หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
กรุงฮานอย เมืองหลวงของประเทศเวียดนาม มีขนาดพื้นที่ใหญ่เอันดับสองของประเท มีชื่อเรียกหลากหลาย เช่น เมืองทังลอง แปลว่า เมืองมังกรผงาดฟ้า บางครั้งเรียกว่า เมืองโดงกึง แปลว่าเมืองหลวงทางทิศตะวันออก ปัจจุบันฮานอยเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาติ มีสถานที่น่าสนใจมากมาย ณ ย่านชุมชน มีถนนเล็กๆ ที่เรียกชื่อถนนตามสินค้าที่วางขาย เช่น ถนนผ้าไหม ถนนกระดาษ ถนนเสื่อ เป็นต้น เมืองฮานอยเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตมากมาย ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ไปลองสัมผัสดูซักครั้ง
ซาปา เมืองที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดลาวไก ทางตอนหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้กับชายแดนจีน มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ทำให้เพาะปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาวได้ดี และเป็นดินแดนแห่งขุนเขาที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์มากที่สุดในประเทศเวียตนาม ในอดีตเมืองซาปาเคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม ในปี พ.ศ. 2465 และได้มีการสร้างสถานีภูเขาขึ้น เพราะด้วยเมืองซาปาโอบล้อมด้วยขุนเขาน้อยใหญ่จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี
น้ำตกซิลเวอร์ หรือชาวเวียดนามเรียกว่า Thac Bac เป็นน้ำตกที่มีความงดงามทางธรรมชาติ อยู่บริเวณริมถนนมีความสูงกว่า 100 เมตร ไหลลัดเลาะลงมาจากหน้าผาหินลงมาสร้างความสวยงาม และความประทับใจได้อย่างมาก เราสามารถเดินขึ้นบันไดที่เลียบขึ้นไปตามไหล่เขา ทางเดินไปน้ำตกเค้าทำได้ดี ให้ขึ้นทางนึง ลงทางนึง มีจุดสำหรับยืนถ่ายภาพบนสะพานที่ทอดข้ามสายน้ำตก ซึ่งจุดนี้นักท่องเที่ยวนิยมมายืนถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก
หุบเขาปากมังกร ดื่มด่ำไปกับความสวยงามของทะเลหมอกที่ปกคลุมทั่วเมืองซาปา รอบด้านรายล้อมไปด้วยเทือกเขาใหญ่ที่ทอดยาวมาจากมณฑลยูนนานในประเทศจีน ซึ่งมี “ยอดเขาฟานซีปัน ที่สูงโดดเด่นกว่ายอดเขาอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคอินโดจีนซึ่งมีความสูง 3,143 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
หมู่บ้านชาวเขากั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) ตั้งอยู่ในเมืองซาปา จังหวัดลาวไก ทางตอนเหนือสุดของเวียดนาม เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งดำที่ทำนาอยู่ในหุบเขา บรรยากาศของหมู่บ้านนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ในเรื่องความสงบ สภาพอากาศของที่นี่หนาวเย็นตลอดทั้งปี และธรรมชาติที่สดชื่น วิวทิวทัศน์ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขา และแปลงนาข้าวแบบขั้นบันไดที่สวยสุดลูกหูลูกตา
หมู่บ้านต่าฟาน (Ta Van Village) อยู่ทางทิศใต้ของเมืองซาปาประมาณ 10 กิโลเมตร หมู่บ้านต่าฟาน เป็นหมู่บ้านของชาวเขาหลายเผ่ามาอยู่รวมกัน แต่จะมีประชากรของเผ่า Giay ซึ่งถือเป็นชนเผ่าที่มีประชากรค่อนข้างเยอะในเวียตนาม ซึ่งในความหลากหลายของคนพื้นเมืองทำให้เห็นความแตกต่างของการแต่งกาย ซึ่งแต่ละเผ่าก็จะแตกต่างกันออกไปและยังมีภาษาพูดเฉพาะอีกด้วย การเข้ามาชมหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อชมวิถีชีวิตของชาวเขา และสัมผัสทัศนียภาพของนาขั้นบันได ซึ่งมีเทือกเขาฟานสีปันเป็นฉากหลัง มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ
ตลาดซาปา (Sapa Market) เป็นตลาดที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซาปา บริเวณลานหน้าโบสถ์ซาปา มีสินค้าพื้นเมืองที่ผลิตโดยชาวเขาท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ที่ซาปา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผ้าปัก สร้อย กําไล เครื่องประดับของคนพื้นเมือง ผัก ผลไม้ และอาหารพื้นเมืองมากมาย ตลาดนี้มีขึ้นแบบไม่เป็นทางการหรือก็คือไม่มีเวลาเปิดปิดแน่นอนในตอนกลางวัน ถือเอาเวลาฟ้าสางเป็นหลัก ส่วนกลางคืนก็จะยิ่งคึกคัก นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสเก๋ ๆ ตกแต่งร้านสวยงาม ที่ให้เราเลือกได้ตามใจชอบ
