Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtravel
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

ฮอกไกโด – โตเกียว 12 วัน กินจนต้องกลิ้งกลับบ้าน ตอน 1

โพสเมื่อ

05

ฮอกไกโด – โตเกียว 12 วัน กินจนต้องกลิ้งกลับบ้าน

ตอน Nijo ichiba – ขึ้นเขา Moiwa – ตะลุยกินSoft cream – Michelin 3 star Sushi Tanabe

ตลาดปลา Nijo
พิกัด : Search ชื่อแล้วเจอเลย
nwfa9bcwvrhCnZGqKfV-o lopp

เข้าร้านกันเลยดีกว่า ไม่รู้ชื่อร้าน แต่ป้ายหน้าร้านจะทำให้ท่านตามมาถูกร้านอย่างแน่นอน สั่งกันเลย

nwfazvk2qgBJ5rRhKFf-o nwfazaltbePvaGcjlwn-o

สรุป สด สดมาก สดมากๆ สดทุกอย่าง ปลาเนื้อแน่น หวาน มัน นุ่ม ละลายในปาก บรรยายไปก็เท่านั้น ตามมาครับร้านนี้ คะแนน 4/5 จัดไป

ร้าน Plantation
พิกัด : GPS 43.060285, 141.380714

 

ฮอกไกโด

ร้านนี้เห็นเพื่อนบอกว่าเป็นโกดังเก่าอายุ 300 ปี เอามาดัดแปลงเป็นคาเฟ่ ด้านในร้านจะมีเครื่องคั่วกาแฟขนาดใหญ่ บรรยากาศร้านโปร่งๆ สบายๆ ถ้านั่งข้างนอก

nwfc88jxrIh2j4JXP78-o

ส่วนข้างในก็จะออกแนวอบอุ่นๆ ไฟสลัวๆ หน่อย เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนสมอง

nwfcirr40DQb0V8lC1P-o

ร้านนี้เหมาะมากสำหรับวันสบายๆ ที่ไม่เร่งรีบอะไร รสชาติกาแฟสำหรับผมซึ่งไม่ใช่คอกาแฟก็ดีตามปกติ ส่วนขนมก็อร่อย พนักงานพูดอังกฤษไม่ได้เลย แต่มีความพยามในการอธิบายเมนูสูงมาก จนเราสามารถเข้าใจได้ โดยรวมถือว่าโอเคครับร้านนี้ 4/5

หลังจากนั้นเราก็เดินเล่นเรื่อยเปื่อย โดยเป้าหมายของวันนี้คือ ขึ้นไปถ่ายรูปวิวยามอาทิตย์ตกดินบนเขา Moiwa ซึ่งก่อนจะขึ้นเขาเราก็แวะเต็มพลังสักเล็กน้อย

ร้านอุด้งเนื้อ NikuNikuUdon
พิกัด : GPS 43.058719, 141.350542

nwfd5ijwuGpJYB66G8n-o

น้ำซุปเนื้อหอมดีครับ กินแล้วโล่งๆ สบายๆ ไม่มัน ไม่รสจัด ไม่เลี่ยนเหมือนกินราเมง คือไม่ได้รู้สึกว่าอร่อยโดดเด่นแต่กินได้เรื่อยๆ หมดชามไม่รู้ตัว
สรุป ดีครับ ผมเมาๆ กาแฟมาทานอุด้งร้านนี้แล้วสดชื่นดีครับ 3.5/5

Print

การเดินทางไป Mt.Moiwa นั้นไม่ยากครับ มีรถไฟหรือรถรางไปถึงใกล้ๆ กับทางขึ้น Ropeway เลย ส่วนวิธีไปนั้นง่ายมาก แค่ search ชื่อ Mt.Moiwa ใน Google map ได้เลยครับ จริงๆ บริเวณที่เป็นที่ซื้อตั๋วขึ้น Ropeway จะมีทางแยกออกไปเหมือนให้เดินขึ้นเขาชมธรรมชาติไปด้วย แต่ด้วยความที่พวกเราไปถึงใกล้พระอาทิตย์ตกแล้ว เลยขอขึ้น Ropeway เลยดีกว่า

nwg7jhbsykDdoCcuYe6-o nwg79vddqhao4RQhtT3-o

nwg7tzdbddAaFpOEjRw-o OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ขอแนะนำเรื่องหนึ่งนะครับ อากาศข้างล่างกับบนเขานี่ต่างกันคนละเรื่อง ใครขึ้นมาบนเขาก็เตรียมเครื่องป้องกันมาเพิ่มด้วยตามฤดูที่มาเที่ยวนะครับ อย่างผมนี่ถ่ายรูปได้ไม่นานพอฟ้ามืดมือแข็งโป๊ก

จากนั้นก็ลงเขาไปหาอะไรกินแถวโรงแรม แล้ววันนี้ก็เจอเหตุการณ์แปลกๆ สนุกๆ ไม่ต่างจากจากตอนที่แล้วเลยครับ!!!

หลังจากลงจากเขา พวกเราก็กลับไปยังโรงแรมที่เราพักคือ Mitsui Garden Hotel Sapporo เพื่อแช่ออนเซนของโรงแรม เนื่องจากหนาว เหนื่อย และเมื่อยจากการขึ้นเขามา เลยมาขอแช่ออนเซนชาร์จพลังเสียหน่อย แล้วที่ต้องกลับมาแช่ก่อนก็เพราะคืนนี้วางแผนจะออกไปจิบเบียร์กันครับ ถ้าจะกลับมาแช่หลังจิบเบียร์คงไม่ดีแน่ หลังแช่เสร็จเราก็ลงมาถามที่ front โรงแรมว่ามีร้านแนวอิซากายะแถวๆ โรงแรมแนะนำไหม เขาก็แนะนำมาทั้งหมด 3 ที่ เราจึงเลือกร้านที่ใกล้ที่สุดครับ

ร้าน Dempachi
พิกัด : GPS 43.065145, 141.347337

nwg9qslb1L8gG24HrMz-o

เรา 3 คนเข้าร้านไปก็นั่งโต๊ะในสุดเลยครับ กะว่าจะได้ส่วนตัวหน่อย เผื่อคุย ถ่ายรูป เสียงดังจะได้ไม่รบกวนใครมาก ตรงที่เรานั่งก็มีโต๊ะข้างๆ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นวัยทำงาน 2 คนนั่งกินสาเกกันอยู่ เราก็สั่งอาหารไป พร้อมกับเบียร์ ระหว่างที่รออาหารชายญี่ปุ่นโต๊ะข้างๆ ก็หันมาคุยกับเราครับ!!! แล้วประเด็นคือพูดแต่ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ พวกเราก็เอ๋อรับประทานสิครับ สักพักก็พอสื่อสารได้พอเข้าใจ

nwga8j52tBJDwtMGm56-o

แล้วอาหารจานแรกก็มาเสิร์ฟ เป็นเนื้อราดมาด้วยซอสเปรี้ยวๆ น่าจะเป็นพอนสึ อร่อยดีแต่ในทันทีที่พนักงานยกจานนี้มาวางบนโต๊ะ ชายญี่ปุ่นทั้งสองก็ลุกจากโต๊ะมาชะโงกว่าเราสั่งอะไร

nwgag9lw3eEpH2i8xhY-o

จากนั้นจานที่สองก็มาเสิร์ฟ เป็นโครอกเกะครีมปู ก็อร่อยดีครับ แต่แล้วคนญี่ปุ่นสองคนนั้นก็ลุกมาแบบเดิมเลยครับ มาชะโงกดู แล้วยกสาเกตัวเองมาชนกับเบียร์โต๊ะเรา พร้อมกับทำท่า Hi 5 แปะมือกับพวกเราทุกคน ซึ่งผมเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “ตบรอบโต๊ะ” เพราะเราจะทำอย่างนี้กันทั้งคืน

