ภูเขาหิมะวาวู่ ( Wawu Mountain ) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “ภูเขาโต๊ะที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ด้วยลักษณะเป็นยอดเขาแบบราบคล้ายโต๊ะหินขนาดมหึมา ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขาและทะเลหมอกตลอดปี บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยเสน่ห์ของผืนป่าดึกดำบรรพ์ น้ำตก และวิวพาโนรามาเหนือระดับเมฆ ในช่วงปลายปีจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่บนภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยหิมะหนา ตัดกับแนวสนโบราณและม่านหมอกที่ลอยคลอไปตามสันเขา เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงามราวฉากในเทพนิยาย
ที่นี่จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสัมผัสความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากไปสำรวจ ภูเขาหิมะวาวู่ ด้วยตนเองสักครั้ง บทความนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีข้อมูลสำคัญที่ควรทราบก่อนเดินทางพิชิต Wawu Mountain มาฝาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ ที่เที่ยวไฮไลต์ หรือวิธีการเดินทาง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!
ประวัติความเป็นมา ภูเขาหิมะวาวู่

ภูเขาหิมะวาวู่ เป็นภูเขาที่ถูกค้นพบและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์จีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 700 ตารางกิโลเมตร และมีระดับความสูงเฉลี่ย 2,800 – 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งตามตำนานท้องถิ่นมีการกล่าวว่า ภูเขาวาวู่เคยเป็นหนึ่งในสถานที่กำเนิดหรือแหล่งเผยแพร่ลัทธิเต๋าในช่วงสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก โดยมีเรื่องเล่าว่า เล่าจื่อ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ก่อตั้งลัทธิเต๋า เคยเดินทางมายังพื้นที่แห่งนี้เพื่อบำเพ็ญสมาธิและกลั่นน้ำอมฤต แม้ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ยืนยันแน่ชัด แต่ตำนานเหล่านี้ยังคงถูกเล่าขานสืบต่อกันมาในหมู่ชาวพื้นเมืองเสฉวนจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาในช่วงปลายทศวรรษ 1990 รัฐบาลจีนได้เริ่มพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ มีการวางเส้นทางเดินชมธรรมชาติ สร้างจุดชมวิว กระเช้าขึ้นเขา และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ จนได้รับการจัดอันดับให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวระดับ 4A ที่มีความโดดเด่นด้านทิวทัศน์และประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่หาไม่ได้จากที่ไหน
เที่ยวภูเขาหิมะวาวู่ เดือนไหนดี ?

ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่อากาศเริ่มอุ่นขึ้น แต่ก็ยังถือว่าหนาวสำหรับคนไทย อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 – 12 องศาเซลเซียส หิมะยังคงปกคลุมไปทั่วพื้นที่ และจะค่อยๆ ละลายลงในปลายฤดู ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไปจะมีดอกไม้บานสะพรั่งทั่วภูเขา เช่น ดอกอาซาเลีย ดอกท้อ ดอกแพร์ กุหลาบพันปี และมีโอกาสจะได้เห็นนกป่าหรือนกหายาก โดยเฉพาะนกปากนกแก้วสายพันธุ์ต่างๆ มากกว่าฤดูอื่นด้วยค่ะ
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
ฤดูร้อนถือเป็นอีกหนึ่งฤดูยอดฮิต อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 19 – 25 องศาเซลเซียส เย็นสบายกว่าอากาศในเมือง โดยเดือนที่มีอุณหภูมิสูงสุดคือ เดือนกรกฎาคม ช่วงนี้ธรรมชาติสดชื่น ผืนป่าและพืชพรรณต่างๆ เขียวชอุ่ม น้ำตกไหลแรง ลำธารใสสะอาด ใครชอบเดินป่าต้องมาฤดูนี้เลย

ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ฤดูใบไม้ร่วง ภูเขาหิมะวาวู่ จะถูกปกคลุมด้วยใบไม้หลากสี ทำให้ทัศนียภาพสวยงามราวกับภาพวาด อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 17 องศาเซลเซียส ปลายฤดูอุณหภูมิจะเริ่มลดลงต่ำ และหิมะเริ่มตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ใครไปเที่ยวช่วงนี้จะมีโอกาสพบเห็นแพนด้าแดงที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติออกมาหากินด้วย
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
พอเข้าฤดูหนาว อุณหภูมิที่ ภูเขาหิมะวาวู่ จะอยู่ประมาณ -3 ถึง 6 องศาเซลเซียส เดือนที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดคือ เดือนมกราคม ภูเขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลน น้ำตกก็กลายเป็นม่านน้ำแข็งขนาดใหญ่ ส่องประกายระยิบระยับ และยังมีจุดกิจกรรมที่จัดให้เล่นสกี สเกตน้ำแข็ง ห่วงยางสไลด์ด้วยค่ะ

สรุปแล้วเที่ยว ภูเขาหิมะวาวู่ เดือนไหนดี พี่เห็ดตอบให้เลยว่า สามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี เพราะวิวสวยไม่ซ้ำกันเลยค่ะ แต่ถ้าอยากสัมผัสอุณหภูมิติดลบ ก็ต้องไป ฤดูหนาว ที่จะได้ชมวิวภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะหนาๆ ฟูๆ เหมือนอยู่ในอาณาจักรน้ำแข็ง ไปได้ตั้งแต่ปลายปีจนถึงต้นปี แต่หากใครสู้ความหนาวไม่ไหว หรืออยากไปเดินป่าแบบชิลๆ ชมธรรมชาติสวยๆ แนะนำให้ไปฤดูร้อนหรือฤดูใบไม้ร่วง อากาศไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป เดินถ่ายรูปชมวิวได้เพลินๆ
ไฮไลต์ห้ามพลาดเมื่อมาเยือน ภูเขาหิมะวาวู่
1. น้ำตกหลานซี (Lanxi Waterfall)

น้ำตกหลานซี เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในภูเขาวาวู่ ท่ามกลางน้ำตกกว่า 70 แห่ง และยังเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สูงที่สุดในทวีปเอเชียอีกด้วย โดยมีทั้งหมด 3 ชั้น ความสูงรวม 1,040 เมตร น้ำไหลแรงตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน บริเวณรอบๆ ร่มรื่นไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด มีทางเดินริมหน้าผาที่ชมน้ำตกได้แบบใกล้ชิด สามารถพบปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำได้บ่อย และในช่วงฤดูหนาวก็จะได้เห็นม่านน้ำตกขนาดใหญ่ที่กลายเป็นน้ำแข็งห้อยลงมาจากภูเขาด้วย
2. ทุ่งดอกอาซาเลีย

ใครมาเที่ยวช่วงกลางเดือนเมษายน – ปลายเดือนพฤษภาคม อย่าลืมแวะมาชมความสวยงามของ ทุ่งดอกอาซาเลีย โดยให้นั่งกระเช้าขึ้นมาจนสุดทาง แล้วเลือกเส้นทางฝั่งซ้าย จะเจอกับทะเลดอกอาซาเลียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน บานสะพรั่งเป็นสีชมพูสวยงาม มีให้ชมมากกว่า 60 สายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมี ต้นราชาอาซาเลีย อายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ที่มีเส้นรอบวงลำต้นกว้างถึง 3.5 เมตรด้วย
3. ทะเลสาบหยวนหยาง (Yuanyang Pool)

ทะเลสาบหยวนหยาง เป็นทะเลสาบธรรมชาติที่มีทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2,700 เมตร น้ำในทะเลสาบใสสะอาดราวกับกระจก สะท้อนเงาป่าต้นสนหนาทึบที่โอบล้อมอยู่รอบข้าง ช่วงฤดูร้อนจะพบ เป็ดแมนดาริน ออกมาว่ายวนอยู่เหนือผิวน้ำ ส่วนฤดูหนาวก็จะกลายเป็นน้ำแข็งไปทั้งผืนเลยค่ะ
4. หินเซียงเอ๋อ (Xiang’er Rock)

