ภูฏาน ประเทศที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย มีอาณาเขตติดกับทิเบตและอินเดีย แม้จะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ก็มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยขุนเขา และป่าไม้สีเขียวชอุ่มที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 70% ของพื้นที่ทั้งหมด อีกทั้ง ภูฏาน ที่เที่ยว สวยๆ ก็มีให้ไปเช็กอินเพียบ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายพื้นเมืองในชีวิตประจำวัน รูปแบบสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น หรือวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ตอบโจทย์สายสโลว์ไลฟ์ หรือคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย มาใช้เวลาพักผ่อนแบบชิลๆ
สภาพอากาศโดยรวมของประเทศภูฏาน แบ่งเป็น 4 ฤดู ดังนี้
1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 4 – 20 องศาเซลเซียส
2. ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) อุณหภูมิเฉลี่ย 13 – 22 องศาเซลเซียส มักจะมีพายุฝน
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) อุณหภูมิเฉลี่ย 2 – 21 องศาเซลเซียส
4. ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -2 ถึง 13 องศาเซลเซียส มีหิมะตกในเดือนมกราคม
สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป เที่ยวภูฏาน และอยากไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ได้สัมผัสความสโลว์ไลฟ์เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล รวม 10 พิกัดไฮไลต์ ภูฏาน ที่เที่ยว สวยๆ มาแนะนำ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย
1. วัดทักซัง (Taktsang Monastery)

บินมาถึงภูฏานทั้งที พิกัดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ วัดทักซัง หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดถ้ำเสือ วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนผาความสูงกว่า 3,120 เมตร ตัววัดมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เป็นวัดที่มีความสำคัญทางพุทธศาสนา เนื่องจากสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่พระคุรุรินโปเช ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าที่โด่งดังที่สุดองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวมากมายนิยมเดินทางมาเพื่อแสวงบุญ สักการะ ขอพร ซึ่งการเดินทางจะต้องใช้วิธีเดินเท้าขึ้นไป ใช้เวลาประมาณ 2- 3 ชั่วโมง หรือถ้าใครเดินไม่ไหว จะทุ่นแรงด้วยการขี่ม้าก็สบายขึ้นมาหน่อย แม้เส้นทางจะค่อนข้างท้าท้าย แต่ระหว่างทางจะเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของหุบเขาปาโร แถมวิวด้านบนยังสวยจนหายเหนื่อยเลยล่ะค่ะ
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 13.00 น. และ 14.00 – 18.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/JnSpRB2iumtY1U54A
2. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน (National Museum of Bhutan)

ถ้ามา ภูฏาน ที่เที่ยว อีกแห่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องมาเช็กอินก็คือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติในเมืองพาโร เดิมถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ ก่อนจะปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1968 ตามพระบัญชาของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จี วังชุก และใช้เป็นที่เก็บรวบรวมคอลเลกชันวัตถุโบราณจากยุคต่างๆ เช่น ของใช้ส่วนพระองค์ของกษัตริย์ เครื่องปั้นดินเผา ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากไม้ไผ่ อาวุธสงคราม เครื่องแต่งกาย หน้ากากที่ใช้ในเทศกาลระบำหน้ากาก ผลงานศิลปะ งานแกะสลัก รวมถึงรูปปั้นและศาสนวัตถุต่างๆ มาที่นี่เราจะได้เห็นวิวัฒนาการ และบรรยากาศของแต่ละยุคสมัย และเข้าใจในความเป็นภูฏานมากขึ้น
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 500 Nu
เว็บไซต์ : https://www.nationalmuseum.gov.bt/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NAKkK2ZDxh4sStKB9
3. พาโรซอง (Paro Dzong)

