@MushroomTravelเที่ยวเกาหลีกรุงโซล เที่ยวเองได้ สบายใจกว่า
อะแฮ่ม…ทุกคนคะ วันนี้ มัชรูมทราเวล ขอปรับโหมดเป็นผู้รอบรู้ เพราะว่าเราจะพาไป เที่ยวเกาหลีกรุงโซล ฉบับไปเองได้ ง่ายสุดๆ ไม่ต้องง้อทัวร์ เดินทางสะดวกมากๆ รับประกันว่าถูกใจสาวกเกาหลีแน่นอนค่ะ เชื่อว่าประเทศเกาหลีใต้เนี่ย น่าจะเป็นที่ใฝ่ฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะบรรดาติ่งเกาหลี ทั้งซีรี่ส์ วงเคป๊อบ หรือแม้แต่แฟชั่นนิสต้าขาช้อปที่นิยมสินค้า หรือเครื่องสำอางเมดอินโคเรีย ไม่ต้องกลัวเลยว่าถ้าไปครั้งแรกจะยากไหม? อ่านเกาหลีไม่ออกจะหลงหรือเปล่า? ขอบอกเลยค่ะว่าการเดินทางในเกาหลีน่ะ ง่ายสุดๆ สะดวกสบาย รถไฟฟ้าใต้ดินมีหลายสาย ป้ายมีภาษาอังกฤษกำกับ ไม่มีหลงแน่นอนจ้า
หลังจากก้าวเท้าขึ้นเครื่องบินแล้ว ก็หลับสบายๆ ไปเลย 5 ชั่วโมงค่ะ พอเครื่องลงที่สนามบินนานาชาติอินชอน ผ่านเข้าตม.ปุ๊บ! ก็ไปตะลุยกรุงโซลกันเล้ยยย ก็แหม…เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าโซลน่ะ เป็นเมืองที่มีระบบการคมนาคมดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รถไฟฟ้าเรียกว่าถึงทุกที่ทั้งบนดินและใต้ดิน สะดวกมากๆ แถมยังมีรถไฟความเร็วสูง KTX (Korea Train eXpress) ที่วิ่งเชื่อมระหว่างเมืองใหญ่ต่างๆ ของเกาหลีอีกด้วย
แผนที่ :
รถไฟด่วนของสนามบิน
ซึ่งวิธีเข้ามา เที่ยวเกาหลีกรุงโซล จากสนามบินอินชอนนั้น ก็มีให้เลือกหลากหลาย ที่นิยมกันก็ได้แก่ รถไฟด่วนของสนามบิน (Airport Railroad Express หรือเรียกสั้นๆว่า AREX) แบบ Non-Stop หรือ แบบที่จอดทุกสถานีรถไฟใต้ดินที่ผ่าน (All-Stop)โดยแบบ Non-Stop จะเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุด เพราะจะตรงไปยังสถานีปลายทางคือสถานี Seoul Station ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการเชื่อมต่อไปยังสถานีต่างๆ รวมถึงเมืองอื่นๆ ของเกาหลีใต้ด้วย โดยใช้เวลาแค่ประมาณ 40 นาที ส่วนแบบ All-Stop คือจะจอดตามสถานีรถไฟใต้ดินทั้งหมด 11 สถานี ปลายทางจะอยู่ที่ Seoul Station เช่นเดียวกัน วิธีนี้จะช้ากว่าเล็กน้อยแต่ก็จะประหยัดค่าเดินทางได้มากกว่าวิธีแรก
ดูรายละเอียดตารางเวลารถไฟเพิ่มเติมได้ที่www.arex.or.kr/main.do
แผนที่ :
รถบัสสนามบิน (Limousine Buses)
อีกหนึ่งวิธีที่นิยมไม่แพ้กันก็คือการใช้บริการ รถบัสสนามบิน (Limousine Buses) ซึ่งจะวิ่งผ่านตามจุดต่างๆ ในกรุงโซล เช่น Gangnam, Myeong-dong, Hongik U. เป็นต้น บนรถบัสสนามบินมีที่นั่งขนาดค่อนข้างใหญ่ นั่งสบาย ราคาถูกกว่า AREX และสามารถไปส่งเราได้ถึงย่านที่พักเลยด้วย ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษๆ ขึ้นอยู่กับระยะทางที่เราจะลง โดยมีให้บริการ 2 ประเภท คือรถบัสแบบลีมูซีน (Deluxe limousine) กับ รถบัสแบบธรรมดา ซึ่งรถบัสแบบลีมูซีนจะจอดตามป้ายน้อยกว่า ทำให้ใช้เวลาในการเดินทางน้อยกว่าแบบธรรมดา โดยเราสามารถซื้อตั๋วได้ที่ เคาน์เตอร์ขายบัตรสำหรับรถบัสสนามบิน ที่ gate 4 และ 9 ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ถ้าไม่รีบร้อนอะไรมากแนะนำวิธีนี้เลยค่ะ นั่งชิลล์ๆ ชมวิวเพลินๆ 2 ข้างทางระหว่างเข้าโซลได้ด้วย
