Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtravel
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

Haul Korea 2018 รวมขนม(เป็นหลัก) และเครื่องสำอาง พร้อมราคา

โพสเมื่อ

ครั้งนี้มัชรูมทราเวลได้รับเกียรติจาก Guest สุดพิเศษ ที่จะมา เปิดถุงของฝากเกาหลี ที่จัดเต็มทั้งขนม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า รับรองว่าถูกใจสาวๆ แน่นอน ก่อนไป ช้อปปิ้งเกาหลี มาอัพเดตกันว่ามีอะไรน่าซื้อบ้าง


Haul Korea 2018 รวมขนม(เป็นหลัก) และเครื่องสำอาง พร้อมราคา

Haul Korea 2018 !!!

หลังจากที่ตามดูรีวิว Haul Korea ของคนอื่นก่อนไปถึงเกาหลีมาหลายกระทู้ หลายคลิป ก็ถึงเวลาของเราบ้างแล้ว ทริปนี้เจ็บนิดๆ เพราะว่าสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ตั้งแต่วันไปยันวันกลับ อุณหภูมิติดลบกันแบบสุดๆ ถึงขนาด Feel like -21 ก็มีมาแล้ว

ไม่พูดมาก ไปดูรูป เปิดถุงของฝากเกาหลี พร้อมกับราคากันเลย

ส่วนใหญ่ทริปนี้เราซื้อของจาก Lotter Mart สาขา Seoul Station จากการอ่านรีวิวมา พบว่ามีหลายสาขา แต่สาขานี้ใกล้ที่พักมากสุด หรือถ้าบางคนไม่สะดวกไปหอบหิ้ว ที่เมียงดงก็มีร้านขายขนมที่ราคาถูกบริการอยู่ สามารถเลือกซื้อกันได้

แล้วนี่ก็คือสภาพความเสียหายทั้งหมดของทริปนี้ที่ได้พบปะกันมา ถือว่าน้อยนิดมากๆ เมื่อเทียบกับ ช้อปปิ้งเกาหลี ทริปก่อนๆ มีความยับยั้งชั่งใจกันไปบ้างแล้ว ไหนจะ Pokky Lotte ที่รอบนี้ซื้อมาฝากคนอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่ หรือสาหร่ายที่ซื้อมาแค่ยี่ห้อเดียว

แต่ที่โดนไปหนักๆ คือ ถั่วเลยจย้า อัลมอนด์ในตำนาน ที่เค้าว่ากันว่าใครไปได้กินต้องติดใจซื้อกลับมากันแน่นอน ซึ่งเรานั้นก็โดนป้ายยาด้วยเช่นกัน ตอนแรกก็ซื้อถุงละ 1,500 won ในร้าน daiso เอาแค่มาลอง แต่กินแล้วมันเพลินจริงๆ

ถั่วยี่ห้อนี้มีหลายแบบหลายรส มีทั้งอัลมอนด์ มีทั้งแมคคาเดเมีย มีทั้งถั่วรวม มีทั้งรส Honey Butter แล้วก็ Caramel แล้วก็ wasabi ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป เท่าที่เราเจอมามีหลากหลายราคามากๆ ตั้งแต่ที่ 7-11 ราคา 8,800 won ที่ร้าน Olive Young ราคา 6,900 won ซึ่งเราคิดว่าถูกแล้วก็ซื้อมา เดินๆ ไป ไปเจอที่ร้าน LOHB ราคา 5,600 won ก็ซื้ออีก จนสุดท้ายมาเจอที่ Lotte Mart เหลือเพียง 4,500 won ก็ซื้ออีก เป็นการซื้อถั่ววนไปที่แท้จริง

มาที่ Market O กันบ้าง ไม่มีใครไม่รู้จักบราวนี่อันเป็นที่เลื่องลือ กินมาตั้งแต่ตอนที่ไปเกาหลีครั้งแรก เมื่อ 8 ปีที่แล้ว แม้ว่าตอนนี้จะเลิกอินไปแล้ว แต่ไปถึงเกาหลีทั้งทีก็ต้องยอมขนกลับมาให้ได้รู้ว่า ข้าไปเกาหลีมานะเว้ยยยย

