เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (Xinjiang Uygur Autonomous Region) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน แบ่งออกเป็น 2 ภูมิภาคหลัก คือ ซินเจียงเหนือ และ ซินเจียงใต้ โดยมี เทือกเขาเทียนชาน เป็นเส้นแบ่ง บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล จะพาทุกคนไป เที่ยวซินเจียงใต้ ซึ่งภูมิภาคนี้ครอบคลุมพื้นที่ถึง 2 ใน 3 ของซินเจียง เมืองที่อยู่ในภูมิภาคนี้ ได้แก่ คัชการ์ (Kashgar), อาเค่อซู (Aksu), เหอเถียน (Hotan), คู่เอ๋อเล่อ (Korla) ฯลฯ มีธรรมชาติที่หลากหลาย สวยงาม ทั้งทะเลทราย ทะเลสาบ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ รวมถึงโบราณสถาน และเมืองเก่าที่เป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ รับรองว่าสนุกครบรสไม่แพ้เมืองไหนแน่นอน

สภาพอากาศของซินเจียงใต้ แบ่งได้เป็น 4 ฤดูคือ
1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 9 – 21 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 18 – 31 องศาเซลเซียส
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย 6 – 15 องศาเซลเซียส ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี
4. ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ย -5 ถึง 10 องศาเซลเซียส ตอนกลางคืนอาจลดต่ำลงอีก มีหิมะตกตั้งแต่ช่วงต้นฤดู
ใครกำลังหาที่เที่ยวใหม่ๆ หรือวางแผนมาเที่ยวแต่ยังไม่มีข้อมูล ตามไปดู 10 ที่เที่ยวซินเจียง ตอนใต้ สวยๆ ที่พี่เห็ดเตรียมมาฝากกันได้เลย!
1. ทะเลสาบไป๋ซาหู (Baisha Lake)

เที่ยวซินเจียงใต้ ต้องไม่พลาดสถานที่สวยๆ อย่าง ทะเลสาบไป๋ซาหู หรือ ทะเลสาบทรายขาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน ตั้งอยู่ในเทือกเขาคาราโครัม ที่ระดับความสูงประมาณ 3,300 เมตร เปรียบเสมือนโอเอซิสท่ามกลางขุนเขา ถูกล้อมรอบด้วยเนินทรายสีขาวเหมือนหิมะ ตัดกับสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ของผืนน้ำ โดยมีภูเขาสูงตระหง่านเป็นฉากหลัง ทำให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงามชวนฝัน ในฤดูร้อนจะมีดอกบัวบานสะพรั่ง แต่งแต้มสีสันให้ดูสดใส พอเข้าสู่ฤดูหนาวภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน ผืนน้ำทั้งหมดจะกลายเป็นน้ำแข็งเหมือนกระจกเลย
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 20.00 น.
ค่าเข้าชม : 45 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/q1F6pSV9nq33STYFA
2. ทะเลสาบคาราคูล (Lake Karakul)

อีกหนึ่งทะเลสาบที่สวยงามในซินเจียงใต้ นั่นก็คือ ทะเลสาบคาราคูล หรือ ทะเลสาบดำ ตั้งอยู่ที่เชิงเขามู่ซื่อถ่าเก๋อ (Muztagh Ata) บนความสูงกว่า 3,900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ความพิเศษของทะเลสาบแห่งนี้ก็คือ น้ำสามารถเปลี่ยนสีได้ตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและแสงแดด ทำให้มองเห็นเป็นสีต่างๆ เช่น สีฟ้าใส สีเขียวอมเทา สีเงิน และสีดำสนิทเมื่อมีเมฆมาปกคลุม อีกทั้งวิวโดยรอบยังโอบล้อมด้วยภูเขาหิมะขนาดใหญ่ สะท้อนกับผืนน้ำใสของทะเลสาบ เป็นภาพที่สวยงามมาก
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/6L1EYco14t78K1wU7
3. ภูเขาไฟมู่จี๋ (Muji volcanic crater)

ภูเขาไฟมู่จี๋ เป็น ที่เที่ยวซินเจียง ตอนใต้ ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูงปามีร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอำเภออาเค่อเถา มีความสูง 3,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ด้านบนมีปากปล่องภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุเมื่อ 1,500 ปีก่อน รูปร่างคล้ายดวงตาปีศาจที่กำลังจ้องมองท้องฟ้า จึงได้ฉายาว่า “ดวงตาแห่งปามีร์” บริเวณรอบๆ ถูกโอบล้อมด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ ธารน้ำแข็ง ทุ่งหญ้า มองออกไปไกลๆ จะเห็น เทือกเขาสิบแปดอรหันต์ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้อีกด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/bK4cYnKo8ibsyzet9
4. แกรนด์แคนยอนคู่เชอ (Kuche Grand Canyon)

