ทัวร์แอฟริกาใต้ เคปทาวน์ ซันซิตี้ แหลมกู๊ดโฮป ท่องป่าพีลันเนสเบิร์ก ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเทเบิ้ลเมาเท่น

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553

ท่าอากาศยานนานาชาติเคปทาวน์ หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินเคปทาวน์” เป็นสนามบินหลักที่ให้บริการเมืองเคปทาวน์ ของประเทศสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทวีปแอฟริกา โดยสนามบินแห่งนี้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 และโดยหลักแล้วสนามบินแห่งนี้ใช้รองรับการเดินทางระหว่างเคปทาวน์กับโจฮันเนสเบิร์ก จนเป็นเส้นทางการบินที่ติดอันดับ 1 ใน 10 เส้นทางที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดในโลกอีกด้วย

เป็นเมืองชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่ในแหลมทางใต้สุดของประเทศ และเป็นเมืองท่องเที่ยวต่างอากาศ ธรรมชาติสวยงาม มีแหลมต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ แหลมกู๊ดโฮป และแหลมอากุลฮาส ซึ่งตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปแอฟริกา เป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียมาบรรจบกันจึงทำให้มีอากาศแปรปรวน และบริเวณเมืองริมฝั่งทะเลของเคปทาวน์นี้ เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวที่สุดและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

เทเบิ้ล เมาเท่น ภูเขาสูงยอดตัดตรง เหมือนกับโต๊ะ โดยกระเช้าไฟฟ้าหมุนรอบตัวเอง ซึ่งในช่วงที่ลมแรงหรือมีฝนตกจะหยุดวิ่งทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้มาเยือน ขึ้นมาด้านบน มีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามแนวขอบเขา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวรอบด้านได้อย่างชัดเจน ไกลไปจนถึงตัวเมืองเคปทาวน์ทีเดียว บนภูเขาโต๊ะนี้มีสัตว์ตัวเล็กประเภทหนึ่งหน้าตาน่าเอ็นดู ชื่อว่าตัวแดสซี่ หรือ กระต่ายหิน มีลักษณะกึ่งผสมระหว่างกระรอกกับกระต่าย เป็นมิตรกับผู้คนที่ผ่านมาเยือน

ฮูทเบย์ (hout bay) หมู่บ้านชาวประมงซึ่งกลายเป็นเมืองขนาดเล็ก มีท่าเทียบเรือและภัตตาคารอาหารทะเลมีเรือออกไปชมแมวน้ำ ที่เกาะดุยเกอร์ (Dduiker) ใช้เวลานั่งเรือไปกลับรวม 1 ชั่งโมง ทั้งมีเรือล่องชมพระอาทิตย์ตกดินจากฮูทเบย์ไปขึ้นที่วิคทอเรียและ อัลเบิร์ตวอเตอร์ ฟร้อนท์ด้วย

เป็นเกาะขนาดเล็ก มากจึงไม่สามารถให้มนุษย์ขึ้นไปชมบนเกาะได้ มีแค่เพียงบรรดาสัตว์ที่อยู่บริเวณแถวนั้นเท่านั้น ที่สามารถขึ้นไปบนเกาะเล็กๆแห่งนี้ สัญลักษณ์ของเกาะนี้ที่เป็นจุดเด่น คือ "แมวน้ำ" เคปทาวน์นี้มีแมวน้ำอาศัยอยู่มากเพราะมีธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีแหล่งอาหารของแมวน้ำอยู่มาก แถมผู้คนก็ยังเป็นมิตรและดูแลความปลอดภัยของแมวน้ำเหล่านี้เป็นอย่างดี จนกระทั่งแมวน้ำบางตัวมีความคุ้นเคยกับคนเหมือนเป็นเพื่อน ท่านจะได้เห็นแมวน้ำจำนวนมากมานอนเรียงรายอยู่ตามโขดหินและเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปแมวน้ำ

เมืองไซมอน ณ เมืองแห่งนี้บ้านเรือนจะตั้งลดหลั่นกันอยู่ตามเนินเขา หันหน้าออกทะเล ซึ่งเจ้าของส่วนมากเป็นคนมีฐานะทั้งนั้น เมื่อมาถึงบริเวณชายหาดโบลเดอร์ เจ้าบ้านตัวน้อยนกเพนกวินอัฟริกัน ตัวผู้มีสีสันมากกว่าตัวเมีย โดยเฉพาะบริเวณขอบตาจะมีสีชมพู คล้ายแต้มสีอายแชโดว์ไว้อย่างนั้น ส่วนตัวเมียจะไม่มี ลำตัวมีสีดำขาวตัดกัน แต่ตัวเมียมีสีน้ำตาล และมีขนาดใหญ่กว่า นกเพนกวินที่นี่ใช้ชิวิตอย่างอิสระสบายอารมณ์ตามธรรมชาติ แวะชมไร่องุ่นและการผลิตไวน์กันที่ กรูทคอนสแตนเทีย

