หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองแองเกลเบิร์ก เมืองเล็กๆ บนเขาสูง อยู่ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ จุดสูงสุดในพรมแดนของเมืองเป็นยอดเขาทิตลิส ซึ่งยอดเขาทิตลิสมีความสูง 3,238 เมตร บ้านบนภูเขาของแองเกลเบิร์กและลานธารน้ำแข็งซึ่งสามารถเดินทางโดยการขึ้นกระเช้า Rotair เมืองนี้มีโรงงานเนยแข็ง,รีสอร์ทที่เหมาะสำหรับการเล่นสกี,มีการจัดเทศกาลดนตรีพื้นบ้าน,มีกิจกรรมอย่างหนึ่งเป็นที่นิยมคือการขี่จักรยานเสือภูเขา และมีร้านอาหารและบ้านบนเนินเขาไปตามทาง
ยอดเขาทิตลิส (Mount Titlis) ยอดเขาชื่อดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงถึง 3,020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิสนั้น ต้องต่อกระเช้าหลายสถานี ก่อนถึงยอดเขาเป็นกระเช้าที่พื้นสามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของเทือกเขาได้รอบทิศทาง สัมผัสกับกระเช้าไฟฟ้าที่หมุนรอบตัวเองไปด้วยในขณะที่เคลื่อนที่ และพบกับทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ในแบบ 360 องศา หากไม่ชอบให้ยืนอยู่บริเวณตรงกลางของกระเช้าที่พื้นไม่ได้หมุน
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
ซูริค (Zurich) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีภูมิประเทศที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำและทะเลสาบ รวมทั้งสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมเช่น โบสถ์เก่าแก่ และ พิพิธภัณท์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมือง และยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster) โบสถ์เก่าแก่แห่งเมืองซูริค ที่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 9 ขึ้นชื่อเรื่องงานกระจกสี (Stain Glass) อันสวยงามโดดเด่น ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินเลื่องชื่อในอดีต มาร์ค ชากัลล์ (Marc Chagall) และออร์แกนโบราณขนาดมหึมาภายในโบสถ์ ข้อสำคัญสำหรับการไปเข้าชมคือ โบสถ์แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน แต่สามารถซื้อโปสการ์ดที่ระลึกได้ และยังเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ของเมืองซูริคอีกด้วย เพื่อนๆ จะเห็น โบสถ์หลังคาสีฟ้า เด่นมาแต่ไกล โบสถ์แห่งนี้ อยู่ใกล้ย่านการค้าที่สำคัญของซูริคอีกด้วย
ถนนออกัสตินเนอร์กาส (Augustinergasse) ถนนเก่าแก่สายเล็ก ๆ ของเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากช่างฝีมือในยุคกลาง ไฮไลต์การท่องเที่ยวคือการไปชมความงดงามของเหล่าหน้าต่างไม้แกะสลักตามอาคารต่าง ๆ บนถนนแห่งนี้
ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) ถนนย่านการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นถนนสายช็อปปิ้งหลักของเมืองซูริค ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายตลอดสองฝั่ง โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนมดังระดับโลกที่มารวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้จนขึ้นชื่อว่าเป็น “ถนนช็อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”
หรือ เมืองซอฟฮาวเซ่น ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เป็นเมืองสวยงาม ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนเยอรมัน ชมเมืองที่ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค เที่ยวชมและสัมผัสความงามของ น้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ
น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป อยู่ทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเมืองซอฟฮาวเซ่น เป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินสวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตก เชิญชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ ที่นี่ มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถชมน้ำตกและสัมผัสละอองน้ำตกที่กระเซ็นได้อย่างใกล้ชิด
เมืองชตุทการ์ท (Stuttgart) เมืองใหญ่เป็นอันดับหก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี เป็นเมืองหลวงของรัฐบาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก อีกทั้งยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนมากเป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ทำให้เมืองแห่งนี้ กลายเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำระดับโลก อย่างเช่น พอร์เช่ ฮิวเล็ต-แพคการ์ด และไอบีเอ็ม และเมืองสตุทการ์ทยังมีชื่อเสียง ในเรื่องของเมืองที่มีธรรมชาติอันงดงาม ซึ่งในเมืองเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ที่แต่งแต้มด้วยสีสันของบ้านเรือน และดอกไม้นานาพันธุ์