แกรนด์แคนยอนคู่เชอ หรือ แกรนด์แคนยอนคิซิเลีย ในภาษาอุยกูร์ ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 แกรนด์แคนยอนที่สวยที่สุดในโลกโดย National Geographic ตั้งอยู่ทางใต้ของเทือกเขาเทียนชาน ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 140 ล้านปีก่อน จากการกัดเซาะของลมและฝน จนเกิดเป็นแนวหินสีแดงที่มีความยาวรวมกว่า 5,000 เมตร ประกอบด้วยหน้าผาหินที่มีลวดลายแปลกตา เสาหิน และยอดหินแหลมขรุขระมากมาย มองไกลๆ เหมือนกับเปลวเพลิงสีแดงที่กำลังลุกโชนอยู่เลย
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 20. 00 น.
ค่าเข้าชม : 45 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/uvHGR2iBzgTQSgEs8
5. ช่องเขาคุนจีราบ (Khunjerab Pass)

ช่องเขาคุนจีราบ เป็น ที่เที่ยวซินเจียง ตอนใต้ ที่ตั้งอยู่บนความสูง 4,693 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นด่านพรมแดนที่สูงที่สุดในโลก ที่ความสูง 4,693 เมตร เชื่อมระหว่างประเทศจีนและปากีสถาน อดีตเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหม จึงยังพบเห็นคาราวานเซรายที่เคยถูกใช้เป็นจุดพักสำหรับพ่อค้าอยู่ใกล้ช่องเขา จากจุดนี้จะมองเห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลของภูเขาหิมะที่เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และลำธารที่ใสสะอาด รวมถึง ยอดเขา Muztagh Ata ที่ได้ฉายาว่า “บิดาแห่งภูเขาน้ำแข็ง” ด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/6vGHZMH5fw2NH8GYA
6. ย่านเมืองเก่าคัชการ์ (Kashgar Old City)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้เมื่อมา เที่ยวซินเจียงใต้ คือ ย่านเมืองเก่าคัชการ์ เป็นหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม มีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี แต่ยังคงรักษาบรรยากาศ บ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงวัฒนธรรมแบบอุยกูร์ดั้งเดิมเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ตามถนนหนทางมีร้านค้ามากมายที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่น เครื่องเทศ ผลไม้อบแห้ง พรมทอมือ เครื่องประดับ เครื่องปั้นดินเผา ยิ่งดึกบรรยากาศยิ่งคึกคัก มีตลาดกลางคืนที่เต็มไปด้วยเมนูสไตล์อุยกูร์แท้ๆ เช่น เนื้อแกะย่าง แผ่นแป้งอบ น้ำทับทิม ไอศกรีมนมแพะ มาลองชิมกันได้เลย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/hWb3zUX79p9rkY6N9
7. สวนป่าหูหยางเมืองเจ้อผู่ (Poskam Jinhuyang National Forest Park)

ใครมา เที่ยวซินเจียงใต้ ช่วงปลายเดือนกันยายน – ตุลาคม ต้องไม่พลาดไปชมความสวยงามของต้นหูหยาง ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมแบบทะเลทราย หรือที่รู้จักกันในนาม “King of the Desert” โดยพื้นที่ซินเจียงใต้มีสวนป่าหูหยางให้ชมมากมาย อย่างเช่น สวนป่าหูหยางหลุนไถ ในตำบลหลุนหนาน อำเภอหลุนไถ มีพื้นที่รวมถึง 100 ตารางกิโลเมตร โดดเด่นด้วยป่าต้นหูหยางที่เปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามในฤดูใบไม้ร่วง มีทางรถไฟชมวิวรูปวงกลมยาว 13 กิโลเมตร เชื่อมต่อทะเลสาบขนาดใหญ่ 4 – 5 แห่งในป่า พร้อมวิวต้นหูหยางสีทองอร่าม ทั้งที่ส่องประกายท่ามกลางแสงแดด และสะท้อนอยู่บนผืนน้ำ นอกจากนี้ยังมีหอคอยชมวิวสูง 24 เมตร ที่มองเห็นผืนป่าสีทองได้แบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 19.00 น.
ค่าเข้าชม : 30 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/ZqZtdbqbT1D6Py3x8
8. ถนนโบราณผานหลง (Panlong Ancient Road)

ไปต่อกันที่เส้นทางสุดน่าตื่นเต้นในประเทศจีนกับ ถนนโบราณผานหลง หรือ ผานหลงกู่เต้า กับเส้นทางที่โค้งคดเคี้ยวสุดหวาดเสียวกว่า 600 โค้ง จนได้รับฉายาว่า “มังกรแห่งขุนเขา”ถนนสายนี้สร้างโดยทอดยาวผ่านภูเขาสูงและหุบเขาลึก เป็นทางคดเคี้ยวเชื่อมต่อกัน ระยะทาง 36 กิโลเมตร โดยใช้เป็นเส้นทางสำหรับเดินทางไปยัง ทะเลสาบปานตีร์สีฟ้า (Bandir Blue Lake) และ วาคาน คอร์ริดอร์ (Wakhan Corridor) ทิวทัศน์สองข้างทางเต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาหิมะ หุบเขา ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า และป่าไม้ เหมาะสำหรับคนชอบผจญภัยและถ่ายรูปวิวสวยแปลกตา ที่มีถนนโค้งซ้อนไปมาตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม
9. มัสยิดอิดคาห์ (Id Kah Mosque)

มัสยิดอิดคาห์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าคัชการ์ เป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 16,800 ตารางเมตร มีความยาว 140 เมตร ตามแนวทิศใต้ – เหนือ และ 120 เมตร ตามแนวทิศตะวันออก – ตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15 ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์อุยกูร์ดั้งเดิม โดดเด่นด้วยซุ้มประตูสีเหลืองสดใส สูง 4.7 เมตร กว้าง 4.3 เมตร ขนาบข้างด้วยหออะซาน สูงเกือบ 18 เมตร ที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตงดงาม ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับผู้ที่มาประกอบพิธีทางศาสนาได้หลายพันคน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เช่น วันสิ้นสุดช่วงถือศีลอด จะมีผู้คนจากทั่วซินเจียงเดินทางมาละหมาดสูงถึง 20,000 – 30,000 คน
เวลาเปิด – ปิด : 10.30 – 19.30 น. (ปิดชั่วคราวช่วงเวลาละหมาด 14.00 – 16.30 น.)
ค่าเข้าชม : 45 หยวน (มุสลิมเข้าฟรี)
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/QA5iPEaUr4hfdXJ39
10. สุสานสนมเซียง (Tomb of the Fragrant Concubine)

มา เที่ยวซินเจียงใต้ กันต่อที่ สุสานสนมเซียง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ สุสานอาปักโฮจา มีอายุเก่าแก่กว่า 350 ปี เป็นสถานที่ฝังพระศพของสมาชิกตระกูลโฮจาถึง 5 ชั่วอายุคน รวมถึง “เซียงเฟย” พระสนมในจักรพรรดิเฉียนหลง แห่งราชวงศ์ชิง ที่เล่าลือกันว่ามีรูปโฉมงดงาม และกลิ่นกายหอมกรุ่นเหมือนดอกไม้จนมีผีเสื้อบินมาตอมอยู่ตลอดเวลา ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม มีโดมกลางขนาดใหญ่ สูง 26 เมตร ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบโทนสีเขียว ด้านนอกมีลานกว้าง สวนสวยๆ พิพิธภัณฑ์ และร้านค้าให้เที่ยวชมด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 08:00 – 18:00 น.
ค่าเข้าชม : 30 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/3wN6k7YaLjMKjfzQA
เห็นในรูปว่าสวยแล้ว พี่เห็ดบอกเลยว่าของจริงอลังการกว่าเป็นร้อยเท่า ใครกำลังลังเลอยู่ ไม่ต้องเสียเวลาคิดเยอะเลยค่ะ ลองไปสัมผัสด้วยตาตัวเองดูสักครั้งแล้วจะเข้าใจเลยว่าสวยจนลืมหายใจมันเป็นยังไง! ยิ่งถ้าไปกับมัชรูมทราเวล ทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก ไม่ต้องวุ่นวายจองเองหลายขั้นตอน แค่กดจอง ทัวร์ซินเจียง และเตรียมตัวให้พร้อม ก็ออกเดินทางไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของซินเจียงใต้กันได้เลย