หากคุณสนใจสามารถติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่
02 105 6234 หรือ CustomerService@Mushroomtravel.com
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก
สะพานมังกร อีกหนึ่งจุดไฮไลท์แห่งใหม่ที่ใครได้มาเที่ยวเมืองดานังจะต้องแวะมาชม สะพานมังกรไฟ สัญลักษณ์ความสำเร็จแห่งใหม่ของเวียดนาม ที่มีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 เลนส์ เชื่อมต่อสองฟากฝั่งของแม่น้ำฮัน สะพานมังกรถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวดานัง เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนประเทศ และเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2013 ด้วยสถาปัตยกรรมที่บวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานของเวียดนามเมื่อกว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว
สะพานแห่งความรัก ดานัง (Love Bridge Da Nang) สะพานแห่งความรักดานังที่นิยมของหนุ่มสาวคู่รักที่จะมาซื้อกุญแจใสคล้องใส่สะพาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหาน ซึ่งมีความกว้างใกล้เคียงกับแม่น้ำเจ้าพระยา ประดับตกแต่งด้วยเสารูปหัวใจ และจากสะพานแห่งนี้ทางด้านหลัง ก็สามารถมองเห็นวิวของสะพานมังกรแบบเต็มๆ นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นถ่ายรูปถนนเลียบแม่น้ำที่ประดับประดาสวยงามด้วยดวงไฟรูปหัวใจตลอดช่วงค่ำ
หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน (Marble Sculpture Village) หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน เมืองดานัง ที่เกือบทุกครอบครัวในหมู่บ้านนี้ทำอาชีพแกะสลักหินอ่อน โดยนำมาจากภูเขาลูกเล็กๆ ในละแวกนั้น เพื่อผลิตเป็นสินค้าจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว อาทิรูปปั้นเทพเจ้า แจกัน โต๊ะ เก้าอี้ หรือแม้กระทั่งเครื่องประดับชิ้นเล็ก ให้เราได้เลือกชมและซื้อเป็นของฝากของที่ระลึกได้
หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Village) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่เมืองฮอยอัน ซึ่งเอกลักษณ์เด่นของหมู่บ้านนนี้คือรอบๆ หมู่บ้านจะมีสวนมะพร้าวและมีแม่น้ำล้อมรอบ และคนในหหมู่บ้านจะประกอบอาชีพทําประมงเป็นหลัก ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งเรือกระด้ง ทำให้หมู่บ้านนี้เป็นที่รู้จักว่า หมู่บ้านเรือกระด้งนั่นเอง
เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) เมืองสำคัญที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ด้านวัฒนธรรม และเป็นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศเวียดนาม ย่านเมืองเก่าที่มีสัญลักษณ์เป็นตึกสีเหลืองสดใส สไตล์ชิโนโปรตุกีสผสมโคโลเนียลที่มีให้เห็นตลอดทาง มีความสวยงามสมกับเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO
บ้านเลขที่ 101 ฮอยอัน คือบ้านประจำตระกูล Tan Ky บนถนนเหวียนไทฮ็อก เมืองฮอยอัน เป็นบ้านไม้ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของเมืองฮอยอัน เจ้าของเดิมคือชาวจีน สร้างขึ้นมาเมื่อ 75 ปีที่แล้ว อยู่กันมา 5 ชั่วอายุคน ภายในแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว ตั้งแต่ ห้องสมุดสมัยก่อน ห้องรับแขก และห้องครัว และบ้านเลขที่ 77 การได้เข้าไปเยี่ยมชมบ้านโบราณที่ยังคงความงดงามเหล่านีิ้ ถือเป็นไฮไลท์ที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่งของการมาเยือนเมืองฮอยอัน
สะพานญี่ปุ่น อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองฮอยอัน สร้างโดยชาวญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1593 หรือเมื่อประมาณ 400 ปีที่ผ่านมา เพื่อแบ่งเขตชุมชนของชาวญี่ปุ่นอีกฝั่งหนึ่งของคลองกับชุมชนของชาวจีน และเพื่อเชื่อมถนนจัน ฟู กับ ถนนเหวียน ถิ มินห์ คาย ให้ชาวญี่ปุ่นและชาวจีนยังคงไปมาหาสู่ค้าขายระหว่างกันได้ รูปทรงของสะพานมีลักษณะโค้งมีหลังคามุงกระเบื้องเป็นคลื่น ตรงกลางสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัส เมื่อเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งก็จะได้พบกันบ้านเรือนเก่าสไตล์ญี่ปุ่นตลอดจนร้านสไตล์อาร์ทแกลอรี่ริมถนนคนเดินสองฟากฝั่งถนน
