หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
อนุสาวรีย์น้ำพุไซเบเลส ตั้งอยู่ที่จัตุรัสรัสซิเบเลส ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญ จุดสวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด มีอนุสาวรีย์น้ำพุไซเบเลส อยู่ตรงกลางจตุรัสซิเบเลส สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ที่คอยปกป้องมวลมนุษย์ นกและสัตว์ต่างๆ ในทะเลไซบีเรีย อันมีประวัติยาวนาน ที่นี่ ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง และรอบๆ บริเวณนี้ มีอาคารสวยงามสำคัญๆ ประจำอยู่ทั้ง4มุมได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน,กองบัญชาการทหารบก,ที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ ประตูชัยอาคาล่า และศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกา
อีกสถานที่หนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปกัน ก่อนเดินช้อปปิ้งต่อตามห้างสรรพสินค้า นั่นคือ "รูปปั้นหมีเกาะต้นเชอรี่" เป็นรูปปั้นอนุสาวรีย์สีดำหมีกับต้นมาโดรนาที่ดูเหมือนกำลังจูบหรือปีนต้นเชอรี่ อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกแห่งของกรุงแมดริด ที่นี่ สร้างขึ้นที่ทางเข้าห้างสรรพสินค้า บนเดินเท้า นอกจากนี้ ยังเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวด้วย บริเวณใกล้ๆกัน เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง คือ ปัวร์ต้า เดล โซล
จตุรัสหลวงศูนย์กลางเมืองเก่าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 โดยกษัตริย์ฟิลลิปที่ 3 ด้วยศิลปะผสม ออสเตรีย-สเปน
เมืองเซโกเบีย หรือ เซอโกเบีย เมืองมรดกโลกแห่ง แคว้นคาสตีล และเลออน ของประเทศสเปน ตัวเมืองตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมากับแม่น้ำกลาโมเรส ห่างจากกรุงมาดริดไปทางทิศเหนือ เมืองเซโกเบีย นั้นถือเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมายโดยเฉพาะงานสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ นักท่องเที่ยวจะได้ชมความวิจิตรงดงามของสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น เช่น มหาวิหาร โบสถ์ ปราสาท และอีกสิ่งก่อสร้างที่ถือเป็นไฮไลท์ประจำเมือง คือ สะพานส่งน้ำโบราณ ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองด้วย
รางส่งน้ำโรมัน (Aqueduct de Segovia) ตั้งอยู่ที่เมืองเซอโกเบีย ประเทศสเปน ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซอโกเบีย และเป็นไฮไลต์หลักของเมือง รางส่งน้ำแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยไม่มีการใช้วัสดุเชื่อมหินแต่ละก้อนแต่อย่างใด จึงได้รับการยกย่องว่า เป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่สำคัญที่สุด และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดของประเทศสเปน
พระราชวังหลวงเเห่งกรุงมาดริด (Royal Palace of Madrid) ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังอื่นในทวีปยุโรป จากแนวความคิดที่อยากเทียบความใหญ่โตของพระราชวแวร์ซายส์ และความสวยงามของลูฟว์ในฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1738 พระราชวังหลวงแห่งนี้จึงถูกสร้าง ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและ อิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ มากมายถึง 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นที่เก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญ ที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น
ชมสิ่งก่อสร้างที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบของปลาซาเดเอสปาญา (Plaza de Espanga)และกลุ่มอาคารรูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันเป็นแนวยาวแต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้าม เป็นอุทยานมาเรีย ลุยซ่าร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติก
อนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้(คนขี่ม้า)กับ ซานโจ ปันซา คนรับใช้(คนขี่ลา)เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่กรุงมาดริด ซึ่งดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า เป็นอัศวินหรือวีรบุรุษของชาวสเปนที่มีอุดมการณ์ทำความดีงาม ซึ่งสมควรแก่การยกย่อง จึงได้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความดีของท่าน เรื่องราวของอัศวินนี้ได้ถูกถ่ายทอดเป็นเป็นละครเพลงชือ"แมน ออฟ ลามันช่า"ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง และทำให้เพลง"The imposible dream"เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป บ้านเราก็นำละครเรื่องนี้ มาแสดงด้วยเช่นกัน
เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลาม และฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆ เหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก เริ่มต้นการเที่ยวชมเมืองจากหน้าสถานีรถไฟแบบนีโอมูเดฆาร์ที่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพือปกป้องเมือง
มหาวิหารโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิกที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบกอธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน ภายในมหาวิหารมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน
เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองพิเศษวาเลนเซีย และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสเปน ตั้งอยู่บริเวณอ่าวบาเลนเซีย บนชายฝั่งทางทิศตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของสเปน เมืองบาเลนเซียเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นเมืองแห่งศิลปะและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ รวมทั้งสโมสรฟุตบอลอาชีพที่โด่งดังไปทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น บาเลนเซียยังเป็นเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น หอคอยตอร์เรส เด เซอรานอซ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งบาเลนเซีย และอนุสาวรีย์อีกมากมาย