พาโรซอง หรือ พาโรริงปูซอง (Rinpung Dzong) คืออีกหนึ่งไฮไลต์ของ ภูฏาน ที่เที่ยว แห่งนี้เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1644 โดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ผู้รวบรวมประเทศภูฏานให้เป็นปึกแผ่น อดีตเคยใช้ปกป้องหุบเขาพาโรจากการรุกรานของทิเบตอยู่หลายครั้ง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบภูฏานที่วิจิตรงดงาม มีกำแพงสูงใหญ่โอบล้อมอาคารภายในที่ประกอบด้วย สำนักงานรัฐบาลเขต ศาลท้องถิ่น วัด ที่พักพระสงฆ์ ลานจัดกิจกรรม นอกจากนี้ยังมี สะพานยามิซัม (Nyami Nyamami) สะพานไม้แบบมีหลังคาที่ทอดยาวอยู่เหนือแม่น้ำพาโรชู ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมุมสุดฮิตที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/eSYEzx7Zadn2byLm9
4. ทิมพูซอง (Thimphu Dzong)

มา เที่ยวภูฏาน กันต่อที่ ทิมพูซอง หรือ ตาชิโชซอง (Tashicho Dzong) เป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองทิมพู ตั้งตระหง่านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวังชู ทางตอนเหนือของเมือง ถูกสร้างขึ้นบนป้อมปราการเดิมที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้และแผ่นดินไหว และใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1962 นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานพระมหากษัตริย์ สำนักเลขาธิการ กระทรวงมหาดไทยและการคลัง รวมถึงวิหารพระพุทธรูปทองคำที่ประดิษฐานพระศากยมุนีสูง 6 ฟุต หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีดอกพีชสีชมพูขาวบานสะพรั่ง แต่งแต้มสีสันให้ที่นี่ดูสดใส ถ่ายรูปออกมาสวยจึ้ง !
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 17.00 – 18.00 น. / เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 500 Nu
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/GXShQdn5Eyeg1NvPA
5. อนุสรณ์สถานแห่งชาติชอร์เตน (National Memorial Chorten)

อนุสรณ์สถานแห่งชาติชอร์เตน เป็นเจดีย์สีขาวสไตล์ทิเบตประดับด้วยยอดสีทองอร่าม เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของชาวภูฏาน ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1974 เพื่อเป็นเกียรติแก่ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จี วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งภูฏาน ผู้ทรงได้รับสมญานามว่า บิดาแห่งภูฏานยุคใหม่ เพราะเป็นผู้นำในการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ให้ภูฏานทันสมัยทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ภายในมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ประดับอยู่ในโถงชั้นล่าง รวมถึงรูปปั้นและคำสอนต่างๆ ในช่วงเช้าชาวภูฏานจะนิยมมาเดินวนรอบสถูป และสักการะขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนไปทำงานหรือไปเรียน
เวลาเปิด – ปิด : 08.00 – 18.00 น.
ค่าเข้าชม : 500 Nu
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/fEowDmYxVVETu1ho8
6. หอสมุดแห่งชาติภูฏาน (The National Library of Bhutan)

หอสมุดแห่งชาติภูฏาน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1967 เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมหนังสือ วรรณกรรม ตำรา คัมภีร์ศาสนา เอกสารและสิ่งพิมพ์โบราณ ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและสมบัติอันล้ำค่าของประเทศ เช่น พระไตรปิฎกทิเบตหลายฉบับ คัมภีร์รูปแบบเปชาที่ห่อด้วยผ้าตามวิธีดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงบล็อกไม้แกะสลักที่ใช้ในการพิมพ์ และ Bhutan: A Visual Odyssey Across the Last Himalayan Kingdom หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีขนาดสูง 2 เมตร รวมถึงหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีของภูฏานที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษอีกกว่า 12,000 รายการ
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 100 Nu
เว็บไซต์ : https://www.library.gov.bt/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/NEsSTYEGU91wkDEA8
7. ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน (National Post Office)

มาต่อกันเลยที่ ที่ทำการไปรษณีย์ ภูฏาน ที่เที่ยว สุดเก๋ในเมืองทิมพู ที่สามารถนำรูปถ่ายของตัวเองมาพิมพ์เป็นแสตมป์ที่มีเพียงชุดเดียวในโลกได้ นอกจากนี้ยังมีโซนพิพิธภัณฑ์ที่จะพาทุกคนไปชมประวัติศาสตร์ของไปรษณีย์ภูฏานตั้งแต่ยุคแรกสุดที่ใช้นักวิ่งส่งสาส์นจนถึงปัจจุบัน มีการนำอุปกรณ์ไปรษณีย์และโทรเลขที่ใช้ในสมัยโบราณมาจัดแสดง รวมถึงคอลเลกชันแสตมป์หลากหลายรูปแบบ ทั้งแสตมป์หายาก แสตมป์ที่อุทิศให้กับราชวงศ์วังชุก และแสตมป์พูดได้ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก
เวลาเปิด – ปิด : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 16.00 น. / วันเสาร์ 09.00 – 13.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
ค่าเข้าชม : 250 Nu
เว็บไซต์ : https://bhutanpost.bt/
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/3VFetySFM5ePVbk3A
8. สักการะหลวงพ่อสัจจธรรม (Buddha Dordenma Statue)

พระพุทธเจ้าดอร์เดนมะ หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า “หลวงพ่อสัจจธรรม” ถือเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาเควนเซลโพดรัง ในเมืองทิมพู สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 พรรษาของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี ซิงเย วังชุก โดยทำจากสัมฤทธิ์ปิดทอง มีความสูงประมาณ 52 เมตร ใต้ฐานพระพุทธรูปมีอาคารซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปขนาด 8 นิ้ว จำนวน 100,000 องค์ และขนาด 12 นิ้ว อีก 25,000 องค์ นอกจากมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล จากมุมนี้ยังสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมืองทิมพูได้ด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 Nu / เด็ก (อายุต่ำกว่า 12 ปี) 150 Nu
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/6hFSqHo8oZ7d8Bts6
9. ถนนพาโร (Paro Street)

ถนนพาโร ภูฏาน ที่เที่ยว ที่สายช้อปห้ามพลาด ! เป็นถนนสายหลักของเมือง รายล้อมด้วยบ้านเรือนสองชั้นที่ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้อย่างดี มีร้านค้ามากมายที่จำหน่ายของฝาก ของที่ระลึก เช่น เสื้อผ้าพื้นเมือง แสตมป์ภูฏาน งานหัตถกรรม รองเท้าบูตทำมือ ชีสจามรีตากแห้ง ผ้าพันคอ ผ้าทอ ผ้าปักลายสวยๆ เครื่องประดับแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่หลายแห่งให้นั่งพักจิบกาแฟอุ่นๆ และร้านขายอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยด้วย
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/CwNMLVu1GQsRDmL29
10. เขตอนุรักษ์ทาคิน (Royal Takin Preserve)

มา เที่ยวภูฏาน ทั้งทีอย่าลืมแวะมาชม “ทาคิน” สัตว์ประจำชาติของภูฏานกันด้วย เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีหน้าและเขาคล้ายแพะ แต่ไม่มีเครา เดิมพื้นที่เขตอนุรักษ์ตรงนี้เคยเป็นสวนสัตว์มาก่อน ต่อมาพระเจ้าจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก ทรงมีรับสั่งให้ปล่อยสัตว์ทั้งหมดกลับสู่ป่า แต่ด้วยความเคยชินก็ทำให้พวกมันกลับมาอยู่แถวนี้เหมือนเดิม และร่อนเร่ไปตามถนนเพื่อหาอาหาร จึงปรับเปลี่ยนให้เป็นเขตอนุรักษ์ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 34,000 ตารางเมตร อีกทั้งภายในยังมีจามรี เก้ง และกวางป่า อาศัยอยู่ด้วย
เวลาเปิด – ปิด : 09.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : 300 Nu
แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/ofDXxyDXyxqKmZQm8
ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ หรืออยากไปเยือนประเทศที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ภูฏานคือหนึ่งในจุดหมายที่น่าไปเยือนสักครั้ง ยิ่งถ้ากดจอง ทัวร์ภูฏาน ไปกับมัชรูมทราเวล บอกเลยว่าทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นเยอะ พี่เห็ดดูแลให้หมดตั้งแต่ขั้นตอนขอวีซ่า ที่พัก อาหาร รถนำเที่ยว รวมถึงไกด์ท้องถิ่น แค่พาตัวกับหัวใจมาเที่ยว แล้วเตรียมเก็บความประทับใจกลับไปให้เต็มกระเป๋าได้เลย