หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
อิสตันบูล (Istanbul City) เมืองที่มีความสำคัญและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศตุรกี เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัสหรือคอนสแตนติโนเปิล อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์โลกโบราณ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ อิสตันบูลคือเมืองหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป นั่นคือทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้อิสตันบูลกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศอีกด้วย
สนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งสนามบินแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรัฐบาลตุรกีต้องการสร้างให้สนามบินแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการบินของโลกที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ รวมกว่า 60 ประเทศ มีร้านค้าร้านอาหาร และคาเฟ่ให้เลือกมากมาย บางแห่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (Sultanahmet Square, Sultanahmet Meydanı) ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี คำว่า ฮิปโปโดรม (Hippodrome) มาจากคำในภาษากรีกโบราณ 2 คำ ได้แก่ คำว่า “Hippos” หมายถึง ม้า และคำว่า “Dromos” หมายถึง ทางหรือเส้นทาง ด้วยเหตุนี้บางครั้งที่นี่ จึงถูกเรียกในภาษาตุรกีว่า “Atmeydanı” ซึ่งหมายถึง “จัตุรัสม้า” นั่นเอง
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque, Sultan Ahmet Camii) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) เป็นมัสยิดที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อยู่ในนครอีสตันบูล ประเทศตุรกี มัสยิดถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1609 โดย Sedefkar Mehmed Agha ตามคำสั่งของสุลต่านอาห์เมตที่ 1 (Sultan Ahmed I) ผู้ซึ่งตัดสินใจที่จะสร้างมัสยิดขนาดใหญ่ เพื่อยืนยันอำนาจของอาณาจักรออตโตมัน
ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ช่องแคบเชื่อมทะเลดำเข้ากับทะเลมาร์มาร่า มีความยาวและความกว้างที่ถือว่า เป็นสุดขอบของทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย นอกจากมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันตุรกีด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ กระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อน ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปี ค.ศ. 1973 เปิดใช้สะพานบอสฟอรัสทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น
สไปซ์มาร์เก็ต หรือ ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ซึ่งที่นี่ถือเป็นตลาดในร่ม และเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิสตันบูล โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าเยนี คามี ซึ่งสินค้าที่นำมาขายส่วนใหญ่คือเครื่องเทศเป็นหลัก ทั้งยังมีถั่วชนิดต่าง ๆ รังผึ้ง น้ำมันมะกอก ไปจนถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฯลฯ นอกจากนั้นทางด้านใต้ของตลาดยังเชื่อมไปสู่ลานหินหน้าสุเหร่าซึ่งติดกับถนนเลียบทะเลมาร์มะรา ที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบโกลเดนฮอร์น จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
พระราชวังโดลมาบาชเช่ หรือ พระราชวังโดลมาบาห์เช (Dolmabahce Palace) พระราชวังโดลมาบาชเช่ เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นโดยสุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยนชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออก ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวัง ซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ที่ช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมา หนัก 4.5 ตัน ที่ดูสวยงามมาก
