Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

15 พิกัด เที่ยวออสเตรีย เสน่ห์เมืองสวยที่จะทำให้ตกหลุมรัก

หนีอากาศร้อนเมืองไทยไปสัมผัสอากาศเย็น ๆ ที่ยุโรปกับ ทัวร์ออสเตรีย กันดีกว่า เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ รวมถึงสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ถ้าใครได้มาเยือนก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยจนเกินคำบรรยาย ถ้าไม่เชื่อก็ตามพี่เห็ด มัชรูมทราเวล ไปเก็บ 15 พิกัด เที่ยวออสเตรีย สัมผัสเมืองแห่งขุนเขา หลงเสน่ห์เมืองสวยแสนโรแมนติก แล้วจะทำให้เพื่อน ๆ ตกหลุมรักประเทศนี้โดยไม่รู้ตัว!

1. พระราชวังเชิร์นบรุนน์ (Schoenbrunn Palace)

Credit : jakergb / canva.com

มาเริ่มกันที่ พระราชวังเชิร์นบรุนน์ แลนด์มาร์กสุดฮิต ที่ไม่ว่าใครมา เที่ยวออสเตรีย ก็ต้องมาเยือนที่นี่เป็นที่แรก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเวียนนา พระราชวังสีทองเหลืองอร่าม ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา สวยงามอลังการด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โรโคโค ในอดีตเคยเป็นที่ประทับช่วงฤดูร้อนของราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย มีทั้งหมด 1,441 ห้อง แต่สามารถเข้าชมได้ 45 ห้องเท่านั้น ภายในแต่ละห้องมีการจัดแสดงผลงานศิลปะต่าง ๆ ไว้มากมาย

Credit : schoenbrunn-group.com

นอกจากตัวพระราชวังแล้ว บริเวณสวนยังเป็นพื้นที่ที่คนพูดถึงมากที่สุด มีน้ำพุตั้งเด่นเป็นสง่า พร้อมประดับประดาด้วยรูปปั้นแกะสลัก ที่สำคัญ เข้าชมฟรี! แต่ถ้าอยากไปชมส่วนอื่นๆ เช่น Privy Garden, Orangery Garden, Palm House, Desert House หรือสวนเขาวงกต อาจจะต้องมีค่าเข้าชมเพิ่มเติม และด้วยความสวยงามอลังการทั้งหมดของพระราชวังแห่งนี้เอง UNESCO จึงได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1996 นับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างก็อยากมาชมความงดงามด้วยตัวเอง

2. พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)

Credit : schoenbrunn-group.com

อีกหนึ่งพระราชวังเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกก็คือ พระราชวังฮอฟบวร์ก ถ้าได้มา ทัวร์ออสเตรีย แล้วต้องไปเยือนให้ได้ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา เป็นพระราชวังที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 700 ปี ในอดีตเป็นที่ประทับช่วงฤดูหนาวของราชวงศ์ฮับสเบิร์กแห่งออสเตรีย ตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย ภายในประกอบไปด้วย 18 ส่วน และมีห้องกว่า 2,600 ห้อง ตกแต่งหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่บาโรกไปจนถึงโรโคโค หรือโกธิคไปจนถึงเรอเนสซองส์ เรียกได้ว่าทุกห้องอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของกรุงเวียนนา รวมถึงสถาปัตยกรรมอันงดงามตระการตา

Credit : schoenbrunn-group.com

สิ่งที่พลาดไม่ได้ในพระราชวังแห่งนี้มี 3 ส่วนหลัก ๆ ก็คือ Imperial Apartments, Sisi Museum และ Silver Collection ซึ่งแต่ละห้องจะมีผลงานศิลปะและวัตถุโบราณจัดแสดงให้ชม นอกจากตัวพระราชวังแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีสวน โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ หอสมุดแห่งชาติ และโรงเรียนสอนขี่ม้า ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ ผลงานทางสถาปัตยกรรมและศิลปะอีกด้วย ใครเป็นสายอาร์ต หรือสายประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดที่นี่อย่างแรง

3. มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral)

Credit : pixabay.com

มาต่อกันที่ มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น โบสถ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ด้วยความสูง 136 เมตร ทำให้ที่นี่กลายเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในเวียนนาเลยทีเดียว หากมองระยะไกลเราสามารถเห็นยอดปลายแหลมของโบสถ์ตั้งสูงตะหง่านสวยงาม ภายในตัวโบสถ์ตกแต่งผสมผสานระหว่างสไตล์โกธิคที่ดูแล้วให้ความรู้สึกน่าเกรงขาม กับสไตล์โรมาเนสก์ที่อ่อนช้อยงดงาม นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมจริง ๆ

4. ถนนคาร์นเนอร์ (Kärntner Strasse)

Credit : Kiev.Victor / shutterstock.com

พักเรื่องศิลปะและประวัติศาสตร์แล้วไปเดินเล่นกันที่ ถนนคาร์นเนอร์ ย่านการค้าใจกลางเมือง แหล่งรวมร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ หรือร้านขายของที่ระลึก เรียงรายเต็มทั้งสองข้างทาง ยิ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นเดือนแห่งการ Sale มีสินค้าลดราคาเพียบ! ลดมากสุดถึง 50% เกือบทุกร้านค้า บอกได้เลยว่าถูกใจขาช้อปอย่างแน่นอน

5. เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)

Credit : pixabay.com

หากเพื่อน ๆ มา เที่ยวออสเตรีย แล้วไม่ได้มาที่ เมืองฮัลล์สตัทท์ ก็เหมือนมาไม่ถึงประเทศนี้ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก เมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันแสนโรแมนติก ด้วยความที่เป็นเมืองขนาดเล็ก ทำให้ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เที่ยวครบทั่วเมืองแล้ว มุมไฮไลท์เด็ดของเมืองจะอยู่ที่ โบสถ์ Evangelische Pfarrkirche Hallstatt ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ กับอีกหนึ่งจุด คือ World Heritage Skywalk จุดถ่ายรูปลอยฟ้าที่จะได้เห็นตัวเมืองในมุมสูง เรียกได้ว่าเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว

6. เมืองเซนต์วูล์ฟกัง (St.Wolfgang)

Credit : pixabay.com

มาถึงเมืองเล็ก ๆ อีกหนึ่งเมืองกับ เมืองเซนต์วูล์ฟกัง หรือที่เรียกกันเต็ม ๆ ว่า St. Wolfgang im Salzkammergut อดีตศูนย์กลางการค้าของออสเตรีย ที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศริมทะเลสาบในช่วงฤดูร้อน และเป็นจุดพักในการขึ้นไปเล่นสกีบนภูเขาในช่วงฤดูหนาว อยู่ติดกับทะเลสาบวูล์ฟกัง (Wolfgangsee) สถานที่ยอดฮิตที่ผู้คนจะมาพักผ่อนกันที่นี่ สำหรับชื่อเมืองนั้นมาจากชื่อของนักบุญวูล์ฟกัง ซึ่งได้สร้างโบสถ์ขึ้นมา ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นโบสถ์ประจำของเมืองนั่นเอง

7. พระราชวังมิราเบล (Schloss Mirabell)

Credit : kovop / shutterstock.com

มาชมอีกหนึ่งความงดงามของ พระราชวังมิราเบล พระราชวังเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1606 ตั้งอยู่ในเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ภายในตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมยุโรป ปัจจุบันถูกใช้เป็นสถานที่ราชการ เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้ และยังนิยมใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน รวมถึงสถานที่แสดงคอนเสิร์ตอีกด้วย ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากความสวยงามของพระราชวังก็คือ สวนมิราเบลล์ (Mirabell Garden) สวนสาธารณะที่สวยที่สุดในเมือง และเคยเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music (1965) ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังไปในทันที ที่สำคัญ เข้าชมฟรี! สวนดอกไม้แห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันสดใส ออกแบบและตกแต่งด้วยรูปปั้นสไตล์บาโรก บางวันจะมีนักดนตรีมาบรรเลงเพลงสร้างบรรยากาศให้ฟินขึ้นไปอีก

8. บ้านโมสาร์ท (Mozart’s Birthplace)

