@MushroomTravel
หมดปัญหาดราม่าสิ่งของต้องห้ามขึ้นเครื่องด้วย ตู้ APM ไปรษณีย์ แสนสะดวก
นักท่องเที่ยวหลายคนเจอกับปัญหาสัมภาระบางอย่างที่ไม่สามารถถือติดตัวขึ้นเครื่องได้ ซึ่งที่สนามบินทั่วโลกจะมีมาตรการตรวจสัมภาระติดตัวก่อนขึ้นเครื่องทุกครั้ง จุดนี้ถ้าใครมีสิ่งของที่ผิดกฎการบินก็คงต้องทิ้งอย่างเดียวเลยค่ะ โดยเฉพาะของเหลวทั้งหลาย เช่น เครื่องสำอาง น้ำหอม ครีมทาผิว ที่บางทีเราอาจจะเผลอติดไว้ในกระเป๋าถือ ไม่ได้ใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่เพื่อโหลดใต้เครื่อง เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดดราม่าก่อนไปเที่ยว มัชรูมทราเวล ว่าเรามาศึกษา ข้อกำหนดเกี่ยวกับของเหลวที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ ตามนี้ค่ะ
1.ของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่นๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ต้องบรรจุในภาชนะความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร โดยยึดปริมาณตามความจุของภาชนะ ไม่ได้ดูจากปริมาณจริงที่เหลือในภาชนะ
2.ของเหลวแต่ละชิ้นต้องใส่รวมในถุงซิปล็อค ซึ่งรวมกันแล้วปริมาณต้องไม่เกิน 1,000 มิลลิลิตร และอนุญาตให้ผู้โดยสาร 1 คน ต่อ 1 ถุง เท่านั้น
3.สินค้าปลอดภาษีที่เป็นของเหลวและซื้อภายในสนามบินหลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ทางร้านค้าจะปิดผนึกมาให้อย่างดี และต้องไม่มีการเปิดถุงหรือฉีกขาดก่อนขึ้นเครื่อง
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของอื่นๆที่ไม่สามารถถือติดตัวขึ้นเครื่องได้ ได้แก่ อาวุธและของมีคมทุกชนิด เช่น กรรไกรหรือกรรไกรตัดเล็บ, ไฟแช็ก รวมถึงไปปืนของเล่นก็ไม่ได้นะ
แต่ถ้าใครพลาดจริงๆ ดันมีของที่ไม่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ติดมาด้วย ก็ไม่ต้องกลัวอีกแล้วค่ะ เพราะตอนนี้มีบริการดีๆ ที่ มัชรูมทราเวล พามาแนะนำ ด้วย ตู้ APM ไปรษณีย์ แสนสะดวก ส่งสิ่งของของเรากลับบ้านอย่างปลอดภัย ไม่ต้องทิ้งให้เสียดายของอีกแล้วจ้าาาา
บริการ ตู้ APM ไปรษณีย์ เป็นเครื่องไปรษณีย์อัตโนมัติ (Automated Postal Machine: APM) ที่ทำมาเพื่อนักท่องเที่ยวที่เจอปัญหามีสิ่งของนำขึ้นเครื่องไม่ได้โดยเฉพาะเลย สามารถส่งสิ่งของกลับไปที่บ้านหรือปลายทางได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยจะคิดค่าบริการแบบเหมาจ่าย ใครต้องการใช้บริการเจ้า ตู้ APM ไปรษณีย์ ก็สามารถไปได้ที่ หน้าพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (ตม.) ฝั่งตะวันออก (Zone 2) และบริเวณท้าย Row D M T B ฝั่งทิศตะวันออก ชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิ ตู้นี้เค้าเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ
สำหรับขั้นตอนการฝากส่งของที่ ตู้ APM ไปรษณีย์อัตโนมัติ ก็ง่ายมากๆ เริ่มจาก
1.ชั่งน้ำหนักสิ่งของที่จะส่ง ต้องไม่เกิน 500 กรัม
2.เลือกปลายทางที่จะฝากส่งและชำระเงิน
3.ตู้ไปรษณีย์ จะจำหน่ายซองกันกระแทกขนาด C4 ที่มีข้อความ “Post & Fly” ติดอยู่ที่มุมซอง พร้อมกับสติ๊กเกอร์สำหรับแปะบนซองแทนตราประทับประจำวันมาให้
4.จ่าหน้าซองและบรรจุสิ่งของในซองที่ได้จากเครื่องเท่านั้น แปะสติ๊กเกอร์รอยประทับไปรษณียากร จากนั้นก็วางซองที่แพ็คเรียบร้อยลงในช่องรับฝาก ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ
ค่าบริการจัดส่งสิ่งของที่ ตู้ APM จะคิดแบบเหมาจ่าย มี 2 แบบ คือ
1.ปลายทางในประเทศ จะจัดส่งด้วยบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) คิดค่าบริการแบบเหมาจ่ายในราคา 50 บาทต่อชิ้น
2.ปลายทางต่างประเทศ จะจัดส่งด้วยบริการไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศ ค่าบริการจะจัดแบ่งตามโซนหรือทวีปของปลายทาง ได้แก่ ทวีปเอเชีย ค่าบริการ 400 บาท ทวีปยุโรป แอฟริกา กลุ่มโอเชียเนีย และโซนอเมริกา ค่าบริการ 450 บาท
สำหรับผู้ที่จะใช้บริการตู้ไปรษณีย์อัตโนมัตินี้จะต้องกรอกหมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขหนังสือเดินทางเพื่อยืนยันตัวตนผู้ฝากด้วยค่ะ และสิ่งของที่ส่งต้องไม่เป็นสิ่งของต้องห้ามฝากส่งไปรษณีย์ อย่างเช่น วัตถุมีคมที่มีหรือไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน วัตถุระเบิด สิ่งมีชีวิต วัตถุอัดก๊าซและวัตถุไวไฟ ฯลฯ
เป็นบริการสะดวกสบายจริงๆ นักท่องเที่ยวทั้งหลายยิ้มออกแน่นอน แค่นี้ก็หมดปัญหาดราม่าต้องทิ้งของใช้อันเป็นที่รักของเราที่สนามบินแล้ว ใครรู้ตัวว่ามีของบางอย่างที่นำขึ้นเครื่องไม่ได้ก็รีบไปใช้บริการเจ้าตู้นี้ก่อนเดินทางเลยค่ะ แต่ทางที่ดี มัชรูมทราเวล ว่าเราควรเตรียมตัว เตรียมสิ่งของให้ถูกกฎข้อบังคับของทางสนามบินดีกว่าเนอะ จะได้ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลา เดี๋ยวดราม่าแล้วทริปของเราจะหมดสนุกเอา