เมืองชานักกาเล (Canakkale city) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศตุรกีในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเคยเป็นที่ตั้งของเมืองทรอยอันเป็นที่มาของสงครามม้าไม้กรุงทรอยที่ถูกสร้างขึ้นเป็นภาพยนตร์มาแล้ว ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีซากของกำแพงเมืองโบราณปรากฏให้เห็นอยู่ นอกจากนั้นจากประวัติของชานักกาเล ที่นี่เคยมีชื่อเดิมว่า BOGAZI หรือ HELLESPONT ตั้งอยู่บนจุดที่แคบที่สุดของช่องแคบดาร์ดาแนลบนฝั่งของทะเลมาร์มาราและทะเลอีเจี้ยน และไม่ไกลจากกรุงอิสตันบูลมากนัก
ม้าไม้จำลองแห่งทรอย (Trojan Horse) เปรียบเสมือนสัญลักษณ์อันชาญฉลาดด้านกลศึกของนักรบโบราณ โดยเป็นสาเหตุทำให้กรุงทรอยแตก ซึ่งได้บันทึกเอาไว้ในมหากาพย์เรื่อง “อีเลียด” ของมหากวีโฮเมอร์ มีการขุดค้นพบซากเมืองที่เชื่อกันว่าเป็นเมืองทรอย บริเวณที่ชื่อฮิซาร์ลิกในเมืองคานัคเกลของตุรกี ปัจจุบัน มีการสร้างม้าไม้จำลองขนาดยักษ์ขึ้นบริเวณซากเมืองทรอยด้วย การสู้รบครั้งนั้นชาวกรีกเผ่าอาเคียนจำนวนหนึ่งมาทำสงครามกับเมืองทรอย ได้ปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนอะนาโตเลียเสียเลย และมีชาวกรีกเผ่าอื่น ๆ ตามมาทีหลัง
เมืองโบราณเพอร์กามัม ตั้งอยู่ในบริเวณอะนาโตเลียห่างจากทะเลอีเจียนประมาณ 30 กม. ทางด้านเหนือของแม่น้ำไคซูส เป็นเมืองโบราณของกรีกที่มีความสำคัญของพวกเฮเลนนิสติก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ วิหารอะโครโปลิส (Acropolis) ซึ่งเป็นที่ขนานนามถึงประหนึ่งดังดินในสรวงสวรรค์ และต่อจากนั้นไปข้างในเป็นบริเวณวิหารเทพเจ้าซุส หรือ เซอุส (Naos tou Olimpiou Dios - Olympieion) ปัจจุบันนี้เหลือแต่ส่วนฐานเท่านั้น ส่วนแท่นบูชาได้รับการนำไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เพอร์กามัมที่กรุงเบอร์ลิน
เมืองคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นเมืองท่าเลียบชายฝั่งทะเลของประเทศตุรกี ในอดีตเมืองนี้เป็นเหมือนท่าเรือขนส่งสินค้า และเป็นท่าเรือธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่เหมาะในการทำการค้าระหว่างยุโรปและแอฟริกาใต้ และคูซาดาซีเพิ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเมื่อปี ค.ศ. 1980 นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียง เรื่องการผลิตเครื่องหนังคุณภาพสูงส่งออกทั่วโลก
เมืองอิซเมียร์ หรือ เมืองอิซมีร์ ตั้งอยู่บริเวณปลายสุดทางทิศตะวันตกของคาบสมุทรอนาโตเลีย ถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี เนื่องจากเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 5,000 ปี นอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและมีบรรยากาศของเมืองคล้ายกับเป็นสถานที่พักตากอากาศของทวีปยุโรป
ห้องสมุดของเซลซุส (Ephesus Ancient Library | Library of Celsus) เป็นไฮไลต์สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเอฟิซุส ห้องสมุดนี้เป็นอาคารสองชั้น สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 เพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่ เซลซัส โพเลเมียนุส ผู้เป็นพ่อและนายกเทศมนตรีของโรมัน ที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ หลุมฝังศพของท่านอยู่ใต้ห้องสมุดแห่งนี้ด้วย ภายในมีห้องอ่านหนังสือและช่องเก็บม้วนหนังสือ ถึง 12,000 ม้วน ทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่
ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Ephesus Roman Baths) ซากที่เห็นนี้เป็นห้องอาบน้ำสมัยโรมันแห่งเมืองเอฟิซุส สมัยโบราณเก่าแก่เมื่อ 2,000 ปีก่อน ที่ยังคงเหลือร่องรอยสถาปัตยกรรมสวยงามให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องอบไอน้ำ โรงอาบน้ำที่พรั่งพร้อมไปด้วยน้ำร้อน น้ำเย็น และน้ำอุ่น ภายในประดับด้วยโมเสกและรูปปั้นต่าง ๆ เชิญเดินสำรวจห้องอาบน้ำโบราณ ย้อนร้อยอดีตยุคโรมัน พร้อมรับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง
ตั้งอยู่บนยอดเขาบูลบุล เมืองเอฟฟิซุส เชื่อกันว่าพระเยซูได้ฝากฝังให้นักบุญจอห์นช่วยดูแลพระนางมารี ผู้ซึ่งเป็นสาวกองค์หนึ่งของพระเยซู ดังนั้นนักบุญจอห์นจึงได้พาพระแม่มารีเดินทางมาจนถึงเอฟิซุสในปีคศ37และ48 พระแม่มาเรียชอบความเงียบสงบและได้ใช้ชีวิตที่เอฟิซุสจนสิ้นพระชนม์ ปัจจุบันที่นี่ ถูกเปลี่ยนเป็นโรงสวด ภายในมีรูปบูชาที่เล่าลือกันว่ามีอำนาจในการรักษาโรคได้ พวกชาวกรีกออร์โธด็อกซ์จะมาชุมนุมกันที่โรงสวดในวันที่15สค เพื่อฉลองเทศกาลพระแม่มารีเสด็จสู่สวรรค์ สำนักวาติกันถือว่าที่นี่เป็นอารามแห่งหนึ่ง
เมืองปามุคคาเล เมืองที่มีชื่อเสียงน้ำพุเกลือร้อนที่ไหลออกมาจากใต้ดินผ่านซากเมืองเก่า ไหลลงสู่หน้าผา ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวหลายชั้น ซึ่งผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาว แก่งหินสีสวยงดงามประดุจหิมะ จนถูกขนานนามว่า ปราสาทปุยฝ้าย หากใครอยากอาบน้ำแร่ก็ไม่ผิดหวัง มีแอ่งน้ำจำลองไว้บริการให้ดำว่ายเต็มที่ ในอดีตชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนนี้สามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองฮีเยราโพลิสล้อมรอบ
นครโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) สันนิษฐานกันว่ามีอายุประมาณ 2,200 ปี เนื่องจากถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาล ในยุคของกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน โดยสร้างให้อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำแร่ร้อนปามุคคาเลย์ แต่หากถอดความคำว่าเฮียราโพลิส หมายถึง เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับเมืองทุกเมืองที่มียุครุ่งโรจน์ และยุคเสื่อมถอย และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1970 อีกด้วย
เมืองคอนย่า (Konya City) ตั้งอยู่ที่เมืองคอนย่า ประเทศตุรกี เมืองนี้มีประวัติที่เก่าแก่มาก ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือที่ยุคนั้นเรียก 'อนาโตเลีย' เมืองนี้รุ่งเรืองมากในสมัยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท มีการสร้างสิ่งก่อสร้างมากมายด้วยสถาปัตยกรรมแบบตุรกี ที่รับอิทธิพลมาจากเปอร์เซียและไบแซนไทน์
ก่อตั้งขึ้นปีคศ1231โดย เมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลาม เกิดที่อัฟกานิสถาน เดินทางมายังเมืองคอนย่า เพื่อเขียนบทกวีลึกลับเป็นภาษาเปอร์เซีย และเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เดิมที่นี่เป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ก่อนไปทำการหมุนต้องอดอาหาร มีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกายเป็นเวลา1,0001คืน ก่อนที่จะไปหมุนได้ ผู้ที่มีสมาธิมากตัวจะลอยขึ้นเมื่อหมุนไปช่วงเวลาหนึ่ง