เมืองโรเธนบวร์ก เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมือง เป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนี และศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์, โค, กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ค.ศ.1274 ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ ของเส้นทางสายโรแมนติกของเยอรมนี มีจัตุรัสใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของอาคารเทศบาลเมือง และโบสถ์เซนต์จาคอบ
เมืองเวิร์ซบวร์ก (Wurzburg) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เมืองนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นเนินเขาฝั่งแม่น้ำไมน์ที่สวยงาม และมีความมั่งคั่งทางประวัติศาสตร์ ที่ทิ้งร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้เห็นได้อย่างชัดเจน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับคนรักไวน์ อีกทั้งยังมีโบสถ์และป้อมปราการที่เก่าแก่ในเยอรมนีด้วย
พระราชวังวืสบวร์ก (WURZBURG RESIDENZ) สร้างขึ้นในปีค.ศ 1720 – 1744 เป็นพระราชวังสไตล์เยอรมันบาร็อคตอนใต้ ที่ติดอันดับพระราชวังที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป และปัจจุบันได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็น มรดกโลก
เมืองนูเรมเบิร์ก เป็นเมืองใหญ่อันดับ2ของแคว้นบาวาเรีย มีประชากรประมาณ 5แสนคน เป็นเมืองโบราณที่ยังคงมีกำแพงเมืองที่มีความยาวระดับ 5กม.ล้อมรอบตัวเมืองและมีหอคอยหรือป้อมต่างๆอยู่ถึง 80 ป้อมด้วยกันซึ่งมีอายุมากว่า 500 ปีสร้างในช่วง ศตวรรษที่16 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้เป็นศูนย์ประชุมหลักของพรรคนาซี และในอดีต ปี คศ.1050 ยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ เป็นอดีตเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์แห่งชาติเยอรมัน มีร่องรอยของอาคาร ทางเดินแบบชาวโรมัน
จัตุรัสกลางใจเมืองนูเรมเบิร์ก มีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้านตะวันออกของตลาดมี โบสถ์พระแม่มาเรีย (FRAUENKIRCHE) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปีค.ศ 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึง “พระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356” ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
โบสถ์เฟราเอนเคียร์เช หลังคาทรงหัวหอมในสถาปัตยกรรมแบบโกธิค อันเป็นสัญลักษณ์ของมิวนิค ที่ร่องรอยของการทำลายล้างสมัยสงครามโลกที่กำลังได้รับการบูรณะอย่างเร่งด่วน บริเวณนี้คือฐานรากของเมืองที่วางไว้ตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 11 จนถึงยุคของพระเจ้าออกัสตัสผู้แข็งแกร่ง ทรงโปรดให้สร้างเมืองในสไตล์แบบบาร็อคขึ้นเซมเพอร์โอเปร่าที่เมืองนี้มีความโดดเด่นอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งด้านสถาปัตยกรรมและดนตรี
เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากที่มีความน่ารักของเขตเมืองเก่า ที่ได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดี มีศาลาว่าการเมืองเก่าที่สร้างคร่อมแม่น้ำ เพื่อความสะดวกในการเก็บค่าภาษีผ่านแดน มีอาคารบ้านเรือนงดงามด้วยสีสันอ่อนหวานราวกับลูกกวาด ปัจจุบัน เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่คึกคักด้วยนักศึกษาในคณะต่าง ๆ
โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีความสำคัญคือเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่งบัมแบร์ก สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ สร้างครั้งแรกในปีค.ศ.1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่สอง ต่อมาถูกเพลิงไหม้ไปบางส่วนในปีค.ศ.1081 มหาวิหารใหม่สร้างโดยนักบุญออตโตแห่งแบมแบร์ก และได้รับการสถาปนาอีกครั้งในปีค.ศ.1111
เมืองคาร์โลวี วารี ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์และมีแม่น้ำเทปลาได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสปาที่ใหญ่ที่สุดของเช็กตามตำนานบอกว่าพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ทรงพบแหล่งน้ำแร่ที่เมืองนี้ในปีค.ศ. 1358 เมื่อครั้งเสด็จฯ ออกล่าสัตว์แล้วสุนัขล่าเนื้อตัวหนึ่งตกลงไปในบ่อน้ำพุร้อน นับแต่นั้นเมืองนี้ก็มีชื่อเสียงของบ่อน้ำแร่ที่ใช้สำหรับรักษาร่างกายและบำบัดโรคร้ายต่างๆ เป็นต้นมาจนถึงเดี๋ยวนี้ เป็นทั้งเมืองมีน้ำพุร้อนและน้ำแร่อุณหภูมิตั้งแต่ 42-72 องศาเซลเซียส ทั้งหมด 12 แห่ง
"ปราก" (Prague) เมืองสุดสวยและแสนโรแมนติกจนเป็นที่นิยมของคู่รักและนักเดินทางทั่วโลก ปรากเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันหลากหลายสไตล์ ทั้งโรมันเนสก์ โกธิค เรเนซองส บารอค และองค์การยูเนสโกได้เลือกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมในปี 1992 เชิญเที่ยวชมสถานสำคัญ ๆ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามต่าง ๆ ในทุกยุคสมัย เช่น จัตุรัสฮราดคานีย์ ปราสาทแห่งกรุงปราก มหาวิหารเซนต์วิตัส สะพานชาร์ล และอีกหลากหลายสถานที่ที่น่าไปเที่ยวชมให้ได้เมื่อมาเยือน "ปราก"
ย่านจัตุรัสเมืองเก่า ปราก (Prague Old Town Square) ตั้งอยู่บริเวณเขตเมืองเก่าของกรุงปราก ซึ่งอยู่ใกล้กับจตุรัสเวนเซลัส และสะพานชาร์ลส จัตุรัสนี้ถือเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของกรุงปราก เคยเป็นตลาดค้าขายตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 12 โดยบ้านเรือนล้อมรอบจตุรัสที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี และอาคารบ้านเรือนเหล่านั้นก็มีรูปแบบศิลปะทั้งสไตล์โรมาเนสก์ บารอค และกอธิค เช่น วิหารทิน โบสถ์เซนต์นิโกลาส เป็นต้น
จัตุรัสเมืองเก่าสตาเรเมสโต (Stara Mesto Square) ในพื้นที่กว่า 8 ตร.กม. เป็นศูนย์กลางของนักท่องเที่ยวที่มา ?เที่ยวกรุงปราก? โดยผู้คนในเมืองปรากมักจะใช้สถานที่แห่งนี้ในการนัดพบปะสังสรรค์กันที่มีความงดงามโดดเด่นจน ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้ป็นมรดกโลก จัตุรัสเมืองเก่าแห่งนี้ดูเผินๆอาจคล้ายกับฉากถ่ายหนัง เพราะที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยวิหารและอาคารเก่าแก่อายุกว่า 600-700 ปี
นาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสเมืองเก่า ซึ่งจะแสดงวิถีการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ด้านล่างของนาฬิกาดาราศาสตร์จะมีหน้าปัดแสดงเดือนในปัจจุบัน และด้านบนสุดมีรูปปั้นสาวกของพระเยซู โดยเป็นหอนาฬิกาโบราณที่ยังใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน มีอาคารเทศบาลเมืองที่สร้างเมื่อปี ค.ศ.1338 ที่ทุกๆ ต้นชั่วโมงนาฬิกาจะตีบอกเวลา และมีหุ่นสาวกของพระคริสต์ออกมาจากช่องหน้าต่างเล็กๆ ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี และยังมีซื้อเครื่องแก้วโบฮีเมียโมเซอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกให้เลือกซื้อชม
ปราสาทปราก (Prague Castle) ปราสาทใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นในปี 885 โดยเจ้าชายบริโวจเคยเป็นปราสาทของกษัตริย์แห่งเช็กในอดีต ปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งปราสาทปรากถือเป็นเสมือนสัญลักษณ์ และเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศ ปาสาทได้รับการบูรณะในสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่ 4 ในสไตล์แบบกอธิค ได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊กว่า เป็นปราสาทโบราณใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวประมาณ 570 เมตร และความกว้างประมาณ 130 เมตร
มหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) ตั้งอยู่ในปราสาทปราก (Prague Castle) ในเขต Castle District ทางด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำ Vltava จากใจกลางเมืองปราก สาธารณรัฐเชค มหาวิหารนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบกอธิค ที่สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-16 และเป็นรูปแบบสถาปัตย์ ที่ช่วยให้สถาปนิกบรรลุวัตถุประสงค์เชิงศรัทธาทางศาสนา ซึ่งเป็นตัวอย่างของมหาวิหารแบบกอธิคที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะ “การเพิ่มพื้นที่ว่างอันศักดิ์สิทธิ์” ได้อย่างชัดเจน
สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับเเลนด์มาร์คอีกเเห่งหนึ่งของกรุงปราก ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็กที่ตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออก ตัวสะพานนั้นจะทอดยาวข้ามเเม่น้ำวิตาร่า เพื่อเชื่อมพื้นที่ทั้งสองฝั่งของกรุงปราก ซึ่งนั่นก็คือ Lesser Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตก และ Old Town ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเเม่น้ำ เข้าด้วยกัน
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553