nwgb6jb6hAinSJvfXF9-o

จากนั้นก็แยกย้ายกลับไปนั่งตามโต๊ะ จานที่ 3 ก็มาเสิร์ฟ เป็นปลาชิมาฮกเกะย่าง คงเดาได้นะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น สองคนนั้นก็แวะมาชะโงกตามระเบียบ แต่คราวนี้แกไม่กลับโต๊ะตัวเองสิครับ แกนั่งอยู่โต๊ะเราเลย เพื่อสอนวิธีกินปลาชนิดนี้ครับ เขาบอกว่าปลาตัวนี้กินได้ทั้งตัวเลยนะ มาๆ เดี๋ยวโชว์เหนือให้ดู แล้วเขาก็ค่อยๆ เลาะนู่นเลาะนี่มาให้เราชิม บอกตรงนี้อร่อยสุด ตรงนี้ดูเหมือนจะกินไม่ได้แต่อร่อยนะ (สื่อสารกันด้วยภาษามือเป็นส่วนใหญ่) โดยระหว่างนั่งเลาะ หนีบ คีบ ป้อน ก็มีเหตุการณ์ “ตบรอบโต๊ะ” เกิดขึ้นเป็นระยะๆ

nwgbqib4qsUUHFYXajX-o

สักพักพอเขาเลาะก้างออกมาจนหมดตัว เขาก็ตะโกนเรียกพนักงานมาแล้วก็ยื่นก้างให้ พร้อมสั่งบางอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเราก็ไม่รู้เรื่อง แล้วพนักงานคนนั้นก็กลับมาพร้อมกับก้างที่ผมไม่แน่ใจว่าเขาเอาไปทอดหรือย่างกันแน่ แต่มาแบบตัดเป็นชิ้นๆ สวยงาม พร้อมรับประทาน พอได้ลองชิมก็แบบอร่อย กรอบ หอม คล้ายๆ กับเรากินพวกปลาตัวเล็กๆ ทอดทั้งตัว นั่งไปสักพักเขาก็พูดขึ้นมาว่า พวกปลา พวกของสดของที่นีน่ขึ้นชื่อเลยนะ เดี๋ยวจะให้พวกยูได้ลอง จากนั้นเขาก็เรียกพนักงานมาอีก แล้วสิ่งนี้ก็มาวางอยู่บนโต๊ะ

ตอนแรกเราก็นึกว่าเขาสั่งมากินเอง แต่ให้มาวางไว้ที่โต๊ะนี้ เพราะหลังจากที่เขาย้ายมานั่งด้วยเขาก็ไม่กลับไปนั่งโต๊ะตัวเองอีกเลย จากนั้นเขาก็ทำท่าให้พวกเรากินเลยๆ แล้วก็พูดว่า ไอเพย์ เราก็แบบอึ้งดิ คือคนญี่ปุ่นเนี่ย ถ้าเขาตั้งใจจะเลี้ยงแล้ว เราปฏิเสธไปก็เท่านั้นครับ เขาจะดึงดันอยู่อย่างนั้นแหละ เราก็เลยแบบโอเคๆ งั้นเรามากินด้วยกัน

nwgc9khp9fL2XDZFEPi-o

ยังครับ ยังไม่หยุด แกสั่งมาเลี้ยงอีกครับ นอกจากจานนี้แล้วยังมีปลาหมึกย่างตัวโตๆ อีกจาน แต่จานหลังๆ นี่เขาก็เริ่มแจมๆ ด้วยล่ะครับ เพราะคงเห็นพวกเราไม่ค่อยกล้าตักกินเพราะเกรงใจ แล้วก็สั่งเบียร์มาเพิ่มอีกเรื่อยๆ เบียร์ที่นี่จะเสิร์ฟในแก้วเซรามิก เขาบอกว่าเบียร์ที่เสิร์ฟในแก้วเซรามิกจะดีที่สุด ฟังรู้เรื่องแค่นั้นแหละครับ เหตุผลว่าเพราะอะไรฟังไม่ออกละ

แล้วก็กอดคอคุยกันเฮฮาอีกสัพเพเหระล้านแปดเรื่อง ระหว่างคุยก็คัมไป ตบรอบโต๊ะกันไปอีกหลายรอบ หลังจากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับ โค้งหัวติดพื้นกันเป็นสิบๆ รอบ ทางร้านก็เอากล้วยมาแจกให้ทุกคนเหมือนเป็นธรรมเนียมของร้าน ร้านนี้อาหารใช้ได้ครับ 4/5 แต่ประสบการณ์ความสนุกและมิตรภาพนี่ 100/5 ไปเลยครับ

วันที่ 4 : ตะลุยกิน Soft cream / ซุปแกงกะหรี่ / michelin 3 star Sushi Tanabe

วันนี้เราตื่นสายกันครับ ตื่นมาก็มึนๆ จากความสนุกเมื่อคืนก่อน วันนี้ก็ตั้งใจว่าจะไปกิน soft cream อร่อยๆ กัน แน่นอนว่ามา Hokkaido ก็ต้อง Soft cream นี่แหละครับ หลังจากหาอะไรรองท้องตามร้านสะดวกซื้อแล้วก็เริ่มกันเลย

ร้าน Gyokusuien
พิกัด : GPS 43.059867, 141.358276

nwgictlrwRZj1YS5vwM-o

จริงๆ แล้วร้านนี้เป็นร้านขายชาครับ หน้าร้านเลยไม่ได้ฟรุ้งฟริ้งเหมือนร้านขาย soft cream แบบที่เราจินตนาการไว้ ส่วนซอฟท์ครีมของร้านเป็นซอฟท์ครีมที่มีส่วนประกอบที่ลงตัว อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลยครับ

nwgh3jchl46heAXcTui-o

เริ่มจากตัวโคนเป็นวาฟเฟิลชาเขียวที่กรอบแต่เบา นุ่ม บาง ไม่แข็งทิ่มปากเหมือนโคนทั่วๆ ไป ในโคนจะมีไอศกรีมชาเขียวที่เข้มข้นมากๆ เพื่อที่เวลาเรากินกับตัว soft cream วานิลาแล้วจะกลมกล่อมลงตัวพอดี แล้วก็ยังมีถั่วแดงบดที่ไม่หวานมาก ส่วนที่ผมมองว่าช่วยผสานให้ soft cream โคนนี้ออกมาลงตัวสุดๆ นั่นก็คือ “ข้าวคั่ว” ที่เขาโรยไว้รอบๆ นั่นเอง คือกลิ่นหอมของข้าวคั่วมันทำให้ทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด แถมยังช่วยตัดความเลี่ยนจากความเข้มข้นของชาเขียวด้วย แล้วเขายังโรยข้าวคั่วนี้ไว้ตรงโคนก้รด้วยครับ คำสุดท้ายที่มีไอติมไหลลงมากองๆ ผสมกับข้าวคั่ว กินพร้อมกับโคนในคำเดียวนี่ หูย…ฟิน ร้านนี้เอาไป 5/5

ร้านต่อไป Chitosetsuru Sake Museum
พิกัด : search ชื่อแล้วเจอเลยครับ

nwgj72h1uRZJj1PWgeh-o

Soft cream ร้านนี้เนื้อเนียนดีครับ โดดเด่นก็ตรงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสาเกนี่แหละ ร้านนี้ 4/5 ครับ

ร้าน Garaku
พิกัด : search ชื่อแล้วเจอเลย

nwgm58567Rhi4leXon2-o

 ร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้นสองครับ ทางเดินขึ้นจะชันๆ แคบๆหน่อย เราไปถึงประมาณ 11 โมง ต้องรอคิวประมาณคิวที่ 4 ครับ โดยอาหารที่พวกเราสั่ง ข้าวที่นี่จะมีสองแบบ คือข้าวธรรมดา กับข้าวหน้าชีสครับ

nwgmbdl7vO7dyVxsT6L-o

สำหรับความรู้สึกร้านนี้นะครับ คือในหัวจินตนาการถึงแกงกระหรี่ไว้แบบข้าวราดแกงกะหรี่แบบ coco แต่พอน้ำซุปคำแรกเข้าปากปุ๊บ ก็แบบ …จืด คือที่นี่เขาจะเป็นซุปแกงกะหรี่ออกแนวซดๆ ได้ รสชาติเลยไม่เข้มข้นจัด แต่ก็หอมเครื่องแกงนะครับ หมูกับไก่ก็ตุ๋นมาได้เปื่อยดี ส่วนไก่ทอดก็งั้นๆครับ แป้งเยอะ ข้าวก็โอเค มีความหอมในตัว ส่วนตัวกับร้านนี้กลางๆ ครับ 3.5/5

เสร็จจากร้านนี้เราก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยรอเวลาที่จะถึงมื้อเย็น มิชลิน 3 ดาว Sushi Tanabe คือร้านนี้เพื่อนผมไปเจอมาจากรีวิวในพันทิพ แล้วก็มาคุยกันว่าจะลองสักครั้ง อยากรู้ว่ามิชลินนี่มันสุดยอดแค่ไหน แล้วคอร์ส Omakase ของที่นี่ก็เริ่มที่หัวละหมื่นเยน (ซึ่งถือว่าถูก ถ้าเทียบกับร้านมิชลินอื่นๆ หรือพวกร้านที่ได้อันดับต้นๆ ใน Tabelog พวกนั้นจะตกหัวละ 2-3หมื่นเยนเป็นอย่างต่ำแหละครับ)

ร้าน Sushi Tanabe
พิกัด : search แล้วเจอเลย อยู่ตรงข้าม Mitsui garden hotel Sapporo เลย หาไม่ยากครับ

nwgntp5l554h3zoGOkT-o

nwgnv0np2Vv53uF49g9-o

ออเดิร์ฟครับ มีผ้าเช็ดนิ้วให้สำหรับคนที่ใช้มือทานซูชิ ในจานเป็นปลาครับ หมักมามีรสชาติเปรี้ยวๆ กับสาหร่ายเส้นบางๆ รสเปรี้ยวๆ เหมือนกัน

nwgnwwku9jvoQHS70xS-o

จานนี้มาทีเดียว 4 คำเลย คำที่มีมะนาววางไว้ข้างบน เขาบอกว่าให้บีบมะนาวอย่างเดียว ไม่ต้องจิ้มโชยุ

nwgnyrku22qd7Du1nIN-o

จานนี้เห็นว่าเป็น Horse maguro กับอะไรสักกอย่าง จำชื่อไม่ได้

nwgo0akwlH3242iZBQ5-o

อันนี้น่าจะเป็นหอย hokkigai กับ salmon ครับ

ปิดท้ายด้วยขนม โดยตอนแรกเขาจะมาถามว่าเราสามารถเลือกไม่รับขนม 2 อย่างนี้ได้ โดยเปลี่ยนกับซูชิพิเศษอีกหนึ่งคำ แต่เราเลือกขนมครับ เห็นชื่อเมนูซูชิพิเศษแล้วเฉยๆ กินขนมล้างปากดีกว่า เป็น sorbet องุ่น ลูกพลับ แล้วก็สาลี่ แผ่นบางๆ คือสตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง กับอีกจานคือครีมบรูเลต์

nwgo6onnz3xT4X26kN9-o nwgo7txxa6WPV3Jm45N-o

 สรุป วัตถุดิบทุกอย่างสดดี เนื้อเด้ง ไม่มีคำไหนรู้สึกว่าคาวเลย แต่ก็รู้สึกว่าหากินได้ตามร้านดีๆ ทั่วไปได้ ส่วนที่รู้สึกว่าประทับใจเป็นพิเศษแตกต่างกว่าร้านที่เคยๆ กินมาก็มี กุ้งหวาน สดเด้ง และไม่คาว หอยที่ต้องบีบมะนาว ไข่ปลาแซลมอน ปลาไหลคือหอม แ ละนุ่มมาก ละลายในปาก แล้วก็ครีมบรูเลต์ ที่หอมวานิลาชัดเจน แล้วก็ไม่หวานเกินไป สรุปร้านนี้ 4/5

มาต่อกันร้านสุดท้าย มื้อสุดท้ายในฮอกไกโดนะครับ หลังจากซูชิจบไป 10 คำแบบไม่อิ่มท้องแม้แต่น้อย ผมกับเพื่อนก็คุยกันว่าจะไปไหนกันต่อดี จะไปซ้ำเนื้อเจงกิสข่านดีไหม แต่ก็กลัวว่าจะหนักเกินไป แถมถ้าไปกินเนื้อย่าง เราก็ต้องกินเบียร์ แล้วพรุ่งนี้เราก็ต้องตื่นกันแต่เช้า เดี๋ยวจะตกเครื่องเอา เลยสรุปกันว่าไปกิน Soft cream อีกร้านที่หาไว้ดีกว่า

ร้าน Milk Mura Sapporo
พิกัด : 43.055810, 141.355206 อยู่ไม่ใกล้จากสถานี Susukino ร้านจะอยู่ในตึก New Hokusei ชั้น 6

nwgyoz7w6IUvukiOgr1-o

เมนูที่นี่จะมีอยู่ 3 set ให้เลือกครับ หลักๆ ส่วนใหญ่คนก็จะสั่ง set A (แต่ละเซ็ตราคาประมาณ 16xx เยน) ซึ่งในเซ็ต A ก็จะได้ซอฟท์ครีม 1 แก้ว (เติมได้ 1 ครั้ง) เลือก cocktail ได้ 2 ชนิด มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์ และ no แอลกอฮอล์ แล้วก็ของกินควบคู่ ซึ่งประกอบไปด้วยเครป เม็ดคินัวร์ โยเกิร์ต และแป้งพายกรอบ

nwgz0s8vs2hJ66C1pJ2-o

ซึ่งพวกผม 3 คนก็สั่ง set A 2 set แล้วก็ set B 1 set สำหรับ set B นี่จะไม่มีของกินควบคู่ แต่จะเลือก cocktail เพิ่มได้อีก 1 ชนิด สรุปพวกผมเลยได้ cocktail ทั้งหมด 7 ชนิด + 1 ชาเอิร์ลเกรย์ที่ทางร้านแถมให้

แล้วก็มีแผ่นสอนวิธีกิน โอเค คือสร้างสรรค์มากครับ ตัว soft cream เปล่าๆ ก็อร่อย มีเอกลักษณ์เฉพะตัวอยู่แล้ว แถมแต่ละคำเราสามารถปรุงเองได้ตามใจชอบ ทุกคำจะได้รสชาติใหม่ๆ ตลอด ใส่เหล้าบ้าง ใส่ชาบ้าง ใส่ช็อกโกแลตบ้าง ใส่ผสมกันบ้าง ใส่กับเครปบ้าง กินคู่กับโยเกิร์ตบ้าง คือกินให้ทุกคำไม่ซ้ำกันยังได้ แล้วที่ร้านเขาใส่ใจรายละเอียดสุดๆ ก็คือ การออกแบบแก้วและช้อน ร่องช้อนสามารถวางพาดกับขอบแก้วได้พอดี เพื่อให้เราตักไอติมไว้ และหยิบนู่น ตักนี่มาปรุงลงในคำๆ นี้

nwgz1r7s48Fd6wRDDX9-o nwgz8r7weQu46ighbB7-o

เยี่ยมครับ ร้านนี้ เชียร์สุดๆ ควรมาให้ได้ ให้ 5/5 เลย อร่อยสุดยอดครับ