Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

เที่ยว เซนได (Sendai) อีกเมืองที่น่าเที่ยวเหมือนกันนะ

โพสเมื่อ

ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมาบอกเล่าประสบการณ์ เที่ยว เซนได อีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่น ไปดูกันว่าที่เมืองนี้มีที่เที่ยวไหนน่าสนใจบ้าง


เที่ยว เซนได (Sendai) อีกเมืองที่น่าเที่ยวเหมือนกันนะ

คิดอยู่นานว่าจะ Review ดีไหม แต่ไหนๆก็ไหนๆแระเอาเสียหน่อยดีกว่า เผื่อไว้ให้ใครที่หาข้อมูลที่จะ มาญี่ปุ่น เพื่อ เที่ยว เซนได เข้ามาอ่านได้ เมื่อปลายเดือนก่อน(เมษา)ผมได้รับไลน์มาจาก UnithaiTrip ส่งมาบอกว่ามีตั๋วไป เที่ยว เซ็นได ซึ่งเป็นของ TG ด้วยราคาไปกลับไม่ถึงหมื่นเหลืออยู่ 3 ใบ จัดการถ่ายรูป Passport แล้วส่งไปจองเลยทันที แล้วก็โอนเงินตอนนั้นเลย อันนี้ต้องขอขอบคุณ UnithaiTrip มากๆที่ดำเนินเรื่องการจองตั๋วให้ทั้งหมด
ซึ่งผมไม่ต้องทำอะไรเลย รอรับ mail แล้วก็เอาเลขที่จองเข้าไปเช๊คกับการบินไทย ผลคือเรียบร้อยทุกอย่าง ไปกลับคนละไม่ถึงหมื่นราคารวมทุกอย่างแล้ว

ช่างโชคดีอะไรแบบนี้ (ผมไม่ใช่หน้าม้านะ แต่ที่ระบุชื่อ UnithaiTrip เพราะอยากขอบคุณนี่แหล่ะที่ทำให้ผมมีทริปนี้)
คืนนั้นผมก็เลยเปิดหาโรงแรมซะเลย  โรงแรมเต็ม!!! เปิดไปอันไหนก็เต็ม พยายามหานอกเมืองก็เต็ม เปลี่ยนไปนอนเมืองข้างๆก็เต็ม

ผมจองโรงแรมได้แบบ 4 คืนติดกัน จองแบบไม่รู้อะไรทั้งนั้นขอให้ได้ไว้ก่อน แล้วผมไปกันสามคนพ่อแม่ลูก(8 ขวบ)ซึ่งโรงแรมที่ญี่ปุ่นถ้าระบุไปแบบนี้
ไม่มีห้องว่างสำหรับ 3 คนเลย ดังนั้นผมโกงครับระบุว่าไปกันสองคน ได้ห้องเล็กๆขนาด 15 ตรม. ห้องน้ำในตัวมาหนึ่งห้องนอนยาวๆ 4 คืน โรงแรมชื่อ Hotel Premium Green Plus อยู่ในย่าน Aoba-Dori ซึ่งเป็นแหล่งช๊อปปิ้งของเซ็นได้เลย(เป็นการมั่วที่โชคดีมากๆ)

 Hotel Premium Green Plus

Aoba-Dori

พอได้โรงแรมแล้วก็สบายใจละ เรื่องแพลนที่เที่ยวไว้ค่อยหาเอา ผมก็พยายามเปิดๆหาข้อมูลของโทโฮคุซึ่งบอกตรงๆว่ามีรีวิวในนี้น้อยมากๆ
แล้วก็เก่ามากๆแล้วด้วย ทริปนี้จึงเป็นทริปที่ มาญี่ปุ่น ที่ผมไม่ได้หาข้อมูลไปสักเท่าไหร่ เพราะญี่ปุ่นนั้นมันเที่ยวง่ายจะตายไป

ผมไม่รู้ว่าปรกติไม่มีเที่ยวบิน บินตรงไปเซ็นไดเพราะตอนเปิดหาข้อมูลก็มีคนรีวิว TG บินไปเซ็นไดเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าไม่มีแล้ว(กรุณาตรวจสอบ)

หลังๆมานี้ผมบินไปญี่ปุ่นด้วย Low Cost ตลอดเพราะว่ามันถูกกว่า แต่คราวนี้บินไปกับ TG ซึ่งต้องขอชมว่า Cabin Crew ของ TG บริการดีมากๆๆๆๆ
เดินเสริฟกันตลอดแทบจะทั้งคืน ขนาดภรรยาผมซึ่งเคยเป็นแอร์มาก่อน(ตอนนี้เป็นตู้เย็น)ยังชม

