หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองทรอย (Troy) เมืองในตํานานกรีกโบราณ ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของโลกตะวันตกว่า เมืองทรอยตั้งอยู่บริเวณจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดของชองแคบเฮลเลสพอนด์ (Hellenpond) หรือชองแคบดาร์ดาแนลล์ในปัจจุบัน บริเวณเมืองทรอยมีการจัดห้องแสดงแบบจําลองเมือง และเรื่องราวการค้นพบโดยนักโบราณคดี พร้อมทั้งภาพแผนผังเมืองทรอยที่สร้างซ้อนทับกันถึง 9 ชั้น มีซากเมืองเก่า กําแพง ประตู และม้าไม้จําลองแห่งทรอย ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ
ม้าไม้จำลองแห่งทรอย (Trojan Horse) เปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ โดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ซึ่งได้บันทึกเอาไว้ในมหากาพย์เรื่อง “อีเลียด” ของมหากวีโฮเมอร์ มีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าเป็นเมืองทรอย บริเวณที่ชื่อฮิซาร์ลิกในเมืองคานัคเกลของตุรกี ปัจจุบัน มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยด้วย การสู้รบครั้งนั้นชาวกรีกเผ่าอาเคียนจำนวนหนึ่งมาทำสงครามกับเมืองทรอย ได้ปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนอะนาโตเลียเสียเลย และมีชาวกรีกเผ่าอื่น ๆ ตามมาทีหลัง
เมืองชานักกาเล (Canakkale city) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเคยเป็นที่ตั้งของเมืองทรอยอันเป็นที่มาของสงครามม้าไม้กรุงทรอยที่ถูกสร้างขึ้นเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีซากของกำแพงเมืองโบราณปรากฏให้เห็นอยู่ นอกจากนั้นจากประวัติของชานักกาเล ที่นี่เคยมีชื่อเดิมว่า BOGAZI หรือ HELLESPONT ตั้งอยู่บนจุดที่แคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลบนฝั่งของทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจี้ยน และไม่ไกลจากกรุงอิสตันบูลมากนัก
เมืองโบราณเพอร์กามัม ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม. ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) ซึ่งเป็นที่ขนานนามถึงประหนึ่งดังดินในสรวงสวรรค์ และต่อจากนั้นไปข้างในเป็นบริเวณวิหารเทพเจ้าซุส หรือ เซอุส (Naos tou Olimpiou Dios - Olympieion) ปัจจุบันนี้เหลือแต่ส่วนฐานเท่านั้น ส่วนแท่นบูชาได้รับการนำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เพอร์กามัมที่กรุงเบอร์ลิน
วิหารอะโครโปลิส แห่งเพอร์กามอน ตั้งอยู่บนภูเขาสูงในเมือง เพอร์กามอน ถูกก่อตั้งและรุ่งเรืองที่สุดในสมัยพระเจ้า อูมาเนสที่ 1 (Eumenenes I ) แห่งราชวงศ์เพอการ์มาเน่ (Pergamane) ระหว่าง 263-241 ก่อนคริสตกกาลที่นี่ได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ของโลกสมัยโบราณ ต่อมาพระเจ้า แอททาลุสที่3 (attalis III) ทรงยกเมืองให้แก่อาณาจักรโรมันเมื่อ 133 ปีก่อนคริสตกาล และได้กลายเป็นเมืองหลวงของแคว้นเอเชียภายใต้อาราจักรโรมัน
วิหารโอลิมเปียนเซอุส (Temple of The Olympian Zeus) ตั้งอยู่ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซากโบราณสถานต่างๆ ที่มีอายุร่วม 1,500 – 2,500 ปี ถือว่าครั้งหนึ่งที่นี่คือสถานสักการะบูชา ที่มีความสำคัญมากกว่าวิหารกรีกอื่นใดทั้งหมดในสมัยนั้น เป็นวิหารของซีอุส หรือเทพซุส เจ้าแห่งเทพเจ้าทั้งหลาย เป็นผู้รอบรู้ด้านพยากรณ์อากาศ ปัจจุบันมีเสาแบบโครินเธียนเหลืออยู่เพียง 15 ต้น จากเดิมทั้งหมดที่มีอยู่ 104 ต้น
โรงละครอะโครโปลิส (Theater of Acropolis) เป็นสนามกีฬาและโรงละครสไตล์กรีก ที่ได้ชื่อว่าชันที่สุดในโลก เป็นส่วนหนึ่งของเมืองโบราณ Acropolis of Pergamum เมืองอิซเมียร์ ประเทศตุรกี แบ่งเป็นสามชั้น มีทั้งหมด 80 แถว สามารถจุผู้ชมได้มากถึง 10,000 คน
เป็นเมืองถูกปกครองโดยสมัยโรมัน สมัยที่ 2 เมืองนี้เป็นเมืองศุนย์กลางของการแพทย์ที่ใหญ่สุดในเอเชียไมล์เนอร์ และยังเป็นโรงเรียนสอนเกี่ยวกับจิตวิทยาแห่งแรกของโลก เมืองอัสเคลไพออน เคยเป็นที่พำนักรักษาตัวของ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองจักรวรรดิโรมัน กษัตริย์เฮเดรียน ที่แห่งนี้ ประกอบด้วยโรงอาบน้ำ โรงละคร และ น้ำพุใจกลางเมือง
เมืองโบราณเอฟิซุส (The Ancient City of Ephesus) หรือ เอเฟส (Efes) เมืองโบราณที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยกรีก ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งไอโนเนีย สถานที่ท่องเที่ยวสำตัญของเมืองอิซเมียร์ ประเทศตุรกี เป็นแหล่งโบราณคดีที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีไฮไลท์อยู่ที่ห้องสมุดเซลซุส (Celsus Library) และนอกจากห้องสมุดเซลซุสแล้ว ที่นี่ยังมีสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งอีกมากมาย ทั้งโรงละครกลางแจ้งเอฟิซัส, คอนเสิร์ตของฮูลิโอ อิงเกลเซียส, ห้องอาบน้าแบบโรมันโบราณ, ห้องสมุดโบราณ, บ้านของพระแม่มารี, ศูนย์ผลิตเสื้อหนัง เป็นต้น
บ้านของพระแม่มารี (The House of the Virgin Mary) ตั้งอยู่บนภูเขา Koressos เมืองเซลจุก (Seljuk) ประเทศตุรกี โบราณสถานที่ชาวคาทอลิคเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ บ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปเคารพของพระแม่มารี แต่ห้ามนักท่องเที่ยวถ่ายรูป
เมืองคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นเมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า และเป็นท่าเรือธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่เหมาะในการทำการค้าระหว่างยุโรปและแอฟริกาใต้ และคูซาดาซีเพิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อปี ค.ศ. 1980 นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง เรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกทั่วโลก
โรงงานผลิตเครื่องหนัง (Leather Factory) ตั้งอยู่ที่เมืองเอฟิซุส ประเทศตุรกี เป็นประเทศที่มีฐานการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งยังผลิตเสื้อหนังให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace, Prada, Michael Kors อีกด้วย
เมืองปามุคคาเล เมืองที่มีชื่อเสียงน้ำพุเกลือร้อนที่ไหลออกมาจากใต้ดินผ่านซากเมืองเก่า ไหลลงสู่หน้าผา ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวหลายชั้น ซึ่งผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาว แก่งหินสีสวยงดงามประดุจหิมะ จนถูกขนานนามว่า ปราสาทปุยฝ้าย หากใครอยากอาบน้ำแร่ก็ไม่ผิดหวัง มีแอ่งน้ำจำลองไว้บริการให้ดำว่ายเต็มที่ ในอดีตชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนนี้สามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองฮีเยราโพลิสล้อมรอบ
"ปามุกกาเล" "ปามุกคาเล" แปลว่า "ปราสาทปุยฝ้าย" ในภาษาตุรกี ตั้งอยู่ที่เมืองปามุคคาเล ประเทศตุรกี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่มีลักษณะเป็นแอ่งและมีธารน้ำแร่ใต้ดินไหลเอ่อล้นผุดขึ้นมาบนพื้นผิว รวมเป็นแอ่งน้ำหินปูนที่ลดหลั่นกัน กว้าง 300 เมตร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ก่อนไหลลงจากผาสูง สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากคือ หน้าผาที่ขาวที่กว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ
นครโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) สันนิษฐานกันว่ามีอายุประมาณ 2,200 ปี เนื่องจากถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาล ในยุคของกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน โดยสร้างให้อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำแร่ร้อนปามุคคาเลย์ แต่หากถอดความคำว่าเฮียราโพลิส หมายถึง เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับเมืองทุกเมืองที่มียุครุ่งโรจน์ และยุคเสื่อมถอย และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1970 อีกด้วย
เมืองอันทาลยาตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของอานาโตเลีย แถบบริเวณทะเลเมดิเตอเรเนียนที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขา ซึ่งในอดีตผืนดินแถบนี้เกิดขึ้นจากการทรุดตัวของเปลือกโลกอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการระเบิดตัวของภูเขาไฟ จนกลายเป็นผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม และซากโบราณสถานที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง ทำให้อันทาลยาเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวของตุรกีมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในแถบนี้
เมืองอันทาลยาตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของอานาโตเลีย แถบบริเวณทะเลเมดิเตอเรเนียนที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขา ซึ่งในอดีตผืนดินแถบนี้เกิดขึ้นจากการทรุดตัวของเปลือกโลกอันเป็นผลมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการระเบิดตัวของภูเขาไฟ จนกลายเป็นผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนั้นเมืองแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยชายหาดที่สวยงาม และซากโบราณสถานที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง ทำให้อันทาลยาเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวของตุรกีมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในแถบนี้