อยู่ในเขตสงวน Cape of Good Hope Nature Reserve ปลายสุดแหลมมีประภาคารขนาดใหญ่ เห็นรอยตะเข็บที่มหาสมุทรอินเดียและแอตแลนติกมาบรรจบกัน ท้องทะเลมีหมอกลงจัดอากาศแปรปรวน เพราะกระแสน้ำอุ่นและกระแสน้ำเย็นมาปะทะกัน ยากต่อการเดินทางโดยทางเรือ ทำให้เรือชนหินโสโครกหรือชนกันเองเสมอๆ จนก่อให้เกิดเรื่องราวของภาพหลอน มิติอันลี้ลับและเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับฟลายอิ้งดัตช์แมน ซึ่งเป็นชื่อเรือที่นักเดินทางเรือชาวดัตช์ไม่สามารถเดินผ่านแหลมกู๊ดโฮปได้ ทำให้เรือสูญหายไปในทะเล และที่นี่ มีจุดชมวิวที่สวยที่สุดคือ เคปพอยท์

เป็นเมืองชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่ในแหลมทางใต้สุดของประเทศ และเป็นเมืองท่องเที่ยวต่างอากาศ ธรรมชาติสวยงาม มีแหลมต่างๆ ที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ แหลมกู๊ดโฮป และแหลมอากุลฮาส ซึ่งตั้งอยู่ปลายใต้สุดของทวีปแอฟริกา เป็นจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติคและมหาสมุทรอินเดียมาบรรจบกันจึงทำให้มีอากาศแปรปรวน และบริเวณเมืองริมฝั่งทะเลของเคปทาวน์นี้ เป็นเส้นทางที่น่าเที่ยวที่สุดและมีวิวทิวทัศน์ที่งดงามน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง

ฟาร์มนกกระจอกเทศ ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมือง เคปทาวน์ เชิญชมการสาธิตเพาะเลี้ยงลูกนก การวางไข่ แล้วบันทึกภาพบนหลังนกกระจอกเทศกับฉากเบื้องหลังของ Table Mountain ที่สวยงาม เลือกชมสินค้าแปลกตาจากนกกระจอกเทศ เช่น เข็มขัด กระเป๋าหนัง หรือเปลือกไข่นกกระจอกเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก

กรูทคอนสแตนเทีย ไร่องุ่นและแหล่งผลิตเหล้าองุ่น ศูนย์ผลิตไวน์ ที่เก่าแก่ขสุดของแอฟริกาใต้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปีคศ1692 โดยผู้ว่าการเมืองชาวดัตซ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดัชต์ที่ยังคงรักษา ดำเนินการทำเหล้าองุ่น เปิดให้คนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมการผลิต ภายในบริเวณ มีอาคารพิพิธภัณฑ์ไวน์ แสดงประวัติความเป็นมาของไวน์ย้อนหลังไปถึง500ปี คริสตกาล อาคารบ้านเรือนสมัยเก่าไว้ได้ในสภาพที่ดีเยี่ยมและสวยงาม มีไร่องุ่นมากมาย และเป็นไร่องุ่นที่ดีและมีจำนวนมากมาย มีโรงงานผลิตไวน์แดง บริการให้ชิมไวน์กันด้วย

หมู่บ้าน(ศูนย์)วัฒนธรรมเลเซดี (Lesedi Cultural Village) ห่างจากเมืองพริทอเรียประมาณ 40 นาที เป็นศูนย์วัฒนธรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงประวัติความเป็นมา ความแตกต่าง ของชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ ของแอฟริกาใต้ มีการจัดแสดงบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ศิลปะ การแสดงต่างๆของชนเผ่าพื้นเมือง อาทิ Zulu Xhosa Pedi Basotho เป็นต้น รวมไปถึงมีอาหารรสชาติพื้นเมืองไว้บริการนักเดินทางด้วย

เมืองพริทอเรีย เมืองหลวงด้านการบริหารของแอฟริกาใต้ ห่างจากโจฮันเนสเบิร์กไปทางเหนือประมาณ 65 กิโลเมตร เมืองนี้ตั้งตามชื่อของ แอนดีส์ พรีทอรีอัส วีรบุรุษของการต่อสู้รบระหว่างพวกบัวร์ กับชนพื้นเมืองผิวดำ พริทอเรียจึงเป็นเมืองหลวงของชาวบัวร์ที่พยายามต่อสู้กับพวกอังกฤษเพื่อให้ได้อิสรภาพ เมืองนี้เป็นที่ตั้งของสถานทูตนานาชาติ ธนาคาร ทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการรัฐบาล วุฒิสภาจะจัดประชุมขึ้นที่เมืองพริทอเรีย ในขณะที่สภาผู้แทนราษฎรหรือสภาแห่งชาติจะจัดประชุม

อนุสาวรีย์วูร์เทรคเกอร์และพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่นอกเมือง เป็นศูนย์รวมจิตใจของชนผิวขาวเชื้อสายดั้งเดิมของชาวบัวร์ อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการเดินทางอพยพของพวกบัวร์จากปลายแหลมของทวีป เข้าสู่ใจกลางประเทศแอฟริกาใต้และร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีของการสู้รบกับชาวพื้นเมือง บริเวณใต้ถุนอาคารจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กแสดงภาพชีวิตของชาวบัวร์ สิ่งของเครื่องใช้ และการต่อสู้เพื่ออิสระภาพ

ท่องป่าซาฟารี ที่วนอุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลาเนสเบิร์ก โดยรถที่จะพาไปชมสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ของแอฟริกา เป็นรถแบบเปิดโล่งด้านข้างเปิดโล่งรับลม จุคนได้ 20 คน รถแต่ละคันจะมีนายพราน ซึ่งเป็นทั้งคนขับรถและไกด์คอยแนะนาวิธีการชมสัตว์ให้ทราบ ป่าพิลาเนสเบิร์กแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 500ตรม พื้นที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทาให้ผืนดินมีแร่ธาตุอุดมสมบรูณ์

เขตวนอุทยานสัตว์ป่าขุนเขาพีลันเนสเบิร์ก และป่าซาฟารีของเอกชนเปิดให้ท่านได้ท่องป่าซาฟารี ชมสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 5 ของแอฟริกา คือสิงโต แรด ควายป่า ช้าง และ เสือดาว ไปจนถึงเพื่อนๆ ที่น่ารักอย่างยีราฟ ม้าลาย ฮิปโปโปเตมัส และนกนานาชนิด

เมืองซันซิตี้ (Sun City) เมืองที่ถูกสร้างตามจินตนาการของ ชอล เคิร์ชเนอร์ มหาเศรษฐี นักลงทุนผู้มั่งคั่ง ใช้งบประมาณมหาศาล ทั้งระยะเวลายาวนานในการสร้างอย่างปราณีตและสร้างสรรค์กว่า 18 ปีจากดินแดนอันไร้ค่าในอดีตแห่งแคว้น Bophuthatswana บริเวณตอนกลางของแอฟริกาใต้ กลายเป็นอาณาจักรอันกว้างใหญ่ และพร้อมสรรพไปด้วยสถานที่พักผ่อนตากอากาศอันสวยหรูและยิ่งใหญ่อลังการรวมตัวกัน

สวนเสือ The Lion Park พาท่านนั่งรถชมชีวิตสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์โลกผู้น่ารักอย่างใกล้ชิด อาทิ โซนเจ้าป่า ซึ่งจะรวม White Lion, Cheetah, Wild Dog และยังมีโซนสัตว์ตระกูลมีเขาอย่าง Springbuck, Gemsbok, Blesbok , ยีราฟ และ ม้าลาย

นครโจฮันเนสเบิร์ก หรือ ที่ชาวอัฟริกาใต้เรียกกันสั้น ๆ ว่า "โจเบิร์ก" ซึ่งเป็นเมืองธุรกิจมาตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน และได้รับฉายาว่า The Gold City ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีการแบ่งแยกสีผิว ทำให้เกิดชุมชนต่างผิวขึ้นคนละมุมเมือง โดยแยกเป็นเมืองคนขาวคือ Sandton และเมืองคนดำคือ Soweto เป็นเมืองลูกรายล้อมโจเบิร์ก ในปัจจุบันโจเบิร์ก คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและอาคารสูงทันสมัย ตัวเมืองโจฮันเนสเบิร์กทุกวันนี้มีลักษณะไม่ต่างกับเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก โตเกียว หรือริโอเดอจาเนโร

แมนเดลลา สแควร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นย่านคนรวยของแอฟริกาใต้ ล้อมรอบด้วยโรงแรม ร้าค้า ร้านอาหารมากมาย เรียกได้ว่า ที่นี่ ศูนย์รวมครบวงจร มีผู้คนหลายสัญชาติมารวมกัน เหมือนลานกิจกรรม เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญๆ ชาวเมืองจะมารวมตัวที่นี่ มีรูปปั้นอดีตประธานาธิบดีผู้ยิ่งใหญ่ ชื่อ แนลสัน แมนเดลลา หลายคนจะมาถ่ายรูปกับรูปปั้นอดีตประธานาธิบดีเพื่อเป็นที่ระลึก ที่นี่ จึงเป็นสถานที่หนึ่งสำคัญของเขตซาลตัน

สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553