หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
ฟานเทียด (Phan Thiet)เป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญของ Vietnam ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายที่ใครหลายคนต่างอยากมาชื่นชม และสำรวจ เพื่อเก็บเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจ นอกเหนือจากความสวยงามของภูมิประเทศ ที่เมืองฟานเทียดแล้ว ยังมีวัฒนธรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจ หลากหลายด้วยขนบธรรมเนียมประเพนีที่น่าสนใจ อาหารพื้นเมืองอันเลื่องชื่อ พร้อมจะดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ให้มาเยือนครั้งแล้วครั้งเล่า
ทะเลทรายมุยเน่ ตั้งอยู่ในเมืองมุยเน่ ประเทศเวียดนาม แบ่งเป็น 2 โซนคือ ทะเลทรายขาว (white sand dunes) เป็นเนินทรายที่ใหญ่ที่สุดของมุยเน่ มีทะเลสาบขนาบข้าง และทะเลทรายสีแดง (Red Sand Dunes) ซึ่งทะเลทรายทั้งสองอยู่ห่างกันราว 30 กม. เนินทรายสีแดง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียส เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมคือช่วงเช้า หรือช่วงหลังจาก 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะกระแสลมไม่แรงและแดดไม่ร้อนมากจนเกินไป
ลำธารนางฟ้า (Mui Ne Fairy Stream) อีกหนึ่งสถานที่เช็คอินยอดนิยมในมุยเน่ ธารน้ำสีแดงอันเกิดจากธรรมชาติ ได้รับฉายาว่า "แกรนแคนยอนเวียตนามใต้" เกิดจากการกัดเซาะของน้ำในแอ่งทะเลทราย กลายเป็นโตรกลึกที่เปิดเนื้อดินให้เห็นชั้นของทรายและดินดาน จากธารน้ำเล็กๆ ไหลผ่านภูมิประเทศกึ่งทะเลทราย เซาะเป็นร่องลึกว่า 20 เมตร เปิดให้เห็นชั้นดินและทรายหลากสี นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ ทัศนียภาพของชั้นดิน
เมืองดาลัด หรือ ยาตรัง ดินแดนแห่งความรักผลิบาน ได้ชื่อว่าเป็นหุบเขาแห่งความรัก สัมผัสบรรายกาศดี โอบล้อมไป ด้วยขุนเขา แมกไม้นานาพันธุ์ และทะเลสาบ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวโรแมนติคที่สุดในเวียดนาม ด้วยเนินเขาเขียวขจีที่สลับซับซ้อน ทะเลสาบในสายหมอกบางๆ และป่าสนอันหอมกรุ่น ดาลัด แวดล้อมไปด้วยป่าเขา ไร่กาแฟและสวน อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล1,475ม มักได้รับการเรียกขานให้เป็น “เมืองแห่งฤดูใบไม้ผลิชั่วนิรันดร์” เป็นสมญานามที่เหมาะสุด เพราะแม้ในอากาศอันร้อนระอุของฤดูร้อนอุณหภูมิในตัวเมืองอยู่ระหว่าง15-24องศา
น้ำตกดาตันลา หรือ น้ำตกดาลัด ตั้งอยู่นอกเมืองดาลัดไปทางทิศใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร ดาตังลา หมายถึง น้้ำตกที่ไหลจากซอกใบไม้ สามารถเดินขึ้นถึงข้างบน เนื่องจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เกื้อหนุน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทำให้สามารถดึงดูดนักเที่ยวมาชมน้ำตกนี้เป็นจำนวนมาก
วัดจีนในลัทธิเซน ตั้งอยู่บนเขา สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1993 มีความสงบเงียบ ทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่ การมาที่วัดแห่งนี้ นอกจากเดินทางขึ้นมาโดยรถแล้ว มีการให้บริการโดยกระเช้า สำหรับทิวทัศน์ด้านบนกระเช้า เป็นป่าไม้ ขุนเขา และบ้านเรือนในเมืองดาลัทสวยงามมาก
พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบาได๋ แห่งราชวงศ์เหงียน และเป็นจักรพรรดิพระองค์สุดท้าย ได้รับการออกแบบและปลูกสร้างอยู่ท่ามกลางสวนสวย ใต้ร่มเงาของทิวสนใหญ่ ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปี ตั้งแต่ปีพศ. 2476 เป็นสถานที่พักผ่อนของพระองค์และครอบครัว ตั้งอยู่เนินเขาห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 กม. ภายในมีห้องต่างๆ รวมทั้งพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าเบ๋าได๋ มีีความแปลกของสถาปัตยกรรมผสานกับงานศิลปะ บ้านรูปทรงเสมือนยีราฟ เหมือนต้นไม้บ้าง มีห้องนอนหลากหลายห้อง
หุบเขาแห่งความรัก เมื่อก่อนเชื่อกันว่า เป็นบริเวณที่บรรดาจักรพรรดิโปรดปรานมาล่าสัตว์ในช่วงฤดูที่อากาศดีๆ ปัจจุบันนี้กลายเป็น หุบเขาแห่งความรักซึ่งชื่อนี้ได้มาจากนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยดาลัด ที่นิยมมาพลอดรักกันที่นี่ ที่มีลักษณะเป็นสวนสวย ถูกประดับตกแต่งด้วยมวลดอกไม้นานาชนิด ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาและทะเลสาบ ทิวทัศน์สวยงามมาก เหมาะแก่การถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบรรยากาศธรรมชาติที่สรรสร้างมาอย่างวิจิตรบรรจง
สวนดอกไม้เมืองหนาวของเมืองดาลัด ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของทะเลสาบซวนฮวาง บนถนนฟูดงเตียนหวุง ได้รับการสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2409 เพื่อให้คำปรึกษาแก่เกษตรกรภาคใต้ ดาลัดได้รับการขนานนามว่าเมืองแห่งดอกไม้ ที่นี่จึงมีดอกไม้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นสายพันธุ์มาจากยุโรปเป็นส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบดอกไม้เมืองหนาวที่สวยและมีสีสันแปลกตาจะต้องชื่นที่นี่อย่างแน่นอน รับรองว่าต้องเพลิดเพลินและหมดเวลาไปกับการบันทึกภาพ เก็บสีสันและบรรยากาศโรแมนติกแบบนี้ไว้อีกนานเลยทีเดียว
นครโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม "ไซ่ง่อน" เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และมีการลงทุนจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 34.9 ของทั้งประเทศ เป็นเมืองหลักทางภาคใต้ที่มีท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีท่าอากาศยานระหว่างประเทศ โฮจิมินห์เป็นเมืองหลวงเก่าที่เคยปกครองโดยระบบเสรีนิยม จึงเปิดกว้างด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศจะอยู่ที่นครแห่งนี้
นครโฮจิมินห์ หรือชื่อเดิม "ไซ่ง่อน" เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โฮจิมินห์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และมีการลงทุนจากต่างประเทศมากถึงร้อยละ 34.9 ของทั้งประเทศ เป็นเมืองหลักทางภาคใต้ที่มีท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีท่าอากาศยานระหว่างประเทศ โฮจิมินห์เป็นเมืองหลวงเก่าที่เคยปกครองโดยระบบเสรีนิยม จึงเปิดกว้างด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศจะอยู่ที่นครแห่งนี้
ย่านไชน่าทาวน์ นครโฮจิมินห์ (Chinatown หรือ Cho Lon) ความคึกคักและการใช้ชีวิตความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของชาวไซ่ง่อน สัมผัสกับบรรยากาศตีกรามบ้านช่องแบบเก่า ความรู้สึกแบบชาวเมืองในอดีตซึ่งยากจะหาชมได้อีกในปัจจุบัน ชมความเป็นอยู่ของชาวบ้านพื้นเมือง
วัดเทียนหัว (Thean Hou Temple) หรือ วัดเจ้าแม่ทับทิม สร้างระหว่างปี ค.ศ.1981–1987 เป็นเทพเจ้าของจีนซึ่งประชาชนเชื่อกันว่า เป็นผู้ปกปักรักษาชาวประมง วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาคารหลักสูง 6 ชั้น ตั้งอยู่บนถนน Jalan Klang Lama กรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) ประเทศมาเลเซีย
โบสถ์ไซง่อนนอร์ทเทรอดาม (Saigon Notre-Dame Basilica) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงโฮจิมินห์ ตรงข้ามสำนักงานไปรษณีย์กลางไซง่อน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของเมือง ด้านหน้ามีสวนสาธารณะขนาดเล็ก ซึ่งเป็นจุดที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปโบสถ์นี้ และบริเวณสวนด้านหน้าจะมีรูปปั้นพระแม่มารีสีขาวตั้งอยู่คู่โบสถ์ด้วย
ไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน หรือไปรษณีย์กลาง เมืองโฮจิมินห์ (Saigon Central Post Office) เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่สุดของเวียดนาม ออกแบบและก่อสร้างในสไตล์ฝรั่งเศส เป็นศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2444 ผู้ออกแบบไปรษณีย์แห่งนี้คือ Gustave Eiffel สถาปนิกระดับโลกไปรษณีย์กลางแห่งนี้ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี มีความหรูหราโอ่อ่าและอ่อนช้อยทว่ามั่นคง จนทำให้นักออกแบบมา กมายต้องมาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งอาคารแห่งนี้
อนุสาวรีย์อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ด้านหน้าของสภาประชาชน มีสวนสวยที่เรียกว่า จัตุรัสโฮจิมินห์ และมีรูปปั้นอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในสวนสวย จุดนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของนครโฮจิมินห์ที่ใช้เป็นจุดตั้งหลักและจุดนัดพบเลยก็ว่าได้ ในตอนกลางคืนบริเวณลานน้ำพุในจตุรัสแห่งนี้มักมีชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ มานั่งพักผ่อนชมวิวกันทุกคืน
พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) พิพิธภัณฑ์สงครามแห่งนี้เปิดในเดือนกันยายน พ.ศ. 2518 ตั้งอยู่ที่กรุงโฮจิมินห์ ภายนอกอาคารจัดแสดงซากชิ้นส่วนอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะเป็นรถถัง เฮลิคอปเตอร์ เครื่องบินขับไล่ ระเบิด ของกองทัพอเมริกันที่เวียดนามยึดมาได้ในช่วงสงครามเวียดนาม ส่วนภายในอาคารจัดแสดงภาพถ่าย และอาวุธชนิดต่าง ๆ รวมถึงอาวุธเคมีที่ใช้ในช่วงสงครามเวียดนามเช่นกัน
ตลาดเบนถัน (Ben Thanh Market) อันแสนคึกคักทุกช่วงเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นตลาดกลางของโฮจิมินห์ซิตี้ที่มีขนาดใหญ่และอึกทึกที่สุดในเวียดนาม ตอนเช้าตรู่จะเห็นชาวท้องถิ่นมาเลือกซื้อของสด ก่อนที่ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นจะเปิดในช่วงสายๆ ยาวไปทั้งวัน ส่วนตลาดกลางคืนจะตั้งอยู่ข้างของจุดศูนย์กลางตลาด เน้นจำหน่ายเครื่องแต่งกาย เครื่องนุ่งห่ม และของที่ระลึกจนถึง 24:00 น. พร้อมกับร้านอาหารริมถนนที่น่าสนใจ
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก