาญา'ชมกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันเป็นแนวยาวแต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็นอุทยานมาเรียลุยซ่า ร่มรื่นงดงาม