@MushroomTravel
ประเทศสเปน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป มีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสและโปรตุเกส ในอดีตเคยเป็นจักรวรรดิที่รุ่งเรืองมาก และกลิ่นอายของความยิ่งใหญ่นั้นก็ไม่ได้จางหายไปไหน ยังคงสะท้อนให้เห็นผ่านสถาปัตยกรรมอันงดงาม ไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ วิหาร ตึกรามบ้านช่อง รวมถึงผลงานศิลปะที่ซ่อนอยู่แทบทุกมุมเมือง ในขณะเดียวกันสเปนก็ยังมีมุมสุดชิล วิวทะเลสวยๆ และชายหาดกว้างๆ เพราะทางทิศตะวันตกจรดไปถึงทิศใต้ถูกล้อมรอบไว้ด้วยมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่งผลให้อากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี แบ่งได้เป็น 4 ฤดูคือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ใครอยากมา เที่ยวสเปน แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเมืองไหนดี หรือมีเมืองน่าเที่ยวที่ไหนบ้าง บรรยากาศประมาณไหน วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มี 7 เมืองในสเปน มาแนะนำ พร้อมแลนด์มาร์กที่ห้ามพลาด ถ้าพร้อมแล้ว ไปเที่ยวสเปนกันนน
1. บาร์เซโลน่า (Barcelona)
มาเริ่มกันที่ บาร์เซโลนา เมืองในสเปน ที่มีชื่อเสียง และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ เป็นเมืองท่าที่สำคัญ และยังมีชายหาดที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ ร้านอาหารแสนอร่อย เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังเป็นเมืองสุดอาร์ตที่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะดีไซน์แปลกตาของ อันโตนิโอ เกาดี้ (Antoino Gaudi) สถาปนิกแนวอาร์ตนูโวชื่อดัง เช่น มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) มหาวิหารที่สูงที่สุดและใช้เวลาสร้างยาวนานที่สุดในโลก โดยคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 2026 โดดเด่นด้วยยอดแหลม 8 ยอด ความสูง 170 เมตร และ ปาร์ค กูเอล (Parque Guell) สวนสาธารณะที่เปรียบเสมือนแกลเลอรีกลางแจ้ง มีทั้งประติมากรรม งานโมเสกสวยๆ และยังเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นบาร์เซโลนาได้ทั้งเมือง นอกจากแลนด์มาร์กสองแห่งนี้ ภายในเมืองยังมี ที่เที่ยวบาร์เซโลนาสวยๆ อีกมากมาย พี่เห็ดรวมไว้ให้แล้ว >> ที่นี่
2. มาดริด (Madrid)
ถัดมาที่หัวใจของสเปนอย่าง มาดริด เมืองหลวงสุดคึกคักที่ใหญ่ที่สุดในสเปน ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ จัตุรัสที่มีชีวิตชีวา และถนนสายยาวที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ ทำให้บรรยากาศดูคลาสสิกราวกับเมืองในเทพนิยาย แถมยังเดินทางง่าย เพราะที่เที่ยวส่วนใหญ่อยู่ไม่ไกลกันเลยค่ะ ไฮไลต์เด็ดที่เมื่อมา เที่ยวสเปน แล้วต้องเช็กอินคือ พระราชวังหลวงแห่งกรุงมาดริด (Royal Palace of Madrid) หนึ่งในพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ภายในแบ่งเป็นห้อง 3,418 ห้อง สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1738 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายของฝรั่งเศส ต่อด้วย จัตุรัสพลาซ่ามายอร์ (Plaza Mayor) ที่ล้อมรอบด้วยอาคารสไตล์โรมันสูง 3 ชั้น อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี ภายในมีร้านค้า คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ และ วิหารอัลมูเดนา (Cathedral de la Almudena) สุดยิ่งใหญ่ ที่ประดับด้วยประติมากรรมแกะสลัก และภาพวาดศิลปะสีสันสดใส ด้านบนมีโดมขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 20 เมตร ที่สามารถขึ้นไปชมวิวได้ด้วย
3. ซานเซบาสเตียน (San Sebastian)
ซานเซบาสเตียน เป็นเมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งในแคว้นบาสก์ ทางตอนเหนือของสเปน พื้นที่ไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเที่ยวหรือปั่นจักรยานได้ทั่วเมืองเลยค่ะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดและทะเลที่สวยงาม โดยเฉพาะ หาดลาคอนชา (La Concha) ที่โอบล้อมไว้ด้วยภูเขา มีทรายสีทองละเอียด และน้ำที่ใสราวคริสตัล ถัดไปไม่ไกลมี ย่านเมืองเก่า (Parte Vieja) ที่เรียงรายด้วยอาคารอายุเก่าแก่นับร้อยปี และถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า บาร์ ฯลฯ รวมถึงจัตุรัสที่เคยเป็นสนามสู้วัวกระทิง และโบสถ์สไตล์โกธิคและบาโรกที่ตั้งอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เมตร หากใครมา เที่ยวสเปน แล้วอยากชมวิวพาโนรามาสวยๆ แนะนำให้ขึ้นที่ไป มอนเต อูร์กุล (Monte Urgull) เนินเขาสูง 123 เมตร ที่มีกำแพงปราสาท และรูปปั้นพระเยซูคริสต์ขนาดใหญ่ วิวจากมุมนี้บอกเลยว่าสวยจนแทบลืมหายใจ !
4. วาเลนเซีย (Valencia)
เที่ยวสเปนต่อที่ วาเลนเซีย หรือ บาเลนเซีย เมืองหลวงของแคว้นบาเลนเซีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ เพราะเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด แต่ในขณะเดียวก็มีเขตเมืองใหม่ที่มีอาคารคอมเพลกซ์สุดล้ำ, โรงภาพยนตร์, โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วย เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และโครงสร้างโบราณเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไฮไลต์ที่อยากแนะนำคือ พลาซ่า เดอ ลา บีร์เกน (Plaza de la Virgen) จัตุรัสกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางของผู้คนมานานหลายศตวรรษ รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญ 3 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งวาเลนเซีย (Catedral de Santa Maria de Valencia) ที่ผสมผสานรูปแบบสถาปัตยกรรมหลากหลายแนว ตั้งแต่โรมาเนสก์ โกธิค ไปจนถึงบาโรก ใกล้กันมี หอระฆังเอล มิกูเลต (El Miguelete) สไตล์โกธิค สูง 50.85 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1381 สามารถขึ้นบันไดวน 207 ขั้นไปชมวิวเมืองที่ด้านบนได้
5. ซาราโกซ่า (Zaragoza)
ซาราโกซ่า เป็น เมืองในสเปน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่บนเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมระหว่างเมืองบาร์เซโลน่าและมาดริด เป็นเมืองเก่าแต่มีชีวิตชีวา บรรยากาศผ่อนคลายกว่าเมืองใหญ่ ถ้าแวะมาเที่ยวสักครั้งจะติดใจในทิวทัศน์อันสวยงามบริเวณริมแม่น้ำเอโบร (Ebro) ที่ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร แลนด์มาร์กที่มาแล้วต้องไปก็คือ พระราชวังอัลจาเฟเรีย (Palacio de la Aljafería) พระราชวังอิสลามจากศตวรรษที่ 11 ประดับประดาด้วยลวดลาย Arabesques อันละเอียดอ่อน โมเสกกระเบื้อง ซุ้มโค้งรูปเกือกม้า และงานปูนปั้นแกะสลัก นอกจากนี้ยังมี มหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์ (Cathedral-Basilica of Our Lady of the Pillar) ที่ภายในมีภาพวาดของ ฟรันซิสโก โกยา (Francisco Goya) ประดับอยู่บนเพดาน เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระแม่มารีความสูงประมาณ 15 นิ้ว ที่ชาวคริสต์นิยมมาขอพรกันด้วย
6. เซบียา (Sevilla)
ถัดมาที่ เซบียา เมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย (Andalucia) ทางตอนใต้ของสเปน เป็น เมืองในสเปน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีความร่ำรวยทางวัฒนธรรม ผสมผสานทั้งคริสต์ อิสลาม ยิว และยิปซี บรรยากาศในเมืองร่มรื่นน่าเดิน เต็มไปด้วยถนนและตรอกซอกซอยมากมาย จุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาดคือ พระราชวังอัลคาซาร์ (Royal Alcazar) มรดกโลกที่ว่ากันว่าเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างปราสาทซินเดอเรลล่า และเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ Game of Thrones, มหาวิหารเซวิลล์ (Catedral de Sevilla) หนึ่งในมหาวิหารสไตล์โกธิคที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ สนามกีฬาสู้วัวกระทิง (Plaza de Toros) เก่าแก่ที่รองรับผู้ชมได้มากกว่า 23,000 คน มีการแสดงศิลปะการสู้วัวกระทิง และพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับประเพณีสู้วัวกระทิงด้วย
7. กรานาดา (Granada)
ปิดท้ายด้วย กรานาดา อีกหนึ่ง เมืองในสเปน ที่อยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย อดีตอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมุสลิม และเป็นฐานที่ตั้งสุดท้ายก่อนที่จะพ่ายแพ้ต่อคาทอลิกไปเมื่อปี ค.ศ. 1492 ถือเป็นการปิดฉากอาณาจักรอิสลามในสเปนที่มีมานานกว่า 700 โดยสมบูรณ์ มาเมืองนี้ต้องไม่พลาดแลนด์มาร์กชื่อดังอย่าง อาลัมบรา (Alhambra) พระราชวังและป้อมปราการสไตล์อาหรับที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1984 หรือขึ้นไปชมวิวที่ มีราดอร์ เด ซานนีโกลัส (Mirador de San Nicolás) จัตุรัสบนเนินเขาซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ของชาวมัวร์ จะมองเห็นทั้งอาลัมบราและวิวพาโนรามาของเมือง โดยมียอดเขาเซียร์ราเนวาดาที่ปกคลุมด้วยหิมะเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ยังมี ถนนอัลไคเซอเรีย (Alcaiceria) เป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมมัวร์ มีสินค้าหัตถกรรม เซรามิก ผ้าทอพื้นเมือง กระเป๋า เครื่องประดับ และของที่ระลึกสไตล์อาหรับให้ได้เลือกซื้อกันด้วย
สเปนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าเที่ยวมากๆ และก็ไม่ได้มีดีแค่เมืองใหญ่สุดฮิตอย่างมาดริดหรือบาร์เซโลน่าเท่านั้น แต่เมืองรอง เมืองเล็ก ที่อยู่รอบๆ ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ชวนให้หลงใหลไม่แพ้กัน ใครยังไม่เคยมาหรือมาแล้วแต่อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปเส้นทางอื่นดูบ้าง กดจอง ทัวร์สเปน ไปเที่ยวกับมัชรูมทราเวลได้เลย พี่เห็ดมีเส้นทางให้เลือกมากมาย หลายช่วงเวลา ที่สำคัญราคาคุ้มค่า ถูกว่าไปเองแน่นอน !