ศาลเจ้ากวนอู หรือ ศาลเจ้าออง เมืองฮอยอัน (Guan Yu Temple | Quan Cong Temple) ตั้งอยู่บนถนน Tran Phu ใกล้กับตลาดกลาง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1653 โดยชาวหมู่บ้านมินเฮือง ชาวจีนที่อพยพมาตั้งรกรากอยู่ที่เวียดนาม เป็นที่กราบไหว้บรรพบุรุษและขอพรสำหรับการเดินทาง วัดแห่งนี้เดิมเป็นที่สักการะในหมู่พ่อค้าเพื่อมาเคารพบรรพชนของเขาและขอพรให้เดินทางปลอดภัย ที่นี่ได้รับการซ่อมแซมบูรณะอีกหลายต่อหลายครั้ง
วัดฟุกเกี๋ยน หรือ สมาคมฟุกเกี๋ยน (Phuoc Kien Association) เป็นสมาคมชาวจีนที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของเมืองฮอยอัน ใช้เป็นที่พบปะของคนหลายรุ่น และภายในยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับลัทธิของพระนางเทียนเห่า วัดนี้มีจุดเด่นอยู่ที่งานไม้แกะสลัก ลวดลายสวยงาม ท่านสามารถทำบุญต่ออายุโดยพิธีสมัยโบราณ คือ การนำธูปที่ขดเป็นก้นหอย มาจุดทิ้งไว้ เพื่อเป็นสิริมงคล
บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) แหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตแห่งใหม่ในเมืองดานัง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งภูเขาแห่งนี้มีทั้งรีสอรท์ โรงแรม รวมทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่บนยอดเขา จุดไฮไลต์ของที่นี่คือ การนั่งกระเช้าขึ้นไปข้างบน ทั้งนี้กระเช้าแห่งบานาฮิลล์ได้รับการบันทึกสถิติโลก โดย World Record ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก ในประเภท Non Stop เพราะมีความยาวถึง 5,042 เมตร ในอดีตบานาฮิลล์เป็นสถานตากอากาศที่ดีที่สุดในเวียดนามกลาง ถูกค้นพบในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเวียดนาม
สวนดอกไม้แห่งความรัก (Le Jardin d'Amour) เป็นสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศส ที่มีดอกไม้หลากหลายพันธุ์ที่จัดเป็นสัดส่วนอย่างสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่แสนเย็นสบาย ที่ไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหนของสวน ก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยงามและน่ารัก พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก
สะพานมือยักษ์สีทอง (Golden Bridge) เป็นจุดแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดในการมาเที่ยวบานาฮิลล์ สะพานลอยฟ้าแห่งนี้อยู่บนเขาบานาฮิลส์ เป็นสะพานสีทองทอดยาวโดยมีมือ 2 ข้างอุ้มไว้ มีความสูง 1,414 เมตรจากระดับน้ำทะเล ความยาวเกือบ 150 เมตร และกว้าง 12.8 เมตร ตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า Paradise Garden เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปวิวพาโนรามาของบานาฮิลล์ได้แบบ 360 องศา ตั้งอยู่ในตําแหน่งที่โดดเด่นสวยงาม เป็นอีกจุดท่องเที่ยวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
โรงเก็บไวน์ Debay Wine Cellar ตั้งอยู่บนยอดเขาบานาฮิลล์ (Ba Na Hills) เป็นสถานที่เก็บไวน์ที่มีความลึกลงไปถึง 100 เมตร ภายในอุโมงค์จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 16-20 องศา ซึ่งว่ากันว่าเป็นอุณหภูมิที่ดีสําหรับการบ่มไวน์ สถานที่แห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส และสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1923 ในสมัยการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส
เว้ (Hue) เป็นเมืองเอกของจังหวัดเถื่อเทียน-เว้ ประเทศเวียดนาม และเคยเป็นเมืองหลวงเก่าในสมัยราชวงศ์เหงียนช่วงปี พ.ศ. 2345-2488 มีโบราณสถานที่มีชื่อเสียงอยู่ทั่วเมือง เช่น พระราชวังเว้ สุสานจักรพรรดิ์ กิจกรรมการล่องเรือชมแม่น้ำหอม นอกจากเว้เป็นเมืองที่เงียบสงบและน่าค้นหาแล้ว ยังมีบุคคลที่มีชื่อเสียงจำนวนมากเกิดที่เมืองนี้ หรือได้เคยมาเยือนเมืองนี้ ปัจจุบันเว้จีงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม
พระราชวังไดโน้ย (Dai Noi) สร้างตามความเชื่อแบบจีน โดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งจำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน และการก่อสร้างพระตำหนักต่างๆรวมถึงกำแพงรอบพระราชวังทั้งหมด ได้นำอิฐมาจากประเทศฝรั่งเศสโดยทางเรือ พระราชวังไดโน้ย มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ล้อมรอบด้วยคูน้ำขนาดใหญ่ทั้งสี่ด้าน
นั่งรถสามล้อชมเมืองเว้ (Cyclo) จักรยานลักษณะนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า "ซีโคล่ (Cyclo)" คนเวียดนามเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า "แซบาแบ้ง” เป็นรถรับจ้างที่ปรากฏในประวัติศาสตร์เวียดนาม มาตั้งแต่ยุคอาณานิคมฝรั่งเศส ซึ่งจะมีที่นั่งสําหรับผู้โดยสาร 1 ท่าน หรือผู้ใหญ่นั่งกับเด็กเล็กอยู่ด้านหน้า และคนถีบจักรยานจะอยู่ทางด้านหลัง จึงทําให้ผู้โดยสารสามารถเห็นวิว หรือบรรยากาศโดยรอบได้อย่างชัดเจน
ล่องเรือมังกร (Vietnamese Dragon Boat) เพื่อชมแม่น้ำหอม แหล่งกำเนิดของแม่น้ำหอมมาจากบริเวณต้นน้ำ ที่อุดมไปด้วยดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นหอม ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสั้น ๆ ในระหว่างทางบนเรือนี้ เราจะได้ชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านและนักร้องชาวเวียดนาม ที่จะมาขับกล่อมบทเพลงให้เราได้สนุกสนาน
วัดเจดีย์เทียนมู่ หรือ เจดีย์เทียนมู่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหอม เมืองเว้ สร้างขึ้นราว ปี พ.ศ.2144 ในสมัยจาม ตามดำริของขุนนางเหวียนฮวาง (Nguyen Hoang) เจ้าผู้ปกครองเมืองเว้ (หรือเมือง Thuan Hoa) คนไทยเรียกว่า วัดเทพธิดาราม วัดแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนานิกายเซน และมีจุดเด่นคือเจดีย์เทียนมู่ ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเว้มาตั้งแต่ปี คศ. 1710 มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงเก๋ง 8 เหลี่ยม สูงทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นเชื่อว่าเป็นตัวแทนชาติภพต่างๆ ของพระพุทธเจ้า
วัดหลินอึ๋ง (Linh Ung Temple) เป็นวัดที่ถูกสร้างใหม่และใหญ่ที่สุดของเมืองดานัง โดยมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักด้วยหินอ่อนขนาดใหญ่ หันหน้าออกทะเล ด้านหลังชนภูเขา ตั้งอยู่บนฐานดอกบัวสง่างาม "หลินอึ่ง" มีความหมายว่า สมปารารถนาทุกประการ ชาวประมงนิยมไปกราบไหว้ขอพรช่วยปกปักรักษา จากจุดวัดหลินอึ๋งสามารถมองเห็นตัวเมืองดานังได้อย่างชัดเจน วัดหลินอี๋งจึงเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองดานัง
ตลาดฮาน (Han Market) คือตลาดสดของเมืองดานัง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮาน (Han River) ไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำฮาน ด้านหน้าตลาดมีปฏิมากรรมริมแม่น้ำฮานเป็นรูปปั้นหญิงสวยงาม ส่วนในตลาดฮานเป็นตลาดสดทั่วไป ไม่มีอะไรเด่นมาก แต่หากไปช่วงเช้ามืดที่ตลาดนี้คึกคัก มีปลาทะเลสด ๆ อาหารทะเล เพราะดานังคือเมืองติดทะเล
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินดอนเมือง” ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ช่วงกิโลเมตรที่ 24 ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร เป็นสนามบินเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 100 ปี และเคยมีฐานะเป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศไทยก่อนจะถูกย้ายไปยังสนามบินสุวรรณภูมิที่เปิดทำการในปี พ.ศ. 2549 โดยในปัจจุบันสนามบินแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสายการบินต้นทุนต่ำที่มีเส้นทางบินทั้งในประเทศและต่างประเทศให้บริการเป็นจำนวนมาก