ราคา Brownie ที่ Lotte Mart ตอนที่เราไปมีแต่กล่องเล็ก กับกล่องลัง เลยเลือกแบบกล่องเล็กมา เพราะมีโปรลดราคาอยู่ คำนวณแล้วซื้อกล่องเล็กยังคุ้มกว่าอีก กล่องนี้ได้มาในราคา 1,920 won มี 4 ชิ้น ส่วน Real Cheese Chip กล่องละ 1,980 won

ปิดท้ายที่ Market O ชาเขียว ที่หลงซื้อมาเพราะไม่เคยกิน ก่อนจะกินก็เปิดดูรีวิว แล้วพบว่าทุกคนบอกว่ามันไม่อร่อย ซวยแหล่วจ้า ว่าจะซื้อมาฝากชาวบ้าน งานนี้เลยได้แกะดูเอามาลองชิม แล้วก็พบว่า มันก็ไม่ได้แย่นะแกร แค่แบบมัน งง ๆ เพราะว่ามันไม่ได้กลิ่นชาเขียวเลย ถ้าให้หลับตากินจะคิดว่ากินรสถั่วอะไรสักอย่างอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เหม็นหืนอะไรขนาดนั้น ราคากล่องนี้อยู่ที่ 3,340 won มี 8 ชิ้นเด้อ

ส่วน Chocolate ก้อน อันนี้ ตามมาจากเพจ Jaysbabyfood จ้า มีทั้งแบบ 56% แล้วก็ 72% โดยส่วนตัวเราชอบแบบขมๆ เลยเลือกแบบนี้มา ซึ่งก็อร่อยเพลินสมกับที่คุณเจได้รีวิวไว้จริงๆ ราคากระปุกละ 1,970 won ค่า

ไหนๆ จะโดนป้ายยาแล้วก็เอาให้สุด ไปต่อกันเลยค่ะ อันนี้คุณเจบอกว่าอร่อยกว่าอีกแบรนด์ที่บ้านเรากินกันประจำ เราก็เลยซื้อมาลอง อันนี้ซื้อที่ร้าน GS25 เป็นกล่องขนาดเล็กกว่าที่ Lotte Mart แต่วันที่เราไป lotte Mart มีโปรลดสำหรับสมาชิก เราก็เลยขอบาย เพราะว่ากล่องค่อนข้างใหญ่กว่า เอากลับมาลำบาก แล้วก็ไม่โปร ก็เลยซื้อตาม GS25 ดีกว่า เพราะมีลดราคาด้วย อันนี้ต้องขอสารภาพว่าจำราคาไม่ได้จริงๆ น่าจะเกือบๆ 2,000 won ได้

ส่วนกล่องหลังเป็นอุปทานหมู่ที่แท้ทรู ตอนไปเดินที่ Lotte Mart แล้วพบว่ามันเป็น Item ที่คนหยิบกันเยอะมาก เหลืออยู่ 2 กล่อง ซึ่งทางเรานั้นก็ได้หยิบมาด้วย ลองกินแล้ว ถือว่าอร่อยในระดับนึงที่ไส้ chocolate แบบ Hazelhut อร่อย และแป้งกรอบอร่อยดี กล่องใหญ่บึ้มในราคาแค่ 4,780 won เท่านั้นเอง

ทริปนี้เรียกว่าเป็นทริป มันหวาน fever มากๆ เพราะว่ากินมันทุกยี่ห้อที่เจอ แต่มีเหลือกลับมาแค่เท่านี้

