หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
สนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งสนามบินแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรัฐบาลตุรกีต้องการสร้างให้สนามบินแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการบินของโลกที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ รวมกว่า 60 ประเทศ มีร้านค้าร้านอาหาร และคาเฟ่ให้เลือกมากมาย บางแห่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
มัสยิดสุลต่านอาห์เมต (Sultan Ahmet Mosque, Sultan Ahmet Camii) หรือ สุเหร่าสีน้ำเงิน มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) เป็นมัสยิดที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อยู่ในนครอีสตันบูล ประเทศตุรกี มัสยิดถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1609 โดย Sedefkar Mehmed Agha ตามคำสั่งของสุลต่านอาห์เมตที่ 1 (Sultan Ahmed I) ผู้ซึ่งตัดสินใจที่จะสร้างมัสยิดขนาดใหญ่ เพื่อยืนยันอำนาจของอาณาจักรออตโตมัน
จัตุรัสสุลต่านอาห์เมต (Sultanahmet Square, Sultanahmet Meydanı) ในนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี คำว่า ฮิปโปโดรม (Hippodrome) มาจากคำในภาษากรีกโบราณ 2 คำ ได้แก่ คำว่า “Hippos” หมายถึง ม้า และคำว่า “Dromos” หมายถึง ทางหรือเส้นทาง ด้วยเหตุนี้บางครั้งที่นี่ จึงถูกเรียกในภาษาตุรกีว่า “Atmeydanı” ซึ่งหมายถึง “จัตุรัสม้า” นั่นเอง
มัสยิดฮาเจียโซเฟีย หรือ โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Church | Hagia Sophia) ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โบสถ์ศิลปะแบบไบเซนไทม์ ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ซึ่งเดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์ แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครอง จึงได้เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย "เคมาล อะตาเติร์ก" และในปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่
กรุงอังการา (Ankara) เมืองหลวงของประเทศตุรกี หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angora เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากเมืองอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ที่เป็นใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากเมืองอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง สวนราชการและสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ
สุสานมุสตาฟา เคมาล อะตาเติร์ก (Atatürk's Mausoleum) ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อ Emin Onat โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างฮิตไทต์และอนาโตเลียโบราณ ภายในมีโลงศพ แต่ไม่ได้บรรจุศพไว้ ของ ประธานาธิบดีคนแรกและรัฐบุรุษ "มุสตาฟา เคมาล อะตาเติร์ก" บุคคคลอันเป็นที่เคารพรักอย่างสูงสุดของชาวตุรกี สถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งซึ่งทางรัฐบาลได้กำหนดให้แขกทางการทูตทุกคนต้องมาเคารพสุสานและลงชื่อเยี่ยมคารวะในสมุดอนุสรณ์เป็นการให้เกียรติด้วย Anıtkabir
เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองที่อยู่ระหว่างทะเลดำกับภูเขาเทารุส เป็นเมืองที่มีความสำคัญมาแต่โบราณ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม เส้นทางค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ทอดยาวจากตุรกีไปจรดประเทศจีน เมืองคัปปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก มีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์จนเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ทะเลสาบเกลือ (Lake Tuz) แห่งนี้ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศตุรกี ซึ่งสาเหตุที่มีน้ำทะเลเป็นสีแดงก็เพราะว่าแท้จริงแล้วมันคือสีของสาหร่าย ‘Dunaliellam salina’ นั่นเอง ในช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำอยู่ในทะเลสาบมองเห็นเป็นเงาสะท้อน แต่เมื่อหน้าร้อนมาถึงน้ำจะเหือดแห้งเหลือแต่เพียงเกลือกองเป็นแผ่นหนาหลายสิบเซนติเมตร มองเห็นเป็นพื้นสีขาวสุดลูกหูลูกตา
นครใต้ดินคาดัค (Underground City of Caduk)เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู ในยามสงคราม ของชาวคัปปาโดเกียในอดีต
หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งในเมืองคัปปาโดเจีย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย อุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่สามารถเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย
หุบเขานกพิราบ (Pigeon Valley) เป็นจุดชมวิวหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรู เพื่อให้นกพิราบเข้าไปทำรังอาศัยอยู่อย่างมากมาย จากจุดนี้เราจะสามารถมองเห็นปราสาทอุชิซาร์ได้ในระยะไกล
หมู่บ้านอวานอส (Avanos Villege) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่เล็กๆ ตัวบ้านมีลักษณะสถาปัตยกรรมออตโตมันดั้งเดิม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดง แม่น้ำที่ยาวที่สุดในตุรกี มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิค ชาวบ้านเลี้ยงชีพจากการทำเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งนำดินแม่น้ำแดงมาปั้นทำเครื่องปั้นดินเผาไว้ใช้สอยและทำเป็นอาชีพ
เมืองปามุคคาเล เมืองที่มีชื่อเสียงน้ำพุเกลือร้อนที่ไหลออกมาจากใต้ดินผ่านซากเมืองเก่า ไหลลงสู่หน้าผา ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวหลายชั้น ซึ่งผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาว แก่งหินสีสวยงดงามประดุจหิมะ จนถูกขนานนามว่า ปราสาทปุยฝ้าย หากใครอยากอาบน้ำแร่ก็ไม่ผิดหวัง มีแอ่งน้ำจำลองไว้บริการให้ดำว่ายเต็มที่ ในอดีตชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนนี้สามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองฮีเยราโพลิสล้อมรอบ
นครโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) สันนิษฐานกันว่ามีอายุประมาณ 2,200 ปี เนื่องจากถูกสร้างขึ้นก่อนคริสตกาล ในยุคของกษัตริย์ยูเมเนสที่ 2 แห่งอาณาจักรเพอร์กามอน โดยสร้างให้อยู่ใกล้กับแอ่งน้ำแร่ร้อนปามุคคาเลย์ แต่หากถอดความคำว่าเฮียราโพลิส หมายถึง เมืองแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับเมืองทุกเมืองที่มียุครุ่งโรจน์ และยุคเสื่อมถอย และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO ในปี 1970 อีกด้วย
"ปามุกกาเล" "ปามุกคาเล" แปลว่า "ปราสาทปุยฝ้าย" ในภาษาตุรกี ตั้งอยู่ที่เมืองปามุคคาเล ประเทศตุรกี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่มีลักษณะเป็นแอ่งและมีธารน้ำแร่ใต้ดินไหลเอ่อล้นผุดขึ้นมาบนพื้นผิว รวมเป็นแอ่งน้ำหินปูนที่ลดหลั่นกัน กว้าง 300 เมตร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ก่อนไหลลงจากผาสูง สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากคือ หน้าผาที่ขาวที่กว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ
เมืองบูร์ซาตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศตุรกี ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลมาร์มะระไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 21 กิโลเมตร โดยที่นี่ถูกเรียกว่าเป็นเมืองแห่งรีสอร์ทและสกีเนื่องจากเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้บูร์ซายังเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอาณาจักรออตโตมานบนพื้นที่อานาโตเลียในอดีต ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ทางฝั่งยุโรปอันเป็นเมืองอิสตันบูล อีกทั้งบูร์ซายังเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับจากชาวตุรกีและนักชิมทั่วไปว่าเป็นเมืองแห่งกาบัปอันเป็นอาหารพื้นเมืองที่อร่อยที่สุดในประเทศอีกด้วย
มัสยิดประจำเมืองเบอร์ซา หรือ Ulu Cami ตามภาษาพื้นเมือง ตั้งอยู่ที่ถนน อัลตาเติร์ก ถือได้ว่าเป็นมัสยิดที่มีความสวยงามโด่ดเด่นที่สุดในเมือง ถูกสร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 14 ตามศิลปะสไตล์เซลจุค ( Seljuk ) ภายในมัสยิดมีความกว้างขวางโอ่อ่าให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางเขาวงกต นอกจากนี้มัสยิดแห่งนี้ยังมีความพิเศษอยู่ที่มีน้ำพุสำหรับชำระล้างบาปตั้งอยู่ใจกลางของมัสยิดภายใต้บริเวณหลังคาทรงโดม และมีการสลักอักษรอิสลามิกไว้บนผนังของมัสยิด ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของเมืองเบอร์ซา
อิสตันบูล (Istanbul City) เมืองที่มีความสำคัญและมีประชากรหนาแน่นที่สุดในประเทศตุรกี เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัสหรือคอนสแตนติโนเปิล อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์โลกโบราณ และที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือ อิสตันบูลคือเมืองหนึ่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป นั่นคือทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้อิสตันบูลกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของตุรกี ที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี และยังเป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศอีกด้วย
ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Strait) ช่องแคบเชื่อมทะเลดำเข้ากับทะเลมาร์มาร่า มีความยาวและความกว้างที่ถือว่า เป็นสุดขอบของทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย นอกจากมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันตุรกีด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ กระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อน ทั้งที่เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี่เอง ในปี ค.ศ. 1973 เปิดใช้สะพานบอสฟอรัสทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น
สไปซ์มาร์เก็ต หรือ ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market) ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานกาลาตา ซึ่งที่นี่ถือเป็นตลาดในร่ม และเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองในอิสตันบูล โดยเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าเยนี คามี ซึ่งสินค้าที่นำมาขายส่วนใหญ่คือเครื่องเทศเป็นหลัก ทั้งยังมีถั่วชนิดต่าง ๆ รังผึ้ง น้ำมันมะกอก ไปจนถึงเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฯลฯ นอกจากนั้นทางด้านใต้ของตลาดยังเชื่อมไปสู่ลานหินหน้าสุเหร่าซึ่งติดกับถนนเลียบทะเลมาร์มะรา ที่เชื่อมต่อกับทะเลสาบโกลเดนฮอร์น จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่ง
ตลาดแกรนด์บาซาร์ เป็นแหล่งช้อปปิ้งในบรรยากาศและไสตล์เตอร์กิชแท้ๆ ที่นี่กลายเป็นตลาดยอดนิยมที่โด่งดังที่สุดในตุรกี ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี โดยสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1453 เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ามากกว่า 4,000 ร้าน และมีสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ผ้าคลุมไหล่ พรม เซรามิก ของที่ระลึก ฯลฯ ที่สำคัญยังสามารถต่อรองราคาได้ด้วย โดยตลาดแกรนด์บาซาร์เปิดบริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.30 - 19.00 น.
หอคอยกาลาตา (Galata Tower) หอคอยหินสไตล์โรมัน เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี หอคอยนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ.1891 เป็นรูปทรงกระบอก ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่ง Golden Horn ภายในหอคอยนั้นมีทั้งหมด 9 ชั้น บริเวณชั้นบนมีร้านอาหาร และคาเฟ่ให้บริการ ในบริเวณชั้น 7-9 จะมีหน้าต่างที่สามารถมองออกไปยังภายนอกได้กว้างไกลจึงเป็นจุดชมวิวชั้นเยี่ยมของอิสตันบูล ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพของเมืองรวมทั้งความงดงามของทะเลมาร์มาราได้
สนามบินอิสตันบูล (Istanbul Airport) ตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ซึ่งสนามบินแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยรัฐบาลตุรกีต้องการสร้างให้สนามบินแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการบินของโลกที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปยุโรป เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ รวมกว่า 60 ประเทศ มีร้านค้าร้านอาหาร และคาเฟ่ให้เลือกมากมาย บางแห่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553