หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553
เมืองเคียฟ (kiev) เป็นเมืองหลวงของประเทศยูเครนและเป็นเมืองท่าสำคัญด้านอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ การศึกษา และวัฒนธรรมของยุโรปตะวันออก ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.482 โดยชนเผ่าสลาฟ และยังเป็น 1 ใน 5 เมืองที่ได้รับการยกย่องว่า สวยที่สุดในยุโรปอีกด้วย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำดนีปเปอร์ DHIPRO โดยเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม และอุดมสมบูรณ์ เลยทีเดียว
ย่านใจกลางเมือง (KHRESCHATYK MAIDAN CENTRAL SQUARE) เป็นจุดศูนย์รวมของวัยรุ่นในกรุงเคียฟ และเป็นบริเวณที่ตั้งสถานที่ราชการที่สำคัญ และในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมีการเปิดการจราจรในบริเวณนี้เพื่อเปิดเป็นถนนคนเดิน และที่รวบรวมศิลปินหลากหลายแขนงของกรุงเคียฟ โดยท่านจะพบเห็นชาวเมืองต่างพากันออกมาใช้เวลาว่างในวันหยุด กันอย่างอบอุ่น
อนุสาวรีย์โกลเด้นเกต (GOLDEN GATE MONUMENT) เป็นจุดที่เคยเป็นประตูเมืองเก่าที่เจ้าชายยาโรสลาฟสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เป็นส่วนหนึ่งของปราการป้องกันตัวเมืองเคียฟตอนบน คงเหลือไว้แต่ซุ้มประตูเมืองเท่านั้น และถูกดัดแปลงให้กลายเป็นสวนสาธารณะขนาดเล็ก ไว้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองในปัจจุบัน และท่านจะได้พบเห็นรูปปั้นแมว โดยมีความเชื่อว่า หากท่านได้สัมผัสกับรูปปั้นท่านจะพบแต่ความโชคดี และจะได้มีโอกาสได้กลับมาเยือนอีกครั้ง
โบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Cathedral) ศาสนสถานโบราณเก่าแก่ที่สุดของเมืองแห่งนี้อายุจวนจะพันปีแล้ว ในอดีตมหาวิหารแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวเคียฟ เป็นที่ฝังศพของกษัตริย์ในสมัยก่อน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1037 โดยกษัตริย์ยาโรสลาฟ ภายในตกแต่งด้วยการประดับประดากระเบื้องโมเสกอันวิจิตรและงดงาม ตลอดจนการตกแต่งด้วยภาพวาดแบบเฟรสโก เรียกว่าเลอค่าที่สุดแห่งหนึ่งของเคียฟเลยก็ว่าได้
โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St.Michael’s Golden Domes Monastery) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และถูกทำลายลงในสมัยที่ยูเครนถูกปกครองด้วยระบบสังคมนิยม และภายหลังที่ระบบนี้ล่มสลาย ประชาชนก็พากันเรียกร้องให้บูรณะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จนถึงศตวรรษที่ 17-18 โบสถ์ใหญ่ของที่นี่ได้ปรับปรุงใหม่ในสไตล์ยูเครเนียน-บาร็อก ภายในของโบสถ์ทรงหัวหอมคว่ำนั้น ช่างเข้มขลังและดูมีพลังอย่างประหลาด แต่สำหรับบางคนแค่เห็นสีฟ้าของโบสถ์ถูกตัดด้วยยอดโดมสีทอง ก็หลงใหลกับความงดงามของโบสถ์แห่งนี้เลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์เชอร์โนบิล (Chernobyl Museum) เป็นสถานที่ที่สร้างเพื่ออุทิศให้แก่ผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์โรงงานปรมาณูนิวเคลียร์ระเบิดในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986 ที่กรุงเคียฟ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตอยู่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมหาศาล และต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ดังกล่าวถึง 350,400 คน ภายในพิพิธภัณฑ์เราจะได้รับความรู้จากประวัติศาสตร์ ทั้งสาเหตุการระเบิด แนวทางการแก้ไขของสหภาพโซเวียต และการช่วยเหลือจากนานาประเทศกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนั้น
โบถส์เซนต์แอนดริวเดอร์เซนต์ (St.Andrew's descent) เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่สวยงามแปลกตา ก่อสร้างขึ้นในศตวรรษ ที่13 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน ราสเตรลี่ สถาปนิกชาวอิตาลีหนึ่งในผู้ออกแบบเมืองเซนต์ปีเตอรส์เบิรก์ ตัวโบสถ์ทำเป็นรูปโดมศิลปะแบบบารอกรายล้อมด้วยหอคอยสูงสี่ด้าน ตรงฐานระเบียงสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามโดยรอบภายในตกแต่งไว้อย่างวิจิตรบรรจงด้วยภาพวาด รูปปั้นรูปแกะสลักเคลือบทองประติมากรรมต่างๆ
โรงละครโอเปร่าเมืองเคียฟ (Kiev opera house) เป็นโรงละครเก่าแก่ สร้างในสมัยสหภาพโซเวียต นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความสวยงาม และความมีมนต์เสน่ห์ของโรงละครโอเปร่าแห่งนี้แล้ว ยังสามารถชมการแสดง ระหว่าง โอเปร่า หรือ บัลเล่ต์ ได้อีกด้วย ทั้งนีขึ้นอยู่กับวันที่ และคณะที่เข้าชม
อารามแห่งหมู่ถ้ำ MONASTERY OF THE CAVES (PECHERSKA LAVRA) หรือ วิหารแห่งถ้ำ (MONASTERY OF THE CAVES,LAVRA) เป็นโบสถ์สำคัญในนิกายยูเคนออร์โธดอกซ์ ก่อสร้างขึ้น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1051 ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว้างขวางถึง 75 เอเคอร์ บริเวณเชิงเขา ริมฝั่งแม่น้ำดนีปเปอร์ ประกอบอด้วยอาคารหลายส่วน ชั้นบนของอารามประกอบด้วยหอระฆัง (BELL TOWER) ในสถาปัตยกรรมยูเครนเนี่ยน สูง 76 เมตร เลยทีเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์จากองค์กร ยูเนสโก้ UNESCO โดยถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1990
พิพิธภัณฑ์มหาสมบัติแห่งชาติยูเครน หรือ พิพิธภัณฑ์ประวัติ ศาสตร์ขุมทรัพย์ (MUSEUM OF THE HISTORICAL TRESURES) เป็นสถานที่เก็บรักษา เป็นสถานที่เก็บรักษา และจัดแสดงสมบัติมีค่าต่างๆ ของประเทศยูเครน ได้แก่ อัญมณี เครื่องประดับ เครื่องทอง เครื่องเพชรพลอยโบราณ และภาพวาด สมบัติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดได้แก่คอลเลกชันเครื่องประดับทองคำที่งดงามของชาวไซเธียน Scytian ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์จากองค์กร UNESCO ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
อนุสาวรีย์วีรสตรีแห่งยูเครน ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นวิวเมืองเคียฟ และแม่น้ำดนิปเปอร์ภายในมีพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ชมอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ปลดประจำการสมัยสงครามโลก ครั้งที่นาซีเยอรมันบุกเข้ากรุงเคียฟ ซึ่งภายหลังจากสงครามสงบแล้ว ได้เก็บรวบรวมอาวุธต่างๆ เพื่อไว้เตือนใจชนรุ่นหลังให้ระลึกถึงเหล่าวีรชนผู้กล้าหาญ ชม แบล็กทิวลิป เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเคยลำเลียงทหารหลายพันชีวิต และร่างทหารที่เสียชีวิตกลับมายังกรุงเคียฟชมอนุสาวรีย์เทพีผู้ปกป้องกรุงเคียฟ ที่สูงเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขา
เมืองลวีฟ (Lviv) MEDIEVAL TOWN เป็นเมืองที่องค์กรยูเนสโกยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์เปิดของโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี 1998 จึงได้รับฉายาว่า เมืองโรแมนติคแห่งฝั่งตะวันตก นอกจากเป็นเมืองประวัติศาสตร์ซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมและภาษาแล้ว ลวีฟ ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องขนมหวานและกาแฟซึ่งถือเป็นวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของชาวลวีฟ เลยทีเดียว และเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2009 นิตยสารยูเครนโฟกัส ยังยกให้ที่นี่เป็นเมืองที่ดีที่สุดในยูเครน อีกด้วย
มหาวิหารโดมินิกัน (Dormition Church) โบสถ์ประจำเมืองเก่าแก่ อายุกว่า 600 ปี ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 และภายในโบสถ์ได้รับการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑสถานทางศาสนา
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์และพอล (St.Peter and Paul Garrison Church) นิกายเยซูอิต สร้างขึ้นในปีค.ศ.1610-1620 สมัยนั้นเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนียออกแบบโดย Sebastian Lachmius แต่ได้รับการแก้ไขต่อเติมแบบโดยช่างมืออาชีพ Jacopo Briano โดยได้ต่อเติม หอนาฬิกาที่มีความสูง 80 เมตรอยู่ด้านทิศใต้ ซึ่งเคยเป็นหอนาฬิกาที่สูงที่สุดในสมัยนั้น
จัตุรัสไรน็อค (Rynok Square) (Rynok ในภาษายูเครน หมายถึง ตลาด) จัดได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของลวีฟ นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์กลางของวิถีชีวิต เศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม ของชาวลวีฟ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถชมอาคารดั้งเดิม 45 รูปแบบ สถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-20 ที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ และยกย่องให้เป็นพิพิธภัณฑ์เปิดของโลก ได้อีกด้วย
AUSTRIA-HUNGARIAN TOWN นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมย่านความมั่งคั่งทางด้านวัฒนธรรมและความหลากหลายในด้านสถาปัตยกรรม อย่างอาคารเรเนสซองส์อินตาเลียนในศตวรรษที่ 16 ตั้งเคียงคู่กับโบสถ์แบบโกธิกกับโรงแรมแบบร็อคโคโค ชมเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และตำนานแห่งศตวรรษที่15-17 ชมวิหารคาโตลิตสกีโซบอร์ซึ่งยอดหอคอยเป็นสัญลักษณ์เด่นสะดุดตาที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง สร้างขึ้นใน ศตวรรษที่ 14 เมื่อครั้งลวิฟตกเป็นของโปแลนด์
เมืองโอเดสซา (Odessa) เป็นเมืองที่มีความสำคัญต่อประเทศยูเครนมาก โดยเฉพาะในด้านของการท่องเที่ยว เพราะเป็นเมืองที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง จึงมีสถาปัตยกรรมอันโบราณ และมีความหลากหลายของสถานที่ เมืองนี้จัดได้ว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อหลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น ท่าเรือโอเดสซา เพราะเป็นท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตของทะเลสีดำ จุดนี้เองที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมความงามของเรือหลายประเภท ที่มาจอดเทียบท่า ชมบรรยากาศอันแสนรื่นรมย์ ความเย็นฉ่ำของน้ำทะเล นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับกลิ่นไอของธรรมชาติแท้ๆ
บันไดโพธอมคิน (Potemkin Stairs) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยบันไดแห่งนี้ถือว่าเป็นทางเข้าอย่างเป็นทางการสำหรับคนที่จะเข้ามาในเมืองโอเดสซา บันไดโพธอมคิน ได้รับการออกแบบโดย F.BOFFO โดยบันไดทั้งหมด 192 ขั้น สูง 27 เมตร และยาว 136 และ 5 เมตร ไม่ไกลจากกันักจะเป็นอนุสาวรีย์ของ DUKE DE RICHELIEU ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งของโอเดสซา รวมไปถึง อาคารเทศบาลเมือง และโบสถ์ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองโอเดสซา เลยก็ว่าได้
โอเดสซาโอเปร่าและบัลเล่ต์เธียเตอร์ (Odessa Opera and Ballet Theater) อีกหนึ่งอาคารที่มีความสวยงาม ซึ่งถูกเปิดครั้งแรกในปี 1810 และถูกไฟไหม้ทำลายไปใน ปี 1873 ต่อมาถูกสร้างขึ้นใหม่ในในสไตล์นีโอบาร็อค และเปิดอีกครั้งในปี 1887 ปัจจุบันถือว่าเป็นอาคารที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอาคารดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย
สุสานโอเดสซา (Odessa catacombs) ถูกสร้างขึ้นจากเหมืองแร่เก่าที่ถูกทิ้งร้างมานาน ภายในมีลักษณะเป็นอุโมงค์ใต้ดินคล้ายๆกับเขาวงกตที่ความซับซ้อนขนาดใหญ่ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สุสานได้ถูกใช้เป็นสถานที่หลบซ่อนสำหรับเหล่าทหาร ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีมาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจอุโมงค์ ที่แม้จะมีอันตรายมากก็ตาม
สนามบินสุวรรณภูมิ หรือ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในในเขตอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร 25 กิโลเมตร เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศไทยแทนท่าอากาศยานดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิเคยให้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลกในปี พ.ศ. 2553