ทางซ้ายซื้อที่ GS25 เช่นเคย เป็นยี่ห้อที่เราว่าอร่อยสุด เพราะว่าชิ้นใหญ่ หวานมันหนึบ คือดีย์มากจริงๆ ราคาก็ไม่แรง 2,500 won ส่วนอันขวา ก็คือซื้อที่ Lotte Mart แบบแพค 3 ถุง ราคา 5,980 won อันนี้ลองแล้วชิ้นเล็กกว่า ไม่หวานเหมือนเป็นมันจืดๆมากกว่า ส่วนยี่ห้ออื่นๆที่ซื้อลองกินหมดไปแล้วนั้น มักจะราคา 3,500 won รสชาดคล้ายๆกับอันทางขวา แต่หวานและหนึบกว่านิดหน่อย

มาต่อกันที่ ขนมธัญพืช ตามรีวิวบอกว่าเหมือนขนมข้าวโพดหลอดๆบ้านเรา แต่กินแล้วมันบ่ใช่เน้อออออ มันคือขนมธัญพืชจืดๆ มีหวานเค็มนิดๆ แบบว่ากินแล้วรู้สึกดีที่กินขนมมีประโยชน์ แต่ไม่นมไม่มันไม่หวานเหมือนข้าวโพดแท่งบ้านเรา ถุงนี้ราคา 3,280 won จ้า

แล้วก็มาปิดท้าย เปิดถุงของฝากเกาหลี กับ สาหร่าย ขนมเวเฟอร์ ที่โดนป้ายยา Apple เคลือบ Chocolate และ ชาเขียวจาก O’sulloc

สาหร่าย ซื้อที่ Lotte Mart เช่นเดิม มีทั้งหมด 20 ถุงเล็ก แถมฟรีอีก 2 ถุง ราคาเพียง 6,480 won ได้ลองชิมแล้ว ณ จุดที่ขาย ก็พบว่า อร่อย กรอบ เค็มๆ ดี ใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหน ก็ลองไปเดินชิมดูก็ได้มีหลายยี่ห้อให้ลองกัน ชอบอันไหนก็อันนั้นแหละ กินแล้วก็ซื้อกลับมาเลย ไม่ต้องคิดมาก

ส่วน เวเฟอร์ อันนี้เราซื้อจาก GS25 มีความเป็นนมเนยน้อยกว่าบางยี่ห้อที่เคยกินที่บ้านเรา อันนี้มีขาย size ใหญ่ที่ Lotte Mart ด้วย

ส่วน Apple เคลือบ Chocolate อันนี้เป็นยี่ห้อเดียวกับมันหวาน 3,500 won ที่บอกไป ได้ลองแล้วก็ happy อยู่เปรี้ยวๆ หวานๆ ถือว่าดี

ปิดท้ายด้วย ชาเขียวจาก O’sulloc ซึ่งมีขายอยู่ทุกที่ เหมือนว่าจะเจอหลายสาขามากๆ อันนี้เราซื้อที่สาขา ฮงแด ราคา 8,500 won ถ้ากระปุกใหญ่จะราคาประมาณ 15,000 won นอกจากนั้นในร้านก็ยังมีชา Best Seller ให้ลองชิมกันด้วย ใครผ่านก็เข้าไปลองชิมชากันได้ หอมมากจริงๆ ส่วนชาเขียวอันนี้นั้น อร่อยมากกกกกก ขนาดเราเป็นคนไม่ชอบกินชาเขียว ยังยกนิ้วเลย

เปิดถุงของฝากเกาหลี จบจากเรื่องขนมแล้วก็มาต่อกันที่สรรพสิ่งอื่นๆ กันบ้างที่ได้มาแบบกรุบกริบ พอให้กระเป๋าเบา แต่ไม่ถึงกับล้มละลาย

หมวดเครื่องสำอาง ได้มาหมดค่า ทั้ง cushion ที่เขียนคิ้ว ลิป eyeliner ที่เช็ดเครื่องสำอาง ไปจนถึงผ้าอนามัยจ้า