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจรดประเทศจีน เมืองคัปปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก มีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์จนเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ระบำหน้าท้องตรุกี (Turkish Belly Dance) เป็นการเต้นรำที่เชื่อกันว่าเก่าแก่สุดอย่างหนึ่ง มีรากที่สืบสาวได้ถึง 6,000 ปี ในดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สัมพันธ์กับวัฒนธรรมบูชาพระแม่ผู้เป็นแหล่งที่มาของพลังชีวิต และมีพิธีกรรมเกี่ยวพันกับความอุดมสมบูรณ์ เอื้อให้การคลอดลูกเป็นไปโดยสวัสดิภาพ แต่เดิมจึงเป็นการร่ายรำ ที่เน้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท้องและสะโพก ช่วยให้นางรำมีร่างกายแข็งแรง
นครใต้ดินไคมัคลี (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งอยู่ใต้ดินที่มีชื่อเสียงและสำคัญอันของเมืองคัปปาโดเจีย ประเทศตุรกี ภายในเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ ลึกถึง 85 เมตร เมืองแห่งนี้มีครบทุกอย่างตั้งแต่ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องนํ้า และห้องโถง ถึงแม้จะเป็นเมืองใต้ดินแต่ด้านล่างนั้นมีอากาศถ่ายเทที่ออกแบบมาอย่างดี
เมืองเกอเรเม อยู่ในบริเวณคัปปาโดเกียในตอนกลางของอานาโตเลียในประเทศตุรกี แต่เดิมชื่อ “Korama” และเมื่อหุบเขาเกอเรเมได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1985 ชื่อเมืองก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น “เกอเรเม” เพื่อความสะดวก เกอเรเมตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของผู้คนมาตั้งแต่สมัยโรมัน และเป็นที่ที่ชาวคริสเตียนยุคแรกใช้ในการเป็นที่หลบหนีภัยจากการไล่ทำร้ายและสังหารก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ได้รับการประกาศว่าเป็นศาสนาของจักรวรรดิ จะเห็นได้จากคริสต์ศาสนสถานจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ (Göreme Open Air Museum) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งของเมืองคัปปาโดเกีย เกิดขึ้นจากการขุดเจาะถ้ำหินหลายลูก ภายในถ้ำจะถูกออกแบบให้ผนังสูง โค้ง ตกแต่งด้วยรูปปั้นจิตกรรมฝาผนัง ทาสีแดง ลักษณะแบบโบสถ์เซนต์บาร์บารา มองจากด้านนอกอาจคิดว่าเป็นบ้านของชนเผ่ายุคหิน แต่จริงๆ แล้วคล้ายกับวัดหรือโบสถ์ที่อยู่ในถ้ำมากกว่า ทีนี่เต็มไปด้วยความงดงามแปลกตา และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1984
โรงงานทอพรม (Carpet Factory) ผลิตพรมทอจากไหมที่มีความละเอียดสวยงาม เมื่อเทียบกับพรมชาติอื่นในขนาดผืนเท่ากันแล้วจะหนักและแน่นกว่า พรมเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของอิสตันบูล ซึ่งมีสองแบบตามลักษณะความยาวของเส้นใยที่ใช้ทอคือ ฮาลื่อและคิลิม ฮาลื่อเป็นพรมแบบทั่วไปที่เห็นกัน วัสดุที่ใช้ทอมีทั้งขนสัตว์ฝ้าย ไหม เมื่อผูกปมแล้วจะตัดเส้นใยออก ด้านหนึ่งจึงปุยขึ้นเป็นลายตามที่ช่างต้องการ
โรงงานเซรามิค (Ceramic Factory) มาเยี่ยมชมโรงงานเซรามิค ซึ่งภายในโรงงานที่ท่านได้ชม ช่างเซรามิคกำลังทำงานสร้างสรรค์ผลงานและลวดลายต่าง ๆ บนชิ้นงาน สำหรับเซรามิคนั้นเป็นสินค้าที่นิยมซื้อเป็นของฝากจากตุรกีอีกอย่างหนึ่ง
กรุงอังการา (Ankara) เมืองหลวงของประเทศตุรกี หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angora เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเมืองอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ที่เป็นใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากเมืองอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง สวนราชการและสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ
ทะเลสาบน้ำเค็ม (Salt Lake) ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่อันดับสองของตุรกี เมื่อหน้าร้อนมาถึงน้ำจะเหือดแห้งเป็นแผ่นหนา ที่ให้เราสามารถเก็บภาพความประทับใจได้
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553