หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
หรือ เมืองซอฟฮาวเซ่น ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เป็นเมืองสวยงาม ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอยู่บริเวณชายแดนเยอรมัน ชมเมืองที่ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค เที่ยวชมและสัมผัสความงามของ น้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่และสวยที่สุดในยุโรป พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ
น้ำตกไรน์ เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป อยู่ทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเมืองซอฟฮาวเซ่น เป็นน้ำตกที่เกิดจากแม่น้ำไรน์ไหลผ่าน ไม่เพียงความใหญ่อลังการ แต่ยังมีเสน่ห์ด้วยสิ่งรายล้อม เหนือน้ำตกมีโขดหินสวยงาม รวมถึงทัศนียภาพริมน้ำตก เชิญชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา สูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณ ที่นี่ มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถชมน้ำตกและสัมผัสละอองน้ำตกที่กระเซ็นได้อย่างใกล้ชิด
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
สวนหมี หรือ บ่อหมี Barengraben (บาเรนกราเบิน) สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเบิร์น ซึ่งสวนหมีแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองว่ามีต้นกำเนิดมาจากหมี ภายในจะมีหมีอยู่ จะมีทั้งในบ่อปูน และริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน ที่มีตาข่ายป้องกันอยู่
ถนนบานโฮฟซตราสเซอ (Bahnhofstrasse) ถนนย่านการค้าเก่าแก่ที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นถนนสายช็อปปิ้งหลักของเมืองซูริค ที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านค้ามากมายตลอดสองฝั่ง โดยเฉพาะร้านแบรนด์เนมดังระดับโลกที่มารวมตัวกันอยู่บนถนนเส้นนี้จนขึ้นชื่อว่าเป็น “ถนนช็อปปิ้งที่แพงที่สุดในโลก”
หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หรือ หอระฆังซิทกล็อด เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองเบิร์น เริ่มแรกที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นประตูเมืองในช่วงปี คศ. 1191-1256 ในสมัยก่อนนั้นตึกนี้ไม่ได้เป็นนาฬิกา จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1530 จึงได้มีการติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์ จากนั้นที่นี่จึงกลายเป็นหอนาฬิกาและสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมือง มีตุ๊กตา ทั้งคน สิงโต หมี ที่ติดตั้งอยู่ภายในออกมาหมุน มีไก่ออกมาขันเต้นรำไปรอบๆ เป็นจุดไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันทุกๆ ชั่วโมง
เมืองแองเกลเบิร์ก เมืองเล็กๆ บนเขาสูง อยู่ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ จุดสูงสุดในพรมแดนของเมืองเป็นยอดเขาทิตลิส ซึ่งยอดเขาทิตลิสมีความสูง 3,238 เมตร บ้านบนภูเขาของแองเกลเบิร์กและลานธารน้ำแข็งซึ่งสามารถเดินทางโดยการขึ้นกระเช้า Rotair เมืองนี้มีโรงงานเนยแข็ง,รีสอร์ทที่เหมาะสำหรับการเล่นสกี,มีการจัดเทศกาลดนตรีพื้นบ้าน,มีกิจกรรมอย่างหนึ่งเป็นที่นิยมคือการขี่จักรยานเสือภูเขา และมีร้านอาหารและบ้านบนเนินเขาไปตามทาง
ยอดเขาทิตลิส (Mount Titlis) ยอดเขาชื่อดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงถึง 3,020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิสนั้น ต้องต่อกระเช้าหลายสถานี ก่อนถึงยอดเขาเป็นกระเช้าที่พื้นสามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของเทือกเขาได้รอบทิศทาง สัมผัสกับกระเช้าไฟฟ้าที่หมุนรอบตัวเองไปด้วยในขณะที่เคลื่อนที่ และพบกับทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ในแบบ 360 องศา หากไม่ชอบให้ยืนอยู่บริเวณตรงกลางของกระเช้าที่พื้นไม่ได้หมุน
สะพานแขวนทิตลิส คลิฟ วอร์ค (Titlis Cliff Walk) ตั้งอยู่ในเมืองแองเกิลเบิร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นสะพานคนเดินตามแนวหน้าผาของภูเขาทิตลิส ในเทือกเขาแอลป์ สร้างขึ้นที่ระดับความสูงประมาณ 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสะพานแขวนระดับความสูงสูงสุดในยุโรป สามารถทนรับความแรงของลมได้ที่ความเร็วถึง 190 km/h และสามารถทนรับน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมาได้ถึง 450 ตัน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและหวาดเสียวที่สะพานแห่งนี้
ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกหนึ่งแห่ง และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เมื่อมีโอกาสมาเยือนที่นี่คือ การล่องเรือในทะเลสาบเบรียนซ์ โดยการเดินทางเริ่มต้นที่เมืองอินเทอร์ลาเคิน จากท่าเรือ Interlaken Ost ไปยังท่าเรือ Brienz โดยตลอดทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าประทับใจท่ามกลางน้ำทะเลสาบสีฟ้าใส มองไปรอบข้างจะเต็มไปด้วยวิวทิวเขาและหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
กรินเดลวาลด์ (Grindelwald) เมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงของรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนเทือกเขากรุงเบิร์น-แอลป์ (Bernese-Alps) อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,034 เมตร เมืองเล็กๆ แห่งนี้คับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวและผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก เนื่องจากกรินเดลวาลด์เป็นเมืองแห่งรีสอร์ทกีฬาฤดูหนาวและมียังหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดในยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) อีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในทวีปยุโรป ฉายา Top of Europe และ ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 2007 โดยมีสถานีรถไฟจุงเฟรายอค (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปตั้งอยู่ด้านบน
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของยอดเขาจุงเฟรา เป็นอุโมงค์น้ำแข็งที่ มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชม ถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
ธารน้ำแข็งอาเล็ทช์ (Aletsch Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่มีความงดงาม กินพื้นที่กว้างถึง 22 กม. ซึ่งยาวที่สุดในบรรดาทุ่งน้ำแข็งของเทือกเขาแอลป์ทั้งยุโรป สามารถมองเห็นได้จากบริเวณจุดชมวิวสฟิงซ์ ในวันที่อากาศปลอดโปร่ง และเห็นธารน้ำแข็งทอดยาวเป็นเวิ้งไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่ผิดไกลนักจากคำว่าสวรรค์บนดิน ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เชิญเที่ยวชมวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่ย น้ำตกทรุมเมลบาค อยู่ในภูเขาวนวนเป็นเกลียว เกิดจากธารน้ำแข็งมี10ชั้น และน้ำตก Staubbach น้ำไหลแรงและเย็นมากๆ เห็นมีฝูงแกะที่เขาเลี้ยงอยู่รอบๆ ส่วนถนนในหมู่บ้านของเมืองมีเส้นดียวขนานไปกับช่องเขา สำหรับร้านค้าต่างๆในเมืองนี้ อยู่ใกล้ๆกัน รวมถึงร้านสหกรณ์ ที่นี่ ยังเป็นจุดรวมของรถไฟหลายสาย ที่สถานี Lauterbrunnen เชิญเที่ยวชมความงามของภูเขาที่อยู่รายรอบแนวเทือกเขา Alps,หุบเขา Lauterbrunnen Valley รวมถึงยอด Jungfrau
น้ำตกชเตาบ์บาค (Staubbach Waterfall) ตั้งอยู่ในเมืองเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในที่สูงกว่า 300 เมตร ซึ่งมีทางน้ำผ่านซอกหน้าผาลงมาแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง และเบื้องล่างของน้ำตกแห่งนี้มีหมู่บ้านน่ารัก ๆ ตัดกับทิวเขาที่ล้อมโดยรอบ น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ เมื่อถึงฤดูร้อนจะมีสายลมอันอบอุ่นพัดพาสายน้ำที่กำลังตกลงสู่เบื้องล่าง จึงทำให้มีละอองน้ำกระจายไปทั่วทิศทาง ดังนั้นน้ำตกแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า น้ำตกชเตาบ์บาค ซึ่งคำว่า ชเตาบ์ (staub) แปลว่า ฝุ่นละออง นั่นเอง
ปราสาทสปีซ (Spiez Castle) สัญลักษณ์ของเมืองสปีซ ภายในเขตรัฐเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่15 รูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบโรมาเนสก์ เรอเนสซองส์ และบาโรค
เป็นทะเลสาบบริเวณเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ในรัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในอดีตทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบผืนเดียวกับทะเลสาบบรีเอินซ์ โดยมันเคยมีชื่อว่า ทะเลสาบเว็นเดิล (Wendelsee) แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ทะเลสาบเวนเดิลก็แยกออกเป็นสองทะเลสาบ คือทะเลสาบทูนกับทะเลสาบบรีเอินซ์ (Lake Brienz) โดยมีแม่น้ำอาเรเป็นแม่น้ำที่คอยเชื่อมทะเลสาบทั้งสองแทน
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
เมืองตากอากาศริมทะเลสาปเจนีวาที่มีชื่อเสียง เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ด้วยความเงียบสงบของตัวเมืองบวกกับบรรยากาศที่สุดแสนสบาย ภายในเมืองประกอบไปด้วยร้านค้าน้อยใหญ่มากมาย โรงแรม บ้านพักตากอากาศริมทะเลสาป จากนั้นยังมีกิจกรรมต่างๆเช่นเดินหรือนั่งรถรางชมเมือง ชมสวนดอกไม้ และ รูปปั้นของเฟรดดี้ เมอร์คูรี่ นักร้องวง Queen เจ้าของบทเพลง we are the Champion ด้วย
ปราสาทซิลยอง แห่งมองเทรอซ์ เป็นปราสาทแห่งตระกูลซาวอย อายุเก่าแก่กว่า 1000 ปี สไตล์โกธิกที่มองดูแล้วเหมือนอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาปราสาทซิลยอง เนื่องด้วยเป็นปราสาทแห่งความภูมิใจของชาวสวิส แม้ไม่ใหญ่โตโอฬารเท่าปราสาทอื่นๆ ของยุโรป แต่โบรชัวร์แผ่นพับการท่องเที่ยวของสวิสมักมีปราสาทซิลยองเป็นโลโก้ประจำ ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ถัดจากกำแพงสูงตระหง่านเข้าไปจะเป็นลานปราสาท ที่พัก และที่สำคัญเป็นคุกสำหรับขังนักโทษ
เมืองทาสช์ (Tasch) ตั้งอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประชากรส่วนใหญ่ในเมืองนี้จะใช้ภาษาเยอรมัน เมืองนี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,449 เมตร เป็นเมืองหนึ่งที่จะให้เราสัมผัสกับธรรมชาติบนภูเขา เขตรีสอร์ทและธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในเมืองนี้เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดี สำหรับนักท่องเที่ยวจะมาพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเพื่อสุขภาพ สัมผัสความเงียบสงบ หรือความโลดโผน
เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ บริเวณเชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) หนึ่งในยอดเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองปลอดมลพิษ ทางเมืองไม่อนุญาตให้มีรถยนต์แล่นในบริวเวณมือง (Car-Free Zone) ฉะนั้นเพื่อนๆ นักเดินทางคนไหนจะไปเที่ยวเมืองเซอร์แมตส์ ต้องเดินทางเข้าไปโดยรถไฟเท่านั้น
แมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) แซร์แว็ง หรือ แชร์วีโน ยอดเขาสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ มีความสูงถึง 4,478 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นภูเขาสูงมียอดแหลมทรงคล้ายพีระมิด และมีหิมะปกคลุมทั้งปี ยอดเขาแห่งนี้เป็นอีกจุดท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยียมชม และด้วยความงามแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์ยอดเขานี้ ทำให้บริษัทชื่อดังระดับโลกใช้ยอดเขานี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลโก้ เช่น พาราเมาท์พิคเจอรส์ (Paramount Pictures) และ ช็อคโกแลตทรูเบอร์โลน (Toblerone)
เมืองอันเดอร์แมท เป็นเมืองแสนสวยเล็กๆ น่ารักๆในหุบเขาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ และเป็นเมืองพักผ่อนของนักสกีทั่วโลก ในยามหน้าสกี ที่นี่..คราคร่ำไปด้วยนักสกีที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ หากแต่หมดฤดูสกี เมืองที่นี่จะเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง ภายในเมืองมีร้านค้า และที่พักต่างๆมากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
ทะเลสาบลูเซิร์น หรือ ทะเลสาบสี่พันธรัฐ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีความงดงามของทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขา โอบล้อมด้วยยอดเขาริกิ และยอดเขาพิลาตุส ทำให้วิวทิวทัศน์ดูงดงามยิ่งขึ้น ทะเลสาบลูเซิร์น ได้ชื่อว่าสวยสุดในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทัศนียภาพบริเวณรอบๆ ทะเลสาบลูเซิร์น เป็นอาคารบ้านเรือนแบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง ริมทะเลสาบจัดเป็นสวนสาธารณะ มีดอกไม้นานาพรรณออกดอกบานสะพรั่ง
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
เมืองซูก (Zug) เคยเป็นเขตปกครองที่มีรายได้เฉลี่ยน้อยที่สุด แต่ปัจจุบันคือเมืองที่รวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีเขตเมืองเก่าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพดั้งเดิมไว้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีวิวทะเลสาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ซูริค (Zurich) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีภูมิประเทศที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำและทะเลสาบ รวมทั้งสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมเช่น โบสถ์เก่าแก่ และ พิพิธภัณท์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
โบสถ์กรอสมุนสเตอร์ (Grossmunster Church) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คต้องห้ามพลาดของเมืองซูริค โบสถ์หอคอยคู่สูงระฟ้า เป็นโบสถ์สำคัญและเก่าแก่ของเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1100 ภายในมีงานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่สวยงาม รวมทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ที่สำคัญอีกอย่าง คือ โบสถ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาพระคัมภีร์โบราณทางคริสต์ศาสนา นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากด้านบนสุดของหอคอยได้อีกด้วย
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553