หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
ศาลาว่าการเมืองสต็อคโฮลม์..สัญลักษณ์ของกรุงสต๊อกโฮลม์ สร้างเสร็จปี1923 และเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนในศตวรรษที่20 เป็นที่ทำการของศาลาว่าการเมือง และสถานที่สำหรับจัดงานรับรางวัลโนเบล ในทุกๆปี(ยกเว้นสาขาสันติภาพที่มีขึ้นในออสโล นอร์เวย์)ตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8ล้านก้อน และตกแต่งผนังใน Golden Hall หรือห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Ragner Ostberg และศิลปินชั้นนำในเวลานั้น
สต็อกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลทิศตะวันออกของประเทศสวีเดน มีประชากรในเขตเทศบาลสต็อกโฮล์ม 909,000 คน ถ้านับเขตที่อยู่อาศัยโดยรอบทั้งหมดจะมีประชากรประมาณ 2.2 ล้านคนสต็อกโฮล์มเป็นที่ตั้งของรัฐบาลสวีเดน และที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของสวีเดน
เป็นเขตเมืองเก่าแห่งสต็อคโฮล์ม เต็มไปด้วยที่อยู่อาศัยสมัยโบราณของศตวรรษที่13 ที่ยังคงรักษาสภาพอาคารบ้านเรื่อนได้อย่างดี ซึ่งถนนในเมืองยังใช้ปูด้วยก้อนหินสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ อีกทั้งตึกราม มีทัศนียภาพสวยที่สุดของกรุงสตอกโฮล์ม เชิญเดินเที่ยวชมบริเวณเมืองเก่าแก่ที่สวยงามราวกับภาพวาด ย้อนสู่อตีดอันรุ่งเรือง ที่ปัจจุบันยังทิ้งร่องรอยแห่งความเป็นเมืองแห่งยุคกลาง และยังเป็นที่ตั้งของ พระราชวังหลวง รัฐสภา มหาวิหาร ตลาดหุ้น ตลอดจนกลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์
ศาลาว่าการเมืองสต็อคโฮลม์..สัญลักษณ์ของกรุงสต๊อกโฮลม์ สร้างเสร็จปี1923 และเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนในศตวรรษที่20 เป็นที่ทำการของศาลาว่าการเมือง และสถานที่สำหรับจัดงานรับรางวัลโนเบล ในทุกๆปี(ยกเว้นสาขาสันติภาพที่มีขึ้นในออสโล นอร์เวย์)ตัวตึกที่ก่อสร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8ล้านก้อน และตกแต่งผนังใน Golden Hall หรือห้องเต้นรำที่มีลวดลายฝังหินโมเสกกว่า 19ล้านชิ้น ขัดผิวหน้าเรียบแล้วเคลือบด้วยทอง ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิก Ragner Ostberg และศิลปินชั้นนำในเวลานั้น
เรือซิลเลียไลน์ (silja line) เป็นเรือสำราญหรูหราเหมือนโรงแรม และได้ชื่อว่าเป็นเรือที่สวยงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย เส้นทางจากนอร์เวย์เดินทางข้ามทะเลบอลติคสู่กรุง ภัตตาคาร ไนต์คลับ ซาวน่า คาสิโน ห้องชมภาพยนตร์ ห้องเล่นเกมของเด็ก และร้านค้าปลอดภาษี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามยามเรือถอนสมอ
เมืองเฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ เฮลซิงกิได้รับฉายาว่าเป็น “ธิดาแห่งทะเลบอลติก” เนื่องจากความงดงามและโดดเด่นของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันได้รับอิทธิพลจากทั้งทางฝั่งยุโรปและรัสเซีย เมืองเฮลซิงกิถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1550 โดยกษัตริย์กุสตาฟ วาชา แห่งสวีเดน ต่อมาในสมัยที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เฮลซิงกิได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นเมืองหลวงของฟินแลนด์แทนที่เมืองตรูกู เฮลซิงกิจึงมีความโดดเด่นท่ามกลางหมู่เกาะมากมายในทะเลบอลติก
มาร์เก็ตสแควร์ (Market Square) อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวของเมืองเฮลซิงกิ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเที่ยวชมกัน เพราะเป็นตลาดนัดที่มีชื่อเสียงใจกลางเมือง เป็นแหล่งขายของมากมาย ที่นำเอาสิ่งของหลากหลายชนิดมาตั้งขายกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารนานาชนิด พวกผักผลไม้หลากหลายประเภท มีปลาแซลมอนขาย แม้กระทั่งหนังกวางเรนเดียร์ก็มีให้เลือกซื้อหากันได้ รวมถึงสินค้าพวกงานฝีมือสวยๆของที่ระลึกต่างๆ ที่นี่..ยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิ ทำเนียบประธานาธิบดี ศาลากลางและโบสถ์