หินเซียงเอ๋อ เป็นหน้าผาหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกไปจากแนวเขา มอบมุมมองทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศา ให้ผู้มาเยือนได้ชมความงดงามของเทือกเขาและทะเลหมอกได้รอบด้าน โดยเฉพาะในยามเช้าที่หมอกปกคลุมเบาบาง จะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่า “วงแหวนแสง (Buddha’s Halo)” ซึ่งเกิดจากแสงอาทิตย์สะท้อนผ่านละอองหมอก จนปรากฏเป็นรัศมีแสงล้อมรอบเงาของผู้ที่ยืนอยู่ตรงกลางพอดี ถือเป็นภาพหาชมได้ยากและเป็นสัญลักษณ์แห่งความสิริมงคลที่นักท่องเที่ยวต่างรอคอยสัมผัส
การเดินทางไปภูเขาหิมะวาวู่จากเฉิงตู
1. รถไฟความเร็วสูง
ขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากเฉิงตู ไปยัง สถานีเหม่ยซานตะวันออก (Meishan East Station) จากนั้นต่อรถบัสไปยัง อำเภอหงหยา และต่อรถบัสอีกครั้งไปยัง Wawu Mountain ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
2. รถบัส
ขึ้นรถบัสโดยสารที่ สถานีขนส่งซินหนานเหมิน (Xinnanmen Bus Station) หรือ สถานีขนส่งฉาเตี้ยนจื่อ (Chadianzi Bus Station) จากเฉิงตูไปยังเขาวาวู่ มีรถออกวันละ 1-2 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5 ชั่วโมง
เนื่องจากเส้นทางไปเที่ยวภูเขาหิมะวาวู่มีความซับซ้อน การเลือกเดินทางไปเที่ยวกับทัวร์ก็จะช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น หายห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราไม่ต้องวางแผนการเดินทางเอง มีไกด์ช่วยให้คำแนะนำตลอดการเดินทาง

ข้อมูลเพิ่มเติม
1. เวลาทำการ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี
– วันที่ 1 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน เวลา 08.00 – 17.00 น.
– วันที่ 1 ธันวาคม – 28 กุมภาพันธ์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
2. ค่าบริการ
– ค่าเข้าชม 100 หยวน
– ค่ากระเช้าเคเบิลคาร์ 186 หยวน (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา)
– กระเช้าจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ขึ้นกระเช้าจินฮวาเฉียว (Jinhuaqiao Cable Car) จากเชิงเขาไปลงกลางเขา ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นต่อกระเช้ากู่ฝอผิง (Gufoping Cable Car) อีก 10 นาที ไปถึงยอดเขา หรือจะเดินจากจุดนี้ขึ้นไปยอดเขาเองก็ได้
3. เตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาล ใครไปช่วงหน้าร้อนอย่าลืมพกอุปกรณ์กันแดดไปด้วย ส่วนใครที่ไปหน้าหนาวก็อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวอุ่นๆ รวมถึงเครื่องแต่งกายกันหนาวอื่นๆ ที่สำคัญแนะนำให้สวมรองเท้าที่เดินสบาย กันน้ำกันหิมะและกันลื่นได้ อีกทั้งช่วงหน้าหนาว ถนนบางส่วนอาจมีน้ำแข็งและหิมะปกคลุม
4. ห้ามให้อาหารลิงป่า ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารลิงป่าเพื่อป้องกันการถูกกัด หรืออันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
5. ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ควรศึกษาและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามสูบบุหรี่และก่อกองไฟ ห้ามทิ้งขยะ หรือเก็บดอกไม้และพืชพรรณตามใจชอบ หรือห้ามเข้าไปในพื้นที่ที่ยังไม่เปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น
ภูเขาหิมะวาวู่ เป็นหนึ่งในภูเขาที่เที่ยวง่าย เด็กหรือผู้สูงอายุก็เที่ยวได้ เพราะการเดินทางสะดวกสบาย มีทั้งกระเช้าลอยฟ้าและรถบัสให้บริการ รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จุดแวะพัก ห้องน้ำ เครื่องดื่ม หรืออาหาร ใครอยากเปิดประสบการณ์สนุกๆ แบบนี้ รีบจอง ทัวร์จีน ไปกับมัชรูมทราเวล แล้วออกไปสัมผัสความสวยงามแห่งแดนมังกรด้วยกันนะ
