@MushroomTravel
ไปเที่ยวต่างประเทศ เดินทางลงใต้เที่ยวดินแดนใกล้ปลายด้ามขวานไทย มุ่งหน้าไป เที่ยวปีนัง เมืองเล็กๆ ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซีย อยู่ไม่ไกลจากเมืองไทย เพราะมีชายแดนติดกัน ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็เที่ยวได้ เป็นเมืองที่ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ ผู้คน และอาหารการกิน เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ส่งผลให้ปีนังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางต่างปักหมุดมาพักผ่อนชิลๆ เดินเล่นชมเมืองในวันสบายๆ ชวนให้หลงเสน่ห์แห่งเมืองเก่าได้ไม่ยาก สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่เคยมา หรือกำลังวางแผนเที่ยวอยู่ ตามพี่เห็ด มัชรูมทราเวล มาดู 10 ที่เที่ยวปีนัง พิกัดสุดฮิตแนะนำว่าต้องไป พร้อมช่วงเวลาเที่ยวที่เหมาะสม รับประกันว่าถูกใจสายเที่ยว ถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน
เที่ยวปีนังช่วงไหนดี ?
สภาพอากาศที่ปีนังในแต่ละฤดูกาลนั้นค่อนข้างคงที่ มีอากาศร้อนชื้น สามารถ เที่ยวปีนัง ได้ตลอดทั้งปี แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องปริมาณน้ำฝนเล็กน้อย แบ่งออกเป็น 2 ฤดูกาล ดังนี้
1. ฤดูมรสุม : เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28 – 34 องศาเซลเซียส อากาศชื้น ช่วงบ่ายอาจมีฝนตกชุกจากลมมรสุม จึงเหมาะแก่การเที่ยวในร่ม อีกทั้งยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อย ที่พักราคาถูกลง ทำให้เที่ยวได้แบบสบายๆ ไม่วุ่นวาย และประหยัดกว่าช่วงไฮซีซัน
2. ฤดูร้อน : เดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 24 – 32 องศาเซลเซียส อากาศร้อน และอาจมีฝนตกบ้างบางวัน ช่วงปลายปีไปจนถึงต้นปีอุณหภูมิจะไม่ร้อนมาก อากาศเย็นสบายกำลังดี ทำให้เที่ยวได้แบบไม่เหนื่อยมาก
ตรวจสอบสภาพอากาศกันเรียบร้อยแล้ว ทีนี้เราไปดู ที่เที่ยวปีนัง ที่ไม่ควรพลาดกันค่ะ
1. จอร์จทาวน์ (George Town)
มาถึงปีนังปุ๊บก็ต้องปักหมุดที่เมืองหลวงของปีนังอย่าง จอร์จทาวน์ เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเหลือล้น ผสมผสานในความเป็นย่านเมืองเก่าและย่านเมืองใหม่ได้เป็นอย่างดี โดดเด่นด้านวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดยยังคงอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ไว้ ทั้งสไตล์จีนโบราณ ชิโนโปรตุกีส และยุโรปคลาสสิก เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบตลอดทางเดิน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขาย และกิจกรรมมากมาย เที่ยวได้ทั้งวันเลยล่ะค่ะ
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/uyspCENBicjM1u7x8
2. ปีนังสตรีทอาร์ต (Penang Street Art)
ระหว่างเดินเล่นเพลินๆ อยู่ในตัวเมืองจอร์จทาวน์ เพื่อนๆ ก็จะเห็น ปีนังสตรีทอาร์ต ภาพวาดศิลปะบนผนังกำแพง ผนังบ้าน รวมถึงตึกรามบ้านช่อง หลากหลายรูปแบบ สะท้อนถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองปีนังได้เป็นอย่างดี โดยกระจายอยู่ทั่วเมืองมากกว่าร้อยจุด สร้างสรรค์โดยศิลปินท้องถิ่นและชาวต่างชาติ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวมาแล้วต้องแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/hXX2KexfNaA1fcKx6
3. ปีนังฮิลล์ (Penang Hill)
อีกหนึ่ง ที่เที่ยวปีนัง ที่พลาดไม่ได้คือการขึ้นไปเช็กอินจุดชมวิว ปีนังฮิลล์ ด้วยการนั่งรถไฟ “Penang Hill Funicular Railway” ผ่านอุโมงค์รถไฟที่ชันที่สุดในโลกขึ้นไปยังข้างบน เพื่อชมวิวที่สวยที่สุดในเมืองปีนัง สามารถมองเห็นเมืองจอร์จทาวน์และทะเลอันดามันได้แบบ 360 องศา พร้อมเดินชมป่าบนสะพานลอยฟ้า “The Habitat” ที่มีเส้นทางยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ ให้ได้นั่งซึมซับกับบรรยากาศดีๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบเต็มปอด
เวลาทำการ : 06.15 – 21.45 น.
ค่าเข้าชม : เริ่มต้นที่ RM8 (ราคาแตกต่างกันไปตามประเภทตั๋ว)
เว็บไซต์ : https://penanghill.gov.my/index.php/en/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/qkwxnAiG6JSjnGMX7
4. คฤหาสน์เปรานากัน (Pinang Peranakan Mansion)
พาไปชมสถาปัตยกรรมปีนังแบบดั้งเดิมที่ คฤหาสน์เปรานากัน พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเปอรานากัน พร้อมของสะสมโบราณกว่า 1,000 ชิ้น โดดเด่นด้วยตัวอาคารสีเขียวแบบจีนผสมสไตล์อังกฤษยุคก่อน ภายในแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม หรูหรา โปร่งโล่ง พร้อมด้วยโบราณวัตถุหายากมากมาย นับได้ว่าที่นี่เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ ในที่เดียวเลย
เวลาทำการ : 09.30 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ RM25 / เด็ก (อายุ 6 – 12 ปี) RM12 / เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 6 ปี) เข้าฟรี
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/37LrC4ZFgZVHhzpC8
5. ชายหาดบาตู เฟอริงกิ (Batu Ferringhi Beach)
เปลี่ยนบรรยากาศ พาเพื่อนๆ ไปนอนอาบแดด เดินเล่นกันที่ ชายหาดบาตู เฟอริงกิ หนึ่งในชายหาดที่สวยงามและเป็นที่นิยมที่สุดในปีนัง ทอดยาวกว่า 5 กิโลเมตร หาดสายสีขาวนวล ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม บรรยากาศดีจนกลายเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ผู้คนนิยมมาอาบแดด เดินเล่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำอย่าง เรือคายัค เจ็ตสกี บานานาโบ๊ทให้บริการ โดยรอบมีร้านอาหาร บาร์ และที่พัก พอตกดึกบรรยากาศจะยิ่งคึกคักกว่าเดิม เพราะมีตลาดนัดตอนกลางคืน ร้านรวงต่างๆ ทยอยกันเปิดร้าน เป็น ที่เที่ยวปีนัง ที่เหมาะแก่การไปหาของอร่อยๆ กิน พร้อมซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน แต่ก่อนจ่ายเงินพี่เห็ดแนะนำว่าให้ต่อราคาด้วยนะ เพื่อให้ได้สินค้าในราคาที่คุ้มค่าที่สุด !
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/j4PwPMg4NnUEz6L19
6. อุทยานแห่งชาติปีนัง (Penang National Park)
ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนั้น มีสถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์น้อยใหญ่และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ นั่นคือ อุทยานแห่งชาติปีนัง แม้จะเป็นอุทยานแห่งชาติที่เล็กที่สุดในมาเลเซีย มีพื้นที่ประมาณ 25 ตารางกิโลเมตร แต่ก็เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดในประเทศ ทำให้ที่นี่มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์, ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ, ปีนเขา, ตกปลา, สำรวจสิ่งมีชีวิตและสัตว์ต่างๆ ในผืนป่า รวมถึงเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่า ใครที่เป็นสายลุย รักธรรมชาติ ต้องหลงรัก ที่เที่ยวปีนัง แห่งนี้แน่นอน
เวลาทำการ : 08.00 – 16.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/415Tw8hUFcE4s4ao8
7. วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si Temple)
ขอเอาใจสายบุญ พาไปไหว้พระให้สงบจิตสงบใจกันที่ วัดเก็กลกสี่ หรือ วัดเขาเต่า เป็นวัดจีนพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ตั้งอยู่บนยอดเขาใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจีนอันงดงาม และเจดีย์ 7 ชั้นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปกว่า 10,000 องค์ รวมถึงองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างแวะเวียนเข้ามาเคารพสักการะ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต บอกได้เลยว่าสายมูถูกใจที่นี่แน่นอน
เวลาทำการ : 08.30 – 17.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/S3gVjk2GWYs3Ba9n6
8. ชุมชนประมงริมทะเล (Clan Jetties Of Penang)
ลัดเลาะไปตามเส้นทางจะเจอกับ ชุมชนประมงริมทะเล หรือคนท้องถิ่นเรียกกันว่า “Chew Jetty” ชุมชนประมงเก่าแก่ บ้านเรือนต่างๆ จะเป็นอาคารไม้เก่าแก่ ผสมผสานกับศิลปะแบบจีน อยู่ติดริมทะเลที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวประมงไว้ได้อย่างน่าประทับใจ สามารถเดินเที่ยวชมได้ตลอดทั้งวัน มีร้านค้า อาหารท้องถิ่น ร้านขายของที่ระลึก ให้เลือกช้อปชิล ฟีลๆ ตลาดน้ำบ้านเรา ช่วงเย็นๆ ผู้คนเริ่มพากันมานั่งตรงสะพานริมแม่น้ำของชุมชน มาถ่ายรูปเล่น นั่งดูพระอาทิตย์ตก โรแมนติกอย่าบอกใคร
เวลาทำการ : 09.00 – 21.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/YTsSzeagyX5FJwNa6
9. บ้านตระกูลคู (Khoo Kongsi)
ไปเยือนคฤหาสน์มาก็แล้ว คราวนี้พามาศึกษาประวัติศาสตร์ที่ บ้านตระกูลคู หรืออีกชื่อว่า “Leong San Tong Khoo Kongsi” เป็นบ้านประจำตระกูลของชาวจีนฮกเกี้ยนที่ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ปีนัง ซึ่งถือเป็นตระกูลที่มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยมากที่สุดตระกูลหนึ่ง ปัจจุบันมีการพัฒนาปรับปรุงเป็นร้านค้า พิพิธภัณฑ์ ให้คนทั่วไปได้เข้าไปศึกษาเยี่ยมชม ภายในกว้างขวาง โอ่อ่า เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความเป็นชาวจีนฮกเกี้ยนในอดีต ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพระราชวังจีนเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่ง ที่เที่ยวปีนัง ที่ห้ามพลาดเลย
เวลาทำการ : 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) RM15 / เด็ก (อายุ 5 – 11 ปี) RM1 / เด็กเล็ก (อายุต่ำกว่า 5 ปี) ฟรี
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/fsxEy1wM6bsbFNoJA
10. สวนสนุกเอสเคป (ESCAPE Theme Park)
ปิดท้ายทริปด้วยความมันส์ สุดหวาดเสียวกันที่ สวนสนุกเอสเคป ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสุดร่มรื่น แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ Adventureplay และ Waterplay มีเครื่องเล่นและกิจกรรมผจญภัยสนุกๆ ให้ทำมากกว่า 35 ชนิด แต่ความพิเศษของที่นี่คือ มีเครื่องเล่นที่ได้รับการบันทึกจาก Guinness World Records มากถึง 4 ชนิด คือ Longest Tube Water Slide สไลเดอร์น้ำแบบท่อที่ยาวที่สุดในโลก เป็นระยะทางยาว 1,111 เมตร ใช้เวลาล่องจากจุดเริ่มต้นลงสู่ปลายน้ำราว 4 นาที, Zip Coaster ที่ยาวที่สุด ความยาว 1,135 เมตร, สไลด์เดอร์ห่วงยางยาวที่สุด ความยาว 453.3 เมตร และ ถังน้ำใหญ่ที่สุด ขนาด 28,757 ลิตร เห็นอย่างนี้แล้วต้องลองมาเล่นให้ได้นะ
เวลาทำการ : 10.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : บัตรหนึ่งวัน ผู้ใหญ่ (อายุ 13 – 60 ปี) RM128.80 / เด็กเล็ก (อายุ 4 – 12 ปี) RM85.40 / เด็ก (อายุ 0 – 3 ปี) และผู้สูงอายุ (อายุ 61 ปีขึ้นไป) เข้าฟรี
เว็บไซต์ : https://www.escape.my/pg
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/4sJRo6uuRiHmB6BbA
ถึงแม้ว่าเกาะปีนัง จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ แต่พูดได้เต็มปากเลยว่ามีอะไรให้ทำเยอะมาก แถมสถาปัตยกรรมยังสวยงามโดดเด่น ธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์ อาหารก็อร่อยไม่แพ้ที่ไหน เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ เชื่อได้เลยว่าการมา เที่ยวปีนัง ได้อะไรกลับไปมากกว่าที่คิดอย่างแน่นอน