@MushroomTravel
มาพบกับ มัชรูมทราเวล พาเที่ยวอีกแล้ว วันนี้เราจะพาไปอีกหนึ่งประเทศน่าเที่ยวในโซนยุโรปที่หลายคนอยากไปเยือนด้วยตัวเองสักครั้ง แถมยังเป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายซีรี่ส์เรื่องดังอย่าง Game of thrones อีกด้วย ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึง สาธารณรัฐมอลต้า ที่อยู่ทางใต้ของประเทศอิตาลีนั่นเอง เป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านต่างๆ และวิวทะเลที่งดงาม ถ้าใครยังไม่รู้จักประเทศนี้ ตามเราไป เที่ยวมอลต้า สัมผัสเสน่ห์ยุโรปใต้พร้อมกันเลย!
สาธารณรัฐมอลต้า เป็นลักษณะหมู่เกาะที่อยู่กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประกอบไปด้วย 3 เกาะใหญ่ๆ ก็คือ มอลต้า โกโซ และโคมิน่า โดยมีเมืองหลวงชื่อว่า วัลเลตตา (Valletta) มอลต้าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และมักจะถูกแย่งชิงเพื่อครอบครองจากอาณาจักรใหญ่ๆ ในอดีตอยู่หลายครั้ง ทำให้ที่นี่มีการสร้างกำแพงเมืองล้อมรอบเกาะ และหลงเหลือเป็นทัศนียภาพอันสวยงามจนถึงปัจจุบันนั่นเอง
มอลต้าตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกไป ทัวร์อิตาลี แล้วต่อด้วยมอลต้าได้เลย สำหรับการ เที่ยวมอลต้า หลักๆ จะเป็นการเที่ยวที่เมืองทั้ง 3 ได้แก่ คอสปิกัว (Cospicua), เซงเกลีย (Senglea) และวิททอริโอซา (Vittoriosa) หรืออีกชื่อคือ บีร์กู (Birgu) ซึ่งเราจะได้ชมความยิ่งใหญ่ของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์, ป้อมปราการโบราณ, โบสถ์ประจำเมือง, ศาลาว่าการเมือง, ชมบรรยากาศสวยๆ ของท่าเรือเมืองเก่า รวมถึงบ้านเมืองอันมีเอกลักษณ์ที่สร้างด้วยการใช้โทนสีอ่อน ดูสบายตา และเป็นการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมของที่นี่
เชื่อว่าบรรยากาศริมทะเลสบายๆ รวมถึงอากาศอันบริสุทธิ์ของมอลต้าที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่อากาศดีที่สุดในโลก จะทำให้คุณตกหลุมรักอย่างแน่นอน ทัวร์อิตาลี เสร็จแล้ว ก็ไปลุยมอลต้ากันต่อได้เลย ตามมัชรูมทราเวลไปดูที่เที่ยวรอบๆ มอลต้ากันดีกว่า ว่าจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้าง…!