Credit : Takashi Images / shutterstock.com

แวะมาที่เมืองซาลซ์บูร์กทั้งที จะพลาดไปที่นี่ได้ยังไงกับ บ้านโมสาร์ท หรือเรียกว่า พิพิธภัณฑ์โมสาร์ทเกเบิร์ตสเฮาส์ (Mozart Geburtshaus) คีตกวีชื่อดังระดับโลกที่มีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองนี้ ภายในบ้านมีการจัดแสดงภาพวาด เครื่องดนตรี ประวัติชีวิต และผลงานของโมสาร์ทไว้มากมาย โดยยังคงบรรยากาศภายในบ้านให้เหมือนในสมัยที่ครอบครัวโมสาร์ทเคยอาศัยอยู่ สำหรับใครที่หลงใหลและชื่นชอบในดนตรีคลาสสิกต้องมาเยือนให้ได้นะคะ

9. ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บวร์ก (Hohensalzburg)

Credit : pixabay.com

หากมองจากสวนมิราเบลล์ เพื่อน ๆ จะเห็นวิวของ ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บวร์ก ตั้งเด่นอยู่บนเนินเขา โดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลังอีกที ชวนให้บรรยากาศดูน่าเกรงขาม แต่ก็ยังคงสวยงามดีต่อใจ ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1077 เพื่อป้องกันข้าศึก และเป็นที่พักของอาร์ชบิชอปผู้ครองเมือง ทุกวันนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ได้มากที่สุด และถือว่าเป็นจุดชมวิวเมืองในมุมสูงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้แบบ 360 องศา

10. เมืองอินส์บรูค (Innsbruck)

Credit : mitulj9 / canva.com

ที่สุดของความน่ารักกับ เมืองอินส์บรูค เมืองที่มีตึกสีพาสเทลตั้งเรียงรายสีสันสดใสราวกับลูกกวาด เสน่ห์ของเมืองนี้อยู่ตรงที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้มองเห็นเทือกเขาแอลป์ได้อย่างเต็มตา แต่ความหนาวเหน็บจากหิมะที่ปกคลุมยอดเขาก็ไม่ได้ทำให้คนที่นี่เหงาหงอย เพราะกิจกรรมจัดเต็ม มีจุดเล่นสกีหิมะ และที่พลาดไม่ได้ต้องไปชม The Golden Roof ตึกเก่าที่มีหลังคาสีทองคำ ตกแต่งสไตล์บาโรกผสมผสานกับสไตล์โกธิค ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคกลับไปสมัยก่อน แล้วแวะไป Imperial Palace ซึมซัมความงดงามของพระราชวัง จากนั้นไป Ambras Castle เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านผลงานศิลปะอันเก่าแก่ หรือเดินเล่นชมตัวเมืองบรรยากาศก็ดีสุด ๆ ได้เดินช้อปปิ้ง ชมวิวเทือกเขาแอลป์ เท่านี้ก็แฮปปี้สุด ๆ ไปเลย

11. มหาวิหารแห่งเมืองลินซ์ (Postlingberg Church)

Credit : Bertl123 / shutterstock.com

ไปกันที่ มหาวิหารแห่งเมืองลินซ์ อีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตของเมืองลินซ์ (Linz) ตั้งเด่นอยู่บนเนินเขาเพสลิงเบิร์ก (Pestlingberg) สูงจากระดับน้ำทะเล 539 เมตร เป็นมหาวิหารที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1748 เพื่ออุทิศให้กับความเศร้าทั้งเจ็ดของพระแม่มารี (The Seven Sorrows of the Virgin Mary) จากมุมบนเนินเขาตรงนี้จะเห็นวิวได้ทั่วทั้งเมืองแบบพาโนรามา ทำให้ที่นี่ถูกจัดเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาจัดงานแต่งมากที่สุดในเมืองนี้เลยก็ว่าได้

12. เมืองกราซ (Graz)

Credit : RudyBalasko / canva.com

แวะ เที่ยวออสเตรีย กันไปหลายเมือง แต่อีกหนึ่งเมืองที่อยากให้ไปเที่ยวก็คือ เมืองกราซ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากกรุงเวียนนา มีภูเขาเล็ก ๆ และแม่น้ำเมอร์ (Mur) ไหลผ่าน นับเป็นเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนในแต่ละยุคสมัยไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น โกธิค เรอเนสซองส์ และบาโรก จนทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก อีกทั้งยังยกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ.2003 อีกด้วย จุดเช็คอินสำคัญที่พลาดไม่ได้คือ หอนาฬิกา (Clock Tower) ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เมื่อมองลงไปก็จะเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองได้สวยงามสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีพระราชวัง โบสถ์ ปราสาท พิพิธภัณฑ์ และผลงานศิลปะทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง เที่ยวกันแบบจุก ๆ ไปเลย