ส่วนวิธีสุดท้ายก็คือ แท็กซี่ ซึ่งราคาแพงที่สุด แต่ว่าสะดวกที่สุด เนื่องจากแท็กซี่จะไปส่งเราถึงหน้าที่พักเลย เหมาะกับคนที่มีสัมภาระเยอะ ไม่สะดวกในการขึ้นลงรถหรือเปลี่ยนขบวนรถไฟเมื่อถึงที่พักเก็บกระเป๋ากันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี้ไม่ว่าจะไปเที่ยวตามสถานที่ที่ลิสต์ไว้ ไปตามล่าหาของอร่อยตามจุดต่างๆ ไปช้อปปิ้งย่านดัง หรือแม้แต่ไปตามติ่งศิลปินเกาหลีในดวงใจ อะไรก็ว่ากันไป ไม่ว่าจุดหมายปลายทางของคุณจะเป็นที่ใด ถ้ายัง เที่ยวเกาหลีกรุงโซล อยู่แล้วล่ะก็…การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือว่าสะดวกที่สุดค่ะ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าการเดินทางในกรุงโซลน่ะ ง่ายสุดๆ สะดวกสบาย รถไฟฟ้าใต้ดินมีหลายสาย เรียกว่าสามารถไปโผล่ใกล้ๆ แทบทุกสถานที่ที่เราจะไปในโซลเลย แม้ว่าอาจจะต้องเดินต่อบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ต้องกลัวหลง เพราะในสถานีจะมีแผนที่บอกอย่างชัดเจนว่าถ้าจะไปจุดนี้ต้องออกทางออกไหน ทำให้เรารู้ว่าควรเดินไปทางไหนต่อ
บอกได้เลยว่ามา เที่ยวเกาหลีกรุงโซล ต้องได้ใช้บริการรถไฟฟ้าวันละหลายรอบแน่นอน ได้เปลี่ยนสายรถไฟไปสายนู้นสายนี้กันเป็นว่าเล่น เพราะฉะนั้นแนะนำเลยค่ะว่าต้องมีบัตรเบ่ง หรือ บัตร T-Monery บัตรที่เราสามารถใช้ในการเดินทางได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถบัสในเมือง (รถเมล์) สะดวกมากๆ สามารถหาซื้อและเติมเงินได้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปที่มีสัญลักษณ์ T-Money เช่น GS25 หรือ Family Mart, สถานีรถไฟใต้ดิน หรือที่สนามบิน แถมยังได้รับส่วนลดเพิ่มในการขึ้นรถไฟฟ้าและรถบัส ประมาณ 100 วอนต่อเที่ยวด้วยแหละ เอาไปเลย 5 ดาว!
วิธีใช้บัตร T-Monery
ก็แค่ซื้อบัตรตามร้านสะดวกซื้อที่บอก เติมเงิน โดยจะเติมที่ร้านสะดวกซื้อหรือที่ตู้เติมเงินตามสถานีรถไฟฟ้าก็ได้ ซึ่งเราสามารถคืนบัตรได้ตามสถานที่เหล่านี้เช่นกัน เฉพาะค่าบัตรอย่างเดียวจะอยู่ที่ 2,500 วอน ซึ่งจะไม่ได้คืนหากเราคืนบัตร แต่จะได้เงินที่เราเติมเอาไว้แล้วเหลือในบัตรคืน แต่จะถูกหักค่าคืนอีก 500 วอน งงมะ? ฮ่าๆ สรุปคือเราจะเสียค่าบัตรทั้งหมดเป็นเงิน 3,000 วอน (หากมีการคืนบัตรด้วย)
โดยเราสามารถเติมเงินได้ตั้งแต่ 1,000-90,000 วอน แต่แนะนำว่าคำนวนให้พอดีหรือมากกว่าที่จะใช้นิดหน่อยดีกว่า เพราะถ้าเหลือเงินในบัตรเกิน 20,000 วอน จะต้องไปคืนที่สำนักงานใหญ่ของบัตร T-Money อยู่ที่สถานี Seoul Station ทางออก 10 เท่านั้นนะจ๊ะ แต่อยากบอกว่าเจ้าบัตร T-Money เนี่ยไม่มีวันหมดอายุ สามารถเก็บไว้ใช้ได้เรื่อยๆ เวลาที่เรามา เที่ยวเกาหลีกรุงโซล อ่อ…แล้วอย่าลืมว่าเวลาขึ้นรถบัสต้องแตะบัตรทุกครั้งทั้งขึ้นและลงนะ!
สำหรับใครที่ชอบที่จะได้ส่วนลดในการเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ บัตร T-Money City Pass Plus คือคำตอบค่ะ ซึ่งการใช้งานของบัตรนี้จะเหมือนกับบัตร T-Money ธรรมดาทุกอย่าง เพียงแต่จะสามารถใช้เป็นส่วนลดตามสถานที่บางแห่งได้ด้วยนะ เช่น N Seoul Tower หรือร้านสปาเป็นต้น โดยจะเสียค่าบัตรแพงขึ้นจาก T-Money ปกติอีก 500 วอน เป็น 3,000 วอน โดยตอนที่ซื้อบัตร คนขายจะแนบคูปองส่วนลดมาให้ด้วย บัตรนี้จะคุ้มค่าสำหรับคนที่จะไปใช้บริการที่ได้ส่วนลด แต่เอาจริงๆ บัตรนี้หาซื้อค่อนข้างยากอ่ะ อาจจะซื้อได้จากที่สนามบินหรือที่สำนักงานใหญ่ของบัตร T-Money เท่านั้น
แผนที่ :N Seoul Tower
นอกจากนี้ยังมีบัตรเหมารายวัน (ซึ่งขอบอกว่าแพงอ่ะ ไม่คุ้มเงิน) ซื้อบัตรเบ่ง T-Money ไปเดินเท่ๆ จะดีกว่า Tips แนะนำว่าให้โหลดแผนที่รถไฟฟ้ากรุงโซลเอาไว้เลย ไปไหนมาไหน เปลี่ยนสายอะไรไม่มีหลงแน่นอน
รถบัส
สำหรับใครที่อยากลองนั่งรถบัสของเกาหลี แนะนำให้ไปโหลดแอพฯ Seoulbus รอเลยจ้ะ ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับรถบัสสายต่างๆ และดูได้ว่าจากไหนไปไหนจะนั่งสายอะไรไปได้บ้าง สำหรับผู้คนในกรุงโซลนั้นจะนิยมใช้บริการรถบัสกันค่อนข้างมาก เพราะสามารถถึงที่หมายได้ใกล้กว่าและประหยัดกว่าแบบอื่นๆ โดยรถบัสที่ให้บริการนั้นจะแบ่งออกเป็นสีต่างๆ อาทิ สีน้ำเงิน วิ่งในกรุงโซลกับรอบนอกเมืองโซล, สีเขียว วิ่งระหว่างสถานีรถไฟใต้ดินกับพื้นที่ระหว่างสถานี, สีแดง วิ่งระหว่างโซลกับชานเมือง เป็นต้น
แท็กซี่มิเตอร์
นอกจากนี้ยังมี แท็กซี่มิเตอร์ สำหรับคนขี้เกียจเดิน สามารถถึงที่หมายได้ใกล้ที่สุด โดยเราสามารถโบกแท็กซี่ได้ตลอด ทุกที่ทุกเวลา โดยแท็กซี่ในกรุงโซลนั้นแบ่งออกแบ่งเป็น
1. แท็กซี่แบบธรรมดา (สีส้มหรือสีเงิน) ก็จะเหมือนแท็กซี่ทั่วๆไป เป็นรถเก๋งคันเล็ก นั่งได้ 4 คน ค่าโดยสารถูกที่สุด รถจะมีสีส้มทั้งคัน หรือสีเงินทั้งคัน
2. แท็กซี่แบบหรูหรือแบบคันใหญ่ (สีดำ) ซึ่งจะใช้รถเก๋งคันใหญ่ หรือรถประเภทมินิแวน ที่นั่งได้ 8 คน รถจะมีสีดำ คาดด้วยแทบสีทอง
3. แท็กซี่แบบสีดำแต่ติดป้าย International จะพูดภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดี เป็นรถเก๋งคันใหญ่ สีดำทั้งคัน คาดด้วยสีทองเขียนว่า International
รถไฟความเร็วสูง
สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ ของเกาหลีใต้ รถไฟความเร็วสูง KTX (Korea Train eXpress) ที่วิ่งเชื่อมระหว่างโซลกับเมืองใหญ่ต่างๆ ของเกาหลี เช่น จังหวัดทางตอนใต้ของประเทศ อย่างจอนจู ปูซาน KTX ก็เป็นตัวเลือกในการใช้บริการที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะช่วยทำให้เราประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น
เห็นมั้ยคะว่าการเดินทางในเกาหลีน่ะ ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด เราสามารถวางแผนการเที่ยวเองได้ ไม่ง้อทัวร์ ประหยัดตังค์ในกระเป๋าอีกด้วย!
ที่มา : www.chilloutkorea.com