สนามบินเซ็นได สนามบินเล็กมากๆที่ไม่วุ่นวายเหมือน NRT HND KIX ลงเครื่องมาเดินแปล๊ปเดียวก็ทั่วสนามบินแล้ว
มีร้านสะดวกซื้ออยู่ร้านนึง

แน่นอนว่า มาญี่ปุ่น เมื่อลงเครื่องก็ต้องเข้าเมืองเพื่อเอากระเป๋าไปฝากโรงแรมเนื่องจากโรงแรมในญี่ปุ่นยังไม่ให้เช๊คอิน
สถานีรถไฟเข้าเมืองมีอยู่ 2 ชานชลาเท่านั้น(ผมเห็นแค่นี้นะ) ดังนั้นมันจึงง่ายมากๆๆๆๆ
ใช้เวลาแปปเดียวก็มาถึงสถานีรถไฟเซ็นไดแล้ว

Sendai Station

จากสถานีเดินไปแปล๊ปเดียวก็ถึงโรงแรม แล้วก็ไปลุ้นเอาว่าเขาจะว่าไงถ้าเราจะพัก 3 คน ตอนแรกเขาก็อ้ำๆอึ้งๆแล้วก็ไปตาม Manager มา
คุยไรกันสักพักก็ยื่นกุญแจให้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เอาล่ะ…ทีนี้ก็มาหาที่เที่ยวกัน วันแรกเที่ยวไหนกันดี เที่ยวรอบเมืองแล้วกันเพิ่งจะเคยมาเมืองนี้เป็นครั้งแรกนั่งรถเล่นรอบเมืองก่อนเลยดีกว่า
เมืองนี้มี Loople Sendai (ชื่อแปลกปะล่ะ)เป็นรถเมล์ Classic สำหรับนั่งรถเล่นรอบเมืองโดยจะมีจุดให้ลงไปชมอยู่หลายจุด
ซึ่งรถจะวิ่งตลอดมาทุกๆ 15 นาที

Loople Sendai

ค่ารถถ้านั่งเป็นเที่ยว ก็ขึ้นลงทีนึง 260 เยน ซึ่งสามารถไปซื้อตั๋ว One Day Pass ได้ที่ป้ายรถบัสหมายเลข 16 ซึ่งอยู่หน้าสถานีเซ็นได้นั่นแหล่ะ
Loople Sendai Bus One Day Pass

ที่แรกที่จะลงก็คือ Zuihoden หรือหลุมศพของเจ้าเมืองเซ็นได มังกรตาเดียว Date Masamune ใช้เวลานั่งจากสถานีเซ็นไดแค่ไม่นาน
ก็มาถึงแล้ว พอลงรถก็ต้องเดินเข้าไปด้านใน ระหว่างทางก็ไปเจอร้านนี้ครับ ร้านขนมเล็กๆ(มาก)

ที่ต้องแวะก็เพราะร้านนี้มีของขึ้นชื่อของเมืองนี้ นั่นคือ โมจิไส้ถั่วแระญี่ปุ่นนั่นเอง

คือเวลาไปญี่ปุ่นเนี่ยไม่ว่าใครไปก็ตามกินไรก็อร่อยไปหมดแหล่ะครับ เจ้าขนมนี้ผมก็ว่ามันอร่อยมากได้กลิ่นถั่วแระเต็มๆ
สำหรับที่เที่ยวที่นี่นั้นมีจุดให้เดินชมหลายที่ครับ ตอนแรกนึกว่านิดๆ เอาเข้าจริงๆนี่เดินกันเมื่อยเลย

Zuihoden

จากตรงนี้เดินกลับไปยังป้ายรถบัสเพื่อไปต่อกันที่ Side of Sendai Castle ซึ่งคนเยอะมาก

และแน่นอนว่าถ้าคุณมาเซ็นไดก็ต้องลองนี่ครับ ซาลาเปาใส้ลิ้นวัว ชื่อไม่น่ากินใช่มะ คือบอกตรงๆว่าก่อนไปก็ไม่คิดจะกินหรอก แต่ไงก็ไปแล้วต้องลองสิครัช

รสชาติมันก็ประมาณซาลาเปาบ้านเราแหล่ะ แต่มันมีกลิ่นลึกๆของลิ้นวัว มันหอมๆไม่เหม็น นุ่มๆ กุบๆ บอกไม่ถูกครับ เอาเป็นว่าใครมา เที่ยว เซนไดไปต้องลองก็แล้วกัน เสร็จจากตรงนี้สามคนพ่อแม่ลูกเริ่มๆหมดแรงแล้ว ตอนนั้นมันสี่โมงกว่าๆเลยตกลงกันว่า กลับโรงแรมกันเถอะ

เช้าวันรุ่งขึ้นเราคิดกันไว้แล้วว่าวันนี้จะไปเที่ยวอ่าว Matsushima กัน ซึ่งจากที่หาข้อมูลมาก็เดินทางง่ายๆนั่งรถไฟต่อเดียวจากสถานีเซ็นไดไปลงที่
สถานี Matsushimakaikan แล้วก็เดินเที่ยวต่อได้เลย

ตอนแรกผมไม่อยากมาเลยเพราะรู้ดีว่าอ่าวนี้โดนสึนามิเต็มๆ ยังจำคลิปเรือขึ้นมาบนแผ่นดินได้อยู่เลย แถวๆนี้เละมาก เรียกได้ว่าโดนถล่มด้วยคลื่นยักษ์
เต็มๆแบบหน้าด่านเลย แต่!!!! เมื่อมาถึงแทบไม่รู้เลยว่าที่นี่เคยโดนอะไรมา ไม่มีล่องรอยอะไรให้ได้รู้เลยสักนิด เมืองเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินกันเต็มเมือง
ร้านขายของเพียบ มีคนยืนต่อแถวรอล่องอ่าวกันเยอะมากๆ เมืองริมฝังที่นี่บรรยากาศดีมากๆ มีเกาะเล็กๆอยู่เต็มไปหมด
บางเกาะก็มีสะพานให้เดินข้ามไปได้ บนเกาะเล็กๆมีศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นมาต่อคิวขอพรกัน

บางเกาะก็เป็นสะพานยาวมากให้เดินข้ามไป(เสียเงิน 200 เยน) ชื่อ Fukuurabashi

Bridge

เราใช้เวลาอยู่บนเกาะนี้นานมาก เพราะอากาศเย็นๆสบายๆ เส้นทางเดินก็ดีนุ่มๆ
มีวิวให้ชมอยู่ตลอด มีดอกไม้สวยๆเพียบ แต่เส้นทางเดินกลับนี่สิ….เสียเวลายิ่งกว่า(ฮ่าๆ) เพราะมันมีสิ่งล่อใจอยู่หลายอย่างเลย
นั่นคือของขึ้นชื่อของที่นี่นั่นเอง เดินไปก็จะเห็นคนมุมอยู่ร้านอะไรสักที่ นี่เลยครับ

คนต่อคิวกันเยอะมาก เมื่อเห็นอย่างนั้น…… มีหรือจะพลาด เข้าไปจัดสิครับรอไร

ร้านนี้มีที่นั่งหน้าร้านให้นั่งกินกันได้อย่างสบายใจครับ ที่ญี่ปุ่นเขาจะไม่เดินไปกินไปเหมือนบ้านเรา
จากร้านนี้เดินมาได้สัก 10-20 เมตร ก็จะเจออีกร้านนึงแล้ว

เดินมาอีกสักพักก็มาเจอร้านนี้ครับ ร้านไอติมหรือซอฟครีมนั่นเอง ซึ่งใครไปญี่ปุ่นแล้วไม่ได้กินซอฟครีมนี่ถือว่าพลาดอย่างแรง
(พลาดที่ไม่ได้เปรียบเทียบกับของแม๊คหรือเคเอฟซีบ้านเรา ซึ่งราคานี่น้ำตาแทบไหล ฮ่าๆๆๆ)

 

วันที่ 3 ทริปนี้เรามีเวลาเที่ยวแค่ 4 วันเท่านั้น ดังนั้นวันนี้ผมจึงแพลนไปเที่ยวนอกเมืองบ้างดีกว่า

จริงๆมีที่ให้เลือกเที่ยวได้หลายที่มากๆ ซึ่งที่เที่ยวที่สะดวกและเดินทางง่ายๆนั่งรถไฟต่อเดียวถึงนั้นมีเยอะครับ อย่าง Funaoka จุดชมซากุระ
อันเลื่องชื่อของแถวนี้ที่ดังก็เพราะ Funaoka นั้นเป็นจุดชมซากุระที่ได้นั่งกระช้าไปชมซากุระบนเขาไปได้อย่างใกล้ชิด แต่ช่วงที่ผมไปมัน ไม่มีซากุระแล้ว ตัดไปสิครับ

ดังนั้นวันนี้ผมจึงตัดสินใจไปน้ำตกดีกว่า ที่ที่จะไปก็คือ Akiu Otaki จากสถานีเซ็นไดเดินไปป้ายรถบัสหมายเลข 8 ครับ นั่งบัสไปลงที่ Akiu Yumoto
แล้วต่อบัสอีกคันไป จริงๆแถวๆนี้ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีนี่ผมว่ามันจะสวยมากๆ อารมณ์คล้ายๆน้ำตก Yutaki ที่ Nikko เลย

เมื่อมาถึงก็ต้องเดินเข้าไปอีกนิดหน่อยครับ ส่วนระยะทางที่เดินลงไปถึงตัวน้ำตกเลยนั้นประมาณ 1 กม. ผมว่าคล้ายๆน้ำตกเหวนรกบ้านเรานะ
แต่น้ำมันเย็นกว่ามาก

วันสุดท้าย….