13. เมืองคลาเกนเฟิร์ต (Klagenfurt)

Credit : disqis / canva.com

ย้ายมาที่เมืองทางตอนใต้ของออสเตรีย เมืองคลาเกนเฟิร์ต ตั้งอยู่บนทะเลสาบเวอร์เทอร์เซ (Wörthersee) ซึ่งเป็นหนึ่งในทะเลสาบอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดและอบอุ่นที่สุดของยุโรป ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ทำให้ภูมิอากาศภายในตัวเมืองค่อนข้างเย็นสบายแม้จะอยู่ในฤดูร้อนก็ตาม ไฮไลท์เด็ดที่ต้องไปเยือนคือ ลานน้ำพุมังกรลินท์วูร์ม (Lindworm Fountain) ตรงย่านนิวสแควร์ (New Square) เป็นศูนย์รวมใจกลางเมืองสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ แต่ถ้าใครเป็นสายอาร์ตต้องไปเดินพิพิธภัณฑ์ เช่น Museum of Modern Art, The Provincial Museum, Wappensaal (Coat of Arms Hall) และ Landhaus Gallery หรือถ้าใครอยากเดินเล่นชิล ๆ ชมเมืองก็เพลินไปอีกแบบ ชมตึกรามบ้านช่องที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองส์ บอกได้เลยว่าเป็นเมืองที่อยู่แล้วสบายใจ เหมือนได้มาพักผ่อนจริง ๆ

14. หมู่บ้านอัลพ์บัช (Alpbach)

Credit : Radomir Rezny / canva.com

ไปต่อกันที่หมู่บ้านเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ธรรมชาติสวยสะดุดตาจนต้องบอกต่อกับ หมู่บ้านอัลพ์บัช ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในออสเตรีย และเป็นหมู่บ้านแห่งดอกไม้ที่สวยที่สุดในยุโรป ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของหมู่บ้านก็จะเห็นทิวทัศน์อันเวิ้งว้าง กับทุ่งหญ้าเขียวขจี พร้อมกับฉากหลังที่เป็นเทือกเขาแอลป์อย่างชัดเจน ความพิเศษของหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ที่ความเงียบสงบและบรรยากาศแบบชนบท ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอด บอกได้เลยว่า สายรักธรรมชาติต้องหลงรัก!

15. เมืองเซลล์ อัม ซี (Zell am See)

Credit : bluejayphoto / canva.com

เที่ยวออสเตรีย ปิดท้ายกันที่ เมืองเซลล์ อัม ซี เมืองที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายรักสนุก แต่ก็รักธรรมชาติด้วย เพราะเมืองนี้จัดเต็มในเรื่องกิจกรรมทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น เล่นน้ำ เจ็ตสกี วินด์เซิร์ฟ เวคบอร์ด หรือสกีน้ำ ในช่วงฤดูร้อนจะคึกคักเป็นพิเศษ นอกจากจะมีทะเลสาบเซล (Lake Zell) ที่สวยงามแล้ว ยังล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์ เรียกได้ว่าเป็นเมืองพักตากอากาศยอดฮอตฮิต ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกแวะมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ได้ภาพธรรมชาติที่ดูดีสุด ๆ

แค่เห็นรูปธรรมชาติสวย ๆ ความงดงามของศิลปะทางประวัติศาสตร์ก็อยากไป ทัวร์ออสเตรีย ซะแล้ว ซึ่งพี่เห็ดก็คัดที่เที่ยวสวย ๆ มาให้ชมแบบจุก ๆ กับ 15 พิกัด เที่ยวออสเตรีย เสน่ห์ธรรมชาติที่ฮีลใจสุด ๆ เก็บข้อมูลให้พร้อม แล้วทำวีซ่า จองตั๋วไปเที่ยวกันได้เลย อย่าลืมถ่ายรูปสวย ๆ มาอวดพี่เห็ดกันด้วยน้า


ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1. กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Likeและติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————
Mushroom Travel มีโปรแกรม ทัวร์ออสเตรีย ให้เลือกมากที่สุด
โทร. 02-105-6234 (30 คู่สาย)
Line id : @mushroomtravel

สินค้าที่เกี่ยวข้อง