จตุรัสซีเนเตอร์ หรือ เซเนทสแควร์ (Senate Square) รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญๆ ที่สร้างในยุคที่อยู่ใต้การปกครองของรัสเซีย จตุรัสกลางเมืองแห่งนี้เป็นที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ ๆ สำคัญของเมือง มีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ โดยใจกลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า
สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในกิจกรรมที่มีชื่อว่า "Journey through the Ice" ผจญภัยในทะเลน้ำแข็งโดยเรือตัดน้ำแข็ง Sampo Icebreaker มีนนกว่า3,500ตัน พร้อมชมทัศนียภาพของทะเลน้ำแข็งที่กว้างไกลสุดสายตา ถือเป็นกิจกรรมแห่งความเป็นที่สุด ณ ดินแดนใกล้ขั้วโลกเหนือ เชิญสัมผัสประสบการณ์ที่พิเศษสุดด้วยการลงไปลอยตัวในทะเลน้ำแข็งซึ่งมีเพียงช่วงฤดูหนาวนี้เท่านั้น สำหรับการล่องเรือไปตัดน้ำแข็งนี้ได้ต้องขึ้นกับสภาพอากาศแลและปริมาณความหนาของน้ำแข็งที่เหมาะสมเท่านั้น
ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ (Husky Farm) มาชมความน่ารักของสุนัขแสนรู้ 'ฮัสกี้' สุนัขพื้นเมืองเฉลียวฉลาดและแข็งแรง ที่อาศัยในเขตหนาวที่มีมายาวนานกว่า 3,000ปี มาแล้ว ชาวแลปป์เลี้ยงไว้ใช้งานในเขตหนาวของประเทศฟินแลนด์ เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ในฟาร์มสุนัขนี้มีบริการให้นั่งรถเทียมสุนัขลากเลื่อน เราสามารถลองสัมผัสประสบการณ์ด้วยการขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เมืองโรวาเนียมิ หรือ เมืองแห่งซานตาคลอส (Rovaniemi) ตั้งอยู่บริเวณเส้นอาร์คติค เซอเคิล เป็นเมืองหลวงของดินแดนแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ อยู่ใจกลางพื้นที่ป่าของแลปแลนด์นี้ ซึ่งมีแม่น้ำ 2 สายที่ไหลผ่านใจกลางเมือง คือ แม่น้ำ Kemijoki และแม่น้ำ Ounasjoki เนื่องจากแลปแลนด์ได้ชื่อว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของซานตาคลอส ชายแก่หนวดขาวที่แสนใจดี ที่นั่งรถเลื่อนที่ลากด้วยกวางเรนเดียร์มาแจกของขวัญวันคริสต์มาสให้แก่เด็ก ๆ สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่นี่ จึงมีความเกี่ยวเนื่องถึงซานตาคลอส
หมู่บ้านซานต้า โรวาเนีย (Santa Claus Village) 'บ้านซานตาคลอสแห่งขั้วโลกเหนือ' ดินแดนแห่งความสุขแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้เด็ก ๆ ทั่วโลกมีโอกาสมาเยี่ยมซานต้า ที่นี่ตั้งอยู่ในเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจำลองพาดผ่าน เมื่อใครเดินก้าวข้ามเส้นนี้ เสมือนการก้าวเข้าสู่วงกลมอาร์กติกอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้มีออฟฟิศของซานต้า ที่ทำการไปรษณีย์ของซานต้า ร้านขายของขวัญ งานหัตถกรรม และของที่ระลึกต่าง ๆ เราสามารถมาถ่ายรูปกับซานต้าคลอสตัวจริง หรือส่งโปสการ์ดและของขวัญไปยังคนที่รักและคิดถึง
หมู่บ้านอิกลูแคคสลอตทาเนน (Igloo Village Kakslauttanen) ตั้งอยู่เหนือเส้นเขตขั้วโลกเหนือ เขตแลปแลนด์ (Lapland) ของประเทศฟินแลนด์ โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ และยังมีวิวทิวทัศน์ให้ชื่นชมความสวยงามของป่าเขา ท่ามกลางหิมะขาวโพรนที่ท่านจะต้องประทับใจไม่มีวันลืม สำหรับหมู่บ้านเรือนกระจกแห่งนี้ สร้างด้วยกระจกนำความร้อนแบบพิเศษ ซึ่งจะทำให้ระดับอุณหภูมิภายในห้องอบอุ่นตลอด
หมู่บ้านเรือนกระจก (Glass Igloos) ซึ่งได้ถูกออกแบบพิเศษ ผลิตจากกระจกนำความร้อนแบบพิเศษ มีการปรับอุณหภูมิภายในห้องอบอุ่นตลอดเพื่อให้ป้องกันหิมะเกาะเป็นน้ำแข็ง และไม่ให้บดบังทัศนียภาพความงามด้านนอกห้อง เพื่อให้ท่านได้ชมวิวภายนอกอย่างชัดเจน และไม่ควรพลาดกับประสบการณ์การเข้าพักในช่วงฤดูหนาว ในวันที่ท้องฟ้าเปิดท่านจะได้นอนบนเตียงแสนอุ่นพร้อมชมวิวแสงเหนือสุดสวยที่รอคอยทุกท่านในค่ำคืนฤดูหนาว
