หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินนานาชาติมิลาโนมัลเปนซา หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติมิลาโนมัลเปนซา (Milan Malpensa Airport) ตัวย่อสนามบิน: MXP นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า “สนามบินมิลาน” เป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศสาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic) ให้บริการครอบคลุมพื้นที่เมืองมิลาน (Milan) และแคว้นลอมบาร์เดีย (Lombardy)
มหาวิหารแห่งมิลาน (Milan Cathedral) เป็นมหาวิหารที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของมิเมือง ซึ่งวิหารตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีระดับความสูง 108.5 เมตรจากพื้นดิน และถูกรายล้อมด้วยยอดแหลมประมาณ 135 ยอดบนหลังคาทำให้มหาวิหารดูสง่า สวยงามแปลกตา
แกลลอเรียวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ลที่ 2 เป็นอาคารศูนย์การค้าและห้างเก่าแก่และสง่างามที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เป็นศูนย์รวมสินค้าแบรนด์เนมที่ทันสมัย มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองท้า และนาฬิกา แบรนด์เนมชื่อดังมากมาย อาทิ หลุยส์ วิตตอง,พราด้า,เฟอรากาโม่,อาร์มานี่,เวอร์ซาเช่ หรือ เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อิสระให้สำรวจสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของอิตาลีตามอัธยาศัย
เมืองลูกาโน..เมืองสงบเงียบอยู่ภาคใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ในเขตรัฐทีชีโน ติดกับทางเหนือของอิตาลีและใต้สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาปใหญ่ ล้อมรอบด้วยภูเขาจำนวนมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น ทะเลสาบน้ำแข็งตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของสวิตเซอร์แลนด์-อิตาลี,ย่านเมืองเก่าอยู่ใจกลางเมืองที่มีลักษณะเป็นจัตุรัสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนและเป็นที่ตั้งของย่านการค้า,ทะเลสาบลูกาโนที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขามีวิวทิวทัศน์สวยงาม,มหาวิหารประจำเมืองลูกาโนและโบสถ์ซานตามาเรียเดกลีอันกีโอลี สัญลักษณ์ประจำเมือง
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ฉายา Top of Europe และ ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 โดยมีสถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ด้านบน
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของยอดเขาจุงเฟรา เป็นอุโมงค์น้ำแข็งที่ มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชม ถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
สวนหมี หรือ บ่อหมี Barengraben (บาเรนกราเบิน) สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเบิร์น ซึ่งสวนหมีแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองว่ามีต้นกำเนิดมาจากหมี ภายในจะมีหมีอยู่ จะมีทั้งในบ่อปูน และริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน ที่มีตาข่ายป้องกันอยู่
มาร์กาสเซ (Marktgasse) เป็นย่านเมืองเก่าที่ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค และเป็นย่านที่ไม่ค่อยจะมีรถยนต์สัญจรไปมาบ่อย ๆ ย่านนี้จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุหลายร้อยปี
ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse Road) เป็นถนนในเมืองเก่าของเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ
ถนนกรัมกาสเซ ถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณเป็นย่านปลอดรถยนต์เหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าที่มีอายุ 200-300ปี
นาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม (Zytgloggeturm) หอนาฬิกานี้มีอายุ 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุก ๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ในช่วงปี ค.ศ. 1191-1256 ได้นำมาใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก ภายหลังได้ดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมให้กลายมาเป็นหอนาฬิกา พร้อมกับติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์เข้าไปด้วย
เมืองโลซานน์ (Lausanne) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา มีทิวทัศน์สวยงามธรรมชาติ อากาศปราศจากมลพิษ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศต. 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ แต่เพื่อความปลอดภัยชาวเมืองจึงย้ายไปอยู่บนเนินเขารอบๆ ทะเลสาบ
ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) หรือ ทะเลสาบเลอม็อง (Lac Leman) ได้รับสมญานามว่าเป็น ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลมอง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์และมีบางส่วนอยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส จึงมีชื่อเรียกภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลอม็อง มีพื้นที่ 582 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลางรองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญคือเมืองเจนีวาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
นาฬิกาดอกไม้เจนีวา (The Flower Clock) นาฬิกาดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของเจนีวา ตั้งอยู่ในเขตสวนอิงลิชการ์เดน ดอกไม้รอบ ๆ ก็จะเปลี่ยนแบบไปเรื่อย ๆ ตามเทศกาลและฤดูกาล มีชนิด 2 เข็ม และ 3 เข็ม และหน้าปัดนาฬิกามีความชันได้ ไม่จำกัดองศา สามารถใช้กระแสไฟฟ้าหรือพลังงานแสงอาทิตย์ได้ ถึงไฟฟ้าจะดับก็ยังสามารถใช้งานได้ นาฬิกาดอกไม้นี้ที่สวนอังกฤษ บ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาที่มีต่อเจนีวา นาฬิกาดอกไม้เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความมีชื่อเสียงของเมืองเจนีวา ในเรื่องของอุตสาหกรรมนาฬิกานั่นเอง
ปราสาทซิลยอง แห่งมองเทรอซ์ เป็นปราสาทแห่งตระกูลซาวอย อายุเก่าแก่กว่า 1000 ปี สไตล์โกธิกที่มองดูแล้วเหมือนอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาปราสาทซิลยอง เนื่องด้วยเป็นปราสาทแห่งความภูมิใจของชาวสวิส แม้ไม่ใหญ่โตโอฬารเท่าปราสาทอื่นๆ ของยุโรป แต่โบรชัวร์แผ่นพับการท่องเที่ยวของสวิสมักมีปราสาทซิลยองเป็นโลโก้ประจำ ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ถัดจากกำแพงสูงตระหง่านเข้าไปจะเป็นลานปราสาท ที่พัก และที่สำคัญเป็นคุกสำหรับขังนักโทษ
เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ บริเวณเชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดมลพิษ ทางเมืองไม่อนุญาตให้มีรถยนต์แล่นในบริวเวณมือง (Car-Free Zone) ฉะนั้นเพื่อนๆ นักเดินทางคนไหนจะไปเที่ยวเมืองเซอร์แมตส์ ต้องเดินทางเข้าไปโดยรถไฟเท่านั้น
แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) แซร์แว็ง หรือ แชร์วีโน ยอดเขาสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ มีความสูงถึง 4,478 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาสูงมียอดแหลมทรงคล้ายพีระมิด และมีหิมะปกคลุมทั้งปี ยอดเขาแห่งนี้เป็นอีกจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยียมชม และด้วยความงามแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์ยอดเขานี้ ทำให้บริษัทชื่อดังระดับโลกใช้ยอดเขานี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลโก้ เช่น พาราเมาท์พิคเจอรส์ (Paramount Pictures) และ ช็อคโกแลตทรูเบอร์โลน (Toblerone)
เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ บริเวณเชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดมลพิษ ทางเมืองไม่อนุญาตให้มีรถยนต์แล่นในบริวเวณมือง (Car-Free Zone) ฉะนั้นเพื่อนๆ นักเดินทางคนไหนจะไปเที่ยวเมืองเซอร์แมตส์ ต้องเดินทางเข้าไปโดยรถไฟเท่านั้น
กลาเซีย เอกเพรส..รถไฟที่ผ่านเส้นทางที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในสวิสเซอร์แลนด์คือ Glacier Express นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาจากต่างประเทศมักจะท่องเที่ยว โดยจะมีชั้นบริการ 2 ชั้น ซึ่งความแตกต่างของ 1st class กับ 2ns class ก็อยู่ที่ความสะบายของที่นั่ง โดยเฉพาะขนาดกระจกของ 1st class จะมีขนาดใหญ่กว่ามากทำให้เห็นทิวทัศน์ได้ชัดเจน นอกจากนั้นยังมีกระจกด้านบนเป็นแบบ Panorama ด้วย
ซูริค (Zurich) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีภูมิประเทศที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำและทะเลสาบ รวมทั้งสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมเช่น โบสถ์เก่าแก่ และ พิพิธภัณท์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมืองซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมือง และยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster) โบสถ์เก่าแก่แห่งเมืองซูริค ที่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 9 ขึ้นชื่อเรื่องงานกระจกสี (Stain Glass) อันสวยงามโดดเด่น ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินเลื่องชื่อในอดีต มาร์ค ชากัลล์ (Marc Chagall) และออร์แกนโบราณขนาดมหึมาภายในโบสถ์ ข้อสำคัญสำหรับการไปเข้าชมคือ โบสถ์แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน แต่สามารถซื้อโปสการ์ดที่ระลึกได้ และยังเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ ของเมืองซูริคอีกด้วย เพื่อนๆ จะเห็น โบสถ์หลังคาสีฟ้า เด่นมาแต่ไกล โบสถ์แห่งนี้ อยู่ใกล้ย่านการค้าที่สำคัญของซูริคอีกด้วย
ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) ถนนย่านการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นถนนสายช็อปปิ้งหลักของเมืองซูริค ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายตลอดสองฝั่ง โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนมดังระดับโลกที่มารวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้จนขึ้นชื่อว่าเป็น “ถนนช็อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”
ถนนออกัสตินเนอร์กาส (Augustinergasse) ถนนเก่าแก่สายเล็ก ๆ ของเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ตลอดสองข้างทางเป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากช่างฝีมือในยุคกลาง ไฮไลต์การท่องเที่ยวคือการไปชมความงดงามของเหล่าหน้าต่างไม้แกะสลักตามอาคารต่าง ๆ บนถนนแห่งนี้
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Church) ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาลินเดนฮอฟ (Lindenhof Hill) ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของปราสาทเก่าสไตล์โรมัน เป็นโบสถ์ที่เก่แก่ที่สุดในเมือง ซูริค สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นครั้งแรกราวคริสต์ศตวรรษที่ 8 - 9 และมีการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 ต่อมาได้มีการสร้างตัวโบสถ์ขึ้นใหม่อีกครั้งในยุคศตวรรษที่ 17 โบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้น ถือเป็นหนึ่งในสี่โบสถ์สำคัญที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซูริก (Altstadt) ซึ่งอีกสามแห่ง ได้แก่ Grossmünster, Fraumünster และ Predigerkirche โบสถ์เซนต์ปีเตอร์นั้นโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และยังมีหน้าปัดนาฬิกาขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 8.7 เมตร ซึ่งถูกนำมาติดตั้งไว้ด้านบนหอคอยของโบสถ์เมื่อปี พ.ศ. 2423 จนกระทั่งปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่สำคัญประจำเมืองซูริคก็ว่าได้
ลินเดนฮอฟ (Lindenhof) ย่านเก่าเเก่ใจกลางเมืองซูริค นักท่องเที่ยวและชาวเมืองนิยมมาชมวิว โดยเพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของยุคกลางที่มีความวินเทจด้วยถนนที่เป็นหินเเละมีตรอกซอกซอยมากมาย สองข้างทางจะเป็นบ้านเรือนในเเบบยุคกลางที่มีกลิ่นอายของความเป็นโรมันอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ยิ่งทำให้ย่านเเห่งนี้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่าประทับใจในการไปเยือนอย่างมากเลยทีเดียว
น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป อยู่ทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเมืองซอฟฮาวเซ่น เป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินสวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตก เชิญชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ ที่นี่ มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถชมน้ำตกและสัมผัสละอองน้ำตกที่กระเซ็นได้อย่างใกล้ชิด
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553