หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินนานาชาติอาบูดาบี หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) ตัวย่อสนามบิน: AUH ตั้งอยู่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากสนามบินนานาชาติดูไบ และเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
เมืองลูเซิร์น (Lucerne City) เป็นเมืองที่คุ้นเคยดีสำหรับคนไทยและชาวเอเชีย โดยเฉพาะประติมากรรมที่งดงามแกะสลักสิงโตหินบนหน้าผา หรือสะพานไม้คาเปลที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม กลายเป็นสัญลักษณ์ความงามที่แท้จริงของลูเซิร์น นอกจากนี้ การได้ล่องเรือไปตามทะเลสาบที่แลดูโรแมนติกมาก ๆ และท่องเที่ยวในเมืองเล็กสวยงามบนฝั่งทะเลสาบเวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ ที่อยากให้มาเชยชม
อนุสาวรีย์สิงโต หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน (Lion Monument) เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญและความซื่อสัตย์ในหน้าที่ของทหารองครักษ์ชาวสวิสที่ตายในหน้าที่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวลูเซิร์น อนุสาวรีย์นี้แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิสเซอร์แลนด์อยู่ ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่คศ. 1819-1821
สะพานไม้ชาเปล อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้อันเก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีอายุมากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก สร้างขึ้นเพื่อทอดตัวข้ามแม่น้ำรอยส์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบทอดข้ามแม่น้ำรอยส์ ตลอดสะพานประดับด้วยภาพเขียน ที่บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ของประเทศได้เป็นอย่างดี สะพานนี้เคยถูกไฟไหม้เสียหายมากในปี 1993 แม้บางส่วนจะถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะจนสวยงาม
ทะเลสาบลูเซิร์น หรือ ทะเลสาบสี่พันธรัฐ มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีความงดงามของทัศนียภาพอยู่ท่ามกลางหุบเขา โอบล้อมด้วยยอดเขาริกิ และยอดเขาพิลาตุส ทำให้วิวทิวทัศน์ดูงดงามยิ่งขึ้น ทะเลสาบลูเซิร์น ได้ชื่อว่าสวยสุดในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทัศนียภาพบริเวณรอบๆ ทะเลสาบลูเซิร์น เป็นอาคารบ้านเรือนแบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง ริมทะเลสาบจัดเป็นสวนสาธารณะ มีดอกไม้นานาพรรณออกดอกบานสะพรั่ง
จัตุรัสชวาเน่นท์พลัทซ์ (schwanenplatz) เป็นย่านช้อปปิ้งสินค้าขึ้นชื่อของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นานาชนิด อาทิ มีดพับสวิสฯ ช็อคโกแล็ต ของซูวีเนียร์ต่างๆ และที่ท่านไม่ควรพลาดคือ นาฬิกายี่ห้อต่างๆที่มีชื่อเสียงของสวิสเซอร์แลนด์ จากร้านตัวแทนจำหน่ายนาฬิกาชื่อดัง อาทิ บุคเคอเรอร์, กือเบอลิน, เอ็มบาสซี่ ฯลฯ
เมืองแองเกลเบิร์ก เมืองเล็กๆ บนเขาสูง อยู่ในรัฐออบวัลเดิน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ จุดสูงสุดในพรมแดนของเมืองเป็นยอดเขาทิตลิส ซึ่งยอดเขาทิตลิสมีความสูง 3,238 เมตร บ้านบนภูเขาของแองเกลเบิร์กและลานธารน้ำแข็งซึ่งสามารถเดินทางโดยการขึ้นกระเช้า Rotair เมืองนี้มีโรงงานเนยแข็ง,รีสอร์ทที่เหมาะสำหรับการเล่นสกี,มีการจัดเทศกาลดนตรีพื้นบ้าน,มีกิจกรรมอย่างหนึ่งเป็นที่นิยมคือการขี่จักรยานเสือภูเขา และมีร้านอาหารและบ้านบนเนินเขาไปตามทาง
ยอดเขาทิตลิส (Mount Titlis) ยอดเขาชื่อดังของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงถึง 3,020 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล การขึ้นสู่ยอดเขาทิตลิสนั้น ต้องต่อกระเช้าหลายสถานี ก่อนถึงยอดเขาเป็นกระเช้าที่พื้นสามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของเทือกเขาได้รอบทิศทาง สัมผัสกับกระเช้าไฟฟ้าที่หมุนรอบตัวเองไปด้วยในขณะที่เคลื่อนที่ และพบกับทัศนียภาพที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์ในแบบ 360 องศา หากไม่ชอบให้ยืนอยู่บริเวณตรงกลางของกระเช้าที่พื้นไม่ได้หมุน
ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Palace) เป็นจุดท่องเที่ยวอีกจุดของยอดเขาจุงเฟรา เป็นอุโมงค์น้ำแข็งที่ มีรูปปั้นแกะสลัก และอุโมงค์ถ้ำน้ำแข็งให้ได้เที่ยวชม ถ้ำน้ำแข็งพันปีที่ไม่มีวันละลาย เกิดจากการขุดเจาะใต้ธารน้ำแข็ง Glacier ลึกลงไป 30 เมตร ภายในจะมีผลงานศิลปะเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ตามจุดต่างๆให้เรามาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน
สะพานแขวนทิตลิส คลิฟ วอร์ค (Titlis Cliff Walk) ตั้งอยู่ในเมืองแองเกิลเบิร์ก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นสะพานคนเดินตามแนวหน้าผาของภูเขาทิตลิส ในเทือกเขาแอลป์ สร้างขึ้นที่ระดับความสูงประมาณ 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสะพานแขวนระดับความสูงสูงสุดในยุโรป สามารถทนรับความแรงของลมได้ที่ความเร็วถึง 190 km/h และสามารถทนรับน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมาได้ถึง 450 ตัน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและหวาดเสียวที่สะพานแห่งนี้
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
เมืองอินเทอร์ลาเคิน หนึ่งในเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว ถูกขนาบข้างด้วย 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งเป็นที่มาของชื่ออินเทอร์ลาเคนที่มีความหมายว่า ‘เมืองระหว่างสองทะเลสาบ เป็นเมืองที่มีทางผ่านไปสู่ยอดเขาจุงเฟรา ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ฉายา Top of Europe เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อน เพราะบรรยากาศของเมืองที่สวยงาม ธรรชาติและอากาศบริสุทธิ์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ทุ่งหญ้า ทะเลสาบและสวนผลไม้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่
ย่านถนนสายหลักของเมือง ที่อยู่ใจกลางอินเทอร์ลาเคน ตลอดระยะทางยาวกว่า 700 เมตร บริเวณรอบๆ เป็นที่ตั้งของโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายสินค้านานาชนิด ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น นาฬิกาและของที่ระลึก รวมทั้งร้านอาหาร ภัตตาคาร และตลอดสองฝั่งถนนจะได้รับการประดับตกแต่งด้วยกระถางดอกไม้ใต้หน้าต่าง เหมาะสำหรับเดินเล่นพักผ่อน ชมเมือง และช็อปปิ้งได้อย่างสบายใจ
กรุงเบิร์น (Bern | Berne) เมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเมืองโบราณเก่าแก่แสนโรแมนติก สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี 2010 อีกด้วย
สวนหมี หรือ บ่อหมี Barengraben (บาเรนกราเบิน) สัตว์สัญลักษณ์ของเมืองเบิร์น ซึ่งสวนหมีแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองว่ามีต้นกำเนิดมาจากหมี ภายในจะมีหมีอยู่ จะมีทั้งในบ่อปูน และริมฝั่งแม่น้ำอาเรอที่สูงชัน ที่มีตาข่ายป้องกันอยู่
บาห์นฮอฟพลัทซ์ (Bahnhof Platz) จัตุรัสหน้าสถานีรถไฟของเมืองที่มีทั้งรถรางและรถบัสวิ่งผ่านหลายสาย เป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งในเมืองเบิร์น บริเวณนี้คือเมืองเก่าที่เป็นแหล่งช็อปปิ้ง ที่ทอดยาวถนนที่ปูด้วยหินตั้งแต่ยุคกลาง และถนนแต่ละช่วงก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป เป็น Spitalgasse, Marketgasse, Kramgasse เป็นต้น ถนนทั้ง 2 ฝั่งจะมีตึกสูงเรียงรายอยู่ โดยส่วนใหญ่ชั้นล่างจะเป็นร้านค้า หรือที่เรียกว่า "อาร์เขต" Arcade ร้านค้าส่วนใหญ่ขายของหลากหลาย ตั้งแต่ของที่ระลึกจนถึงสินค้าแบร์นดังๆ อีกมากมาย
หอนาฬิกาดาราศาสตร์ หรือ หอระฆังซิทกล็อด เป็นสัญลักษณ์คู่เมืองเบิร์น เริ่มแรกที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นประตูเมืองในช่วงปี คศ. 1191-1256 ในสมัยก่อนนั้นตึกนี้ไม่ได้เป็นนาฬิกา จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1530 จึงได้มีการติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์ จากนั้นที่นี่จึงกลายเป็นหอนาฬิกาและสถานที่ท่องเที่ยวประจำเมือง มีตุ๊กตา ทั้งคน สิงโต หมี ที่ติดตั้งอยู่ภายในออกมาหมุน มีไก่ออกมาขันเต้นรำไปรอบๆ เป็นจุดไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันทุกๆ ชั่วโมง