เป็นท่าเรือที่มีความสวยงามมากที่สุดในบรรดาอ่าวทั้งหลายของประเทศตุรกี มีเรือจอดเรียงรายนับเป็นร้อยลำ จะมีการตกแต่งเรื่อไปเรือโจรสลัดรูปทรงต่าง ๆ สวยงามมาก ปัจจุบันท่าเรือแห่งนี้ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวโดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้ ด้านบนของอ่าวจะมีบ้านเรือนที่ยังคงรักษาสภาพเดิมไว้เป็นอย่างดี สวยงามมาก
เมืองคอนย่า (Konya City) ตั้งอยู่ที่เมืองคอนย่า ประเทศตุรกี เมืองนี้มีประวัติที่เก่าแก่มาก ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือที่ยุคนั้นเรียก 'อนาโตเลีย' เมืองนี้รุ่งเรืองมากในสมัยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท มีการสร้างสิ่งก่อสร้างมากมายด้วยสถาปัตยกรรมแบบตุรกี ที่รับอิทธิพลมาจากเปอร์เซียและไบแซนไทน์
ก่อตั้งขึ้นปีคศ1231โดย เมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลาม เกิดที่อัฟกานิสถาน เดินทางมายังเมืองคอนย่า เพื่อเขียนบทกวีลึกลับเป็นภาษาเปอร์เซีย และเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เดิมที่นี่เป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ก่อนไปทำการหมุนต้องอดอาหาร มีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกายเป็นเวลา1,0001คืน ก่อนที่จะไปหมุนได้ ผู้ที่มีสมาธิมากตัวจะลอยขึ้นเมื่อหมุนไปช่วงเวลาหนึ่ง
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจรดประเทศจีน เมืองคัปปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก มีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์จนเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ระบำหน้าท้องตรุกี (Turkish Belly Dance) เป็นการเต้นรำที่เชื่อกันว่าเก่าแก่สุดอย่างหนึ่ง มีรากที่สืบสาวได้ถึง 6,000 ปี ในดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สัมพันธ์กับวัฒนธรรมบูชาพระแม่ผู้เป็นแหล่งที่มาของพลังชีวิต และมีพิธีกรรมเกี่ยวพันกับความอุดมสมบูรณ์ เอื้อให้การคลอดลูกเป็นไปโดยสวัสดิภาพ แต่เดิมจึงเป็นการร่ายรำ ที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก ช่วยให้นางรำมีร่างกายแข็งแรง
นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ใต้ดินที่มีชื่อเสียงและสำคัญอันของเมืองคัปปาโดเจีย ประเทศตุรกี ภายในเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ ลึกถึง 85 เมตร เมืองแห่งนี้มีครบทุกอย่างตั้งแต่ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องนํ้า และห้องโถง ถึงแม้จะเป็นเมืองใต้ดินแต่ด้านล่างนั้นมีอากาศถ่ายเทที่ออกแบบมาอย่างดี
เมืองเกอเรเม อยู่ในบริเวณคัปปาโดเกียในตอนกลางของอานาโตเลียในประเทศตุรกี แต่เดิมชื่อ “Korama” และเมื่อหุบเขาเกอเรเมได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1985 ชื่อเมืองก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น “เกอเรเม” เพื่อความสะดวก เกอเรเมตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Göreme Open Air Museum) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งของเมืองคัปปาโดเกีย เกิดขึ้นจากการขุดเจาะถ้ำหินหลายลูก ภายในถ้ำจะถูกออกแบบให้ผนังสูง โค้ง ตกแต่งด้วยรูปปั้นจิตกรรมฝาผนัง ทาสีแดง ลักษณะแบบโบสถ์เซนต์บาร์บารา มองจากด้านนอกอาจคิดว่าเป็นบ้านของชนเผ่ายุคหิน แต่จริงๆ แล้วคล้ายกับวัดหรือโบสถ์ที่อยู่ในถ้ำมากกว่า ทีนี่เต็มไปด้วยความงดงามแปลกตา และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1984
หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในเมืองคัปปาโดเจีย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย อุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่สามารถเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
โรงงานทอพรม (Carpet Factory) ผลิตพรมทอจากไหมที่มีความละเอียดสวยงาม เมื่อเทียบกับพรมชาติอื่นในขนาดผืนเท่ากันแล้วจะหนักและแน่นกว่า พรมเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของอิสตันบูล ซึ่งมีสองแบบตามลักษณะความยาวของเส้นใยที่ใช้ทอคือ ฮาลื่อและคิลิม ฮาลื่อเป็นพรมแบบทั่วไปที่เห็นกัน วัสดุที่ใช้ทอมีทั้งขนสัตว์ฝ้าย ไหม เมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก ด้านหนึ่งจึงปุยขึ้นเป็นลายตามที่ช่างต้องการ
โรงงานเซรามิค (Ceramic Factory) มาเยี่ยมชมโรงงานเซรามิค ซึ่งภายในโรงงานที่ท่านได้ชม ช่างเซรามิคกำลังทำงานสร้างสรรค์ผลงานและลวดลายต่าง ๆ บนชิ้นงาน สำหรับเซรามิคนั้นเป็นสินค้าที่นิยมซื้อเป็นของฝากจากตุรกีอีกอย่างหนึ่ง
กรุงอังการา (Ankara) เมืองหลวงของประเทศตุรกี หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angora เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเมืองอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ที่เป็นใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากเมืองอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง สวนราชการและสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ
สุสานมุสตาฟา เคมาล อะตาเติร์ก (Atatürk's Mausoleum) ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Emin Onat โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างฮิตไทต์และอนาโตเลียโบราณ ภายในมีโลงศพ แต่ไม่ได้บรรจุศพไว้ ของ ประธานาธิบดีคนแรกและรัฐบุรุษ "มุสตาฟา เคมาล อะตาเติร์ก" บุคคคลอันเป็นที่เคารพรักอย่างสูงสุดของชาวตุรกี สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งทางรัฐบาลได้กำหนดให้แขกทางการทูตทุกคนต้องมาเคารพสุสานและลงชื่อเยี่ยมคารวะในสมุดอนุสรณ์เป็นการให้เกียรติด้วย Anıtkabir
อิสตันบูล (Istanbul City) เมืองที่มีความสำคัญและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศตุรกี เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัสหรือคอนสแตนติโนเปิล อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์โลกโบราณ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ อิสตันบูลคือเมืองหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป นั่นคือทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้อิสตันบูลกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศอีกด้วย
พระราชวังโดลมาบาชเช่ หรือ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) พระราชวังโดลมาบาชเช่ เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นโดยสุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยนชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออก ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวัง ซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ที่ช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมา หนัก 4.5 ตัน ที่ดูสวยงามมาก
ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ช่องแคบเชื่อมทะเลดำเข้ากับทะเลมาร์มาร่า มีความยาวและความกว้างที่ถือว่า เป็นสุดขอบของทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย นอกจากมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันตุรกีด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ กระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อน ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปี ค.ศ. 1973 เปิดใช้สะพานบอสฟอรัสทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque, Sultan Ahmet Camii) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) เป็นมัสยิดที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อยู่ในนครอีสตันบูล ประเทศตุรกี มัสยิดถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1609 โดย Sedefkar Mehmed Agha ตามคำสั่งของสุลต่านอาห์เมตที่ 1 (Sultan Ahmed I) ผู้ซึ่งตัดสินใจที่จะสร้างมัสยิดขนาดใหญ่ เพื่อยืนยันอำนาจของอาณาจักรออตโตมัน
จัตุรัสสุลต่านอะห์เมต หรือ ฮิปโปโดรม (Sultanahmet Square or Hippodrome) สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า เพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมืองฮิปโปโดรม ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมัน สถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น ที่นำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7
อุโมงค์ส่งน้ำเยเรบาตัน หรืออุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาทัน (Yerebatan Sarnici | Basilica Cistern) ของพระราชวังใต้ดิน เป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครอิสตันบูล ตั้งอยู่ใกล้วิหารเซนต์โซเฟีย เป็นอุโมงค์ส่งน้ำใต้ดินที่มีเสาแบบโครินเทียนหรือเสากรีกต้นสูง ใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553