วันนี้เป็นวันที่ผมตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะไปไหนดี เนื่องด้วยวันแรกที่ลงเครื่องนั้นจากสนามบินเซ็นไดสามารถมองเห็นภูเขาอยู่ลูกนึง
ซึ่งบนเขาเต็มไปด้วยหิมะ นั่นคือสาเหตุหลักของการเลือกที่เที่ยววันสุดท้ายของผม
                                                                                                “ไปดูปากปล่องภูเขาไฟกันมะ”
วิธีไปด้วยรถบัส ซึ่งนั่งบัสสองต่อเหมือน Akiu Otaki เลย ตอนเช้าวันนี้ผมตั้งเวลาตื่นมาตีสี่ครึ่งเพื่อออกไปเดินเที่ยว แต่ขอข้ามไปแล้วกัน กลับมาถึงโรงแรมตอนเจ็ดโมงยี่สิบ ออกเดินไปยังท่ารถบัสหมายเลข 33 รถบัสมาตอน 08:59 หาซื้อขนมของกินมาตุนไว้แล้ว นั่งรถบัสไปประมาณ 1 ชม.

ชมวิวของ “บ้านนอกญี่ปุ่น” ไปกันตลอดทาง ซึ่งคุณลงคนขับนี่รักษาความเร็วไว้ที่ 90 กม/ชม โดยตลอดครับ นึกในใจว่าทำไมรถบัสญี่ปุ่นมันถึงได้
นิ่มมากๆ คิดไปคิดมามันอยู่ที่ถนนสินะ รถบัสคันนี้จะไปส่งที่โรงแรม Miyagi Zao Royal Hotel

รถบัสคันนี้จะขับขึ้นเขาครับ ชันมาก บางช่วงนี่นึกว่าไปดอยอ่างขางด้วยซ้ำ แต่มันยาวกว่าเยอะ
ขึ้นมายังไม่ได้สูงอะไรเท่าไหร่ เฮ้ย!!!! นั่นมันหิมะนี่นา ใช่ครับตามทางที่ขึ้นไปนั้นจะเห็นหิมะที่ละลายแล้วแต่ไม่หมดอยู่บ้าง

แต่!!!! ยิ่งรถขึ้นไปสูงขึ้นเท่าไหร่ เจ้ากองหิมะที่ละลายก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นกองใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น

จน….

ตื่นเต้นมาก ได้เห็นกำแพงหิมะครั้งแรก ฮ่าๆๆๆ
หันไปมองหน้าแฟนกับลูก ตื่นเต้นกันใหญ่ หารู้ไหมว่า ลงรถแล้วจะเป็นอย่างไรกันกับไอ้ชุดเดินห้างเนี่ย
รถบัสจะขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ยิ่งสูงยิ่งหนาว รถจะไปจอดยังตัวอาคารเล็กๆบนยอดเขา เรามีเวลาแค่สองชั่วโมงเท่านั้นที่จะอยู่บนนี้เพราะรถบัสขากลับ
มีแค่สองเที่ยวเท่านั้น

อากาศเริ่ม Clear เว้ยเฮ้ย!!!! สักแป๊ปเดียวเมฆหมอกความขาวก็ค่อยๆหายไป

พอไปถึงตรงจุดชมวิวจริงๆ มือแข็งสิครัช…. จะหยิบกล้องออกมาตั้งค่าถ่ายรูปก็ลำบากมากเพราะมันสั่นไปหมด แต่ก็พอได้ภาพมาบ้างนะ

สักพักแฟนกับลูกก็เดินตามมา ผมก็เลยรีบเดินไปเพื่อตั้งกล้องถ่ายรูปครอบครัว …. ถ่ายได้สองรูป!!!!!!!

ขอจบทริป เที่ยว เซนไดไว้ตรงนี้แล้วกันครับ สำหรับลิ้นวัวผมจัดไปสองชุดครับ ราคาแรงเอาเรื่อง แต่มันอร่อยมากจริงๆเลยอดใจไมไหว ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณรีวิวน่ารักๆ จาก Guest สุดพิเศษ คุณ textextex สังกัด pantip จากกระทู้ [CR] Sendai อีกเมืองที่น่าเที่ยวเหมือนกันนะ ที่มามอบประสบการณ์จัดเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย !!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง

2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ญี่ปุ่น ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel