Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เที่ยว หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค ขอพรบ่อน้ำใสศักดิ์สิทธิ์ ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ

ประเทศญี่ปุ่นมีที่เที่ยวธรรมชาติสวยๆ มากมาย แม้ว่าใครจะปักโลเคชั่นว่าอยากไปเที่ยวในเมืองหลวงอย่าง กรุงโตเกียว ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ชมธรรมชาติ เพราะนั่งรถออกจากโตเกียวไปไม่นานมากก็จะได้เจอกับ ภูเขาไฟฟูจิ แล้วค่ะ ซึ่งรอบๆ ก็มีที่เที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมมากมาย ใครอยากไปเที่ยวแบบ One Day Trip ไปเช้า-เย็นกลับจากโตเกียวก็ไม่ยาก และนอกจากฟูจิซังแล้ว พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีอีกหนึ่งที่เที่ยวไม่ควรพลาด เป็นหมู่บ้านบรรยากาศดีที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ นั่นก็คือที่ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า หมู่บ้านน้ำใส นั่นเอง ถ้าอยากรู้ว่าที่นี่น่าเที่ยวยังไง เราไปเก็บข้อมูล ทัวร์ญี่ปุ่น กับที่เที่ยวแห่งนี้กันค่ะ

รู้จักโอชิโนะฮักไค หมู่บ้านน้ำใสอันศักดิ์สิทธิ์

หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค (Oshino Hakkai Village) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดยามานะชิ แห่งประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะ ก็มักจะแวะมาเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้กันด้วยค่ะ ที่แห่งนี้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบคาวากุจิโกะกับทะเลสาบยามานาคาโกะ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ ในหมู่บ้านจะมีบ่อน้ำใสสะอาดรวมกันกว่า 8 บ่อ และยังเป็นที่กล่าวขานกันว่า บ่อน้ำในหมู่บ้านนี้เป็นแหล่งน้ำสะอาดอันศักดิ์สิทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิ โดยพี่เห็ดได้รวบรวม 7 ไฮไลท์ของการเที่ยวในหมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค มาไว้ดังนี้ค่ะ

1. น้ำใสไหลเย็น เห็นตัวปลา

Credit : くろふね / commons.wikimedia.org

จุดเด่นอยากแรกของ หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค ก็คือ บ่อน้ำทั้ง 8 บ่อภายในหมู่บ้าน ได้แก่ บ่อเดะงุจิ, บ่อโอคามะ, บ่อโซโคะนาชิ, บ่อโจชิ, บ่อวาคุ, บ่อนิโกริ, บ่อคางามิ และบ่อโชบุ ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูร้อน และไหลผ่านหินลาวาที่มีรูพรุน รวมกับแร่ธาตุต่างๆ จนทำให้น้ำในบ่อที่เราเห็นนี้มีความใสสะอาดเป็นพิเศษนั่นเองค่ะ ใสแค่ไหนลองดูจากภาพได้เลย ใสปิ๊งจนมองเห็นตัวปลากำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำ ลึกไปจนถึงก้นบ่อเลยทีเดียว

คนญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำในบ่อเหล่านี้นอกจากจะมีความใสสะอาดและเย็นฉ่ำแล้ว ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ที่หากใครได้ดื่มก็จะมีอายุยืนยาว ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยนักท่องเที่ยวสามารถตักน้ำมาดื่มได้ หรือจะรองน้ำใสขวดกลับไปที่บ้านด้วยก็ได้

2. มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดเจน

Credit : MaedaAkihiko / commons.wikimedia.org

ในวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆหมอกหนาทึบ จากหมู่บ้านนี้เราจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว ถ้าใครชอบถ่ายรูป มาเยือนที่นี่คงได้รัวนิ้วกดชัตเตอร์แทบไม่ทันแน่ๆ เลย

3. อาหารเลิศรส

มาถึงที่นี่ทั้งทีต้องไม่พลาดการรับประทานมื้อเที่ยงภายในร้านอาหารท้องถิ่น โดยเฉพาะ เมนูปลา ที่โด่งดังเป็นพิเศษ เพราะปลาที่จับได้ภายในบ่อ นอกจากจะไม่มีรสและกลิ่นคาวให้ระคายจมูกและลิ้นแล้ว เนื้อปลายังหวานอร่อย อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วยค่ะ แล้วก็ยังมีของทานเล่นในสไตล์ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอีกด้วย ไปลองชิมกันดูนะคะ

4. ช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพดี

Credit : zengsx / commons.wikimedia.org

ที่นี่นอกจากจะมีร้านอาหารรสเลิศให้ได้อิ่มหนำสำราญกันแล้ว สินค้าของที่นี่ยังล่อตาล่อใจให้ขนซื้อกลับบ้านอีกด้วยค่ะ โดยส่วนใหญ่สินค้าที่วางจำหน่ายจะเป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่คนในหมู่บ้านผลิตขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะเป็น ขนมหวาน ผักดองสารพัดชนิด เต้าหู้สดใหม่ ลูกเกด ผลไม้ และงานหัตถกรรม ส่วนราคาก็ไม่แพง มีให้เลือกตั้งแต่ราคาไม่กี่ร้อยเยนจนถึงหลักพัน หากใครจะมาเยือนที่นี่ เตรียมถุงผ้าหรือกระเป๋าไปใส่ของที่จะช้อปด้วยก็ดีค่ะ

5. อากาศดี เหมาะสำหรับการเดินเล่น

Credit : pxhere.com

เนื่องจากหมู่บ้านโอชิโนะฮัคไคนั้นมีพื้นที่อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำและภูเขา จึงทำให้มีอากาศดีตลอดทั้งปีเลยค่ะ เหมาะกับเป็นสถานที่ที่จะพาคุณพ่อคุณแม่มาเดินเล่น ทัวร์ญี่ปุ่น รับอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มปอด แถมยังมีวิวสวยๆ ให้ชมไปตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งบรรยากาศในแต่ละฤดูของที่นี่จะต่างกันไปมากๆ

  • ฤดูใบไม้ผลิ จะมีดอกซากุระสวยๆ เบ่งบานเป็นสีชมพูอยู่ทั่วบริเวณ
  • ฤดูร้อน อากาศจะแจ่มใส ต้นไม้สีเขียว เที่ยวได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น
  • ฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใกล้ภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามไม่แพ้ใคร ใบไม้บนต้นไม้รอบๆ บริเวณจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลือง สลับไปมาทำให้บรรยากาศแตกต่างไปจากฤดูอื่นมากๆ
  • ฤดูหนาว อากาศจะหนาวเย็นมาก รวมถึงจะมีหิมะหนานุ่มปกคลุมทั่วหมู่บ้านด้วย

6. ได้เรียนรู้วัฒนธรรมแบบดั้งเดิม

Credit : Sirikunkrittaphuk / canva.com

นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติอันแสนโดดเด่นแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ยังสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดเล็กในบ้านมุงหลังคาแบบดั้งเดิมได้ด้วยค่ะ ซึ่งมีชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ฮันโนกิบายาชิชิเรียวกัง (Hannoki Bayashi Shiryokan) โดยภายในจะมีการจัดแสดงเครื่องมือทางการเกษตรของชาวบ้านในสมัยโบราณ ของใช้ภายในครัวเรือน เกราะซามูไร และอาวุธต่างๆ โดยมีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประมาณ 300 เยน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.

7. การเดินทางสะดวกสบาย

Credit : Nuttawut Uttamaharach / canva.com

สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวที่หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไคสามารถนั่งรถไฟจากโตเกียวมาลงที่ สถานี Kawaguchiko แล้วต่อรถไฟไปลงที่ สถานี Fujisan Station จากนั้นมองหาป้ายรถเมล์ที่อยู่ใกล้ๆ แล้วขึ้นรถบัสที่ชื่อ ฟูจิเกียวโกะ (Fujikyuko) หมายเลข 1 สีเขียว ที่วิ่งไป Yamanakako – Asahigaoka ประมาณ 20 นาที ไปลงที่ป้าย Oshino Iriguchi ก็ถึงหมู่บ้านแล้วค่ะ แต่ทั้งนี้รถบัสที่ผ่านหมู่บ้านจะออกเป็นรอบ และในแต่ละวันจะมีรอบน้อยมากๆ และอาจจะต้องใช้เวลารอนานนิดหน่อย ยังไงก่อนไปเช็คเวลาและวางแผนกันให้ดีนะคะ แต่ถ้าใครไปเที่ยวกับทัวร์ก็สบายใจได้เลยค่ะ ในโปรแกรมจะพานักท่องเที่ยวไปเยือน หมู่บ้านโอชิโนะฮัคไค ด้วยรถโค้ชปรับอากาศสบายๆ ถึงที่หมายปลอดภัย เที่ยวได้ไร้กังวลค่าา

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยววิวสวยในญี่ปุ่นที่พี่เห็ดแนะนำเลยว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง เพราะวิวสวยจริง! ฟินจริง! แค่ได้เดินเล่นชมวิวสวยๆ ก็รู้สึกได้ชาร์จพลังให้กับตัวเองแล้ว พาคุณพ่อคุณแม่หรือครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันด้วยก็ยิ่งดี


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง