Mushroom Travel LINE
เราช่วยคุณได้
@mushroomtour
จันทร์ - เสาร์
9:00-22:00
อาทิตย์
9:00-18:00
Call Mushroom Travel
Call Center
02 105 6234
จอง 6 คนขึ้นไป
จอง 6 คนขึ้นไป
02 105 6244
Loading...

[ Autumn in Tohoku ] – Aomori

โพสเมื่อ

Tohoku

ลุงฅิต

Guest ของ มัชรูมทราเวล วันนี้ จะพาเราไปเที่ยวที่ Tohoku ภูมิภาคที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 4 ทางเหนือของเกาะฮอนชู ที่สำคัญที่นี่ยังมีทัศนียภาพและภูมิประเทศที่สวยงามชวนหลงใหลน่าไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยจะไปกันที่จังหวัดอาโอโมริ จังหวัดที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากจากการเป็นแหล่งผลิตสินค้าทางการเกษตรอันดับ 1 ของญี่ปุ่น และยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ทั้งทางด้านอาหารการกิน การท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย

[ Autumn in Tohoku ] – Aomori

ทริปนี้เราได้ตั๋วโปรจาก Thai AirAsia X บินตรงดอนเมือง-นาริตะ มีเวลา 7 วันไม่รวมวันไป-กลับ เท่ากับมีวันเที่ยว 5 วันเต็ม แต่แถบโตเกียว คันไซ ผมไป 2 รอบแล้ว เลยมองหาที่ใหม่แล้วก็มาลงตัวที่ภูมิภาค Tohoku หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น โปรแกรมเลยได้มาตามนี้ครับ

  • วันแรก เดินทางจากดอนเมืองไปนาริตะ พักอูเอโนะ
  • วันที่ 2 นั่งชินกันเซนจาก Ueno ไป Aomori ฝากกระเป๋าที่โรงแรม รับรถ แล้วขับไปเที่ยว Mt Nakano-momiji เที่ยวสวนแอปเปิล แล้วกลับมา Hirosaki Castle กลับที่พัก
  • วันที่ 3 เช้าไปตลาดปลา Furukawa แล้วขับรถไปทะเลสาบโทวาดะ(Towada-ko) ขากลับแวะชมวิวบนเขา Hakkoda แล้วกลับ Aomori คืนรถ
  • วันที่ 4 ขึ้น Shinkansen ไปลงสถานี Ichinoseki ฝากกระเป๋าใน Locker แล้วต่อรถไฟสาย JR Ofunato Line ไปลง สถานี GEIBIKEI ล่องเรือโตรกผา Geibikei Gorge แล้วกลับไปสถานี Ichinoseki นั่ง Shin Kansen ต่อไป Furukawa แล้วต่อรถไฟสาย JR Rikuu-East Line ไปลงสถานี NARUKO-ONSEN พักที่ออนเซน
  • วันที่ 5 ขึ้นรถบัสไป Naruko Gorge แล้วกลับมาขึ้นรถไฟกลับ Furukawa เพื่อต่อ Shin Kansen กลับ Ueno พัก Ueno
  • วันที่ 6 จาก Ueno นั่ง Ltd. Exp Hitachi ไปลงสถานี Katsuta แล้วต่อรถบัสไป Hitachi Seaside Park ดูทุ่งดอกโคเชีย (Kochia) แล้วกลับโตเกียว Shopping ช่วงบ่าย
  • วันที่ 7 กลับเมืองไทย

จัดโปรแกรมเสร็จก็มาดูที่พาสกันมี 2 ทางเลือก

  • ทางเลือกแรก JR Pass แบบปกติ ใช้งานได้ 7 วัน (นับติดต่อกัน ) ขึ้นได้ทุกอย่างที่เป็นของ JR ยกเว้น ชินคันเซนบางเส้น ราคา 28,300 เยน
  • JR East Pass ใช้งานได้ 5 วัน(ไม่จําเป็นต้องติดต่อกัน) ขึ้นรถไฟ JR ได้ทุกเส้น, รถไฟ ท้องถิ่นได้บางเส้น แต่ไม่รวม JR Bus ใน ภูมิภาค ราคา 22,000 เยน

เนื่องจากตารางเที่ยว 7 วันพอดี และผมต้องการใช้ Narita Express ทั้งวันไปและวันกลับเลยตัดสินใจเลือกแบบแรกครับ

วันแรก กรุงเทพ – โตเกียว

og1tcpripgaewcfaf55-o

เที่ยวบินเราออกจากดอนเมืองเกือบ 11 โมง ถึงสนามบิน Narita Terminal 2 ประมาณทุ่มผ่าน ตม. น่าจะประมาณชั่วโมงนึง ผมลุ้นอยู่ว่าจะไปทันสำนักงาน JR ปิดรึเปล่า เพราะต้องเอา Voucher ที่ซื้อจากเมืองไทยไปแลก JR Pass

og1tdqegpkcogcgi7nd-o

เที่ยวบินที่ผมนั่งไปค่อนข้างจะเต็มครับ ถึงนาริตะพร้อมกับเที่ยวบินของคาเธ่ย์แปซิฟิก คนก็เลยเต็มที่ช่อง ตม. แต่สักพักเจ้าหน้าที่มาตัดแถวช่วงก่อนหน้าผม 5-6 คนแล้วให้เดินตามไปอีกห้องซึ่งเป็นเคาน์เตอร์ ตม. เหมือนกัน เลยใช้เวลาเร็วมาก ลงมากระเป๋ายังไม่มาเลยต้องรอสักพัก พอได้กระเป๋าผ่านด่านศุลกากรก็ไม่นานครับ

og1tkeeyb7bv7red15p-o

พอผ่านศุลกากรออกมาด้านนอกลงบันไดเลื่อนไปอีกชั้นครับจะเห็นออฟฟิศ JR EAST Travel Service Center มีแถวอยู่ยาวพอสมควร เรารีบไปต่อแถว เจ้าหน้าที่ขอดู Voucher แล้วเอาเล่ม JR Pass มาให้เรากรอกรายละเอียดตามพาสปอร์ต แต่ยังไม่ทันถึงคิวสำนักงานก็ปิดครับ เค้าก็ตัดแถวเลยใครยังไม่พ้นประตูเข้าไปอด

แต่ไม่ต้องตกใจครับกลับหลังหันจะเห็นห้องขายตั๋ว JR ป้ายสีเขียวเราก็เอาเอกสารไปยื่นที่ช่องนั้นครับ เจ้าหน้าที่จะ Validated JR Pass ให้ เค้าจะถามเราว่าเริ่มใช้วันไหนเราก็บอกไปว่าวันนี้ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ทำสำรองที่นัก Narita Express (NEX) รอบ 20.47 ไปลงสถานีโตเกียว ใช้เวลา 56 นาที

og1tlphbgwfyemw7ggr-o

ถึงสถานี Tokyo ไปต่อรถไฟสาย Yamanote Line ครับ ลงจาก NEX ก็เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ Yamanote Line เป็นรถไฟสายสีเขียวอ่อน วิ่งแบบ Loop Line คือวนซ้ายกับวนขวา พอถึงทางขึ้นก็อ่านป้ายสักนิดครับว่าต้องขึ้นชานชาลาไหน เพราะเราจะไปสถานี Ueno ซึ่งห่างกันแค่ 5 สถานี ถ้าขึ้นผิดฝั่งก็ City Tour ล่ะครับ วนรอบโตเกียว 1 รอบ

ใช้เวลา 8 นาทีเราก็มาถึงสถานี Ueno เดินไปตามป้ายสีเหลืองที่เขียนว่า iriya exit ออกทางออกนี้ครับ พอออกมาด้านนอกจะมีบันไดเลื่อนลงไปด้านล่างเป็น Sky walk ด้านขวาจะเห็นตึก OIOI ก็ไม่ต้องสนใจเดินตรงลอดใต้ทางด่วนแล้วตรงตลอด จะมีทางลาดและบันไดเลื่อนลง แต่ตอนนี้ดึกแล้วมันไม่เลื่อน ก็ลงบันไดปกติด้านซ้ายครับ ลงไปจะเห็นร้าน Lawson ด้านขวาเดินตรงผ่านหน้าร้านไป จะเจอสี่แยกเลี้ยวขวาไปเจอสี่แยกอีกที เลี้ยวซ้าย เห็นร้าน Lawson โรงแรมอยู่ติดร้านครับเข้าไปเลย

ที่พักคืนนี้เป็นแบบฟูกห้องใหญ่ดีครับ มีห้องอาบน้ำและห้องสุขาแยกเป็นสัดส่วนทำภารกิจพร้อมกันได้ไม่ต้องรอคิวครับ ที่นี่คือโรงแรม Ueno New Izu Hotel

วันที่ 2 สู่อาโอโมริ AOMORI

og1toqlglo1w8hec4h-o

เช้าวันที่ 2 เราเช็คเอาท์ออกกันแต่เช้าเพื่อให้ทันขบวนรถชินกันเซน SHINKANSEN HAYABUSA 1 ซึ่งออกเวลา 6.38 น. ไปลงสถานี Shin-Aomori และเนื่องจากเมื่อคืนเรามาถึงดึกเลยยังไม่ได้สำรองที่นั่งรถไฟขบวนนี้ไว้ เรากลับไปที่สถานี Ueno เข้าทางเดิมที่ออกมาเมื่อวานก็คือ iriya exit เข้าไปแล้วก็ดูป้าย Sinkansen สีน้ำเงินเป็นรูปหัวรถไฟ Shinkansen เดินตามป้ายไปจะเจอ JR Office เข้าไปยื่น JR Passให้เจ้าหน้าที่ทำการสำรองที่นั่งโดยบอกปลายทางและรอบรถที่เราต้องการได้เลยครับ

og1tqzf58gkfbjbbq35-o

จุดเด่นของรถไฟ Shinkansen สาย Tohoku คือจากโตเกียวมันจะมีรถ 2 ขบวนติดกัน ขบวนสีแดงคือ Komachi ส่วนสีเขียวคือ Hayabusa ทั้ง 2 ขบวนนี้จะวิ่งพ่วงกันไปจนถึง Morioka แล้วจะตัดขบวนโดยขบวน Komachi จะวิ่งต่อไปที่ปลายทางจังหวัด Akita ส่วน Hayabusa จะวิ่งต่อไป Aomori

og1tsehnvaudq94flkd-o

ก็ไม่ต้องกังวนครับว่าจะขึ้นผิดขบวนมั๊ย เพราะตอนทำสำรองที่นั่งเค้าจะระบุขบวนรถและหมายเลขที่นั่งบนบัตรโดยสารตอนไปรอรถก็ดูที่พื้นเลยครับ จะมีสติ๊กเกอร์ติดไว้เป็นเลขขบวนรถก็ไปยืนรอให้ตรงเลขครับ ขึ้นไปแล้วก็นั่งชมวิวกันยาวๆซื้ออาหารกล่องที่สถานีมากินบนรถด้วยครับเพราะนั่งไกลมาก

og1tw3f51azsnwib6wm-o

ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่งโมงเราก็มาถึงสถานี Shin-Aomori เราต้องต่อรถไฟสาย JR Ou Line for AOMORI เพื่อไปลงสถานี Aomori แค่ 1 สถานีครับ มาถึงสถานี Aomori แล้วเราจะเจอ JR Office เข้าไปจองตั๋ว Shikansen ที่เราต้องนั่งตลอดทริปกันเลยครับ