นั่งสโนว์โมบิล (Snowmobile) มานั่งพาหนะที่คล่องตัวและปลอดภัยในการเดินทางตะลุยบนหิมะหรือน้ำแข็ง โดยลัดเลาะจากตัวเมืองท่องไปบนทุ่งน้ำแข็งกว้าง สัมผัสกิจกรรมสนุก ๆ ที่ชาวแลปป์ในปัจจุบันมักใช้ในฤดูหนาว ได้ตื่นเต้นกับการขับสโนว์โมบิลไปบนแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง สนุกสุด ๆ จนลืมหนาวกันไปเลย
เมืองคาราสจ๊อก เป็นชุมชนสำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาวแลปป์ หรือชาวซามิ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองที่อยู่ในแถบนี้มานานนับศตวรรษ และมีหลายชนเผ่า ในบริเวณทางเหนือเส้นอาร์คติกในเขตประเทศนอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ และรัสเซีย
แหลมนอร์ธเคปป์ เป็นจุดที่มีหน้าผาสูงสุดของทวีปยุโรป สูงถึง 307 เมตร สู่ทะเลอาร์กติก ทะเลแห่งขั้วโลกเหนือ หากโชคดี อาจได้ชมความงดงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่ชัดเจนสุด ซึ่งในบางครั้งไม่เยือนไม่สามารถมองเห็นได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจนั่นเอง ที่นี่..เป็นจุดชมมิดไนท์ซัน หรือ พระอาทิตย์เที่ยงคืนได้สะดวกที่สุดในนอรเวย์ที่โด่งดังที่สุดของยุโรป ได้ชื่อว่าเป็นแดนสวรรค์แห่งขั้วโลกเหนือ
พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง (The Viking Ship Museum) สถานที่จัดแสดงเรือไวกิ้งโบราณไว้ทั้งหมด 3 ลำ โดยมีการขุดพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1867 ถึงปี ค.ศ.1903 ประมาณ 150 ปี และมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นเรือที่แตกต่างยุคกันไป โดยลำแรกมีชื่อว่า “The Oseberg Ship” เรือที่สร้างด้วยไม้โอ๊กและมีขนาดความยาวถึง 22 เมตร มีส่วนกว้างของลำเรือ 5 เมตร เรือลำที่ 2 “The Gokstad Ship” ซึ่งยาวกว่าลำแรกเพราะวัดความยาวได้ 23 เมตรในขณะที่มีความกว้างเท่ากัน สร้างขึ้นในปี 900 พร้อมกับเรือที่พบเป็นลำที่ 3 “The Tune Ship”
พิพิธภัณฑ์คอนติกิ ซึ่งสร้างสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ความฝันและงานศึกษาค้นคว้าของนักสำรวจชาวนอร์เวย์ในตำนานอย่างธอร์ เฮเยอร์ดัห์ล เขาล่องเรือข้ามมหาสมุทรด้วยเรือโบราณเพื่อพิสูจน์ว่ามนุษย์สามารถเดินทางจากทวีปหนึ่งไปยังอีกทวีปหนึ่งได้ในสมัยโบราณก่อตั้งโดยนักสำรวจที่ชื่อธอร์ เฮเยอร์ดัห์ลแห่งนี้จัดแสดงเรือที่สร้างขึ้นเองซึ่งพาเขาเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ข้ามมหาสมุทร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรบีกดอย เดินทางจากใจกลางเมืองออสโลด้วยรถโดยสารประจำทางหมายเลข 30 ไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ ในช่วงฤดูร้อ
อุทยานฟร็อกเนอร์ หรือ สวนฟร็อกเนอร์ ตั้งอยู่ย่านถนนคนเดิน คาร์ล โจฮัน เกท กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นสวนที่ใหญ่สุดในกรุงออสโล สวนนี้เป็นที่ตั้งแสดงผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ "กุสตาฟ วิกเกแลนด์" จำนวนกว่า 212 ผลงาน ใช้เวลาสร้างถึง 22 ปี ในการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด กลางแจ้ง ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ สวนนี้ยังมีสะพาน น้ำพุ สระน้ำ สนามกีฬา และพื้นที่จัดกิจกรรมปิคนิค-อาบแดด-เล่นเกมส์ และผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อน
ย่านถนนคนเดินคาร์ลโจฮันเกท (Karl Johangen Gate) เป็นแหล่ง Shopping ที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์ สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม สินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าประเทศนอร์เวย์จะมีสินค้าที่แพง แต่ก็ยังมีช่วงลดราคาสินค้า คือ ปีละ 2 ครั้ง ได้แก่ ช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ และ ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553