@MushroomTravel
ทิเบต หรือ เขตปกครองตนเองทิเบต เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ บนที่ราบสูงชิงไห่ – ทิเบต ซึ่งเป็นที่ราบสูงที่สูงที่สุดในโลก จึงได้ฉายาว่า “ดินแดนหลังคาโลก” มีวิวธรรมชาติที่สวยงาม ที่เที่ยวทิเบต เต็มไปด้วยภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ทั้งภูเขาหิมะ ทะเลสาบ และทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ อีกทั้งยังมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงวัดวาอารามมากมายให้เที่ยวชม
สภาพอากาศโดยรวมของทิเบต แบ่งได้ 4 ฤดู คือ
– ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 3 – 17 องศาเซลเซียส
– ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 9 – 22 องศาเซลเซียส
– ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 4 – 18 องศาเซลเซียส เริ่มมีหิมะตกบางเมือง
– ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย -4 ถึง 12 องศาเซลเซียส มีหิมะปกคลุมทั่วเมือง
บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองน่าเที่ยวที่ควรไปสักครั้งในชีวิต ได้สัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ อากาศเย็นสบายตลอดปี ธรรมชาติสวยงาม ชมวิถีชีวิตของผู้คนและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจ ใครสนใจจะไป เที่ยวทิเบต วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี 7 พิกัดแลนด์มาร์ก ที่เที่ยวทิเบต เด็ดๆ มาแนะนำ รับรองว่าได้บรรยากาศแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน
เตรียมตัวก่อนเดินทาง
การไป เที่ยวทิเบต มีขั้นตอนมากกว่าประเทศอื่นเล็กน้อย เพราะรัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเอง ต้องใช้บริการทัวร์และไกด์ท้องถิ่น รวมถึงต้องมีการขอใบอนุญาตท่องเที่ยวทิเบต (Tibet Travel Permit) ที่ออกโดยสำนักงานการท่องเที่ยวทิเบต เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าออกเมืองต่างๆ หรือใช้ซื้อตั๋วรถไฟ ตั๋วเครื่องบินด้วย ซึ่งใบอนุญาตท่องเที่ยวทิเบตนี้นักท่องเที่ยวก็ยื่นขอเองไม่ได้เช่นกัน จะต้องให้บริษัททัวร์ท้องถิ่นเป็นคนติดต่อให้ ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 7 -10 วัน โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียม ดังนี้
1. สำเนาหนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
2. แผนการเดินทาง เช่น วันที่เดินทาง, สถานที่ท่องเที่ยว, จำนวนผู้ร่วมเดินทาง
ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะทิเบตตั้งอยู่ที่ความสูงเฉลี่ย 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ความกดอากาศและออกซิเจนจะเบาบางกว่าที่ราบ อาจทำให้เกิด ภาวะแพ้ที่สูง (Altitude Sickness) จึงควรฟิตร่างกายให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ เผื่อเวลาเดินทางให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวให้คุ้นชิน หากมีโรคประจำตัว หรือเคยมีอาการแพ้ที่สูงควรปรึกษาแพทย์ก่อนออกเดินทาง
เตรียมพร้อมก่อนเดินทางเรียบร้อย ทีนี้เรามาดูที่เที่ยวน่าสนใจในทิเบตกันเลยค่ะ
1. พระราชวังโปตาลา (Potala Palace)
พระราชวังโปตาลา มีขนาดใหญ่โตมโหฬารถึง 360,000 ตารางเมตร ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาแดง ในเมืองลาซา ที่ความสูง 3,700 เมตร ใช้เป็นที่ประทับในฤดูหนาวขององค์ดาไลลามะมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994 ภายในแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ พระราชวังแดง และพระราชวังขาว ประกอบด้วยห้องต่างๆ 999 ห้อง ประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวของพุทธศาสนา ชีวประวัติของดาไลลามะองค์ต่างๆ และยังมีพระคัมภีร์ โบราณวัตถุอันทรงคุณค่ามากมายที่ถูกเก็บสะสมไว้ที่นี่ด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 15.40 น.
ค่าเข้าชม :
– พฤษภาคม – ตุลาคม 200 หยวน
– พฤศจิกายน – เมษายน 100 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/Mmh7rUDePnWoUxxw9
2. ทะเลสาบยัมดรก (Yamdrok Lake)
ทะเลสาบยัมดรก มีระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,441 เมตร เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่สูงใหญ่ น้ำในทะเลสาบเป็นน้ำสีเขียวคราม เพราะเกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขา ทัศนียภาพโดยรอบอลังการ เหมาะแก่การถ่ายภาพ นอกจากความสวยงามแล้ว ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีความสำคัญทางศาสนา ว่ากันว่าเป็นทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่อยู่ของเทพเจ้าและเทพธิดาหลายองค์ในศาสนาพุทธทิเบต ทั้งยังเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางแสวงบุญหลายๆ เส้นทางอีกด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/5X4jZ44RQtSSwT9z8
3. พิพิธภัณฑ์ทิเบต (Tibet Museum)
พิพิธภัณฑ์ทิเบต สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1994 ในวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และวาระครบรอบ 40 ปีการปฏิรูปประชาธิปไตยทิเบต ตัวอาคารมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบทิเบตและจีนเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว ภายในประกอบด้วย 2 ชั้น แบ่งออกเป็นห้องต่างๆ จัดแสดงข้อมูลความรู้เกี่ยวกับทิเบตทั้งหมด อาทิ ประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุ คัมภีร์ งานหัตถกรรม เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ ใครที่รู้ศึกษาวัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวธิเบตบอกเลยว่าที่นี่มีครบ
เวลาเปิด – ปิด :
– กรกฎาคม – ตุลาคม 09.30 – 17.30 น.
– พฤศจิกายน – มิถุนายน 10.00 – 17.30 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/TbKtQumnhEbcoubh6
4. วัดทาชิลุนโป (Tashi Lunpho monastery)
ไปสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ วัดทาชิลุนโป ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1447 โดยองค์ทะไลลามะองค์ที่ 1 เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างมากในพระพุทธศาสนาแบบทิเบต ตัวอาคารตกแต่งอย่างประณีตงดงาม ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ทองจำปา ซึ่งเป็นรูปปั้นประทับนั่งของพระศรีอริยเมตไตรย รวมถึงมีอุโบสถ เจดีย์ สุสาน วิทยาลัย ฯลฯ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ และสถานที่สำหรับจัดงานสำคัญๆ ทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 19.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/7GiUPnxiCHvTWxbJ7
5. วัดโจคัง (Jokhang Temple)
มา เที่ยวทิเบต กันต่อที่ วัดโจคัง เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของทิเบต ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ซองเซน กัมโป และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโกในปี ค.ศ. 1994 ด้วยความโดดเด่นของรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานทั้งศิลปะอินเดีย ศิลปะจีนสมัยราชวงศ์ถัง และศิลปะเนปาลเข้าด้วยกัน ด้านบนคลุมด้วยหลังคาสีทองประดับธรรมจักร ภายในประดิษฐานพระโจโวศากยมุนีสูง 3 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวทิเบตเคารพนับถือสูงสุด เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของตลาดแปดเหลี่ยมอันคึกคัก รวมถึงพระราชวังโปตาลาได้ด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 09.00-18.00
ค่าเข้าชม : 85 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/8D836RfNT6BTxppe8
6. ตลาดแปดเหลี่ยม (Barkhor Street)
อีกหนึ่ง ที่เที่ยวทิเบต ที่ไม่ควรพลาดคือ ถนนปาคัว หรือ ตลาดแปดเหลี่ยม เป็นตลาดที่คึกคักที่สุดในลาซา เดิมเป็นเพียงถนนเส้นเดียวรอบวัดโจคัง ที่คนท้องถิ่นมักจะมาเดินเวียนรอบๆ พร้อมสวดมนต์ไปด้วย จึงเรียกกันว่า “ถนนศักดิ์สิทธิ์” จากนั้นก็ขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นวงเวียนขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ามากมาย แต่ก็ยังคงรูปแบบและการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวเมืองลาซาโบราณเอาไว้อย่างดี ร้านค้าต่างๆ ขายพวกของพื้นเมือง เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องหนัง ลูกประคำสำหรับสวดมนต์ ธงมนต์ เนื้อจามรีตากแห้ง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร รวมถึงสตรีทฟู้ดมากมาย ตั้งแต่อาหารพื้นเมือง ไปจนถึงชานมไข่มุก ชาผลไม้ เบอร์เกอร์ ไก่ทอด ไอศกรีม ฯลฯ
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/s7gpAGHHWnfF7MnKA
7. เจียนเซ่ซอง (Gyantse Dzong)
ปิดท้ายทริปเที่ยวทิเบตด้วย เจียนเซ่ซอง หรือ ป้อมปราการเจียนเซ่ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มองเห็นเมืองเจียนเซ่ได้อย่างชัดเจน อดีตเคยเป็นทั้งฐานทัพ ศูนย์กลางการปกครอง พระราชวัง และเป็นฐานที่มั่นสำคัญที่ช่วยป้องกันการรุกรานจากอังกฤษในปี ค.ศ. 1904 อยู่นานกว่า 3 เดือน โดยชาวทิเบตมีอาวุธเพียงปืนคาบศิลาโบราณ ดาบ หอก และหนังสติ๊กเท่านั้น ซึ่งหลังโดนโจมตีอย่างหนัก ชาวทิเบตจึงตัดสินใจสละชีพด้วยการกระโดดหน้าผาพร้อมกัน ดีกว่าต้องยอมจำนน ปัจจุบันจึงมีอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นบริเวณหน้าผาเพื่อรำลึกถึงความกล้าหาญ และพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ครั้งสำคัญในช่วงเวลานั้นด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 18.00
ค่าเข้าชม : 30 หยวน
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/N8JHAFazoataxMRL9
ทิเบตเป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าเที่ยวมากๆ เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งวัฒนธรรมอันล้ำค่า ธรรมชาติสุดตระการตา และบรรยากาศที่ชวนให้หลงใหล ใครอยากเปิดประสบการณ์เดินทางแบบไม่ซ้ำเดิม ออกไปสัมผัสความงดงามในอีกมุมหนึ่งของโลก กดจอง ทัวร์จีน ไปเที่ยวทิเบตกับมัชรูมทราเวลได้เลย มีบริการทุกอย่างให้ครบ แค่เก็บกระเป๋าก็พร้อมออกเดินทางได้เลย !