ปัจจุบันใช้เป็นที่รับรองแขกบ้านแขกเมือง ทาด้วยสีเหลืองทั้งหลัง มีทหารเฝ้าห้ามเข้าใกล้ แต่มีเชือกกั้นสามารถถ่ายรูปได้ในระยะไกล
บ้านพักของโฮจิมินห์ หรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า บ้านโฮจิมินห์ เป็นบ้านพักของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ในช่วง 1958-1969 ที่ฮานอย ซึ่งตั้งอยู่หลังอาคาร Presidential Palace Hanoi เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงที่ดูเรียบง่าย ซึ่งบ้านพักของลุงโฮนี้จะบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวการใช้ชีวิตของลุงโฮ บ้านโฮจิมินห์มีบรรยากาศอันร่มรื่น รวมไปถึงเครื่องมือเครื่องใช้ของลุงโฮ อาทิเช่น โต๊ะทำงาน และเครื่องตำข้าว ภายในบ้านโฮจิมินห์แห่งนี้ได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลประวัติการทำงานของลุงโฮไว้อีกด้วย
วัดเจดีย์เสาเดียวตั้งอยู่ในสวนสาธารณะที่อยู่ด้านหลังถนน Ong Ich Kiem ในเขต Ba Dinh ของฮานอย เจดีย์เปิดให้เข้าชมตลอดสัปดาห์ในช่วงฤดูร้อน แต่ปิดในวันจันทร์และศุกร์ในช่วงฤดูหนาว เข้าชมได้ฟรี วัดนี้ตั้งอยู่กลางสระบัวที่สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาให้แก่เจ้าแม่กวนอิม มีเอกลักษณ์ของเจดีย์เสาเดียวที่ตั้งอยู่เหนือสระน้ำขนาดย่อมบนเสาหินเดี่ยว เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิลี้ ท้าย ตง ผู้ครองราชย์ในช่วงระหว่างปี 1028 ถึงปี 1054
พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ตั้งอยู่ใกล้กับสุสานโฮจิมินห์และจัตุรัสบาดิงห์ ออกแบบและก่อสร้างโดยช่างจากรัสเซีย เป็นสถานที่เก็บรวมรวบเรื่องราวเรื่องราวตลอดชีวิตที่ผ่านมาของประธานาธิบดีโฮจิมินห์ รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเติบโต ขั้นตอนการปฏิวัติและกอบกู้เอกราช จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตที่ปลดปล่อย ประกาศเอกราชให้ชาวเวียดนามและรวบรวมเวียดนามให้เป็นหนึ่งเดียว ผ่านภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของลุงโฮ
ย่านถนน 36 สายเก่า ฮานอย หรือ ย่านเฝอเฟือง แหล่งขายของที่ระลึกและสินค้าพื้นเมืองที่ใหญ่สุดใจกลางกรุงฮานอย เป็นย่านหัตถกรรมที่มีประวัติยาวนานร่วม 600 กว่าปี ทุกคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่ย่านนี้จะมีตลาดกลางคืน หรือ Night Market (ที่คล้ายกับถนนคนเดินเชียงใหม่) คึกคักไปด้วยผู้คนทั้งชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมวิถีชีวิต ซื้อของฝากของที่ระลึก เช่น ตุ๊กตาเวียดนาม กระเป๋า ของใช้ที่ทำจากหัตถกรรม และของฝากสไตล์เวียดนาม
จตุรัสบาดิงห์ หรือ จัตุรัสบาดิ่ญ เป็นสถานที่จัตุรัสกลางเมืองนี้เป็นที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากฝรั่งเสสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกันอยู่ในจัตุรัสมากกว่า 500,000 คน เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.1945 เพื่อประกาศถึงชัยชนะของชาวเวียดนามเหนือกองทัพฝรั่งเศส ประกาศถึงอิสรภาพ และความเป็นชาติ ของเวียดนาม เวียดนามจึงยึดถือว่า วันที่ 2 กันยายนของทุกปี เป็นวันชาติของเวียดนาม
สุสานโฮจิมินห์ หรือ จู่ติกโอจิมินห์ (Lang Chu Tich ho Chi Minh) เป็นสุสานของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิงห์ อยู่ห่างจากทะเลสาบโฮฮว่านเกี๋ยมไปทางทิศตะวันตก 2 กิโลเมตร สุสานบรรจุศพแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองฮานอย ภายในอนุสาวรีย์มีโลงแก้วบรรจุร่างของ ท่านโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม มีรูปแบบสถาปัตยกรรมมาจากอนุสาวรีย์บรรจุศพของ วลาดีมีร์ เลนิน ในประเทศรัสเซีย โดยเปิดให้สาธารณชนเข้าชมครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1975