วิธีก็คือทำการบ้านมาก่อนโดยเช้าเว็บ Hyperdia.com แล้วทำรูทที่เราจะไปในแต่ละวัน ต้องนั่ง Shinkansen จากไหนไปไหนบ้าง เวลากี่โมง เจ้าหน้าที่จะทำการสำรองที่นั่งแล้วออกตั๋วให้ คราวนี้เราก็เดินทางอย่างสบายใจได้ครับ ออกจากสถานีมาเลี้ยวซ้ายจะเห็นตึกสีแดงๆ เดินไปข้ามทางม้าลายแล้วเดินตรงไปประมาณ 100 เมตรถึงโรงแรมที่เราจองครับ

og1txhhltownsbq8u5n-o

เราพักกันที่ Hotel New Murakoshi 2 คืน ห้องพักแคบมากสำหรับ 2 คน พอวางกระเป๋าก็แทบไม่มีทางเดินและค่อนข้างสะอาดน้อยไปหน่อย อาจเป็นเพราะห้องแคบมากจนทำความสะอาดยากและมีกลิ่นบุหรี่จนต้องเปิดหน้าต่างนอน ข้อดีคือใกล้สถานี มีที่จอดรถและราคาประหยัด

og1u1ihm5dqy1kuqd7t-o

อาคารสีแดงที่อยู่เยื้องๆ โรงแรมคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านเนบูตะ Nebuta House Warasse มีอาคารภายนอกปกคลุมด้วยแผ่นโลหะสีแดงมีความโดดเด่น ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของสถานีรถไฟอาโอโมริ ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลเนบูตะมัตสุริ (Nebuta Matsuri) ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

og1u3iuzjl4nngkmhpp-o

เลยไปด้านหลังอาคารคืออ่าวอาโอโมริและสะพานข้ามอ่าว สะพานนี้ทำเชื่อมถนน 2 ฝั่งของอ่าวมีท่าเรืออาโอโมริและสถานีรถไฟอยู่ด้านล่าง เรือลำสีเหลืองนั่นคือเรืออนุสรณ์ฮักโกดามารุ (Hakkodamaru Memorial Ship) เดิมเคยเป็นเรือข้ามฟากระหว่างเกาะฮอนชูและเกาะฮอกไกโด โดยออกจากท่าเรืออาโอโมริ จนกระทั่งในปี 1988 ทางการได้เปิดใช้อุโมงค์เซคัง (Seikan) เรือฮักโกดามารุจึงกลายเป็นเรืออนุสรณ์ให้ระลึกถึงอดีต โดยจอดอยู่อย่างถาวรใช้เป็นพิพิธภัณฑ์เรือ

og1u5ihnycgnxkmszo4-o

สำรวจรอบๆ ที่พักกันแล้วก็ไปรับรถกันครับ จากที่พักเดินไปประมาณ 900 เมตรก็ถึง Times Car Rental อยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจครับ ยื่นเอกสารการจอง พาสปอร์ต และใบขับขี่สากลให้เจ้าหน้าที่เลยครับ

og1u5hnaw3srztqrls-o

เราจองรถผ่าน Rentalcars.com เข้าไปจองเค้าจะให้ระบุสถานที่ที่เราต้องการใช้รถ รุ่นหรือขนาดที่ต้องการ ผมเลือกรถ 8 ที่นั่งเพราะไปกัน 7 คนได้ Nissan Van มากว้างนั่งสบายครับ ญี่ปุ่นขับรถง่ายเพราะฝั่งเดียวกับบ้านเรา รับรถเสร็จก็ตั้ง GPS ไปยังจุดหมายแรกกันเลย

og1u7pddoed3wlnzzjp-o

จุดหมายแรก Mt. Nakano-momiji จาก Aomori เราขึ้นทางด่วนไปยัง Momiji Yama GPS มันพาเราขึ้นทางด่วนก็เลยขึ้นครับ ขึ้นทางด่วนก็จะมีช่องรับบัตรอัตโนมัติไม่มีเจ้าหน้าที่ พอถึงทางลงก็มีตู้สอดบัตรคืนแล้วจะมีค่าทางด่วนโชว์ขึ้นมา 960 เยน มีช่องให้ใส่เงิน ใส่ได้ทั้งแบงก์และเหรียญ เสร็จแล้วก็มีเงินทอนออกมา ไม้กั้นก็จะเปิดอัตโนมัติครับไม่มีพนักงานเหมือนเดิม ลงทางด่วนก็ขับต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึงครับ (พิกัด 40.611102, 140.680459) ประมาณ 43 กม. ใช้เวลา 45 นาที

og1u8jhp7dwe3ju08qj-o

พิกัดด้านบนนั้นคือลานจอดรถพอดีครับ เดินจากลานจอดรถลงมาไม่เกิน 50 เมตรจะถึงจุดชมวิวด้านบน เดินต่อไปอีกไม่ไกลจะเห็นทางเข้าด้านซ้ายมือ เดินลงเนินไป สองข้างทางจะเป็นร้านขายขนม จนถึงด้านล่างมีสะพานแดงข้ามไปที่เกาะอีกฝั่ง บนเกาะมีการแสดงพื้นบ้านให้ชมแต่ผมไม่รู้ว่ามีเฉพาะช่วงนี้รึเปล่าครับ

og1uanuz731nfcohdyf-o

จากบนสะพานแดงเห็นน้ำตกที่อยู่ด้านล่างเป็นน้ำตกเล็กๆ เสียดายที่ใบไม้เพิ่งเริ่มแดง หากแดงทั้งต้นคงสวยกว่านี้ ที่นี่มีคนมาเที่ยวเยอะครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนญี่ปุ่นวัยหลังเกษียณ ภูเขานากาโนะ-โมมิจิเป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของเมืองคุโรอิชิ ทุกๆ ปีภูเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แดง และตอนกลางคืนยังมีการจะแสดงแสงไฟที่ช่วยเพิ่มความสวยงามได้อย่างมากอีกด้วย

og1ubuf6k3e2h8axctm-o

บนเกาะพอมีต้นเมปิ้ลที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอยู่บ้างครับ จริงๆ ก็ไม่เชิงว่าเป็นเกาะเท่าไหร่นัก แต่ลำธารช่วงนี้มันโค้งเกือบ 360 องศาทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเกาะ บนเกาะจะมีศาลเจ้านากาโนะตั้งอยู่ ซึ่งบริเวณศาลเจ้าแห่งนี้มีต้นเมเปิ้ลอายุ 200 ปี และต้นสนซีดาร์อายุกว่า 600 ปีอยู่ด้วย

og1ubt4m944meso3lbc-o

น้ำตกที่เห็นตรงสะพานแดงนั่นเดินลงไปด้านล่างได้ครับ แต่เราต้องเดินข้ามสะพานกลับไปก่อน เพราะทางลงอยู่อีกฝั่งของเกาะ เดินลงไปนิดเดียวครับช่วงทางลงก็มีต้นเมเปิ้ลเริ่มเปลี่ยนสีอยู่แต่ยังเป็นสีส้มไม่ถึงกับแดงครับ

og1udjm9xxuz1b7di2h-o

Fudo waterfall น้ำตกเล็กๆ แต่ก็สวยเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ต้นน้ำมาจากไหนครับไม่ได้เดินขึ้นไปดู แต่ลำธารนี้ไหลไปรวมกับลำธารสายใหญ่ที่มาจากทะเลสาบ Nijino Lake แล้วไหลรวมกับลำธารอีกหลายๆ สายกลายเป็นแม่น้ำอิวากิ (Iwaki River)

og1uexeksh1vjtgluqg-o

Aomori เป็นเมืองแห่งแอปเปิล ทั้งเมืองใช้สัญลักษณ์เป็นรูปแอปเปิลทั้งเสาไฟ ราวสะพาน โลโก้ต้างๆ แม้แต่ต้นไม้ริมถนนที่ปลูกในเมืองยังเป็นต้นแอปเปิลแถมมีลูกด้วยครับ แต่จะเป็นแอปเปิลแคระที่ปลูกประดับสวนตามบ้าน ร้านขายผลไม้มีมากกว่าร้านสะดวกซื้อ มีผลิตภัณฑ์แอปเปิลทั้งสดทั้งแปรรูปมากมาย สวนแอปเปิลมีตลอดสองข้างทางจากอาโอโมริมาที่ Mount Nakano-Momiji แวะชมแวะชิมกันได้ครับ

og1ufvjux0cmbfxpkig-o

แอปเปิลที่นี่หวาน หอม กรอบ อร่อยมากครับ ยิ่งสีเหลืองกลับลูกแดงไซส์ยักษ์ไม่รู้พันธุ์อะไรนี่อร่อยสุด หากไม่ได้ขับรถมาเองสามารถเดินทางมาที่ Mount Nakano-Momiji โดยขึ้นรถไฟ JR จากสถานี Aomori ไปลงที่สถานี Hirosaki แล้วให้เดินไปขึ้นสาย Konan Line นั่งไปลงที่สถานี Kuroishi จากนั้นนั่งรถประจำทาง Konan Bus สาย Okawara-Nurugawa Line ลงที่ป้าย Nakano Jinja Mae ถ้าอยากเที่ยวสวนแอปเปิลด้วยก็หลังป้ายรถ Bus ที่ลงก็มีสวนอยู่ครับ

og1uhqjugavgirqcd1h-o

เราเดินทางกลับสู่ Aomori แต่ขากลับเราไม่ได้ขึ้นทางด่วนกลับทางเดิมเพราะไปแวะที่ Hirosaki Park กันก่อน ระยะทางจาก Mount Nakano-Momiji ประมาณ 23.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที (พิกัด 40.611441, 140.464088) พิกัดนี้คือที่จอดรถเอกชนใกล้ประตู Ichiyo-Bashi Entrance จอดรถแล้วเดินออกมาจะเห็นสะพาน Ichiyo-Bashi Bridge เป็นทางเข้าสวน Hirosaki ด้านตะวันตกเฉียงเหนือครับ

og1uik7syczaf0f1z0d-o

เข้ามาด้านในมีศาลเจ้า Gokoku Shrine อยู่ใกล้ๆ ประตูทางเข้า เป็นศาลเจ้าชินโตเหมือนๆ กับศาลเจ้าอื่นๆ ด้านหน้ามีบ่อน้ำให้ล้างมือล้างหน้า แต่ที่นี่จะมีภาพขั้นตอนการล้างให้ดูว่าล้างส่วนไหนก่อน-หลังครับ

og1z5rlib35z3aemo6k-o

เดินเลยเข้าไปด้านในจะถึงถนนสายหลักที่มาจากประตูทางเข้าด้านเหนือ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน Yoshita-Bashi Bridge แล้วเดินขึ้นเนินไปจะพบกับ Ushitora turret น่าจะเป็นป้อมปราการของปราสาท Hirosaki ครับภายในสวนมีแบบนี้อีก 2 ป้อมทางด้านใต้คือ Histujisaru turret และ Tatsumi Turret

og1z8eahdtdet86tzv9-o

สวนสาธารณะฮิโรซากิเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น รอบๆ บริเวณปราสาทเต็มไปด้วยต้นซากุระที่มีมากกว่า 2,500 ต้นหลากหลายสายพันธุ์ เสมือนอุโมงค์ดอกซากุระ พร้อมพื้นที่สำหรับนั่งปิกนิก มีบริการเช่าเรือพาย และเมื่อตกเย็นก็จะเปิดไฟประดับประดาสวยงาม โดยเทศกาลดังกล่าวจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน – 5 พฤษภาคม เป็นประจำทุกปี นอกจากเทศกาลชมซากุระแล้ว ในฤดูหนาวของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลตะเกียงหิมะ ซึ่งสวยงาม แปลกตาและน่าสนใจไม่แพ้กันเลยด้วย

og1z9v4tifw4x8rtihq-o

ต้นไม้ในสวนตอนนี้มีเปลี่ยนสีแค่บางต้นครับ ส่วนใหญ่ยังเขียวอยู่ มีเหลืองบ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นต้นซากุระที่กำลังผลัดใบ ช่วงที่ผมไปเค้ากำลังเตรียมงานเทศกาลใบไม้ร่วงที่จะเริ่มงานวันที่ 23 พ.ย. มาเร็วเกินไปครับ สวนนี้เป็นจุดชมซากุระที่เป็นไฮไลต์ของภูมิภาคนี้ครับ เพราะช่วงปลายเดือนมีนาคมดอกซากุระจะบานสะพรั่งทั้งสวน

og1zcc11r0ktglubks7-o

แล้วเราก็เดินมาถึงสะพาน Gejo-Bashi Bridge และปราสาท Hirosaki เห็นทีแรกก็งงๆ ครับ เอ๊ะใช่ตรงนี้มั้ยทำไมไม่เหมือนในรูป ในรูปปราสาทจะอยู่ริมกำแพงเลย ถ้าถ่ายรูปมุมนี้จะเห็นปราสาททั้งหลัง หันไปหันมาก็เลยรู้สาเหตุครับ เค้าย้ายปราสาททั้งหลังเข้าไปไว้ด้านในเพื่อทำการบูรณะฐานรากเสร็จแล้วก็จะยกกลับมา

og1zdt31mjsndcick4w-o

ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ถูกสร้างขึ้นในปี 1611 โดยตระกูลซูการุ โครงสร้างปราสาทมีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบด้วย คูปราสาท ป้อม ประตูปราสาท และป้อมตามมุมปราสาท ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะฮิโรซากิที่มีพื้นที่ประมาณ 0.6 ตารางกิโลเมตร โครงสร้างปราสาทเดิมที่มีทั้งหมด 5 ชั้น ถูกไฟไหม้จากเหตุการณ์ฟ้าผ่าในปี 1627 และได้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1810 ให้กลายเป็นแบบ 3 ชั้นในปัจจุบัน

og1zgu138k2j5osxrmr-o

ปราสาทฮิโรซากิสามารถเข้าไปชมด้านในได้ค่าเข้าชม 310 เยนแต่เค้าปิด 5 โมงเย็น เราเดินมาถึงทางเข้าปราสาทนี่ก็ 4 โมงกว่าแล้ว เลยตัดสินใจว่าไม่เข้าดีกว่าครับ กลัวดูยังไม่ทันหมดเค้าปิดก่อน ก็เลยเดินกลับไปเอารถแล้วกลับอาโอโมริดีกว่าเพราะมืดเร็วไม่อยากขับรถกลับตอนมืด แต่กว่าจะถึงอาโอโมริก็มืดกลางทางครับ เพราะมีรถติดบ้างเป็นระยะและแยกไฟแดงเยอะมาก

วิธีเดินทางหากมารถสาธารณะ จากสถานี JR Hirosaki Station โดยสารรถบัส Dotemachi Loop Bus ที่วิ่งไปทางทิศตะวันตกประมาณ 15 นาที ลงที่สถานี Shiyakusho-mae bus stop

ตอนหน้าเราจะไปตลาดปลา Furukawa แล้วขับรถไปทะเลสาบโทวาดะ(Towada-ko) ขากลับแวะชมวิวบนเขา Hakkoda กัน

ประสบการณ์มาเต็มแบบนี้ รับเสียงปรบมือจากเราไปเล้ย แปะๆๆ !!
ระดับความสนุก: ✩✩✩✩✩
พูดคุยกับเกสต์ได้ที่: https://web.facebook.com/kittiwut.ch


บทความแนะนำ ที่เกี่ยวข้อง

tohoku-9_09_01_16

tohoku-10_28_02_16

ชอบ บทความ มัชรูมทราเวล ทำไงดี…?
1.กดแชร์ต่อ ให้เพื่อนอ่านบ้าง
2. คลิก Like และ ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

—————