เมืองตากอากาศริมทะเลสาปเจนีวาที่มีชื่อเสียง เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อน ด้วยความเงียบสงบของตัวเมืองบวกกับบรรยากาศที่สุดแสนสบาย ภายในเมืองประกอบไปด้วยร้านค้าน้อยใหญ่มากมาย โรงแรม บ้านพักตากอากาศริมทะเลสาป จากนั้นยังมีกิจกรรมต่างๆเช่นเดินหรือนั่งรถรางชมเมือง ชมสวนดอกไม้ และ รูปปั้นของเฟรดดี้ เมอร์คูรี่ นักร้องวง Queen เจ้าของบทเพลง we are the Champion ด้วย
ปราสาทซิลยอง แห่งมองเทรอซ์ เป็นปราสาทแห่งตระกูลซาวอย อายุเก่าแก่กว่า 1000 ปี สไตล์โกธิกที่มองดูแล้วเหมือนอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาปราสาทซิลยอง เนื่องด้วยเป็นปราสาทแห่งความภูมิใจของชาวสวิส แม้ไม่ใหญ่โตโอฬารเท่าปราสาทอื่นๆ ของยุโรป แต่โบรชัวร์แผ่นพับการท่องเที่ยวของสวิสมักมีปราสาทซิลยองเป็นโลโก้ประจำ ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ ถัดจากกำแพงสูงตระหง่านเข้าไปจะเป็นลานปราสาท ที่พัก และที่สำคัญเป็นคุกสำหรับขังนักโทษ
เมืองเวเว่ย์ ตั้งอยู่ในรัฐโว ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเมืองตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา และตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองโลซานน์ ได้รับสมญานามว่าเป็น "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส" ดินแดนที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมแทบทุกฤดูกาล มีพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์เมืองเวอเว่ย์,รูปปั้น ชาร์ลี แชปปิ้น ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด,ย่านเมืองเก่า เดินชมอาคารเก่าแก่ ร้านกาแฟกลางแจ้ง และร้านอาหารมากมายให้เลือกซื้อ หรือเดินเล่นตามแนวทะเลสาบ ชมความงดงามในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน แสนโรแมนติค
รูปปั้นชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองเวอแว รูปปั้นนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี สำหรับการตั้งถิ่นฐานของเขาที่เมืองนี้
เมืองโลซานน์ (Lausanne) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา มีทิวทัศน์สวยงามธรรมชาติ อากาศปราศจากมลพิษ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศต. 4 ในสมัยที่ชาวโรมันมาตั้งหลักแหล่งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ แต่เพื่อความปลอดภัยชาวเมืองจึงย้ายไปอยู่บนเนินเขารอบๆ ทะเลสาบ
วิหารแห่งเมืองโลซานน์ (Lausanne Cathedral) ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงใจกลางเมืองเก่า สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1170-1240 โดย Pope Gregory X เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิค ผสมผสานวัฒนธรรมทางตะวันตกที่สมบูรณ์ มีสีสัน ตกแต่งประดับด้วยกระจกสีสเตนกลาส เป็นศิลปะสวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์
ศาลาไทย (Le Pavillon Thaïlandais) ศาลาไทยแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะเดอน็องตู สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเพื่อเฉลิมฉลองวาระสำคัญในปี พ.ศ. 2549 สองวาระ คือ วโรกาสที่พระบาทสมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 พรรษา และการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสมาพันธรัฐสวิสครบ 75 ปี
เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นครที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงของโลก" ประตูสู่เทือกเขาแอลป์ มีนาฬิกาดอกไม้ริมทะเลสาบและน้ำพุเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ และเมืองคมนาคมหลักของทวีปยุโรป เมื่อมาเที่ยวเมืองนี้นักท่องเที่ยวจะได้เจอสำนักงานหลักขององค์การสหประชาชาติ และสถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่า เช่น โบสถ์เซนต์ปีแอร์ ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าที่สุดของเมือง ศาลากลางเมืองเจนีวาที่มีความเก่าแก่กว่า 500 ปี โรงอุปรากร มหาวิทยาลัยเจนีวา น้ำพุ Jet d’Eau และอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
น้ำพุเจทโด หรือ น้ำพุจรวดเจ็ท (Jet d'Eau) น้ำพุที่สูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบเจนีวา น้ำพุนี้มีชื่อเสียงก้องโลก เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเจนีวาที่มีความสูงถึง 390 ฟุต ปล่อยน้ำครั้งละ 500 ลิตรต่อวินาที ขึ้นไปพุ่งกระจายบนอากาศที่ความสูง 140 เมตร ด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในทะเลสาบเจนีวา ต่อมาก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ท่องเที่ยวของ Geneva มาจนถึงปัจจุบัน รอบ ๆ ริมทะเลสาบ มีนาฬิกาดอกไม้และอนุสาวรีย์การรวมชาติที่สวยงาม
ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) หรือ ทะเลสาบเลอม็อง (Lac Leman) ได้รับสมญานามว่าเป็น ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลมอง ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในสวิตเซอร์แลนด์และมีบางส่วนอยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส จึงมีชื่อเรียกภาษาฝรั่งเศสว่า ทะเลสาบเลอม็อง มีพื้นที่ 582 ตารางกิโลเมตร เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลางรองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี เป็นที่ตั้งของเมืองสำคัญคือเมืองเจนีวาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
จตุรัสปลาซดูบูร์ก เดอฟูร์ (Place du Bourg-de-Four) หรือ จัตุรัสใจกลางเมืองเก่า เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่สุดในกรุงเจนีวา ตั้งอยู่ในสมัยโรมันและเป็นหัวใจสำคัญของ Old Town เป็นสถานที่ยอดนิยมในการไปนั่งเล่นคาเฟ่ ฟังเพลงจากนักดนตรีริมถนน ช็อปปิ้งของฝากเล็กๆ น้อยๆ ชื่นชมความงามของน้ำพุยุคกลาง และบรรดาอาคารบ้านเรือนบริเวณเขตเมืองเก่าเจนีวา ที่สวยงามและยังคงความคลาสสิค มีกลิ่นอายของยุคโบราณ ใครอยากหาที่นั่งชิลๆ จิบชา กาแฟ ดื่มเบียร์ ฟังเสียงน้ำพุกระทบลงน้ำ แนะนำว่าแวะมาที่นี่ได้เลย
ซูริค (Zurich) เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีภูมิประเทศที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำและทะเลสาบ รวมทั้งสถานที่สำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศิลปะวัฒนธรรมเช่น โบสถ์เก่าแก่ และ พิพิธภัณท์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
โบสถ์กรอสมุนสเตอร์ (Grossmunster Church) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คต้องห้ามพลาดของเมืองซูริค โบสถ์หอคอยคู่สูงระฟ้า เป็นโบสถ์สำคัญและเก่าแก่ของเมืองที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1100 ภายในมีงานประติมากรรมและสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่สวยงาม รวมทั้งยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ที่สำคัญอีกอย่าง คือ โบสถ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาพระคัมภีร์โบราณทางคริสต์ศาสนา นอกจากนั้นนักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปชมวิวมุมสูงจากด้านบนสุดของหอคอยได้อีกด้วย
ลินเดนฮอฟ (Lindenhof) ย่านเก่าเเก่ใจกลางเมืองซูริค นักท่องเที่ยวและชาวเมืองนิยมมาชมวิว โดยเพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของยุคกลางที่มีความวินเทจด้วยถนนที่เป็นหินเเละมีตรอกซอกซอยมากมาย สองข้างทางจะเป็นบ้านเรือนในเเบบยุคกลางที่มีกลิ่นอายของความเป็นโรมันอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ยิ่งทำให้ย่านเเห่งนี้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเเละน่าประทับใจในการไปเยือนอย่างมากเลยทีเดียว
ท่าอากาศยานนานาชาติซูริค หรือ “สนามบินซูริค” อีกชื่อเรียกก็คือ “สนามบินโคลเทิน” (Kloten Airport) เป็นสนามบินนานาชาติหลักของเมืองซูริคและเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 ให้บริการเที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ มีการพัฒนาศักยภาพของสนามบินอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นหนึ่งในสนามบินขนาดใหญ่ของยุโรปที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
สนามบินนานาชาติอาบูดาบี หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi International Airport) ตัวย่อสนามบิน: AUH ตั้งอยู่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากสนามบินนานาชาติดูไบ และเป็นท่าอากาศยานหลักของสายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553