สวนบารัคคา
เริ่มต้น เที่ยวมอลต้า กันที่เมืองหลวง วัลเลตตา อันดับแรกเราอยากพาไปชมวิวทะเลสวยๆ กันที่ สวนบารัคคา (Barracca Garden) สวนสวยที่ในอดีตเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังในปี ค.ศ.1824 ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชม พื้นที่ภายในสวนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Upper Barracca และ Lower Barracca ซึ่งในส่วน Upper Barracca นั้นได้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะสามารถเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจนเลยล่ะค่ะ
แผนที่ :
มหาวิหารเซนต์จอห์น
จากนั้นไปชมความสวยงามของ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Saint John’s Co-Cathedral) ที่สร้างโดย อัศวิน เซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกและศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นสถาปัตยกรรมบารอคที่หรูหราและงดงาม แสดงให้เห็นถึงอำนาจของคริสต์ศาสนาในสมัยนั้น
แผนที่ :
พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์
อีกหนึ่งที่เที่ยวในมอลต้าที่ต้องไม่พลาดก็คือ พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grandmaster’s Palace) อดีตพระราชวังในยุคศตวรรษที่ 16 ซึ่งถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้าที่ชื่อว่า ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แต่เดิมที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วในช่วงศตวรรษที่ 19 ก็ได้ถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษ และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าอีกครั้งภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีนั่นเอง
แผนที่ :
วิหารกันติจา
มา เที่ยวมอลต้า กันต่อ ข้ามมาที่ เกาะโกโซ เกาะแห่งนี้ก็มีที่เที่ยวยอดฮิตของมอลต้าอยู่มากมาย เริ่มต้นที่ วิหารกันติจา (Ggantija Temples) อีกหนึ่งวิหารเก่าแก่ สร้างขึ้นจากหินขนาดใหญ่ และถือว่าเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์หินใหญ่ที่สามารถย้อนกลับไปในยุคสมัยหินใหม่ (3600-2500 BC) เชื่อกันว่าเป็นวิหารทางศาสนาที่มีความเก่าแก่มากที่สุดแห่งถึงของโลก ซึ่งที่นี่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1980 อีกด้วยค่ะ
แผนที่ :
ป้อมปราการวิคตอเรีย
ถัดมากับที่เที่ยวบนเกาะโกโซคือ ป้อมปราการวิคตอเรีย (Victoria Fortress) หรือ ป้อมปราการในรัฐวิคตอเรีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะโกโซ ในอดีตบริเวณนี้เป็นพื้นที่อาศัยมาตั้งแต่ยุคสำริด และยังเชื่อกันว่าที่นี่เป็นเมืองบริวารของกรุงโรม ป้อมปราการใหญ่แห่งนี้สร้างอยู่บนที่สูงของเกาะตั้งแต่ในสมัยยุคกลาง ภายในมีที่อยู่ของผู้ปกครองเมือง ห้องเก็บอาวุธของอัศวิน คุกของทาสและนักโทษ รวมถึงในปัจจุบันมีพิพิธภัณฑ์ทางโบราณคดีอีกด้วย
แผนที่ :
วิหารทาพินู
วิหารทาพินู (Ta Pinu Cathedral) เป็นวิหารโรมันคาธอลิกซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้หน้าผาบนเกาะโกโซ ในอดีตที่นี่เป็นเพียงโบสถ์หินขนาดเล็กในยุคศตวรรษที่ 15 และต่อมาได้ถูกต่อเติมและสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1922-1932 แบบสไตล์นีโอโรแมนติก เป็นวิหารที่มีความสวยงาม ใครชอบถ่ายรูปต้องไม่พลาดเลยค่ะ
แผนที่ :
ถ้ำบลูกร็อตโต้
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งไฮไลท์ของการ เที่ยวมอลต้า นั่นก็คือ ถ้ำบลูกร็อตโต้ (Blue Grotto) มาที่นี่ต้องไม่พลาดการล่องเรือชมทัศนียภาพความสวยงามของน้ำทะเลให้ได้นะคะ ที่นี่เป็นถ้ำที่มีช่องทางแคบๆ และมีแสงส่องผ่าน ทำให้ภายในถ้ำเรืองแสงเป็นประกายสีฟ้า เป็นที่มาของชื่อถ้ำแห่งนี้นั่นเอง
แผนที่ :
และนี่ก็คือที่เที่ยวในมอลต้า อีกหนึ่งประเทศสวยๆ กับที่เที่ยวสุด unseen ที่มัชรูมทราเวลอยากแนะนำให้ไปเที่ยวให้ได้สักครั้งในชีวิต ไปสัมผัสเสน่ห์แห่งยุโรปใต้ที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหน กับสถานที่ท่องเที่ยวแปลกใหม่ แล้วจะหลงรักเมืองที่อากาศดีที่สุดในโลกอย่างมอลต้าโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะค่ะ ใครสนใจ สามารถคลิกชมโปรแกรม ทัวร์อิตาลี ที่มีไปเที่ยวที่มอลต้าจากมัชรูมทราเวลได้เลยนะคะ