วิหารแห่งบาเลนเซีย ติดกันเป็นโบสถ์แม่พระนักบุญอุปถัมถ์ประจำเมือง นับเป็นจัตุรัสที่สวยงามดูสงบยิ่งนัก สองข้างทางมีภัตตาคาร, บาร์, ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกสร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย แล้วไปชมเขตเมืองใหม่ที่ตั้งของท่าเรือเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเท่าที่เคยมีมาออกแบบโดยสถาปนิกชาวบาเลนเซีย ประกอบไปด้วย โรงภาพยนตร์ออมนิแมกซ์,โรงศิลปะการแสดง, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุทยานสมุทรภูมิศาสตร์ จากนั้นไปชม ชายหาด แหล่งพักผ่อนตากอากาศที่มีชื่อเสียง แนวชายหาดยาวสุดสายตา
กอสตา เดล อะซาร์ หรือ ชายฝั่งดอกส้มบาน ตั้งชื่อตามสวนส้มที่ปลูกทั่วที่ราบชายฝั่งและส่งกลิ่นหอม หวานในฤดูใบไม้ผลิ
หรือ เมืองบาร์เซโลน่า ตั้งอยู่บนชายฝั่งของแหลมไอบีเรีย ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองใหญ่อันดับ2ของสเปนและได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือ และการค้า อีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิกเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น หมู่บ้านสเปน,จัตุรัสปลาซ่า กาตาลันญ่า,ถนนช้อปปิ้งลา แลมบาส,ถนนแห่งสถาปัตยกรรมกาซ่า มิล่า,วิหารซากราด้า ฟามิเลียร์เป็นต้น
หรือ มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลีย สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองบาร์เซโลน่า สูงใหญ่ถึง170เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา สร้างตั้งแต่ปีคศ.1882โดย สถาปนิก “อันโตนิโอ เกาดี้” ซึ่งใช้เวลาทำงานอยู่นานถึง43ปี ก่อนที่จะเสียชีวิตในปี1926 ปัจจุบันยังคงดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี คศ.2026 วิหารนี้มีความพิเศษคือ รวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆในธรรมชาติมาใช้ และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต สวยงามแปลกตาดี
สนามฟุตบอลกัมนอว์เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ตั้งอยู่ที่เมืองบาร์เซโลนา แคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 1954 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 1957 ที่ผ่านมา โดยสามารถจุแฟนบอลได้ถึง 98,772 คน
หรือ เมืองบาร์เซโลน่า ตั้งอยู่บนชายฝั่งของแหลมไอบีเรีย ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองใหญ่อันดับ2ของสเปนและได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงในเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือ และการค้า อีกทั้งยังผสมผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิกเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น หมู่บ้านสเปน,จัตุรัสปลาซ่า กาตาลันญ่า,ถนนช้อปปิ้งลา แลมบาส,ถนนแห่งสถาปัตยกรรมกาซ่า มิล่า,วิหารซากราด้า ฟามิเลียร์เป็นต้น
คาซาบัตโย คาซาสีฟ้าสุดอลังการสร้างในปี ค.ศ.1877 ต่อมาได้รับการออกแบบและตกแต่งของเกาดี้ซึ่งออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลน่า หลักในการออกแบบตกแต่งคาซาหรือบ้านของครอบครัวบัตโย่ของเกาดี้คือ บ้านหลังนี้ไม่มีเส้นตรง ทุกอย่างที่ได้รับการออกแบบล้วนได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ราว ระเบียง ประตู และส่วนประกอบต่างๆจึงโค้งมนรับกะกระจกผิวคลื่นให้ความรู้รึกเหมือนอยู่ในโลกใต้บาดาล
ย่านถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลน่าและแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย เป็นถนนสายเล็กๆที่มีความยาวเพียง1.2กม มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน เชิญช้อปปิ้งตามอัธยาศัย สามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม ที่นี่ มีร้านอาหาร สถาปัตยกรรมแบบโกธิค สองข้างทางมีต้นไม้ใหญ่เป็นแนวสวยเป็นถนนที่คนยุโรปยกย่องให้เป็นถนนที่มีชีวิตชีวาที่สุด ถนนสายร่าเริงนี้มีไว้ให้ทุกชีวิตในบาร์เซโลนาได้ปลดปล่อยความเป็นตัวตนได้อย่างสุดเหวี่ยง
ระบำพื่นเมืองฟลามิงโก มีความสวยงามและสนุกสนาน ถือเป็นต้นตำรับของเสียงดนตรีที่เร้าใจ นักเต้นเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเสียงเพลงและจังหวะของการกระแทกส้นเท้าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ระบำนี้เป็นเพลงพื้นเมืองและการละเล่นของประเทศสเปน ซึ่งมีประวัติความเป็นมานับร้อยปีมาแล้ว พัฒนามาจากระบำยิปซี โดยผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของสเปนเองโดยเฉพาะในแถบอันดาลูเซีย เป็นศิลปะที่มีรูปแบบซับซ้อน ทั้งเพลง ดนตรี และการเต้นรำ ปัจจุบัน สามารถชมการแสดงนี้ได้ตามภัตตาคารที่มีการแสดงนี้
ยอดเขามอนต์จูอิก เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงของเมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน มีหน้าผาที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ มองเห็นของทั้งตัวเมือง งดงามยิ่งนัก พร้อมรับลมที่โชยพัดผ่านมา พร้อมสูดอากาศสดชื่น อีกทั้งยอดเขาแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 ด้วย
มหาวิหารซานตามารีอา (Santa Maria Cathedral) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางจตุรัสมารีอาในเมืองเก่าที่ถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าอาคารสำคัญๆมากมาย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1238 เป็นสไตล์ผสมผสานระหว่างโรมาเนสก์, เรอเนอซองส์, นีโอคลาสสิก, และบาร็อคเข้าด้วยกัน ด้านในตัววิหารจะมีรูปวาดบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซู ซึ่งวาดขึ้นโดยศิลปินชื่อดังจากกรุงวาติกัน ฟรานเชสโก้ โกย่า นอกจากนี้ แก้วน้ำที่พระเยซูใช้ใน The Last Supper ก็ถูกเก็บไว้ในมหาวิหารนี้ด้วย