ตัว Cushion ของ Missha อันนี้ได้มาแบบ งง ๆ ที่ตึก lotte Fit in ตึกนี้ให้ 10/10 ไปเลย เพราะว่าเสื้อผ้าสวย น่ารัก ราคาเข้าถึงง่าย ซื้อตัวเดียวก็ได้ ไม่เหมือนกับตึกอื่นที่ต้องซื้อ 3 ตัวขึ้นไป มีแต่ของวัยรุ่นน่ารักๆ ทั้งนั้น ที่ชั้นบนจะมีชั้นของแบรนด์เครื่องสำอาง ตอนที่เราไป เค้าจัดโปร magic cushion cover spf50+/PA+++ ลด 50% อยู่ เหลือแค่ 8,500 won ได้ตลับจริงกับรีฟิล ถือว่าคุ้มมาก ตัวที่เราซื้อมาเป็นสีเบอร์ 23 ขาวนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าโอเคสำหรับคนผิวขาวเหลือง ไม่ปกปิดมาก รอยสิวกับสิวยังต้องใช้ concealer อยู่ แบบที่เลือกมาเป็นเนื้อ matte จะไม่ฉ่ำวาวเหมือนอีกรุ่น ใครที่หน้ามัน เราว่ารุ่น matte น่าจะดีกว่า โดยเฉพาะถ้าเอามาใช้ที่ไทย

นอกจากนี้ก็ยังได้ Eyeliner สีน้ำตาลมาด้วย ปลายพู่กัน ถือว่าดี นุ่ม แล้วก็สีสวย ราคา 14,000 won ถ้าทาตั้งแต่เช้าถึงเย็นก็มีหลุดๆ บ้าง

นอกจากนี้ก็ยังเก็บตก Lip Mamonde มาหลายแท่ง จากรีวิวของเหล่า blogger ในราคาแท่งละ 9,000 won แต่ยอมรับว่า สีสวย เนื้อดีจริงๆ ตัวที่เราเลือกมาเป็นแบบ matte ตามที่ Mayyr ได้รีวิวไว้เลย

ส่วน Peripera 9,000 won ก็ติดทนมากๆ ลองทาแล้วเอาตัวเช็ดเครื่องสำอางในรูปที่เป็นตัว Kakao เช็ดแล้วก็ยังไม่ออกเลยจ้า เลยไม่รู้ว่าลิปติดทนดีมากเกิน หรือว่าที่เช็ดเครื่องสำอางยังไม่ดีพอ แต่เช็ด eye liner ออกได้กริบเลยนะ

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็ต้องนี่เลย ผ้าอนามัย ที่มีกลิ่นเหมือนเครื่องยาสมุนไพร คือมันลดราคาอยู่ แล้วป้ายในร้านก็เชิญชวนว่าแบบขายดี เราก็เลยลองซื้อมา คือความคิดนี่ คิดไว้ว่ามันน่าจะช่วยเรื่องการปวดประจำเดือนรึเปล่า แต่ก็ไม่น่าใช่ สุดท้ายก็เลยคิดได้ว่า มันอาจจะช่วยเรื่องกลิ่นรึเปล่า เพราะว่าได้กลิ่นเครื่องยาแรงมากเลยจ้า ถือว่าดี สำหรับคนที่ไม่มั่นใจ ก็ให้กลิ่นสมุนไพรเกาหลีกลบไปแทนละกัน

สำหรับตัว Mask ดำ Kose ตัวนี้ไปตามหาที่ญี่ปุ่นมาครั้งก่อนแล้วไม่เจอ ก็งงมากค่า ทำไมไม่มี ครั้งนี้ก่อนบินไปเจอที่ King Power ก็เลยสอยมาเลย เป็นช่วงโปรลด 20% ด้วย ถือว่าคุ้มสุดๆ วันที่เราบิน เราลืมเอาเอกสารรับของไปด้วย ก็เลยรู้ว่าใช้แค่ passport กับ boarding Pass ก็รับของได้เหมือนกัน

มาต่อที่ของมุ้งมิ้งกันบ้าง ทั้ง sticker พาสเตอร์ยา เคสมือถือ สมุด Planner Mousepad น้องๆ Kakao กลับมากับพี่ให้หมดจ้า

อันนี้ถือว่าแนะนำเลย เพราะว่าที่เกาหลี Kakao เค้าดังมากๆ แล้วก็น่ารักมากๆ ด้วยเช่นกัน ของราคาก็ไม่ได้แพงมาก ไปแล้วซื้อเถอะ น้องขออออออ

Dashing-Diva ส่วนอันนี้ ยอมรับเลยว่าตั้งใจไปซื้อมากๆ เห็นที่ไทยแล้วรู้สึกจะอดใจไม่ไหวทุกที แต่ได้ไปเลือกที่เกาหลีมีดีหลายอย่าง ทั้งลายที่มีให้เลือกเยอะกว่า ลายใหม่ๆ แล้วก็แบรนด์ที่เค้าไป Co มา อันนี้เป็นน้องหมาที่ Co กับ Innisfree ก็น่ารักมากๆ แต่ราคาไม่ต่างกับไทยเท่าไหร่ ถ้าใครอยากได้ซื้อที่ไทยได้เลย

ใกล้จะจบแล้วจ้า กับเก็บตก เสื้อผ้าที่ร้าน Forever 21 ที่เค้าว่ากันว่า ถูกและดีมีอยู่จริง ซึ่งเป็นความจริงมากจ้า ตอนไปนี่คือ ชั้น 1 ทั้งชั้นก็ลด 50% ทั้งชั้นไปเลย แถมที่ชั้น 3 ยังมีบางส่วนลดแบบ 1 แถม 1 ไปอีก เสื้อผ้าส่วนใหญ่ราคาเข้าถึงได้ง่าย (ราคาหลังลด) ซื้อได้แบบไม่ต้องคิดเยอะเลย

อย่างเสื้อตัวนี้ลด 50% แล้วเหลือประมาณ 22,000 won = 700 บาท ส่วนกระโปรงลดแล้วเหลือประมาณ 10,000 won = 310 บาท

จริงๆ มีอีกหลายอย่างมากๆ ทั้งกางเกงยีนส์ เสื้อไหมพรม น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย แค่บางตัวที่ชอบอาจจะไม่มี size แล้วแค่นั้น อันนี้เราซื้อที่สาขาเมียงดงจ้า เข้าไปแล้วเหมือนหลุดโลก ต้องจับกระเป๋าตังให้แน่นๆ เลยทีเดียว

ส่วนอีก 1 สิ่งนอกจาก Strawberry ลูกใหญ่แล้ว ก็คือ ลูกพลับอบแห้ง นั่นเอง กินแล้วเพลินมากๆ หวานนุ่มสุดๆ

อันนี้ซื้อที่ตลาดในเมียงดง กล่องละ 10,000 won กินแปปๆ จะหมดจ้า

เราไปเจอที่ Lotte Mart ด้วยนะ ราคาถูกกว่าเยอะเลย แต่ว่าเหมือนว่ายังอบไม่แห้ง แล้วก็หวานกว่า ก็เลยบายไม่ได้ซื้อมา

สำหรับ Haul Korea เปิดถุงของฝากเกาหลี ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้นะคะ หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่จะไปเกาหลี แล้วกำลังหาของฝาก ของกิน เครื่องสำอาง หรือพิกัดเสื้อผ้าได้นะคะ

แล้วได้พบกันใหม่กระทู้หน้าค่า หรือติดตามกันได้ที่ Facebook : ITRYUBUY ได้เลยค่า มีข้อสงสัยสอบถาม ทิ้งไว้ที่ comment ได้เลยนะคะ แล้วเราจะรีบกลับมาตอบให้ทุกคนเลยจ้า

ขอบคุณ Guest สุดพิเศษ คุณ socheeze สังกัด Pantip จากกระทู้ “[CR] Haul Korea 2018 รวมขนม(เป็นหลัก) และเครื่องสำอาง พร้อมราคา” ที่มารีวิว เปิดถุงของฝากเกาหลี 2018 ให้เราได้ชมแบบจัดเต็ม! ได้รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ยย!!
ระดับความน่าไป : ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับ Guest ได้ที่ : I TRY U BUY


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์เกาหลี ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
[email protected]
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง